สมาชิกใหม่ ขอคำปรีกษาค่ะ

10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #51110 โดย SSW
ดิฉันเจอชมรมนี้ในวันที่ท้อแท้ที่สุด จึงศึกษารายละเอียดจากกระทู้ปักหมุดทั้งหมดซ้ำไปซ้ำมา แล้วทำการจดสรุปไว้เพื่อไว้ใช้เป็นแนวทางให้กับตัวเองในอนาคตอันใกล้นี้ ผ่านมาประมาณ 6 เดือน จึงตัดสินใจสมัครสมาชิก เพราะมีคำถามที่ยังค้างคาใจที่อยากได้รับคำแนะนำจากทุกท่านที่มีความรู้และประสบการณ์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจค่ะ

ขอเล่าประวัติการเป็นหนี้ยาวสักหน่อยนะคะ

เมื่อก่อนดิิฉันทำงานเงินเดือนประมาณ 4 หมื่นบาท (ถ้ามี OT ก็ได้เกือบ 6 หมื่น) เป็นลูกคนโตจึงทำหน้าที่เป็นเสาหลักในบ้าน ส่งเงินให้ทางบ้านเดือนละกว่า 3 หมื่นบาท (หรืออาจมากกว่าหากมีเหตุจำเป็นทำให้ไม่มีเงินเก็บ) เพราะมีน้องอีก 2 คนที่ต้องส่งเรียน แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาด้านการเงิน จนกระทั่งวันหนึ่งคุณย่าป่วยหนัก จำเป็นต้องหาเงินมารักษาโดยด่วน ดิฉันเป็นสมาชิกคนเดียวในบ้านที่ทำงานมีเงินเดือน (ญาติทุกคนประกอบอาชีพรับจ้างและค้าขาย) ญาติๆ (พี่น้องพ่อรวม 11 คน) จึงลงความเห็นว่าให้ดิฉันทำเรื่องกู้เงินกับสถาบันการเงินเพื่อมารักษาคุณย่า โดยทุกคนรับปากว่าจะรวบรวมเงินช่วยส่งหนี้ทุกเดือน นั่นเป็นก้าวแรกสู่การเป็นหนี้ค่ะ หลังจากกู้มาได้สัก 3 เดือน ญาติๆก็ไม่นำเงินมาช่วยพอทวงถามก็บอกว่าไม่มีเงิน ดิฉันกับพ่อจึงปรึกษากันและยอมรับสภาพหนี้ก้อนนั้น (กว่า 1 ล้าน 5 แสน) เพื่อถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของคุณย่า จากหนี้ก้อนแรกก็นำไปสู่การเป็นหนี้ก้อนที่ 2 3 เรื่อยมา จนปัจจุบันมีอยู่ 12 รายการ

จนเดือนเมษายน 56 บริษัทเลิกจ้าง ดิฉันได้เงินมาก้อนใหญ่พอสมควร จึงคิดว่าจะนำเงินไปใช้หนี้ให้หมด แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นอีก น้องชายตกบันไดที่่วัดซึ่งสูงพอสมควร สมองได้รับความกระทบกระเทือน จึงต้องผ่าตัดด่วน เงินก้อนนั้นจึงกลายเป็นค่ารักษาน้องชาย เหลือเงินอยู่ประมาณ 5 หมื่นบาท จึงตัดสินใจหยุดจ่ายหนี้ทั้งหมดมา 3 เดือนแล้ว ดิฉันพยายามสมัครงานทุกที่ ทุกอย่าง ไม่เกี่ยงเงินเดือนแต่ก็ยังไม่ได้งาน (น่าจะเกิดจากอายุมาก ฐานเงินเดือนเก่าสูง) ทุกวันนี้รับงาน Part Time มาทำแต่รายได้ก็ไม่มาก พอแค่ค่าใช้จ่ายประจำวัน กำลังหาหนทางค้าขายเพิ่ม (หวังว่าจะกลายเป็นรายได้หลัก) จึงไม่มีเงินเก็บที่จะนำไปต่อรองเพื่อทำ Hair cut ได้ ยอดหนี้รวมประมาณ 8 แสนบาท

จึงอยากรบกวนสอบถามทุกท่านดังนี้
1. ดิฉันคาดว่าจะต้องถูกฟ้องร้องแน่นอน จึงอยากถามว่ากรณีของดิฉันควรปล่อยให้ศาลท่านตัดสินเลย จนถึงขั้นยึดทรัพย์ดีหรือไม่ เพราะตนเองไม่มีบ้านหรือรถ

2. หากให้มีการยึดทรัพย์แล้ว เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้ามายึดทรัพย์ในบ้านเช่าได้หรือไม่ (ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านมีพ่อเป็นเจ้าบ้าน) เพราะเคยมีเจ้าหนี้รายหนึ่งส่งเจ้าหน้าที่มาที่บ้านเช่า (บ้านเข่านี้เป็นที่อยู่ที่ใช้รับเอกสารหนี้ทุกสถาบัน) บ้านเช่านี้เป็นการเช่าปากเปล่าไม่มีการทำสัญญาจ่ายเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร

ปล. หนี้สินทั้งหมดและปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้คุณพ่อรับทราบทั้งหมดค่ะ ปรึกษาหารือกันเป็นประจำ

รบกวนสอบถามทุกท่าน ช่วยแนะนำหนทางที่เหมาะสมให้ด้วยค่ะ หรือหากมีข้อแนะนำอื่นใด ช่วยกรุณาแนะนำดิฉันด้วย (เพราะถ้าจะเข้าไปอบรมเองคงลำบากเนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด)

ขอบคุณมากค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #51124 โดย uncle john
อ่านนะ ให้หมดจะได้ทางออกครับ
สู้ๆๆๆๆๆ





www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=939&Itemid=64
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #51126 โดย SSW
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #51143 โดย jackTs

