ขอคำแนะนำการคืนสินเชื่อบุคคล

สวัสดีค่ะ เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ
ปัญหาคือ ได้รับสินเชื่อ UOB ไอแคช มา ยอด 200,000 ผ่อนเดือนละ 5,260 จำนวน 60 งวด เริ่มงวดแรก 25 ส.ค.57 ไม่อยากผ่อนแร้ว เพราะมันรวมแร้ว 316,514 มากกว่าต้น 200,000

แต่ทีนี้จะคืน ก็ไม่สามารถติดต่อธนาคารได้เลย โทรไป call center ก็ไม่รับ รอนานมาก เลยคิดว่าจะไม่ส่งค่างวดจนกว่าธนาคารจะติดต่อมาเอง ถูกต้องหรือไม่ แร้วเราจะโดนค่าธรรมเนียมหรือป่าว ก็มันติดต่อยากจริงๆ

รบกวนเพื่อนสมาชิกให้คำแนะนำด้วยค่ะ เอาไงดี
ขอบคุณค่ะ

ในกรณีนี้ คิดว่า อย่าไปทำเป็นไม่สนใจเลยคะ อาจจะโดนดอกเบี้ยตามมาไม่ใช่น้อย
ควรจะไปเดินเรื่องเองที่ธนาคารเลยจะดีกว่า จะได้ทราบรายละเอียดทุกอย่างว่าควรจะดำเนินการยังไงต่อไปดี

คืนเงินเขาไปเลยครับ..... จ่าย ที่ธนาคารเขาเลย

ขอบคุณค่ะ คงต้องรวบรวมจากบัตรใบอื่นมาจ่ายให้รายนี้ไปก่อน เพราะตอนนี้ใบอื่นยังพอมีวงเงินเหลืออยู่ แร้วคงค่อยเคลียร์กับบัตรอื่นอีกที เพราะอ่านดูสมาชิกส่วนใหญ่บอกว่า ยูโอบี เคี่ยวมาก ตอนนี้กำลังรวบหนี้ไปอยู่ที่ใดที่หนึ่งก่อนอยู่ค่ะ จะได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหนี้น้อยรายค่ะ

แล้วเงินที่ได้มาใช้หมดไปรึยังคะ ตัว jinijin เคยได้แบบนี้เหมือนกันของกรุงศรีสไมล์แคช พอได้มาแล้วดูยอดผ่อนชำระแล้ว คิดคำนวณดูแล้วดอกเบี้ยเยอะมาก เลยตัดสินใจเอาไปคืนค่ะ ไปที่ธนาคารสาขาใดก็ได้ค่ะ ยิ่งคืนเร็วยิ่งดอกเบี้ยน้อยค่ะ ตอนนั้นโชคดีที่ยังไม่ใช้ เพราะทีแรกคิดว่าจะเอามาโปะบัตรใบอื่นๆ ก่อนยังดีที่ยั้งมือทัน

กาบแก้ว อยากปลดหนี้ เขียน: สวัสดีค่ะ เพื่อนสมาชิก วันนี้รวบรวมหนี้ได้ประมาณ 2.8 ล้าน มีหลักทรัพย์เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตีราคาก็สูสีกันกับหนี้ ไปให้ธนาคารออมสินพิจารณา ได้รับคำแนะนำว่าถึงมีหลักทรัพย์ แต่เงินเดือนคุณไม่มีความสามารถชำระหนี้ แทบร้องไห้ จะทำไงล่ะทีนี้ เค้าก็บอกว่าต้องหาคนกู้ร่วม ที่อายุงานมากกว่า เงินเดือนมากกว่า หรือให้คนอื่นที่เราไว้ใจ แร้วอายุงานมากกว่ากู้แทนเรา แต่เราทำสัญญาซื้อขายกับคนนั้นไว้ เราก็ส่งเงินแทนคนกู้ไป อาจจะดีกว่า ปัญหามันคือยอดส่งก็สูงอยู่ดี เพื่อนสมาชิกคิดว่าอย่างไร
1) สมมติว่ามีคนกู้ให้ หรือมีคนกู้ร่วมตามนั้น ขอรับยอดเงินตามที่เราส่งไหวประมาณ 1.6 ล้าน สมควรเอาไปปิดบัตรเครดิต หรือปิดสินเชื่อบุคคล จะดีกว่ากัน
2) ระหว่างสินเชื่อบุคคล CIMB 7 แสน และ UOB 2 แสน TMB 120,000 กับบัตรเครดิต TMB, citi bank , SCB, กสิกร ปิดอะไรก่อน จะเหมาะสม

