-
Forum
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
อยากปลดหนี้ค่ะ เริ่มหยุดจ่ายบ้างแล้ว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
อยากปลดหนี้ค่ะ เริ่มหยุดจ่ายบ้างแล้ว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #56897
โดย mini_d
เครียดอยู่เป็นนานสองนานค่ะ เรื่องเป็นหนี้ ภาระมากมาย ทั้งผ่อนบ้านและรถ และหนี้สินเชื่อบัตรต่างๆ อีก จนได้มาเจอกับเว็บของสมาคมนี้ เริ่มมองเห็นทางสว่างบ้างค่ะ ได้เริ่มหยุดจ่ายหนี้ไปทั้งหมดสามตัวในเดือนนี้ และเดือนหน้าจะหยุดจ่ายอีกสองตัว รวมเป็นทั้งหมด 5 ตัว วิธีการเก็บเงินก็คือ ตั้งใจจะผ่อนบ้านเดือนเว้นเดือน ไม่ทราบว่าเพื่อนสมาชิกท่านใดมีคำแนะนำบ้างมั๊ยคะ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าจะรับมือกับการทวงหนี้ได้ดีแค่ไหน ขอกำลังใจด้วยนะคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57281
โดย mini_d
วันนี้ยูโอบี โทรมาทวงหนี้ค่ะ ค้างจ่ายมาสองเดือนแล้ว ธนาคารเสนอลดดอกเบี้ยให้ 30% สำหรับสองเดือนที่ค้างจ่าย แต่จะให้จ่ายพรุ่งนี้เลย เราแจ้งธนาคารไปว่าเราไม่มีเงินจ่ายอ่ะ เพราะเราติดปัญหาด้านการเงินอยู่ ธนาคารเลยแจ้งว่าจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามจัดการต่อไป และจะปิดบัญชีเรา เราต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 5911
-
ขอบคุณที่รับ: 2590
-
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57291
โดย jackTs
.
ระยะเวลา และขั้นตอนในการทวงหนี้
1. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ (1-2 เดือนแรก) โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ตัวจริง
2. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ + จดหมายทวงหนี้ (ช่วงเดือนที่ 2-3) โดยเริ่มมีการเสนอให้ทำ"ประนอมหนี้" , "ปรับโครงสร้างหนี้" (ซึ่งสรุปก็คือหลอกให้ทำ"สัญญานรก"นั่นแหละ แต่เรียกชื่อให้มันดูไพเราะสักหน่อย ก็เท่านั้น) หรือ อาจโทรมาหลอกลวงให้ลูกหนี้ทำการ"จ่ายหยอด"เพื่อเดินบัญชี...เป็นต้น
ข้อเสียของการ "
จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64
3. ส่งเรื่องออกไปให้สำนักงานกฏหมายข้างนอก ให้เป็นผู้ทำการทวงหนี้แทน ซึ่งเป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 (ช่วงเดือนที่ 4-6) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 20-30% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)
4. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 ทวงหนี้ไม่ได้ ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ให้มาทวงหนี้ต่อ (เดือนที่ 7-9) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 30-40% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)
5. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ก็ยังทวงหนี้ไม่ได้อีก ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 3 ให้มาทวงหนี้ต่ออีก (ช่วงเดือนที่ 10-12) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 40-50% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)