SSW เขียน: 1. ดิฉันคาดว่าจะต้องถูกฟ้องร้องแน่นอน จึงอยากถามว่ากรณีของดิฉันควรปล่อยให้ศาลท่านตัดสินเลย จนถึงขั้นยึดทรัพย์ดีหรือไม่ เพราะตนเองไม่มีบ้านหรือรถ


ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64



SSW เขียน: 2. หากให้มีการยึดทรัพย์แล้ว เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้ามายึดทรัพย์ในบ้านเช่าได้หรือไม่ (ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านมีพ่อเป็นเจ้าบ้าน) เพราะเคยมีเจ้าหนี้รายหนึ่งส่งเจ้าหน้าที่มาที่บ้านเช่า (บ้านเข่านี้เป็นที่อยู่ที่ใช้รับเอกสารหนี้ทุกสถาบัน) บ้านเช่านี้เป็นการเช่าปากเปล่าไม่มีการทำสัญญาจ่ายเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร


กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #51145 โดย SSW
ขอบคุณมากค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #51352 โดย SSW
มาเล่าเหตุการณ์การถูกทวงหนี้ช่วงที่ผ่านมาค่ะ
1. UOB ช่วงนี้หายไปเลยค่ะ หวั่นๆอยู่ว่าจะมาไม้ไหน
2. SCB โทรเกือบทุกวัน แต่พูดจาดี บอกว่า บริษัทยังคงมั่นนใจในศักยภาพการหาเงินของเรา (พูดดี แต่ก็ยังไม่มีจ่ายอยู่ดี)
3. CIMB โทรมาน้อยมาก
4. Krungsri โทรสม่ำเสมอแต่ไม่ถี่ เจอเจ้าหน้าที่ที่เห็นใจและให้กำลังใจเรา บอกว่าวันนี้ล้ม เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลุกขึ้นได้ อย่าหมดหวัง (ถ้ามีรางวัลจะยกให้ท่านนี้เลย)
5. FC โทรบ่อยที่สุด บางวัน 2-3 รอบ พูดจาก็ยังโอเค แต่แอบจิกกัดเบาๆ ว่า แม้คุณจะตกงานแต่ถ้าไม่ชำระเกิน 3 เดือนถือว่าคุณตั้งในเพิกเฉย บริษัทก็คงจะไม่หาทางช่วยคุณเหมือนกัน
6. AEON โทรถี่กว่า FC จนวันหนึ่งเกิดเหตุขึ้น ประมาณนี้
A: ขอสายคุณ S ค่ะ
S: รับอยู่สายค่ะ
A: ที่นัดชำระไม่เห็นมียอดเข้ามาเลยค่ะ
S: ไม่เคยนัดชำระนะคะ
A: งั้นจะชำระได้เมื่อไหร่คะ
S: รับปากไม่ได้ค่ะ เพราะยังตกงานอยู่
A: เมื่อไหร่จะเลิกอ้างว่าตกงาน แล้วออกไปหางานบ้างมั้ย หรือเป็นง่อยอยู่บ้านเฉยๆ
S: เมื่อหางานได้น่ะค่ะถึงจะเลิกอ้าง ถ้าง่อยจริง ก็เสียใจกับคุณด้วยนะคะ ที่จะไม่มีวันได้เงินคืน
A: หมายความตั้งใจจะไม่จ่ายใช่มั้ย
S: ก็ถ้าเป็นง่อยอย่างที่คุณอวยพรก็คงตกงานตลอดชีวิต คงหาเงินมาคืนไม่ได้แน่ๆค่ะ
A: เป็นหนี้แล้วยังจะยอกย้อนอีก ไม่มีใครสั่งสอนมารยาทบ้างเหรอ
S: มีค่ะ มีคนสอนแต่คงจำไม่ค่อยได้หรอกค่ะ เพราะวันๆต้องใช้สมองคิดว่าจะพูดคุยกับคนอย่างคุณอย่างไรถึงจะสาสม เอ้ย เหมาะสม
A: ทำไม คนอย่างฉันมันเป็นยังไง แต่คงจะดีกว่าพวกเป็นหนี้แล้วไม่จ่ายก็แล้วกัน
S: น่าจะใช่นะคะ คุณคงเป็นคนดีมาก ถ้างั้นดิฉันขออวยพรนะคะ เจ้าพระคุณ สิ่งใดๆที่คุณได้พูดกับดิฉันในวันนี้ขอให้ย้อนกลับสู่คุณคนดีและครอบครัวทุกอย่างไป สาธุ
A: นี่คุณมาแช่งฉันให้เป็นง่อยเหรอ
S: อุ้ย แช่งอะไรคะ แค่ขอให้สิ่งที่คุณพูดกลับเข้าหาตัวคุณเท่านั้นเอง ยังไม่เคยพูดเลยว่าขอให้คุณเป็นง่อย
A: อี......
S: อย่าเผลอหยาบคายนะคะ ดิฉันอัดเสียงไว้นะ จะบอกไว้เอาบุญ
A: ฉันไม่อยากลดตัวลงไปพูดกับคนอย่างคุณและ ฉันจะส่งเจ้าหน้าที่ไปทวงเงินที่บ้าน
S: อ่อ ได้ค่ะ แต่ช่วยนัดล่วงหน้าด้วยนะคะว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่อย่างนั้นฉันเอาเรื่องคุณแน่