รบกวนช่วยให้คำตอบด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ

คิดจะเอาหลักทรัพย์ไปกู้เงินจาก ธ.ออมสิน มาเชื่อใช้หนี้ มันก็เป็นเรื่องที่ดีครับ
แต่ควรกู้แล้วเก็บเงินก้อนนี้ เอาไปจ่ายหนี้คืนในราคา Hair cut จะคุ้มค่ากว่าครับ


ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64#749


1ปี10เดือน สรุปเส้นทางปิดหนี้กอบัวทุกสถาบัน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=1099&Itemid=29

ขอบคุณค่ะคุณนกกระจอกเทศ

เรียนถามคุณนกกรจอกเทศ
1. การอายัดเงินเดือน จะทำเมื่อศาลพิพากษาแร้วใช่หีือไม่
2 การเป็นบุคคลล้มละลาย กับอายัดเงินเดือน อันไหนจะเกิดก่อน

วันนี้ได้รับโทรศัพท์ให้วงเงินเพิ่มของ UOB , ก็บอกไปว่าไม่สนใจ แต่กำลังจะเอาสินเชื่อที่รับมาก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ใช้เอาไปคืน เค้าบอกว่าถ้าคืนก็จะโดนคิดดอกเบี้ยแพง เพราะยังผ่อนไม่ถึง 12 เดือน ก็บอกว่าไม่ได้จะผ่อน จะคืนต่างหาก ก็พยายามติดต่อธนาคารแร้ว call center ก็อัตโนมัติ รอนานมากกกก ขอเบอร์ติดต่อตรงได้หรือไม่ ก็ปรากฏว่าน้องบอกจะหาเบอร์ให้ แร้วเงียบไปเลย

พรุ่งนี้วันเสาร์จะเข้าไปติดต่อแบงก์สาขาด้วยตนเอง กลัวใจธนาคารรายนี้ จะคิดดอกเบี้ยเอาเงินคืนแค่ไหนก็ไม่รู้

กลับมา update ข้อมูลค่ะ จากเดิมที่มีหนี้บัตรเครดิต รวมสินเชื่อบุคคล ร่วม 2.9 ล้าน

และจากตอนเดิมที่แร้วเคยบอกว่าจะเอาบ้านพร้อมที่ดินไปจำนองแบงก์ ให้ได้เงินสดมา ชำระหนี้ ปรากฏว่าแบงก์ทหารไทยไม่ผ่าน เพราะระบบแบงก์ตรวจสอบหนี้จากกเครดิตบูโร ฟ้องว่ามีภาระหนี้สูงกว่ารายได้ คิดเป็น 108% เสียใจและตกใจ ยอมรับเลยว่าสติแตกวันที่โทรไปถามผลจากแบงก์ ทั้งที่ตอนแรกได้รับ SMS แจ้งผลเบื้องต้นว่าผ่านการพิจารณาเบื้องต้นแร้วด้วย

ปรึกษาสินเชื่อแบงก์อีกครั้ง แบงก์แนะนำให้ไปชำระหนี้บัตรเครดิตที่มีทั้งหมด เพื่อให้ตัวเลขรายได้ขึ้นมามากกว่ารายจ่าย
ทำตามที่แบงก์แนะนำ ปรึกษากับพ่อแม่ รวบรวมเงินทุกบัญชีปิดบัญชีเงินฝากที่มีทั้งหมดทุ่มจ่ายหนี้บัตรเครดิต เกือบ 9 แสนในวันเดียว แบบดับเครื่องชน

นอกจากนี้โอนทรัพย์สินบ้าน รถ ให้พ่อแม่ไปก่อน เผื่อเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นก็ตามก็จะได้มีที่ซุกหัวนอน คิดว่าอย่างนั้น

คงเหลือบ้านหลังที่จะเอาไปใช้กู้เงินเป็นชื่อของตัวเอง ยอมรับว่ารอ haircut ไม่ได้ เพราะหน้าที่การงานรับผิดชอบเป็นหัวหน้าการเงินโดยตรงด้วย ถ้าโดนทวงถามจากเจ้าหนี้มาที่ทำงาน คงต้องมีผลกระทบอย่างมาก ตัดสินใจปิดทุกบัญชี ใช้หนี้บัตรเครดิตก่อน แร้วรอกู้แบงก์ใหม่กลางเดือนหน้า

ตอนนี้เหลือเจ้าหนี้อยู่ 2 ราย คือ
CIMB. ประมาณ 660,000
UOB. ประมาณ 194,000
กับเงินสดสามารถผ่อนได้อีก 3 เดือน ระหว่างรอกู้แบงก์ใหม่
มีหลักทรัพย์พร้อมที่ดินตีราคาประเมิน 1.4 ล้าน

เล่าสู่กันฟังค่ะ ว่าจากเดิมที่เคยมั่นใจว่าเรามีหลักทรัพย์ก็จริง และราคาในใบสัญญาซื้อขาย ทด.13 ก็อยู่ที่ 2 ล้าน แต่ไม่คิดเลยว่าแบงก์จะไม่สนใจมันเลย พอระบบฟ้องว่ารายจ่ายสูงกว่ารายได้ เกิน 100% เราถูก reject ทันทีโดยไม่พิจารณาหลักทรัพย์ค้ำประกัน.

สวัสดีค่ะ คุณกาบแก้ว มีบ้านที่ต้องผ่อนอยู่เหมือนกันค่ะ พยายามศึกษาแนวทางเมื่อโดนฟ้องจะทำยังไงไม่ให้โดนยึดบ้าน บอกตามตรงตอนแรกไม่ได้คิดเลยว่าหากโดนฟ้องจริงๆๆ จะต้องมีการยึดบ้านได้ด้วยทั้งที่ยังผ่อนอยู่ รู้แค่ว่าโดนอายัติเงินเดือนและทรัพย์สินในบ้านที่ไม่ได้ติดแบงค์ค่ะ ตอนนี้จะโอนให้คนอื่นก็ไม่รู้จะให้ใคร พี่สาวก็ติดกู้สวัสดิการครู 6 แสน คงไม่ผ่าน พ่อแม่ก็ทำนา รายได้ไม่มี เพื่อนที่ใจดียอมทำกู้ต่อเราคงจะไม่มี กังวลมากค่ะ เพราะ KTC คงต้องปล่อยให้ฟ้องแน่ๆๆ ยอดประมาณ 170000 เก็บเงินคงไม่ทัน เหลือหลายใบอยู่ อยากได้คำแนะนำว่าการที่ฟ้องถึงขนาดโดนยึดบ้านมันต้องผ่านกระบวนการยังไงบ้าง แล้วกลัวมากเลยว่ามีหมายฟ้องแล้วเราไม่ทราบ ทำให้บังคับคดีเลย กังวลทุกสิ่งอย่าง 555+ ขอโทษด้วยนะค่ะ ขอคำแนะนำในกระทู้คนอื่นเฉยเลย

เรียน คุณ tukky_jang
บ้านที่มีอยู่ โอนให้พ่อค่ะ เสียค่าโอนลูกให้พ่อ 37,000 กว่าบาท ทำที่สำนักงานที่ดิน ส่วนรถโอนให้พ่อเหมือนกัน เสียร้อยกว่าบาท ทำที่กรมการขนส่ง
บังเอิญบ้าน และรถ ไม่ติดภาระอะไรแร้ว ทั้งสองอย่างค่ะ ก็เลยดำเนินการไว้ก่อน

สำหรับตัวเองเสียใจตอนกู้ไม่ผ่านเพราะติดภาระหนี้สินมากกว่ารายได้ ธนาคารก็เลยไม่ไปมองหลักทรัพย์ของเราเลยค่ะ

ตอนนี้ก็ได้แต่รอว่าชำระหนี้บัตรเครดิตไปหมดแร้ว ใบแจ้งหนี้รอบถัดไปแสดงเป็นศูนย์ ก็จะทำการยื่นกู้ใหม่ ก็ได้แต่ภาวนาว่ามันจะผ่าน บอกตามตรงค่ะว่ากังวลและกลัวเหมือนกันนั่นแหละค่ะ ใช้จ่ายอย่างประหยัด ถ้าโบนัสออกหรือเงินเดือนขึ้นก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างน้อยก็มีเจ้าหนี้เหลือน้อยรายที่จะมาทวงหนี้เรา

ยอมรับว่าตอนที่ตัดสินใจเอาเงินที่มีทั้งหมดไปชำระหนี้ก็คิดว่าเป็นไงเป็นกัน ถ้าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด อย่างมากถ้าถูกยึดบ้านหลังที่ยังไม่ได้โอนเพราะต้องเอาไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันล่ะก็ เค้าคงขายทอดตลาดกันแร้วเจ้าหนี้อีก 2 รายที่เหลือนี้ก็คงแบ่งกันไป คงจะไม่ถูกฟ้องล้มละลาย เพราะเท่าที่เคยอ่านเค้าบอกว่าจะฟ้องล้มละลาย บุคคลธรรมดามูลหนี้ต้องเกิน 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ ถ้าผู้มีความรู้ได้อ่าน รบกวนให้คำแนะนำด้วยนะคะ

Update ค่ะ
วันนี้ไปที่ทำการสาขา CIMB ไปแจ้งเค้าว่ายอดที่ผ่อนต่อเดือน @ 16,000 ไม่ไหวแร้ว จะขอขยายระยะเวลาผ่อนจากเดิม 84 เดือน เป็นเท่าไรก็ได้ แต่ขอส่งไหวแค่เดือนละ 7,000 ได้รับคำตอบว่า "ไม่ได้" โทรไปคุยกับสินเชื่อแบงก์ ก็ไม่ช่วย บอกว่าต้องให้รอเราหยุดจ่ายก่อนใช่มั้ยคุณถึงจะคุยกับเรา เค้าก็บอกว่าใช่ เมื่อเราไม่จ่ายเด๋วส่วนงานทวงหนี้ จะเข้ามาคุยกับเราเอง แต่คุณก็เสียประวัติกับเครดิตบูโร

เราไม่เข้าใจแบงก์เลย เราเป็นลูกหนี้ที่ดี เราขอเข้าไปเจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้ แต่แบงก์ไม่รับขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วย แร้วจะรอให้เราไม่มีจ่ายก่อน แร้วมานั่งฟ้องเรา แร้วมาให้เราขอ h/c ลดยอดหนี้งั้นเหรอ

เราอยาถามผู้รู้ว่า ทำไมแบงก์ต้องรอเราหยุดจ่าย ถึงจะมาคุยเจรจาประนีประนอมกับเราอย่างนั้นเหรอ? แต่การที่เราเข้าไปบอกจุดประสงค์ว่าเราต้องการประนอมหนี้เค้ากลับไม่คุยกับเราอย่างนั้นหรือ

กาบแก้ว อยากปลดหนี้ เขียน: เราอยาถามผู้รู้ว่า ทำไมแบงก์ต้องรอเราหยุดจ่าย ถึงจะมาคุยเจรจาประนีประนอมกับเราอย่างนั้นเหรอ? แต่การที่เราเข้าไปบอกจุดประสงค์ว่าเราต้องการประนอมหนี้เค้ากลับไม่คุยกับเราอย่างนั้นหรือ

ก็มีอย่างที่ไหนล่ะครับ...เป็นลูกหนี้"ชั้นดี"อยู่ดีๆ ก็อยากได้ส่วนลดดอกเบี้ย แถมยังขอผ่อนน้อยๆแบบยาวๆ ไม่ต้องโดนทวงหนี้ , ไม่ต้องติด Blacklist , ไม่ต้องมีความยากลำบากอะไรสักอย่างเลย...แต่ก็ได้ส่วนลดดอกเบี้ยแถมยังได้ผ่อนยาวแบบลืมโลกไปเลย

เพราะถ้าสามารถทำอย่างนั้นได้จริงๆ...เช่น จู่ๆคุณก็โทรไปบอกกับเจ้าหนี้ว่า ฉันอยากได้ส่วนลดดอกเบี้ยจากหนี้ที่มีอยู่ในตอนนี้ทั้งหมด โดยยินดีที่จะจ่ายผ่อนคืนถึง 7ปี (ผ่อนกันแบบ“แก่ชรา”กันไปข้างนึง) ดังนั้นฝ่ายพวกแก(เจ้าหนี้)จะต้องทำตามที่ฉันสั่ง แล้วฉันจะยอมจ่ายหนี้คืนให้แบบดีๆ

ถ้าคุณทำแบบนี้...แล้วทางฝ่ายเจ้าหนี้มันก็ดัน“เสือกโง่”ยอมทำตามที่คุณต้องการจริงๆ
ผมขอถามว่า...แล้ว“ลูกหนี้ชั้นดี”คนอื่นๆทั่วไปอีกหลายล้านคน เขาจะไม่ทำตามคุณกันหมด ทั่วทั้งประเทศเลยเหรอครับ?

ก็แค่โทรไปบอกเจ้าหนี้ว่าขอลดดอกเบี้ย , ขอผ่อนจ่ายแบบลืมโลก เพียงแค่นี้มันก็ยอมทำตามที่ลูกหนี้ร้องขอมา แล้วลูกหนี้คนไหนมันจะ“โง่”ยินยอมผ่อนจ่ายคืนตามสัญญาล่ะครับ

เพราะถ้าหากคุณสามารถทำแบบนี้ได้จริงๆ ผมว่าลูกหนี้ชั้นดีอีกหลายล้านคนในประเทศไทย ก็ต้องโทรไปขอแบบคุณด้วยกันทั้งนั้น โดยลูกหนี้ชั้นดีทุกคนก็จะอ้างเอาเคสของคุณ เป็นกรณี“ตัวอย่าง”แห่งบรรทัดฐานว่า...ทำไม“ไอ้คนนั้น”มันถึงทำได้ มันขอส่วนผ่อนยาวๆแบบลิมโลกได้ แล้วถ้าฉันจะขอแบบเขาบ้าง ทำไมถึงทำให้ฉันไม่ได้? ธนาคารของคุณมีสองมาตราฐานหรือยังไง? เขาก็เป็นลูกหนี้ชั้นดี ฉันก็เป็นลูกหนี้ชั้นดีเหมือนกัน แล้วมันต่างกันตรงไหน?...ยังไงฉันก็ไม่ยอม...ถ้าเขาได้...ฉันก็ต้องได้เหมือนกัน

รับรองได้เลยครับว่า สถาบันการเงินทุกรายในประเทศไทย ต้อง“เจ๊ง”ปิดกิจการกันทั้งหมดทุกแห่ง...เชื่อไหม?

ปล.ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆโดยที่ไม่ต้องแลกอะไรเลย
ถ้าอยากได้เงื่นไขดีๆ ก็ต้องยอมเป็นลูกหนี้"ชั้นเลว"เสียก่อน ยอมถูกทวงหนี้ และยอมเสียประวัติในเครดิตบูโรเป็นการชั่วคราวซะก่อน ไม่งั้นก็ต้องทนจ่ายดอกเบี้ยแพงๆตามเงื่อนไขในสัญญาต่อไป...มันก็แค่นั้นเอง

อยากได้เงื่อนไขดีๆ โดยที่ไม่ต้องลงทุนแลกกับอะไรเลยเหรอครับ?


“สัญญา นรก”...คืออะไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6343&Itemid=64

ขอบคุณคำแนะนำ คุณนกกระจอกเทศ ค่ะ

ดิฉันได้บอกกับภายในครอบครัวทุกคนให้รับทราบแร้ว ไม่ได้ปิดบังอะไร ครอบครัวให้ความช่วยเหลือ ตอนนี้เหลือเพียงหนี้สินเชื่อบุคคลของธนาคารเดียวคือ CIMB ยอด 660,000 บาท ซึ่งยอดผ่อนต่อเดือนสูงมากเดือนละ 16,290.- บาท เกินกำลังความสามารถ จึงเข้าไปคุยกับแบงก์ เพื่อจะขอยืดเวลาชำระหนี้ให้ยาวขึ้นจากเดิม 84 งวด (7ปี) เป็น 8-9 ปี ก็ได้ แต่ขอยอดผ่อนเป็น 7,000 บาทต่อเดือน มันสู้ไหว โดยไม่ได้ขอยกเว้นดอกเบี้ยหรือเบี้ยปรับ หรือส่วนลดแต่อย่างใด แต่แบงก์บอกว่าเรายังมีการชำระหนี้ดีอยู่ รอให้คุณหยุดชำระหนี้ก่อนแผนกทวงหนี้เค้าจะมาคุยกับเราเอง แบงก์จะทำตามขั้นตอน เราก็เลยงงมารอให้เราหยุดชำระหนี้ มามอบตัวดีๆ ไม่ชอบ แร้วก่อนฟ้องศาล เราก็ต้องแถลงต่อศาล หรือเจรจากับเค้าแบบนี้อยู่ดี ก็ตามใจแบงก์แร้วกัน

มาถึงวันนี้ (ภายในเดือน ก.ย.57) ดิฉันได้ชำระหนี้บัตรเครดิตจนเป็นศูนย์ไปหมดทุกใบ บางบัตรปิดบัญชีไปเลยและมีหนังสือยืนยันแร้ว แค่รอให้เครดิตบูโรแสดงไม่มีภาระหนี้บัตรเครดิตอื่น นอกจาก CIMB ดิฉันก็จะยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส.หรือ ธ.ออมสิน หรือ TMB โดยเอาบ้านที่ปลอดภาระมาค้ำประกัน เพื่อจะได้ มาเคลียร์หนี้ CIMB.ต่อไปแทน

มันอาจจะเป็นวิธี ที่ไม่ถูกต้องนัก แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดูอัตราส่งค่างวดต่อเดือน 5,000-7,000 พอจะรับไหว ก็หวังว่าจะกู้ผ่าน เพราะหลักทรัพย์ราคามากกว่า แร้วเราก็เหลือเจ้าหนี้แค่รายเดียว