6. ถ้าเปลี่ยนสำนักงานกฏหมายทวงหนี้ไปตั้งหลายบริษัทแล้ว ยังไงก็ทวงไม่ได้สักที ก็ส่งฟ้องศาล (เดือนที่ 12 เป็นต้นไป จนถึงปีครึ่ง) โดยยังคงมีข้อเสนอเรื่องส่วนลดในการ Hair cut ให้อยู่ แต่เป็นราคาช่วงที่งามที่สุด (หรือที่เรียกกันว่า "นาทีทอง" ในการทำ Hair cut โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เป็นผู้กำหนดราคา)
ดังนั้น หากมีลูกหนี้บางราย ที่เจ้าหนี้มันทำเรื่องฟ้องศาลช้ากว่าปกติ (เกินกว่า 1ปีขึ้นไป)
ลูกหนี้อาจถูกทวงหนี้โดยสำนักงานกฏหมาย(บริษัททวงหนี้) ที่ต้องถูกเปลี่ยนบริษัททวงหนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ซ้ำหน้ากัน เกินกว่า 5บริษัททวงหนี้...หรือจนกว่าหมายศาลฟ้องจะมา
ข้อสังเกตุ
: ณ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทรับจ้างทวงหนี้ในประเทศไทยทั้งหมด ประมาณพันกว่าบริษัท
ซึ่งบริษัทรับจ้างทวงหนี้พวกนี้ ส่วนใหญ่มักตั้งชื่อที่ใช้จดทะเบียนในนามนิติบุคคลว่า "
สำนักงานกฏหมาย" หรือ "
สำนักงานทนายความ" เพื่อสร้างความตกใจต่อลูกหนี้...เพราะในชื่อของบริษัทดังกล่าว มีคำว่า "กฏหมาย" หรือ "ทนายความ" ปรากฏอยู่ด้วย
พอลูกหนี้ได้ยินหรือได้เห็นชื่อของบริษัททวงหนี้เหล่านี้ ก็มักเกิดความกลัวและคิดไปเองว่า
"เรื่องหนี้ของฉัน ตกไปอยู่ในขั้นตอนของกฏหมายแล้วหรือนี่? , สงสัยจะโดนฟ้องแล้วแน่เลย?"...แต่โดยแท้จริงแล้ว บริษัทพวกนี้ มีอาชีพหรือรายได้หลักมาจากการ"
รับจ้างทวงหนี้
"เท่านั้น
และถ้าหากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายแรก ไม่สามารถทวงหนี้ได้ตามที่ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างได้กำหนดไว้ (ซึ่งส่วนมากทางสถาบันการเงิน จะกำหนดให้บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ ต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือนเท่านั้น) บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ทำการ"
ถีบหัวส่ง"ออกไป...เพราะถือว่า"
ไร้ความสามารถ"ในการทวงหนี้ให้ได้ภายใน 2-3 เดือน ตามที่เจ้าหนี้ตัวจริงได้กำหนดเอาไว้
แล้วหลังจากนั้น...ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปทำการว่าจ้างบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายใหม่ ให้มาทำการทวงหนี้แทนบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายเดิมที่ถูก"
ถีบหัวส่ง"ออกไป โดยกำหนดว่าจะต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เช่นกัน
หากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายที่สองนี้ ก็ยังไม่สามารถทวงหนี้กับลูกหนี้ได้ภายใน 2-3 เดือนอีก ก็จะถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไปอีก แล้วทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปว่าจ้างบริษัททวงหนี้รายที่ สาม , สี่ , ห้า ให้มาทำหน้าที่ทวงหนี้แทนเหมือนเดิม...เป็น"วัฏจักร"เช่นนี้เรื่อยไปตลอด จนกว่าจะทวงหนี้ได้สำเร็จ(Hair cut สำเร็จ) หรือจนกว่าจะฟ้องศาล ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานเป็นปี