2 วันต่อมา มีเจ้าหน้าที่มาที่บ้านจริงๆ เป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆดูน่ากลัวๆ เราก็ถามเขาดีๆ ว่าทำไมไม่โทรมานัดก่อนว่าจะเข้ามา เขาก็บอกว่าคุณ A แจ้งว่านัดแล้วให้เข้ามาได้เลย เขาก็ยื่นเอกสารให้แล้วก็กลับ เราเปิดซองดูก็มีชื่อคุณ A พร้อมเบอร์ติดต่อ เราก็เลยโทรไป เป็นผู้ชายรับ ก็ถามข้อมูลมากมายเพื่อยืนยันอะไรไม่รู้ สุดท้ายบอกว่าข้อมูลเราไม่มีแล้วแสดงว่ามีการค้างชำระ ก็ถามอีกว่าจะชำระวันไหน เราบอกว่าขอติดต่อคุณ A เพื่อคุยเรื่องนี้ ก็โยกโย้ จนเราสติหลุด ก็ขึ้นเสียงไป ว่าจะคุยกับคุณ A ถ้าไม่งั้นจะร้องเรียนคุณด้วย เขาเลยโอนสายไป

B: ค่ะ คุณลูกค้าชื่ออะไรคะ บัตรประชาชน.......ที่อยู่........
S: นี่คุณเป็นใคร ใช่คุณ A รึเปล่า
B: ดิฉันชื่อ B ค่ะ เป็นหัวหน้า A มีอะไรคุยกับดิฉันได้เลยค่ะ
S: ไม่ ฉันจะคุยกับคุณ A ไปตามเขามารับสาย
B: น้องไม่อยู่ค่ะ คุยกับดิฉันได้เลย
S: บอกว่าจะคุยกับคุณ A ไม่เข้าใจรึไง

ระหว่างนั้นดิฉันเอามือถือน้องโทรเข้าเบอร์มือถือที่ A เคยโทรเข้ามา
A: สวัสดิค่ะ
S: คุณ A ใช่ไหม
A: ใช่ค่ะ
S: นี่คุณคิดว่าให้หัวหน้ารับสายแทนแล้วจะหนีฉันได้ใช่มั้ย แล้วอย่าคิดจะวางสายนะไม่งั้นฉันจะเล่นงานคุณจนกว่าคุณจะตกงานแน่
(ได้ยินเสียง A กับ B กระซิบกระซาบกันลอดมาในสาย)
A: ไม่ทราบว่าคุณ S มีอะไรให้รับใช้คะ
S: ฉันบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าถ้าจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้นัดล่วงหน้า ทำไมไม่ทำ
A: โทรไปแล้วค่ะ แต่คุณไม่รับสาย ก็เลยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเลย คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
S: ฉันเนี่ยนะไม่รับสาย ไปเช็คสิว่าวันนี้มีสายจากบริษัทคุณโทรมาหาฉันไหมแล้วฉันรับสายไหม ถ้าคิดจะโกหกก็ให้มันเนียนหน่อย แล้วไอ้ที่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเนี่ยเอาสมองส่วนไหนคิด บ้านฉันมีคนแก่อยู่ด้วย ตอนที่เค้ารู้เรื่องก็ตกใจจนเป็นลมต้องส่งโรงพยาบาล อย่างนี้ยังเรียกว่าไม่เป็นไรอีกไหม หรือต้องมีใครช็อคตายเสียก่อน
A: ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น (เสียงเริ่มสั่น เหมือนร้องไห้)
S: คุณทำอย่างนี้ผิดกฎแบงค์ชาติ ฉันจะไปร้องเรียน และจะไปแจ้งความที่โรงพักด้วย ที่คุณเปิดเผยความลับจนเกือบทำให้ญาติดิฉันช็อคตาย
A: (ร้องไห้ดังมาก) ขอโทษค่ะ อย่าเอาเรื่องหนูเลย ถ้าหนูตกงานหนูไม่มีเงินเลี้ยงดูพ่อแม่หนู หนูขอโทษ ๆๆๆๆ
S: ร้องไห้เหรอ กลัวมากเหรอ ตอนทำทำไมไม่คิด
(ระหว่างนั้น A เรียกให้ B มาคุยแทน)
B: คุณ S คะ ดิฉันต้องขอโทษแทนลูกน้องด้วยนะคะ น้องเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไม่รู้ระบบดีพอ
S: อย่ามาอ้างเลยว่าไม่รู้ระบบดีพอ เพราะระบบเนี้ยพวกคุณก็ใช้กันอยู่เป็นประจำ โดยไม่เคยคำนึงถึงผลกระทบที่ลูกค้าจะได้รับ ฉันขอให้เรื่องแบบนี้ไปเกิดกับครอบครัวพวกคุณบ้างจะได้เข้าใจว่ามันเป็นยังไง
B: ดิฉันเข้าใจค่ะ คุณ S เป็นลูกค้าที่ดีมาตลอด วันนี้คงมีปัญหาจริงๆจึงไม่สามารถชำระหนี้ได้ ต่อไปดิฉันจะกำชับลูกน้องให้ระวังเรื่องการทวงหนี้คุณนะคะ และจะไม่ส่งเจ้าหน้าไปที่บ้านคุณอีกเด็ดขาด ยังไงต้องขอโทษแทนลูกน้องด้วยนะคะ และกรุณาอย่าเอาเรื่องเธอเลยคิดว่าช่วยเธอเอาบุญนะคะ
S: ก็ได้ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่อง แต่คุณจำไว้นะ ว่าบริษัทคุณเป็นบริษัทที่แย่มาก ถ้าวันนี้ฉันหาเงินมาได้ บริษัทคุณจะเป็นที่สุดท้ายที่ฉันจะชำระคืน ด้วยสาเหตุจากการทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรมของพวกคุณเอง

หลังจากวันนั้น ก็ไม่มีการโทรมาทวงหนี้เลย
พอเจอกับตัวเองก็รู้ว่า การทวงหนี้มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย หากพวกทวงหนี้ทำกับเราเกินไป เราก็ควรตอบโต้ไปบ้าง พวกนั้นจะได้หยุดการกระทำแย่ๆซะที

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51669 โดย SSW
AEON ส่งคนมาที่บ้านเป็นครั้งที่ 2 ควรทำอย่างไรคะ? ตอนนี้ชาวบ้านรู้หมดแล้วว่าเราตกงานและเป็นหนี้ ยอมรับว่าอายมาก อยากจะย้ายหนี แต่ก็อยากเอาคืน อิออนด้วย กรณีนี้ดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้างคะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ตอนนี้เครียดมากค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 10 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51712 โดย SSW
อิออนส่งคนมาที่บ้าน 2 ครั้งในเดือนเดียวกัน ครั้งแรกดิฉันโทรไปต่อว่าว่าทำไมไม่โทรมานัดล่วงหน้าก่อนเข้ามา ทางอิออนก็ขอโทษไป และรับปากว่าจะไม่ส่งคนไปที่บ้านอีก ผ่านมาได้สองสัปดาห์ก็ส่งคนมาอีกโดยไม่ได้นัดล่วงหน้า คราวนี้มาแล้วพูดจาเสียงดังทำให้เพื่อนบ้านรู้หมดแล้วว่าดิฉันตกงานและเป็นหนี้ ยอมรับว่าอายแต่ก็จะไม่ถอย จึงโทรเข้าไปต่อว่ารุนแรงเพราะโกรธมาก แต่ไม่มีคำหยาบ เจ้าหน้าที่อิออนไม่ใช่คนเก่า บอกว่า อิออนมีสิทธิ์ส่งคนไปพบไม่ผิด เพราะทำตามกฎและไม่มีความจำเป็นต้องโทรไปแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด แล้วบอกว่าถ้าเรายังไม่ใช้หนี้คืนก็จะส่งคนเข้าไปอีก
ดิฉันเลยตัดสินใจส่งเรืองร้องเรียนไปยังแบงค์ชาติ อยากถามว่าดิฉันทำถูกหรือไม่ที่ร้องเรียนไป รบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ ขอร้องจริงๆ เพราะตอนนี้เครียดมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51869 โดย SSW
อิออนโทรมาขอโทษจากที่ดิฉันส่งเรื่องร้องเรียนไป ดิฉันถามหาจดหมายขอโทษอย่างเป็นทางการ แต่อิออนแจ้งว่าบริษัทไม่เคยมีการส่งจดหมายขอโทษลูกค้า จะมีแค่เพียงโทรมาขอโทษเพียงเท่านั้น ไม่ทราบว่ามันผิดปกติหรือไม่คะ เพราะเท่าที่หาข้อมูลในกระทู้ต่างๆ ก็พบว่าจะต้องมีการส่งจดหมายขอโทษให้ลูกค้าด้วย

ป.ล.ไม่แน่ใจว่าดิฉันทำผิดมารยาทอะไรหรือเปล่า เพราะไม่ค่อยผู้รู้ท่านใดเข้ามาช่วยตอบปัญหาเท่าไหร่ หากดิฉันทำผิดมารยาทได้โปรดช่วยบอกด้วยค่ะ จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51872 โดย anurak

SSW เขียน: มาเล่าเหตุการณ์การถูกทวงหนี้ช่วงที่ผ่านมาค่ะ
1. UOB ช่วงนี้หายไปเลยค่ะ หวั่นๆอยู่ว่าจะมาไม้ไหน
2. SCB โทรเกือบทุกวัน แต่พูดจาดี บอกว่า บริษัทยังคงมั่นนใจในศักยภาพการหาเงินของเรา (พูดดี แต่ก็ยังไม่มีจ่ายอยู่ดี)
3. CIMB โทรมาน้อยมาก
4. Krungsri โทรสม่ำเสมอแต่ไม่ถี่ เจอเจ้าหน้าที่ที่เห็นใจและให้กำลังใจเรา บอกว่าวันนี้ล้ม เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลุกขึ้นได้ อย่าหมดหวัง (ถ้ามีรางวัลจะยกให้ท่านนี้เลย)
5. FC โทรบ่อยที่สุด บางวัน 2-3 รอบ พูดจาก็ยังโอเค แต่แอบจิกกัดเบาๆ ว่า แม้คุณจะตกงานแต่ถ้าไม่ชำระเกิน 3 เดือนถือว่าคุณตั้งในเพิกเฉย บริษัทก็คงจะไม่หาทางช่วยคุณเหมือนกัน
6. AEON โทรถี่กว่า FC จนวันหนึ่งเกิดเหตุขึ้น ประมาณนี้
A: ขอสายคุณ S ค่ะ
S: รับอยู่สายค่ะ
A: ที่นัดชำระไม่เห็นมียอดเข้ามาเลยค่ะ
S: ไม่เคยนัดชำระนะคะ
A: งั้นจะชำระได้เมื่อไหร่คะ
S: รับปากไม่ได้ค่ะ เพราะยังตกงานอยู่
A: เมื่อไหร่จะเลิกอ้างว่าตกงาน แล้วออกไปหางานบ้างมั้ย หรือเป็นง่อยอยู่บ้านเฉยๆ
S: เมื่อหางานได้น่ะค่ะถึงจะเลิกอ้าง ถ้าง่อยจริง ก็เสียใจกับคุณด้วยนะคะ ที่จะไม่มีวันได้เงินคืน
A: หมายความตั้งใจจะไม่จ่ายใช่มั้ย
S: ก็ถ้าเป็นง่อยอย่างที่คุณอวยพรก็คงตกงานตลอดชีวิต คงหาเงินมาคืนไม่ได้แน่ๆค่ะ
A: เป็นหนี้แล้วยังจะยอกย้อนอีก ไม่มีใครสั่งสอนมารยาทบ้างเหรอ
S: มีค่ะ มีคนสอนแต่คงจำไม่ค่อยได้หรอกค่ะ เพราะวันๆต้องใช้สมองคิดว่าจะพูดคุยกับคนอย่างคุณอย่างไรถึงจะสาสม เอ้ย เหมาะสม
A: ทำไม คนอย่างฉันมันเป็นยังไง แต่คงจะดีกว่าพวกเป็นหนี้แล้วไม่จ่ายก็แล้วกัน
S: น่าจะใช่นะคะ คุณคงเป็นคนดีมาก ถ้างั้นดิฉันขออวยพรนะคะ เจ้าพระคุณ สิ่งใดๆที่คุณได้พูดกับดิฉันในวันนี้ขอให้ย้อนกลับสู่คุณคนดีและครอบครัวทุกอย่างไป สาธุ
A: นี่คุณมาแช่งฉันให้เป็นง่อยเหรอ
S: อุ้ย แช่งอะไรคะ แค่ขอให้สิ่งที่คุณพูดกลับเข้าหาตัวคุณเท่านั้นเอง ยังไม่เคยพูดเลยว่าขอให้คุณเป็นง่อย
A: อี......
S: อย่าเผลอหยาบคายนะคะ ดิฉันอัดเสียงไว้นะ จะบอกไว้เอาบุญ
A: ฉันไม่อยากลดตัวลงไปพูดกับคนอย่างคุณและ ฉันจะส่งเจ้าหน้าที่ไปทวงเงินที่บ้าน
S: อ่อ ได้ค่ะ แต่ช่วยนัดล่วงหน้าด้วยนะคะว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่ ไม่อย่างนั้นฉันเอาเรื่องคุณแน่

