ศาลแถว กทม.

สวัสดดีค่ะทุกคน พอดีฉันเป็นคนหนึ่งที่หยุดจ่ายและเตรียมพร้อมในการขึ้นศาล
อยากทราบว่าศาลที่ต้องขึ้นที่ กทม. ส่วนมากขึ้นที่ไหนและเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ได้มั้ย หรือต้องเป็นวันทำการปกติ

ขึ้นอยู่ว่าทะเบียนบ้านคุณอยู่เขตไหนของกรุงเทพค่ะ โดยปกติจะระบุไว้ในหมายศาลหน้าแรกทั้งสถานที่และเวลา แล้วแต่อีกเช่นกันอาจเป็นได้ทั้งวันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์ก็มีสำหรับบางธนาคาร

เขตอำนาจศาลยุติธรรม ศาลชั้นต้นในกรุงเทพมหานคร

ศาลแพ่งกรุงเทพใต้
172/1 ถนนเจริญกรุง 63 แขวงยานนาวา
เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
โทร 0 2210 4005-6 เขตบางรัก

ดูแลควบคุมพื้นที่ในเขตดังต่อไปนี้

เขตสาทร
เขตยานนาวา
เขตบางคอแหลม
เขตปทุมวัน
เขตสัมพันธ์วงศ์
เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เขตคลองเตย
เขตวัฒนา



หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64


ความหมายของ วันนัดไปศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6915&Itemid=64#6915

ขอบคุณคุณนกกระจอกเทศและ pfs มากนะคะ ดูแล้วฉันคงไปไม่ไกลมาก ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

เนื่องจากฉันมีหนี้ของ พรอมมิส อยู่แค่ประมาณ 10000 อยากทราบว่าใครเคยได่ส่วนลดจากที่นี่บ้าง รบกวนนะคะ ลดเท่าไร

pornthip_c เขียน: เนื่องจากฉันมีหนี้ของ พรอมมิส อยู่แค่ประมาณ 10000 อยากทราบว่าใครเคยได่ส่วนลดจากที่นี่บ้าง รบกวนนะคะ ลดเท่าไร

www.google.co.th/#q=site:debtclub.consumerthai.org+%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%AA&start=0

พึ่งเก็บเงินได้ไม่เท่าไร ก็ต้องจ่าย กยศ.แล้ว เสียดายจัง รอเก็บเงินใหม่ละกัน เฮ้อ...

ขอรบกวนตอบข้อสงสัยของดิฉันหน่อยนะคะ

พอดีเมื่อวาน อีซี่โทรมาบอกว่า

อีซี่ : สวัสดีค่ะคุณ... คุณค้างมา 2 เดือนแล้ว ไม่ทราบว่าชำระเข้ามาหรือยัง
p : ยังค่ะ เรายังไม่มีให้ ยังไม่พร้อม
อีซี่ : ถ้าเข้ารอบเดือนที่ 3 จะส่งจดหมายไปตามที่อยู่ของ บัตร ปชช. และต้องชำระยอดหนี้ทั้งหมดนะคะ
p : ค่ะ


เลยสงสัยว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเพราะตอนนี้เรากำลังเก็บเงินอยู่ถ้ามายอดเงินใหญ่ที่เดียวก็จ่ายไม่ไหว

รบกวนผู้รู้ตอบที่นะคะ

pornthip_c เขียน: ขอรบกวนตอบข้อสงสัยของดิฉันหน่อยนะคะ

พอดีเมื่อวาน อีซี่โทรมาบอกว่า

อีซี่ : สวัสดีค่ะคุณ... คุณค้างมา 2 เดือนแล้ว ไม่ทราบว่าชำระเข้ามาหรือยัง
p : ยังค่ะ เรายังไม่มีให้ ยังไม่พร้อม
อีซี่ : ถ้าเข้ารอบเดือนที่ 3 จะส่งจดหมายไปตามที่อยู่ของ บัตร ปชช. และต้องชำระยอดหนี้ทั้งหมดนะคะ
p : ค่ะ


เลยสงสัยว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเพราะตอนนี้เรากำลังเก็บเงินอยู่ถ้ามายอดเงินใหญ่ที่เดียวก็จ่ายไม่ไหว

รบกวนผู้รู้ตอบที่นะคะ

จะฟ้องแล้วนะ...จะฟ้องแล้วนะ...จะฟ้องแล้วนะ...