ในเมื่อ"บริษัทรับจ้างทวงหนี้"ในประเทศไทย มันมีจำนวนมากมายนับพันบริษัท
ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) จึงสามารถใช้บริการว่าจ้างบริษัทไหนก็ได้ โดยเรียกมาใช้งานได้โดยง่าย และก็สามารถ"ถีบหัวส่ง"เปลี่ยนให้ออกไปได้ง่ายๆเช่นกัน หากมันไร้น้ำยาในการทวงหนี้ได้สำเร็จ
แล้วอีกอย่างหนึ่ง
บริษัทรับจ้างทวงหนี้เหล่านี้ ก็ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือน สำหรับค่าว่าจ้างในการทวงหนี้จากทางเจ้าหนี้ตัวจริง แต่จะได้รับเป็น"เงินค่าคอมมิชชั่น"ตามจำนวนเงินที่ทวงหนี้มาได้สำเร็จ (ก็คล้ายๆกับอาชีพ"เซลล์แมน"ขายของนั่นแหละ หากขายของได้ ถึงจะได้ค่าคอมมิชชั้น หากขายของไม่ได้ก็"อด")
ด้วยสาเหตุนี้...จึงเป็นบ่อเกิดแห่ง"การทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรม"จากบริษัทที่รับจ้างทวงหนี้บางราย ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้แบบเลวๆ ในลักษณะของการข่มขู่และกดดันลูกหนี้ เพื่อให้ตัวเองได้เงินมาจากลูกหนี้ไห้ได้(ไม่งั้นจะโดน"ถีบหัวส่ง"และ"อด แdก
ค่าคอมฯด้วย") จึงต้องใช้วิธีในการทวงหนี้แบบชั่วๆ หรืออ้างข้อกฏหมาย"มั่วๆ" เพื่อข่มขู่ลูกหนี้ต่างๆนาๆ
หากใครโดนการข่มขู่ทวงหนี้ด้วยวิธีการเลวๆแบบนี้ ก็อย่าไปตกใจ สามารถไปดูวิธีการรับมือการทวงหนี้และการใช้สิทธิ์ปกป้องตนเองได้จากในกระทู้นี้
รู้ทันการทวงหนี้ / เตรียมรับมือการทวงหนี้
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=18758&Itemid=64
.
อนณสุข ปรมาลาภา
ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
debtman
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
debtman
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57333
โดย mini_d
ยูโอบีมาอีกแล้วค่ะ วันนี้มาเป็นข้อความว่า ธนาคารขอเสนอยกเลิกสัญญาเงินกู้เลขที่ xxxxxxx กรุณาติดต่อสาขาเพื่อชำระยอด 7,250 บาท (1 งวด) ภายในวันที่ 4 กย 57 เพื่อระงับการส่งเรื่องดำเนินการ
อันนี้เค้าจะมารูปแบบไหนคะ มันคือการจ่ายหยอดใช่หรือเปล่า เราอยู่นิ่งๆ ดีกว่าถูกต้องมั๊ยคะ
เจ้าอื่นๆ อย่างซิตี้แบงค์บัตรเครดิต ยังไม่มีการโทร แต่มีจดหมายส่งมาเตือนให้ชำระหนี้สองงวดแล้วค่ะ ส่วนซิตี้แอดวานซ์ และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ยังไม่ได้เริ่มหยุดจ่าย จะหยุดเดือนนี้ อีกไม่กี่วันคงเริ่มโทรแล้ว เครียดบ้างไม่เครียดบ้างค่ะ เพราะมีแม่ให้กำลังใจอยู่ แต่เพื่อนที่ทำงานนี่สิคะ ยังไม่ได้บอกใครเลย รวบรวมความกล้าอยู่คงจะต้องบอกในไม่ช้านี้ล่ะค่ะ
คราวหน้าจะรวบรวมยอดหนี้ทั้งหมดมาแจกแจงให้ทราบนะคะ
Last edit: 9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา by mini_d. เหตุผล: เพิ่มเติมข้อความ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57469
โดย mini_d
กลับมาแล้วค่ะ พร้อมกับรายการที่เป็นหนี้ทั้งหมดดังนี้
1. สินเชื่อ UOB I-Cash 337,704.78 หยุดจ่าย 4 สค 57
2. บัตรเครดิต Citibank 181,132.70 หยุดจ่าย 13 สค 57
3. บัตรกดเงินสด UOB 122,267.89 หยุดจ่าย 29 สค 57
4. สินเชื่อ Standard Chartered 366,356.19 หยุดจ่าย 3 กย 57
5. สินเชื่อ Citiadvance 143,184.00 หยุดจ่าย 4 กย 57
รวมยอดหนี้ทั้งหมดบวกดอกเบี้ยแล้วเป็น 1,190,645.56 บาท
เยอะขนาดนี้ ยังไงก็ต้องไหวใช่มั๊ยคะ
ตอนนี้ได้รับหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้จากสินเชื่อยูโอบี และบัตรเครดิตซิตี้แบงค์แล้วค่ะ จะเป็นยังไงต่อไปยังไม่ทราบได้ อาการเครียดก็ไปๆ มาๆ ไม่รู้ว่าเจ้าไหนจะทวงหนี้โหดมากที่สุด และ เจ้าไหนดำเนินการทางกฎหมายเร็วที่สุดคะ ท่านใดมีประสบการณ์รบกวนช่วยแชร์ด้วยนะคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57539
โดย mini_d
วันนี้บัตรเครดิตซีตี้แบงค์โทรมาทวงถามหนี้แล้วค่ะ ก็แจ้งกลับไปว่า ณ ขณะนี้มีปัญหาทางการเงิน ไม่สามารถชำระได้ ทางธนาคารขอให้บอกวันที่สะดวก ก็บอกไปว่าบอกไม่ได้ค่ะ เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าจะสะดวกวันไหน เอาเป็นว่าถ้ามีปุ๊บจะรีบให้ทันทีนะคะ จึงวางสายไปค่ะ ณ ตอนนี้ยังพูดจากันสุภาพดีอยู่ค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Black Widow
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
mookjaja
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57554
โดย mookjaja
สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ตอนนี้เริ่มหยุดเหมือนกัน ค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57576
โดย mini_d
ขอบคุณมากค่ะคุณ black widow และ คุณ mookjaja ขอเป็นกำลังใจให้คุณทั้งสองและเพื่อนๆ ที่ปฏิบัติภาระกิจเดียวกันทั้งหมดเช่นกันค่ะ
อัพเดทนะคะ วันนี้ธนาคารยูโอบีโทรมาอีกค่ะ มาต่อรองให้จ่ายก่อน 1 งวด และเสนอให้ทำประนอมหนี้ แต่เราไม่ตอบตกลงค่ะ เราบอกเค้าไปว่าเรายังไม่พร้อม จนท แจ้งกลับมาว่า ถ้าครบสามงวดเมื่อไหร่ บัญชีจะถูกยกเลิกนะคะ เราก็เลยบอกว่ามันถูกยกเลิกไปแล้วนี่คะ เพราะเราได้รับข้อความจากธนาคาร ยังเก็บไว้อยู่เลย จนท บอกว่ายังค่ะยัง ต้องครบ 90 วันก่อน เราก็เลยอ้าว ยังไงกันเนี่ย แต่ไม่เป็นไรนะคะ เพราะยังไงเราก็ยังไม่พร้อม น้องเค้าเลยบอกว่าจะส่งเรื่องต่อให้กับฝ่ายกฎหมายดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนะคะ (ทำไงได้ ใช่มั๊ยคะ นอกจาก) ค่ะน้อง ตามนั้นเลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ปล. วันนี้เจ้าหน้าที่ยังพูดดีอยู่นะคะ
ยืนหยัดสู้ต่อไปค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57628
โดย mini_d
วันนี้สแตนดาร์ด โทรมาทวงถามค่ะ เนื่องเดือนนี้จะหยุดจ่ายเป็นเดือนแรก ธนาคารแจ้งว่าธนาคารคิดดอกเบี้ยรายวันตกอยู่ที่วันละ 136 บาท! แพงมากค่ะ แบบนี้ถูกกฎหมายเหรอคะ ธนาคารอื่นๆ คิดรายวันแบบนี้รึป่าวคะ อันนี้เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลนะคะ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ แบบนี้กว่าจะถึงศาลหรือมีเงินมา H/C ต้องแย่แน่เลยค่ะ
ยอดค้างธนาคารนี้สูงด้วยสิตั้งสามแสนกว่าแน่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57656
โดย mini_d
อัพเดทค่ะ วันนี้มีเจ้าหนี้โทรมาทวงถามหนึ่งเจ้าคือ บัตรกดเงินสดยูโอบี แจ้งกลับไปว่าช่วงนี้มีปัญหาทางการเงินค่ะ ยังไม่พร้อมจ่าย เจ้าหนี้ถามมาว่าวันไหนจ่ายได้ เราตอบไปว่าไม่ทราบเหมือนกันค่ะ กำลังหาเงินอยู่ ถ้าพร้อมจะจ่ายให้ เจ้าหนี่เลยบอกว่างั้นจะให้เจ้าหน้าที่โทรมาเรื่อยๆนะคะ เราก็ตอบไปว่าค่ะ ได้ค่ะ แล้ววางสายไปค่ะ
ช่วงนี้เจ้าหนี้แต่ละเจ้ายังโทรมาแบบวันเว้นวันบ้าง เว้นไปหลายวันบ้าง แต่ก็ทำให้แอบเครียดได้เหมือนกันค่ะ ส่วนคำตอบที่จะให้เจ้าหนี้ก็ตอบไปตามตรง ว่ายังไม่มี และไม่ได้เป็นหนี้เจ้าเดียว ต้องหาเงินใช้หนี้หลายเจ้า เฮ้อ...เหนื่อยใจ แต่ไม่ถอยค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
wutha
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
mini_d
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57701
โดย mini_d
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะคุณ wutha
เช้าวันนี้บัตรเครดิตซิตี่้แบงค์เสนอให้ปรับโครงสร้างหนี้ค่ะ ให้ชำระเดือนละ 4 พันกว่าบาท 52 งวด ดอกเบี้ยอยู่ที่ 13% ลดต้นลดดอก ไม่ได้ตอบรับกลับไปค่ะ บอกแค่ว่าจะขอคำนวณรายจ่ายทั้งหมดก่อนว่าจะไหวรึป่าว ไม่ทราบว่าท่านใดมีประสบการณ์กับบัตรเครดิตซิตี้แบงค์บ้างคะ ที่นี่ให้ส่วนลดเยอะมั๊ย แล้วดำเนินการทางกฎหมายเร็วแค่ไหนอ่ะคะ จะได้เตรียมใจตั้งรับทัน
รายที่สองของวันนี้ก็คือสแตาดาร์ดชาร์เตอร์ สินเชื่อค่ะ คำตอบเดิมคือยังไม่มีจ่าย ธนาคารบอกจ่ายครึ่งนึงก่อนก็ได้ ก็ยังไม่มีจ่ายให้อยู่ดีอ่ะค่ะ ธนาคารเอาดอกเบี้ยที่พุ่งรายวันมาขู่อีก แล้วก็วางสายไปเลย
อดทนๆๆๆๆ และทนอดๆๆๆๆ เพื่อล้างหนี้ต่อไป
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
ดอกไม้สีขาว
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57743
โดย ดอกไม้สีขาว
ของเราคนที่โทรมาขู่จะส่งฟ้อง
เราก็ไม่รู้ว่าเป็น uob เอง หรือสำนักงานกฏหมายข้างนอก
ก็เลยจำยอมจ่าย 6 งวด งวดละ 6,000 ไม่ลดเลยสักบาท แต่หยุดดอก
ไม่รู้ว่าเราคิดถูกหรือผิด แต่เราก็เพิ่งเห็นเว็บนี้
ที่แน่ๆ เราไม่มีปัญญาส่งต่อแล้ว เพราะเพิ่งถูกหมายศาลของ KTC
ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
ถ้าเราหยุดส่ง uob แล้วรวบรวมเงินไปไว้จ่าย KTC
เราคิดถูกมั้ย
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 5911
-
ขอบคุณที่รับ: 2590
-
-
ผู้ดูแล: Mommyangel, Badman, konsiam
-
Forum
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
อยากปลดหนี้ค่ะ เริ่มหยุดจ่ายบ้างแล้ว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.612 วินาที