2 วันต่อมา มีเจ้าหน้าที่มาที่บ้านจริงๆ เป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆดูน่ากลัวๆ เราก็ถามเขาดีๆ ว่าทำไมไม่โทรมานัดก่อนว่าจะเข้ามา เขาก็บอกว่าคุณ A แจ้งว่านัดแล้วให้เข้ามาได้เลย เขาก็ยื่นเอกสารให้แล้วก็กลับ เราเปิดซองดูก็มีชื่อคุณ A พร้อมเบอร์ติดต่อ เราก็เลยโทรไป เป็นผู้ชายรับ ก็ถามข้อมูลมากมายเพื่อยืนยันอะไรไม่รู้ สุดท้ายบอกว่าข้อมูลเราไม่มีแล้วแสดงว่ามีการค้างชำระ ก็ถามอีกว่าจะชำระวันไหน เราบอกว่าขอติดต่อคุณ A เพื่อคุยเรื่องนี้ ก็โยกโย้ จนเราสติหลุด ก็ขึ้นเสียงไป ว่าจะคุยกับคุณ A ถ้าไม่งั้นจะร้องเรียนคุณด้วย เขาเลยโอนสายไป

B: ค่ะ คุณลูกค้าชื่ออะไรคะ บัตรประชาชน.......ที่อยู่........
S: นี่คุณเป็นใคร ใช่คุณ A รึเปล่า
B: ดิฉันชื่อ B ค่ะ เป็นหัวหน้า A มีอะไรคุยกับดิฉันได้เลยค่ะ
S: ไม่ ฉันจะคุยกับคุณ A ไปตามเขามารับสาย
B: น้องไม่อยู่ค่ะ คุยกับดิฉันได้เลย
S: บอกว่าจะคุยกับคุณ A ไม่เข้าใจรึไง

ระหว่างนั้นดิฉันเอามือถือน้องโทรเข้าเบอร์มือถือที่ A เคยโทรเข้ามา
A: สวัสดิค่ะ
S: คุณ A ใช่ไหม
A: ใช่ค่ะ
S: นี่คุณคิดว่าให้หัวหน้ารับสายแทนแล้วจะหนีฉันได้ใช่มั้ย แล้วอย่าคิดจะวางสายนะไม่งั้นฉันจะเล่นงานคุณจนกว่าคุณจะตกงานแน่
(ได้ยินเสียง A กับ B กระซิบกระซาบกันลอดมาในสาย)
A: ไม่ทราบว่าคุณ S มีอะไรให้รับใช้คะ
S: ฉันบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าถ้าจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้นัดล่วงหน้า ทำไมไม่ทำ
A: โทรไปแล้วค่ะ แต่คุณไม่รับสาย ก็เลยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเลย คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
S: ฉันเนี่ยนะไม่รับสาย ไปเช็คสิว่าวันนี้มีสายจากบริษัทคุณโทรมาหาฉันไหมแล้วฉันรับสายไหม ถ้าคิดจะโกหกก็ให้มันเนียนหน่อย แล้วไอ้ที่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเนี่ยเอาสมองส่วนไหนคิด บ้านฉันมีคนแก่อยู่ด้วย ตอนที่เค้ารู้เรื่องก็ตกใจจนเป็นลมต้องส่งโรงพยาบาล อย่างนี้ยังเรียกว่าไม่เป็นไรอีกไหม หรือต้องมีใครช็อคตายเสียก่อน
A: ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น (เสียงเริ่มสั่น เหมือนร้องไห้)
S: คุณทำอย่างนี้ผิดกฎแบงค์ชาติ ฉันจะไปร้องเรียน และจะไปแจ้งความที่โรงพักด้วย ที่คุณเปิดเผยความลับจนเกือบทำให้ญาติดิฉันช็อคตาย
A: (ร้องไห้ดังมาก) ขอโทษค่ะ อย่าเอาเรื่องหนูเลย ถ้าหนูตกงานหนูไม่มีเงินเลี้ยงดูพ่อแม่หนู หนูขอโทษ ๆๆๆๆ
S: ร้องไห้เหรอ กลัวมากเหรอ ตอนทำทำไมไม่คิด
(ระหว่างนั้น A เรียกให้ B มาคุยแทน)
B: คุณ S คะ ดิฉันต้องขอโทษแทนลูกน้องด้วยนะคะ น้องเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไม่รู้ระบบดีพอ
S: อย่ามาอ้างเลยว่าไม่รู้ระบบดีพอ เพราะระบบเนี้ยพวกคุณก็ใช้กันอยู่เป็นประจำ โดยไม่เคยคำนึงถึงผลกระทบที่ลูกค้าจะได้รับ ฉันขอให้เรื่องแบบนี้ไปเกิดกับครอบครัวพวกคุณบ้างจะได้เข้าใจว่ามันเป็นยังไง
B: ดิฉันเข้าใจค่ะ คุณ S เป็นลูกค้าที่ดีมาตลอด วันนี้คงมีปัญหาจริงๆจึงไม่สามารถชำระหนี้ได้ ต่อไปดิฉันจะกำชับลูกน้องให้ระวังเรื่องการทวงหนี้คุณนะคะ และจะไม่ส่งเจ้าหน้าไปที่บ้านคุณอีกเด็ดขาด ยังไงต้องขอโทษแทนลูกน้องด้วยนะคะ และกรุณาอย่าเอาเรื่องเธอเลยคิดว่าช่วยเธอเอาบุญนะคะ
S: ก็ได้ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่อง แต่คุณจำไว้นะ ว่าบริษัทคุณเป็นบริษัทที่แย่มาก ถ้าวันนี้ฉันหาเงินมาได้ บริษัทคุณจะเป็นที่สุดท้ายที่ฉันจะชำระคืน ด้วยสาเหตุจากการทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรมของพวกคุณเอง

หลังจากวันนั้น ก็ไม่มีการโทรมาทวงหนี้เลย
พอเจอกับตัวเองก็รู้ว่า การทวงหนี้มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย หากพวกทวงหนี้ทำกับเราเกินไป เราก็ควรตอบโต้ไปบ้าง พวกนั้นจะได้หยุดการกระทำแย่ๆซะที


สุดยอดเลยครับ 555

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 5 วัน ที่ผ่านมา #52435 โดย SSW
มา update สถานะค่ะ
ตอนนี้ผิดชำระเข้าเดือนที่ 5 แล้วค่ะ การโทรทวงลดลง คงเข้าสู่กระบวนการส่งให้พวกสำนักงานกฎหมาย หรืออาจส่งฟ้อง
แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ยังหางานทำไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นควันไม่ได้
แต่ถ้าจะใช้ประสบการณ์ที่เคยทำงานมาเป็นปัจจัยในการหางานใหม่นั้นจำเป็นต้องเป็นงานที่มีฝุ่นควันเข้ามาเกี่ยวข้อง
จึงเป็นอันว่าจะกลับไปทำงานแบบเดิมไม่ได้อีก เลยต้องหาเงินทางอื่น ซึ่งคงเก็บเงินไม่ทันทำ hc แน่นอน

สถานะของตัวเองตอนนี้ :
- ตกงาน ไม่มีรายได้
- ญาติไม่มีทางช่วยได้ เพราะทำงานหาเช้ากินค่ำ
- ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีทรัพย์สินซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของ
- มีทรัพย์สินจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่อยู่ในบ้านเช่าที่ไม่มีการทำสัญญาเช่า

จากสถานะข้างบน จึงขอสอบถามผู้มีประสบการณ์ดังนี้
1.หากถูกฟ้อง ดิฉันควรให้ศาลตัดสินเลยดีหรือไม่ เพราะ ไม่มีเงินเดือน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีทรัพย์สินซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของ
2.หากถูกอายัดทรัพย์ เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดทรัพย์ในบ้านเช่าได้ ใช่หรือไม่
3.ควรหรือไม่ ที่จะไม่ไปศาล เพราะไม่มีเงินจะต่อรองกับเจ้าหนี้ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ
4.ควรปิดบัญชีธนาคารหรือไม่ (ตอนนี้ถอนเงินออกมาหมดแล้ว)
5.หลังศาลตัดสิน แล้วดิฉันมีเงินมากพอ ดิฉันยังสามารถติดต่อเจ้าหนี้เพื่อปิดหนี้ แบบมีส่วนลดได้ใช่ไหม

ขอร้องผู้มีประสบการณ์ช่วยให้คำตอบกับดิฉันด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

ป.ล. ไม่มีเจตนาหนีหนี้ แต่ตอนนี้ต้องเบี้ยวหนี้เพราะต้องเอาชีวิตรอด ทั้งตัวเองและครอบครัว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #54293 โดย SSW
อัพเดทสถานะค่ะ (แต่ไม่รู้จะมีใครเข้ามาอ่านมาตอบบ้างไหม)

สถานะตนเองปัจจุบันนี้
- ตกงาน 1 ปี 2 เดือน ไม่มีเงินเดือน
- ไม่มีญาติช่วยเรื่องหนี้ได้ แต่ถึงช่วยได้เราก็ไม่อยากรบกวนค่ะ
- ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีทรัพย์สินใดๆที่มีชื่อเป็นเจ้าของ
- มีสถานะเป็นเพียงผู้อาศัยตามทะเบียนบ้าน (เป็นบ้านพักข้าราชการ)
- เช่าบ้านอยู่ มีทรัพย์สินจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ไม่เคยทำสัญญาเช่าใดๆ
- สุขภาพทรุดทำงานแบบที่เคยทำไม่ได้อีก เลยหางานไม่ได้สักที (งานที่ทำเป็นงานสายเฉพาะที่มีในโรงงานอุตสาหกรรมหนักเท่านั้น)
- ตั้งแต่ตกงานพยายามลงทุนค้าขาย แต่รายได้ไม่เกินสามพันต่อเดือน เลยไม่มีเงินเก็บ