จะฟ้องจริงๆแล้วนะ...จะฟ้องจริงๆด้วย

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=18758&Itemid=64




ระยะเวลา และขั้นตอนในการทวงหนี้


1. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ (1-2 เดือนแรก) โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ตัวจริง

2. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ + จดหมายทวงหนี้ (ช่วงเดือนที่ 2-3) โดยเริ่มมีการเสนอให้ทำ"ประนอมหนี้" , "ปรับโครงสร้างหนี้" (ซึ่งสรุปก็คือหลอกให้ทำ"สัญญานรก"นั่นแหละ แต่เรียกชื่อให้มันดูไพเราะสักหน่อย ก็เท่านั้น) หรือ อาจโทรมาหลอกลวงให้ลูกหนี้ทำการ"จ่ายหยอด"เพื่อเดินบัญชี...เป็นต้น
ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64

3. ส่งเรื่องออกไปให้สำนักงานกฏหมายข้างนอก ให้เป็นผู้ทำการทวงหนี้แทน ซึ่งเป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 (ช่วงเดือนที่ 4-6) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 20-30% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

4. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 ทวงหนี้ไม่ได้ ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ให้มาทวงหนี้ต่อ (เดือนที่ 7-9) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 30-40% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

5. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ก็ยังทวงหนี้ไม่ได้อีก ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 3 ให้มาทวงหนี้ต่ออีก (ช่วงเดือนที่ 10-12) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 40-50% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

6. ถ้าเปลี่ยนสำนักงานกฏหมายทวงหนี้ไปตั้งหลายบริษัทแล้ว ยังไงก็ทวงไม่ได้สักที ก็ส่งฟ้องศาล (เดือนที่ 12 เป็นต้นไป จนถึงปีครึ่ง) โดยยังคงมีข้อเสนอเรื่องส่วนลดในการ Hair cut ให้อยู่ แต่เป็นราคาช่วงที่งามที่สุด (หรือที่เรียกกันว่า "นาทีทอง" ในการทำ Hair cut โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เป็นผู้กำหนดราคา)

ดังนั้น หากมีลูกหนี้บางราย ที่เจ้าหนี้มันทำเรื่องฟ้องศาลช้ากว่าปกติ (เกินกว่า 1ปีครึ่งขึ้นไป)
ลูกหนี้อาจถูกทวงหนี้โดยสำนักงานกฏหมาย(บริษัททวงหนี้) ที่ต้องถูกเปลี่ยนบริษัททวงหนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ซ้ำหน้ากัน เกินกว่า 5บริษัททวงหนี้...หรือจนกว่าหมายศาลฟ้องจะมา

---

ข้อสังเกตุ : ณ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทรับจ้างทวงหนี้ในประเทศไทยทั้งหมด ประมาณพันกว่าบริษัท

ซึ่งบริษัทรับจ้างทวงหนี้พวกนี้ ส่วนใหญ่มักตั้งชื่อที่ใช้จดทะเบียนในนามนิติบุคคลว่า "สำนักงานกฏหมาย" หรือ "สำนักงานทนายความ" เพื่อสร้างความตกใจต่อลูกหนี้...เพราะในชื่อของบริษัทดังกล่าว มีคำว่า "กฏหมาย" หรือ "ทนายความ" ปรากฏอยู่ด้วย

พอลูกหนี้ได้ยินหรือได้เห็นชื่อของบริษัททวงหนี้เหล่านี้ ก็มักเกิดความกลัวและคิดไปเองว่า "เรื่องหนี้ของฉัน ตกไปอยู่ในขั้นตอนของกฏหมายแล้วหรือนี่? , สงสัยจะโดนฟ้องแล้วแน่เลย?"...แต่โดยแท้จริงแล้ว บริษัทพวกนี้ มีอาชีพหรือรายได้หลักมาจากการ"รับจ้างทวงหนี้ "เท่านั้น

และถ้าหากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายแรก ไม่สามารถทวงหนี้ได้ตามที่ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างได้กำหนดไว้ (ซึ่งส่วนมากทางสถาบันการเงิน จะกำหนดให้บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ ต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือนเท่านั้น) บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ทำการ"ถีบหัวส่ง"ออกไป...เพราะถือว่า"ไร้ความสามารถ"ในการทวงหนี้ให้ได้ภายใน 2-3 เดือน ตามที่เจ้าหนี้ตัวจริงได้กำหนดเอาไว้

แล้วหลังจากนั้น...ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปทำการว่าจ้างบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายใหม่ ให้มาทำการทวงหนี้แทนบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายเดิมที่ถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไป โดยกำหนดว่าจะต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เช่นกัน

หากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายที่สองนี้ ก็ยังไม่สามารถทวงหนี้กับลูกหนี้ได้ภายใน 2-3 เดือนอีก ก็จะถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไปอีก แล้วทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปว่าจ้างบริษัททวงหนี้รายที่ สาม , สี่ , ห้า ให้มาทำหน้าที่ทวงหนี้แทนเหมือนเดิม...เป็น"วัฏจักร"เช่นนี้เรื่อยไปตลอด จนกว่าจะทวงหนี้ได้สำเร็จ(Hair cut สำเร็จ) หรือจนกว่าจะฟ้องศาล ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานเป็นปี

ในเมื่อ"บริษัทรับจ้างทวงหนี้"ในประเทศไทย มันมีจำนวนมากมายนับพันบริษัท
ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) จึงสามารถใช้บริการว่าจ้างบริษัทไหนก็ได้ โดยเรียกมาใช้งานได้โดยง่าย และก็สามารถ"ถีบหัวส่ง"เปลี่ยนให้ออกไปได้ง่ายๆเช่นกัน หากมันไร้น้ำยาในการทวงหนี้ได้สำเร็จ

แล้วอีกอย่างหนึ่ง บริษัทรับจ้างทวงหนี้เหล่านี้ ก็ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือน สำหรับค่าว่าจ้างในการทวงหนี้จากทางเจ้าหนี้ตัวจริง แต่จะได้รับเป็น"เงินค่าคอมมิชชั่น"ตามจำนวนเงินที่ทวงหนี้มาได้สำเร็จ (ก็คล้ายๆกับอาชีพ"เซลล์แมน"ขายของนั่นแหละ หากขายของได้ ถึงจะได้ค่าคอมมิชชั้น หากขายของไม่ได้ก็"อด")

ด้วยสาเหตุนี้...จึงเป็นบ่อเกิดแห่ง"การทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรม"จากบริษัทที่รับจ้างทวงหนี้บางราย ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้แบบเลวๆ ในลักษณะของการข่มขู่และกดดันลูกหนี้ เพื่อให้ตัวเองได้เงินมาจากลูกหนี้ไห้ได้(ไม่งั้นจะโดน"ถีบหัวส่ง"และ"อด แdก ค่าคอมฯด้วย") จึงต้องใช้วิธีในการทวงหนี้แบบชั่วๆ หรืออ้างข้อกฏหมาย"มั่วๆ" เพื่อข่มขู่ลูกหนี้ต่างๆนาๆ




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20





ปล. ทำ Link ให้แล้ว ก็กรุณาเข้าไปอ่านบ้างนะครับ

ถ้าไม่อ่าน ก็สติแตกมันอยู่อย่างนี้แหละ
.