ข้อคำปรึกษาด้วยค่ะ กำลังจะตัดสินใจหยุดจ่ายตั้งแต่เดือนนี้ แต่ความกังวลยังสูง

สวัสดีค่ะ ชื่อขวัญนะคะ ขวันมีภาระทั้งหมดดังนี้ค่ะ
City Bank 19,000
City Bank ready credit 59,000
K bank บัตรเครดิต 36,000
K bank บัตรกดเงินสด 42,000
กรุงศรี 40,000
ธนชาต เครดิต 40,000
ธนชาต กดเงิดสด 40,000
เฟิร์สช้อย. 56,000
สินเชื่อบุคคล CIMB เหลือ 30,000
สินเชื่อุบุคคล SCB เหลือ 32,500
สินเชื่อบุคคล TMB เหลือ 35,000
ยอดรวมหนี้ณ เดือน ส.ค.57. 429,500

จากที่ขวัญศึกษาคำแนะนำจากพี่ๆในกระทู้นี้แล้ว จึงอยากตัดสินใจจะหยุดจ่ายค่ะ ตั้งแต่ตอนนี้(ส.ค.57)
แต่ความกังวลคือ
1.ปัจจุบันทะเบียนบ้านอยู่ที่ ตจว หากขวัญไปย้ายมาเข้าที่กรุงเทพ ซึ่งเปนบ้านส่วนตัวของแฟนค่ะ
หากมีการส่งหมายศาล จะยังทันที่ทำให้ศาลไม่ส่งไปที่ ตจว มั้ยคะ เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่ทราบเรื่อง เพราะท่านอายุมาก มีโรคประจำตัวด้วยค่ะ
2.เราไม่ควรโทรไปบอก ธ.เองใช่มั้ยคะ ว่าจะหยุดส่งแล้ว รอให้เค้าทวงถามมาเองรึป่าวคะ
3.ที่อยู่ที่ทำงาน ทะเบียนบ้านที่ใช้ในการสมัคร ทุกบัตรทุกธ. เป็นที่ทำงานเก่า เค้าจะสืบถึงที่ทำงานใหม่ได้มั้ยคะ คือุถ้าเปนไปได้ก็อยากให้อื่นทราบน้อยที่สุดน่ะต่ะ

ปล.ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่มีคำแนะนำดีๆ เหมือนเปนแสงสว่างให้ชีวิตเลยค่ะแบกรับมา 3 ปีเต็ม ได้หลอกตัวเองว่าชั้นจะจ่ายจนหมด แต่ไม่ไหวแล้วค่ะ ไหนจะบ้าน จะรถ อีก แต่ตอนนี้ก็มีกำลังขึ้นมากแล้วค่ะ

pannkwan เขียน: 1.ปัจจุบันทะเบียนบ้านอยู่ที่ ตจว หากขวัญไปย้ายมาเข้าที่กรุงเทพ ซึ่งเปนบ้านส่วนตัวของแฟนค่ะ
หากมีการส่งหมายศาล จะยังทันที่ทำให้ศาลไม่ส่งไปที่ ตจว มั้ยคะ เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่ทราบเรื่อง เพราะท่านอายุมาก มีโรคประจำตัวด้วยค่ะ

หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64


พวกมันจะส่งจดหมายทวงหนี้หรือส่งพนักงานทวงหนี้ โดยส่งไปยังทุกๆสถานที่ เท่าที่มันมีข้อมูลของลูกหนี้อยู่ในมือของมัน โดยไม่สนว่าข้อมูลที่มันมีอยู่นั้น จะเป็นข้อมูลใหม่หรือข้อมูลเก่าก็ตาม
หากมันมีข้อมูลสถานที่ติดต่อของลูกหนี้ 10ที่ มันก็จะส่งจดหมายทวงหนี้ไปยังสถานที่ตามข้อมูลนั้นๆ 10ที่เช่นกัน(ส่งจดหมายไป 10ฉบับ) ทั้งที่บ้านและที่ทำงานของลูกหนี้...ตามเท่าที่มันมีข้อมูล

ทางชมรมฯ จึงได้เขียนแนะนำในกระทู้ปักหมุดเอาไว้ว่า

ใครเลือกใช้วิธีที่ 2
ก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับกับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นดังนี้
1.หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอดอย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์
(ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย

2.ต้องบอกครอบครัวให้รู้จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไรและเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย

3.ต้องบอกที่ทำงาน(หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อนคนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร)ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไรและจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชีห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักทีให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่าแล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนรวมงานตามความเหมาะสม

4.จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10,000 เหลือ 5,000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3,500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1,500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัวสำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดูส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัวพยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม
5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และเมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆที่มีสารพัดรูปแบบ

อ้างอิงข้อมูลจาก
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64#216

pannkwan เขียน: 2.เราไม่ควรโทรไปบอก ธ.เองใช่มั้ยคะ ว่าจะหยุดส่งแล้ว รอให้เค้าทวงถามมาเองรึป่าวคะ

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64

pannkwan เขียน: 3.ที่อยู่ที่ทำงาน ทะเบียนบ้านที่ใช้ในการสมัคร ทุกบัตรทุกธ. เป็นที่ทำงานเก่า เค้าจะสืบถึงที่ทำงานใหม่ได้มั้ยคะ คือุถ้าเปนไปได้ก็อยากให้อื่นทราบน้อยที่สุดน่ะต่ะ

สมาชิกใหม่
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40826&Itemid=64#48041

pannkwan เขียน: ปล.ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่มีคำแนะนำดีๆ เหมือนเปนแสงสว่างให้ชีวิตเลยค่ะแบกรับมา 3 ปีเต็ม ได้หลอกตัวเองว่าชั้นจะจ่ายจนหมด แต่ไม่ไหวแล้วค่ะ ไหนจะบ้าน จะรถ อีก แต่ตอนนี้ก็มีกำลังขึ้นมากแล้วค่ะ

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

ขอบคุณมากค่ะพี่นกกระจอกเทศ ขอสารภาพตามตรงนะคะ ขวัญกำลังจะแต่งงานเดือน พ.ย. นี้ ปรึกษาคุณป้ามาตลอดค่ะเรื่องที่จะหยุดจ่าย ทีแรกป้าก็อยากให้ทนจนว่าจะพ้นงานแต่งออกไป แต่คือมันไม่ไหวแล้วค่ะ สิ่งที่กังวลก็อย่างที่บอกค่ะไม่อยากให้พ่อกับแม่ทราบตอนนี้ อยากให้ทราบภายหลังงานแต่งค่ะ(อีก 3 เดือนค่ะ) ตอนนี้ขวันกำลังจะไปย้ายที่อยุ่มาที่ กทม เพื่อเผื่อต่อไปศาลส่งฟ้องที่ กทม จะได้สะดวกในการเดินทาง เพราะทำงานอยุ่ กทม ค่ะ
ขวัญไม่มีความกลัวที่ศาลจะส่งฟ้องนะคะ แอบกลัวด้วยว่าเอกสารเรื่องฟ้องศาลจะไปลงที่อยุ่บ้านที่นนท์ ที่ใช้สมัครบัตรต้วยซ้ำ เพราะขายบ้านไป 3 ปีแล้ว แล้สถ้าเอกสารส่งมาแล้วขวัญไม่ทราบกลัวเรื่องจะบานปลายค่ะ

ตอนนี้ปรึกษากับพี่ชาย พี่เค้าจะช่วยปิดยอดให้ ทีนี้เราจะขอส่วนลดกับธนาคารได้บ้างมั้ยคะ หรือเทคนิคในการต่อนองยังไงบ้างคั เพราะโทรไปก็เจอแต่ call center

เป็นลูกหนี้ชั้นดี แต่อยากได้ส่วนลดหนี้...ต้องทำอย่างไร?
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=23297&Itemid=64

ที่ยืมพี่ชายมาก็เพราะว่าอยากหาทางออกที่ดีที่สุดค่ะ ถ้าไม่มีทางที่ธนาคารจะลดให้ได้ก็ไม่เปนไรค่ะ เพราะที่ยืมเค้ามาปิดก็ต้องหามาคืนเค้าเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่ว่าดิฉันมีเงินอยุ่แล้วสบายๆแต่อยากได้ส่วนลดขึ้นแบบคนอื่นเค้า ผิดหรอคะที่หาวิธี แก้ปัญหาโดนไม่ต้องเสียเครดิต