ตอนนี้ผิดชำระหนี้เข้าสู่เดือนที่ 6 ซึ่งน่าจะถูกฟ้องร้องในไม่ช้า ตั้วแต่หยุดจ่ายก็เตรียมคำตอบไว้สำหรับพวกเจ้าหนี้ ประมาณนี้
- ตกงาน ไม่มีรายได้ แต่ยังสมัครงานต่อเนื่อง
- สนใจทำประนอมหนี้ (จริงๆไม่คิดว่าจะทำเป็นอันขาด) แต่ไม่มีเงินเดือน หาคนค้ำก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครอยากแบกภาระหนี้แทน
- เงินที่ใช้จ่ายก็ยืมจากน้อง เพื่อเป็นค่าเดินทางสมัครงานเท่านั้น
- ข้อเสนอน่าสนใจ แต่ขอไปคิดและหาเงินก่อน ช่วยติดต่อใหม่สักสัปดาห์หน้า
- จะจ่ายขั้นต่ำหรือห้าร้อยก็ไม่มีค่ะ เพราะต้องใช้เป็นค่าเดินทางสมัครงาน ถ้าจ่ายให้คุณไปวันนี้ ก็สมัครงานไม่ได้ ก็ไม่มีเงินใช้หนี้คุณ
- จริงๆแล้วไม่เคยสนใจว่าคุณจะคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่ มีส่วนลดแค่ไหน คิดแค่ว่าจะทำยังไงให้มีรายได้มาใช้หนี้คุณเท่านั้น
- คุณติดต่อดิฉันได้ตลอดไม่เคยหลบหรือปิดมือถือหนี ที่อยู่ก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้ย้ายหนีไปไหน ถ้าการกระทำเหล่านี้คุณยังบอกว่าดิฉันหนีหนี้ก็แล้วแต่คุณค่ะ

แนวทางการคุยกับเจ้าหน้าที่ทวงหนี้จากประสบการณ์
- สอบถามชื่อนามสกุลเจ้าหน้าที่ ถ้าไม่ตอบก็ไม่คุย
- สอบถามชื่อบริษัทที่ทวงหนี้ หนี้ของที่ใด ยอดเงินเท่าไร
- บันทึกข้อมูล วันเวลา เบอร์ที่โทรมา ชื่อสกุลเจ้าหน้าที่ บริษัท หนี้อะไร ยอดเท่าไร รวมทั้งรายละเอียดการคุยทั้งหมดไว้
เพราะจากที่สังเกตถ้าเราถามชื่อนามสกุลเขาไว้ เขาจะไม่ค่อยใช้คำพูดรุนแรง ส่อเสียด ดูถูก สักเท่าไร และข้อมูลที่บันทึกไว้จะเป็นประโยชน์หากเขาติดต่อมาในครั้งต่อไป

ตัวอย่างคนทวงหนี้ที่เจอ
1 เราถามชื่อนามสกุล แล้วเขาบอกว่าจะเอาวันเกิดด้วยไหม เลยตอบไปว่าถ้าไม่แจ้งชื่อนามสกุลแปลว่าคุณมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ งั้นขออนุญาตไม่คุย สุดท้ายเขาก็ติดต่อกลับมาอยู่ดี คราวนี้พูดดี เราจะถามอะไรเขาตอบหมด
2 เขาว่าตกงานปีกว่าบ้าไปแล้ว อย่ามาโกหก เราก็ตอบว่าถ้าคุณคิดว่าการตกงานปีกว่าเป็นไปไม่ได้ งั้นคุณไปตรวจสอบกับประกันสังคมดูซะว่าฉันโกหกไหม แล้วค่อยมาคุยกัน
3 เมื่อไรจะเลิกอ้างว่าตกงาน ถ้าจะไม่จ่ายก็บอกมาเลย จะได้ส่งเรื่องฟ้องซะ เราก็ว่าตกงานไม่ใช่ข้ออ้างแต่เป็นข้อเท็จจริงแต่ถ้าคุณจะฟ้องร้องก็ทำตามที่คุณต้องการได้เลยค่ะ ดิฉันเข้าใจ
4 ตกงานหรือไม่หางานทำกันแน่ เราก็ว่า งั้นคุณมาอยู่ที่บ้านดิฉันไหมคะจะได้ทราบว่าดิฉันออกไปหางานทำบ้างหรือไม่
5 ถ้าเจ้าหนี้คนไหนเสียงดังประมาณขู่ให้กลัว เราก็จะบอกเขาว่า กรุณาลดเสียงลงหน่อย และใช้ถ้อยคำที่ดีกว่านี้นะคะ ถ้าไม่ดิฉันขออนุญาตวางสาย (เราวางจริงๆ)

ทุกวันนี้ก็ปล่อยวางแล้วค่ะ แต่รับสายทวงหนี้ทุกสายไม่เคยหลบ ดำเนินชีวิตเท่าที่จะทำได้ เพราะสุขภาพย่ำแย่ ไม่เครียดกับหนี้ มีเงินเมื่อไรจะใช้หนี้เมื่อนั้น ถ้าจะถูกฟ้องร้องก็ไม่กังวลแล้วค่ะ เพราะแค่ทุกเช้ายังตื่นขึ้นมาได้ นั่นก็ดีที่สุดแล้ว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #55529 โดย SSW
ตัวแทนทวงหนี้ของแบงค์ม่วงส่งเจ้าหน้าที่มาที่บ้าน โดยอ้างว่า
ติดต่อไม่ได้ ติดต่อมา 2 ครั้งแล้วไม่รับสาย - ดิฉันตรวจสอบตามที่เขาอ้างแล้วไม่พบว่ามีการติดต่อมาแต่อย่างใด สมมติว่าเขาติดต่อมาจริงแล้วดิฉันไม่รับ 2 ครั้งนี้ ถือว่าดิฉันเจตนาหนีหนี้แล้วใช่ไหม? เขาจึงต้องส่งเจ้าหน้าที่มาถึงบ้าน มันเหมาะสมแล้วใช่ไหม?
พอดิฉันบอกว่าจะส่งเรื่องร้องเรียนแบงค์ชาติ เขาก็บอกมาว่าเขาอุตส่าห์จะช่วยเหลือทำไมไม่ยอมรับ เขาส่งคนมาพบเพื่อผลประโยชน์ของตัวดิฉันทั้งนั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลย (ไม่ได้มีเจตนาประจานให้คนอื่นรู้)
บอกตรงๆเลยค่ะ ณ.จุดนั้นฟังแล้วโกรธมาก แต่พยายามอดกลั้นฟังข้อเสนอที่บอกว่าเป็นประโยชน์นักหนา สุดท้ายก็ข้อเสนอเดียวกันกับที่คุยกันทางโทรศัพท์ ทำให้ดิฉันโกรธหนักขึ้น
เลยพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองไว้ แล้วบอกไปว่าตอนนี้ไม่สามารถทำตามข้อเสนอใดได้ เพราะตกงานไม่มีรายได้ ให้แบงค์ดำเนินการตามกฎไปได้เลย

จึงอยากปรึกษาทุกท่านว่าดิฉันควรร้องเรียนแบงค์ชาติไหม?

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #55533 โดย iamadogdog
อะไรที่เราไม่ได้ อนุญาติ ก็ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ แม้ทางนู้นบอกว่าเป็นการทำงานตามระบบ

ระบบของเค้า ไม่ใช่ระบบของเรา ที่จะต้องยอมรับ คุณจะแจ้งแบงค์ชาติ หรือไม่แจ้งก็ขึ้นอยู่ว่า

คุณได้รับความเดือนร้อนมากไหม อับอาย หรือคิดว่าได้รับการละเมิดสิทธิ จนเกินไป


***ในเคสของเรา อิออน ก็แจ้งว่า จะส่งพนักงานออกนอกพื้นที่ เราก็ถามกลับไปจะมาเมื่อไหร

ก็ต้องแจ้งล่วงหน้า เพราะอาจทำงาน ติดงาน ติดประชุม แต่เราก็เตรียมพร้อมจะรับมือหน่ะ หาก

เกิดกรณี พูดเสียงดัง หรือมีเจตนา ข่มขู่ ทวงหนี้ ให้อับอาย****

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #55534 โดย เอื้อม
คุณ SSW ลองดูก็ได้นะคะร้องเรียนแบงค์ชาติเนี่ยกรอกข้อร้องเรียนแบบออนไลน์ เราก็เคยลองเรียนครั้งแรกตอนนั้นเป็นสำนักกฎหมายดูแลให้ธนชาต โทรมาคุยกับฝ่ายบุคคล ของเรา เราเลยจัดหนักส่งเรื่องให้แบงค์ชาติเลยค่ะ หลังจากนั้นหายไปหลายเดือนตอนนี้กลับมาอีกแหละ แต่เปลี่ยนคนแล้วนะคะ เป้นน้องผู้หญิงโทรมา แต่ตอนนี้มีเงินแหละ เลยบอกไปว่าตอนนั้นพี่มีปัญหากับสำนักกฎหมายของน้องรู้เรื่องใช่ไหม น้องบอกค่ะ แล้วมีเจ้าหน้าที่ของแบงค์โทรหาพี่ แล้วเค้าให้ส่วนลดพี่ 30-35 % นะแต่ตอนนั้นยังไม่มีเลยปฎิเสธไปซึ่งคิดว่าถ้าพี่ขออาจได้มากกว่านั้น ไปคุยมาใหม่นะ พี่ขอเท่านี้ได้แล้วค่อยโทรมาใหม่นะ เพราะวันนี้น้องโทรมาบอกยอด 42000 ลดให้ เหลือ 35000 มันคือยอดบัตรของเราวงเงินนั้นค่ะ เลยบอกว่าน้องค่ะ แค่นี้เอง ตอนนั้นยอดพี่ประมาณ 38000 เค้ายังให้ตั้ง 30-35% พอตอนนี้พี่มีพอจะจ่ายได้ กลับไม่ช่วยเลยหรา เอางี้พี่ตั้งเงื่อนไขน้องเองพี่ให้ได้ แค่ 20000 บวกลบพัน ถ้าไม่ได้ไม่ต้องโทรมานะคะ เพราะมีเจ้าอื่นที่พี่คุยเหมือนกันใครให้ดีกว่าพี่จ่ายก่อนจบนะคะ แต่ก็มีร้องเรียนครั้งที่ 2 นะ กับของยูโอบี ทางเจ้าหน้าที่แบงค์ชาติก็โทรมาหาเลยบอก จะร้องเรียนอีกหรา มันก้แค่นั้นนะ เค้าก็ให้คำปรึกษานะคะว่าถ้าอยากได้ส่วนลดก็ได้จะช่วยพูดให้นะ แต่เอาเข้าจรืงๆๆก็ไม่ได้หรอกค่ะ แต่มันก็เป็นการปกป้องตัวเองว่าอย่างน้อยเธอกับฉันก็มีบุคคลอื่นเข้ามารู้นะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.994 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena