เป็นหนี้บัตรเกือบ 200,000 มีปัญหาที่บอกไม่ถูก

ได้มีโอกาสอ่านที่ปักหมุด กระทู้อื่นๆที่คล้ายๆกับเรา โดยเฉพาะกระทู้ของคุณ uncle john แล้วค่ะ
แต่เรายังมีข้อสงสัย เเละอยากให้ทุกๆคนแนะนำด้วยค่ะ

ฐานเงินเดือนเรา 16,000 บาทค่ะ

เรามีบัตรทั้งหมด 6 บัตร
1. First Choice - 37,000 จ่ายเดือนละประมาณ 2500 >>ไม่จ่ายมา 2 งวดเเล้วค่ะ แต่เค้าบอกว่าสรุปยอดทุกวันที่ 10 ดังนั้น หากใบเรียกชำระมาสิ้นเดือนนี้ เราจะค้างจ่าย 3 งวดค่ะ (กำหนดจ่ายทุกวันที่ 28)
2. K-express - 20,000 จ่ายเดือนละประมาณ 1300 >> ไม่จ่ายมา 1 งวด สิ้นเดือนนี้ก็เป็น 2 งวดพอดี แถมเรายังมีเงินเดือนพ่วงกับธนาคารนี้ด้วย กะว่าจะจ่ายงวดชนงวด พอโบนัสเราก็จะเคลียร์ให้กลับสู่ภาวะปกติ
3. KTC Pround(กดเงินสด) - 30,000 จ่ายเดือนะประมาณ 1000 >> ไม่จ่ายมา 3 งวดเเล้วค่ะ เมื่อถึงสิ้นเดือนนี้จะเป็น 4 งวด อันนี้คุยกับทาง KTC เค้าบอกว่า ถ้าสิ้นเดือนนี้เราจ่ายเค้า 3 งวด ก็จะไม่มีปัญหาอะไร เเละเราก็กะจะงวดชนงวดจนถึงปลายปีโบนัสออก ก็จะเคลียร์ให้กลับมาเหมือนเดิม
4. KTC Credit - 30,000 จ่ายเดือนละประมาณ 3600 >> สถานะปกติค่ะ ไม่ติดค้างค่างวดอะไร ยังผ่อนได้ไม่เคยขาด
5. Tesco Premire - 30,000 จ่ายเดือนละประมาณ 2200 >> ไม่จ่าย 1 งวดค่ะ สิ้นเดือนนี้ก็จะเป็น 2 เช่นเดียวกัน ก็จะรอจ่ายงวดชนงวดจนถึงสิ้นปี เเล้วจะกลับสู่ปกติ
ุ6. U-me - 38,000 จ่ายเดือนละ 1400 >> อันนี้งวดชนงวดมา 3 เดือนเเล้วค่ะ โทรมาทวงทุกวัน พอสิ้นเดือนมาก็ให้จ่ายเเค่ 1000 เพื่อจบปัญหา

นอกจากค่าใช้จ่ายขั้นต้น เรายังมีค่าใช้จ่ายดังนี้ค่ะ
- ค่าเช่าห้อง - 3000 บาท
- กรุงศรีออโต้ ผ่อนรถเดือนละ 3000 เหลืออีก 2 ปีก็จะผ่อนหมด
- ค่าหนี้นอกระบบที่เอามาหมุนประมาณเดือนละ 3000 แต่จะมีระยะประมาณ 10 เดือน ก็จะหมด
- บริษัทหักเงินที่ยืมมาเดือนละ 2000 >>อันนี้จะหมดสิ้นปีนี้ค่ะ
- หนี้ กยศ. ซึ่งเราจ่ายรายปีค่ะ

ทั้งบ้านเราหาคนเดียวค่ะ มีกัน 3 คน เรา เเม่ เเล้วก็น้องชายวัยกำลังเรียนค่ะ คุณเเม่ทำซักรีดซึ่งได้เดือนประมาณ 5000 ซึ่งเอาเป็นค่ากินค่าอยู่เเทนส่วนของเงินเดือนที่เราเอาไปใช้หนี้จนหมดน่ะค่ะ

ตอนที่ได้อ่านกระทู้คนอื่น หรือปักหมุด เห็นว่าอย่ามีปัญหากับบัตรที่เป็นธนาคารเดียวกับเงินเดือน
แบบนี้ถ้าเราต้องเก็บ K-express ของกสิกรไว้ แล้วที่เหลือทิ้งไปเลยเหรอคะ

คือเราอยากให้ทุกคนช่วยดูและเเนะปัญหาเราว่าเราควรจะทำยังไงถึงจะดีที่สุด

เพราะตอนนี้เรากำลังมีปัญหากับ First Choice เมื่อวันที่ 30 สิงหา โทรมาบอกเราว่าเราค้างจ่าย 2 งวด ให้จ่ายก่อน 1 งวด ซึ่งเราเเจ้งไปว่า สิ้นเดือนนี้ หรือก็คือวันที่ 31 สิงหานี้ไม่ทันเเน่ แต่ถ้าเป็นสิ้นเดือนกันยา เราโอเค ซึ่งทางนั้นบอกว่าสิ้นเดือนกันยาได้ไม่มีปัญหา เพราะเค้าจะสรุปยอดอีกทีวันที่ 10 กันยา ทำให้เราค้างทั้งหมด 3 งวด ขอเเค่อย่าเกิน 3 งวดก็พอ เเต่วันที่ 1 กันยา จะขอโทรมา เผื่อเราทำได้ เราก็โอเค อยากโทรก็โทร....
เเล้วเค้าก็โทรมาค่ะ เเต่ทุกอย่างที่พูดไว้กลับคำหมดเลย มาบอกว่าเเบบนี้ไม่ได้นะ คุณบอกจะจ่ายสิ้นเดือนนี้ ณ จุดนี้ เค้าบอกว่าที่เค้าเข้าใจหมายถึงสิ้นเดือนสิงหา ไม่ใช่กันยาซะหน่อย แต่เราขอบอกเลยว่าเราย้ำเเล้วย้ำอีกว่ากันยา แล้วเค้าเองก็ยืนยันกับเราว่าได้ แต่ตอนนี้เค้าไม่ฟังเลยค่าาา เถียงเเทรกตลอด จนมาบอกจะทำเรื่องลดยอดหนี้มั๊ย ให้ส่งเอกสารของเรามา แต่เราบอกว่าอยากทำอะไรก้ทำเถอะ เเต่ยังไงก็จ่ายสิ้นเดือนอยู่ดี....พอเราบอกไปเเบบนี้เท่านั้นล่ะ เค้าก็บอกว่างั้นผมไม่ทำให้นะ เพราะทำไปคุณก็จ่ายสิ้นเดือนอยู่ดี จะมีประโยชน์อะไร ถ้างั้นบัญชีเราจะถูกยกเลิก ยังไงก็ช่วงพยายามหามาจ่ายภายในวันที่ 10 ที่จะสรุปยอดด้วย แล้วบัตรเราจะถูกยกเลิกถาวร บลาๆๆๆๆๆ ณ ตอนนั้นโมโหมากค่ะที่เค้าพุดจากลับกลอก ทำเราเสียเเผนในชีวิตหมดเลย ที่เเย่อยู่เเล้วยิ่งเเย่ แต่คิดยังไงก้ไม่เกิน 3 งวดอ่ะค่ะ เพราะถ้าสิ้นเดือนกันยานี้เราจ่าย1 งวดเท่ากับเราก็ค้างเเค่ 2 งวดเหมือนเดิม ยังไงก้ไม่เกิน 3 แน่ๆ

บอกตรงๆค่ะว่าเซ็งมาก เป็นลุกค้าที่ดีมาโดยตลอดทุกบัตร แถม จนท.คนนั้นก้เอาเรื่องนี้มาพูดกับเราเองด้วย ตอนนี้กะจะปล่อยเลยค่ะ เเต่เค้าเคยบอกว่า ถ้าของธนาคารอื่นเรายังจ่าย แบบนี้ก็ไปไม่ถึงศาล
พอมาอ่านในนี้บอกว่าถ้าจะให้ถึงศาลก็ต้องปล่อยหมด เรากำลังคิดอยู่ค่ะว่าจะปล่อยดีมั๊ย แต่อย่างที่เขียนรายละเอียดไป มีหลายรายการที่คุยได้ จะมีก็แต่ First choice นี่แหล่ะ ที่เอาไม่อยู่เเล้ว

เราอยู่วงจรหนี้มา 3 ปีเเล้วค่ะ หมุนไปเรื่อยๆ จ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ก็ยอมรับสภาพนะคะว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ยังไงก้ไม่หมด ชีวิตไม่เคยสะดุดเลยค่ะ เพิ่งมาสะดุด เริ่มไม่ค่อยได้จ่ายเมื่อเดือนพฤษภาคมนี้เอง แต่พอมาเห็นวิธีที่ 2 ทำ hair cut เราก้อยากทำบ้าง เสียก้เเต่เราคงไม่มีเงินก้อนไปโปะหมดอ่ะค่ะ หรือถ้าจะค่อยๆเก็บเราก้ไม่รู้ว่าจะเก็บเดือนละเท่าไหร่ นานเเค่ไหนถึงจะพอโปะได้ ด้วยเงินเดือนเเค่นี้ เก็บเพื่อโปะให้ทันกำหนดไม่ได้เเน่ๆ

ตอนนี้รู้สึกทั้งอยากปล่อย เเละอยากพยายามยื้อให้ถึงปลายปีนี้
เพราะตอนนี้มีบางบัตรที่ไม่ให้เรากดใช้เงินเเล้วค่ะ คือผ่อนอย่างเดียวจนกว่าจะหมดหนี้ทั้งหมด
เราก็เลยกะใช้ข้อบังคับนี้ ควบคุมตัวเองไปด้วย เพื่อที่หนี้จะได้หมดเร็วๆ
ตอนเเรกเราก็จะขอประนอมหนี้ทุกบัตร ให้จ่ายน้อยๆ ถึงจะเสียเปรียบ แต่เราก็ยอมรับตรงนี้
เอาให้พออยู่ได้ทุกบัตร บัตรละ 1000 บาทก็ยังดี(6ใบก็ 6000) แต่เราก็รู้ว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้นเเน่ๆ
ชีวิตหนี้คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบขนาดนั้นหรอก
แล้วก็เห็นว่าตัวเองก็ไม่มีความสามาารถที่จะ hair cut ได้ หรือถ้าใครคิดว่ากรณีเรา hair cut ได้
ก็ช่วยเเนะนำทีนะคะ

คือถ้าเราจะขอถามว่า ตอนนี้บริษัทที่เราทำเค้าเป็นธุรกิจครอบครัว เราเห็นคนในออฟฟิต
บางคนที่เค้าติดแบล๊กสิสต์(จากอะไรเราไม่รู้) เค้ารับเงินสดเเละไม่เอาประกันสังคม
คือเหมือนไม่ใช่พนักงานของเค้าน่ะค่ะ ถ้าเราทำแบบนั้นบ้าง เรายังจะโดนอายัดเงินเดือนอยู่มั๊ยคะ
แล้วถ้าคดีเรายืดเยื้อ จนเราผ่อนรถหมด รถเราจะโดนยึดมั๊ยคะ


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าทุกคนค่ะ

เราเริ่มคิดปัญหาออกแล้วค่ะ อยากรู้ว่า

ถ้าเราคิดจะ hair cut แต่เนื่องด้วยเราติดปัญหาหนี้กับทางบริษัทที่จะหมดสิ้นปีนี้, หนี้นอกระบบที่ลากยาวไปถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า รวมไปถึงเรายังมีบัญชีเงินเดือนที่เป็นธนาคารเดียวกับบัตร คือกสิกร (k-express) หากเราจ่ายหยอดหมุนไปเรื่อยๆจะเเค่เฉพาะบัตรกสิกรนี้หรือทุกบัตร มันจะดีมั๊ยคะ...เพราะพอสิ้นปีเราได้โบนัส งวดคงค้างของเราจะไม่มีสักบัตร(รวมถึงรถและค่าห้องที่ค้างไว้ด้วย) เริ่มต้นเดือนมกราใหม่ พอคำนวนเเล้วเนี่ย สามารถเก็บได้มากสุดเดือนละ 3000 บาท แต่เรายังคงต้องเก็บกสิกร โดยจ่ายให้ตรงเวลาอยู่ได้รึเปล่าคะ

หรือเราจะหยุดทั้งหมดซะตั้งเเต่ตอนนี้...เเต่ก็ยังไม่มีเงินเก็บอยู่ดี เพราะต้องรอโบนัสถึงจะมีเงินจริงจัง(ได้มากสุด 3 เดือน) แถมเรายังมีบัญชีเงินเดือนที่เป็นธนาคารเดียวกับบัตรดังที่กล่าวไว้อีก เราควรเลือกวิธีไหน ถึงจะเซฟตัวเองที่สุดดีคะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

วันนี้ First choice โทรมาค่ะ บอกว่าถ้าวันนี้คือวันที่ 10 ซึ่งเป็นวันสรุปยอดเรายังไม่จ่าย
จะกลายเป็นค้าง 3 งวด เเละอาจจะถูกยกเลิกบัตร เราเลยคิดว่าถ้าจะถูกยกเลิก เราก็จะไม่จ่าย
หยุดไปเลย ทีนี้ เราคิดว่า หากเราจะหยุดจ่ายบางบัตร เพราะเราคงไม่มีเงินเก็บมากพอที่จะโปะได้ทั้งหมด
บัตรที่เราจะหยุดคือ tesco, U-me และ first choice ส่วน KTC ทั้งสองบัตร กับ กสิกรซึ่งยังไงบัตรของกสิกรเราจะไม่มีวันหยุด เพราะมันพ่วงกับเงินเดือน

หากเราทำแบบนี้จะมีปัญหาภายหลังมั๊ยคะ เพราะ KTC ทั้งสองบัตร กับ กสิกร มันยังหมุนจ่ายได้อยู่
หรือไม่ เพราะ KTC มันฟ้องไว เราเลยอยากยื้อเวลาอยู่ด้วยเป็นสำคัญ

ช่วยเเนะนำเราทีเถอะนะคะ ไปอ่านของคนอื่นเเล้วมันก็ยังไม่ช่วยในการตัดสินใจซักที


อีกอย่างนึง รถที่เราผ่อนกับกรุงศรีออโต้จะโดนยึดมั๊ยคะ เพราะยังเหลืออีก 2 ปี
เเถมยังเครือเดียวกับ First choice ด้วย
หรือเราสามารถโอนเป็นชื่อเเม่โดยที่เรายังผ่อนไม่หมดได้มั๊ยคะ

อีกคำถาม ถ้าเรารับโทรศัพท์ของเจ้าหนี้ทุกสาย เค้าจะโทรมาระรานเราถึงที่ทำงานอยู่มั๊ยคะ เพราะเค้าเคยบอกว่าถ้าเบอร์นี้โทรไม่ติด ก็จะโทรไปเบอร์อื่นที่ให้ เเละถ้าหากเคา้ยังโทรมาทั้งๆที่เรารับตลอด เราสามารถพูดขู่เค้าได้มั๊ยว่าที่เค้าทำมันเข้าข่ายหมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง เพราะเรายังคงรับสายเค้าอยู่ไม่ได้หนีไปไหน อะไรทำนองนี้ได้มั๊ยค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

เงินเดือนถ้ารับเปนเงินสดได้ ก้อปลอดภัยหยุดไปได้หมด ไม่งั้นต้องอ่าน
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&id=6970&Itemid=64&view=topic#6970

คือถ้าเราจะขอถามว่า ตอนนี้บริษัทที่เราทำเค้าเป็นธุรกิจครอบครัว เราเห็นคนในออฟฟิต
บางคนที่เค้าติดแบล๊กสิสต์(จากอะไรเราไม่รู้) เค้ารับเงินสดเเละไม่เอาประกันสังคม
คือเหมือนไม่ใช่พนักงานของเค้าน่ะค่ะ ถ้าเราทำแบบนั้นบ้าง เรายังจะโดนอายัดเงินเดือนอยู่มั๊ยคะ

เทคนิคการทวงก้อปล่อยเขาพูดไปอยากพูดอะไรก้อปล่อยไป ส่วนเราไม่มีก้อไม่มี อ่ะนะ ไม่ต้องไป ปะนอมหนี้ จ่ายก่อนสัก 5 บาทก้อไม้่ต้อง เกบเงินเคลียนอกระบบให้เร็ว
เงินเดือนน้อยต้องหยุดให้หมด ฟ้องก้อฟ้อง เอ 16000 อายัดเงินเดือนได้ทีละเจ้า 30% =4800 ระหว่างนั้นก้อเกบตังไปลดหนี้ได้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

สู้ๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณคุณ uncle john ตอนนี้ต่อให้หยุดหมดก็ไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ
แต่เราสามารถหมุนได้ 2 บัตร เพื่อยื้อเวลาในการฟ้องได้ค่ะ
เเถมสถานะการเงินเราไม่มีเงินเก็บที่แบงค์ซักบาท ถามถึงโบนัสปายปีนี้ ก็คงเอามาใช้รวบรวมใช้หนี้ไม่ได้
เพราะต้องหักหนี้บริษัทที่เหลือ, หนี้ของคนที่ยืมมาทั้งหมด(แบบไร้ดอก) ก็แทบไม่เหลือเเล้วค่ะ
อย่างที่เเจ้งไว้คือเราจะพร้อมก็เริ่มปีหน้าจริงๆ ก็อาจจะเก็บได้ซัก 3000 บาทต่อเดือน(น้อยมากๆ)

ปกติเราได้เงินเดือนไม่เต็มอยู่เเล้ว เพราะต้องหักค่าประกันสังคม จาก 16,000 เป็น 15250
บริษัทหักเงินที่กู้ยืมมาอีกเดือนละ 2000 (ไปจนถึงสิ้นปีถึงจะหักรวมส่วนที่เหลือจากโบนัสอีกที)
เหลือ 13250 สิ้นกันยายนนี้ เราต้องจ่ายค่าเช่าห้อง 2 เดือน ค้างไม่ได้อีกเเล้ว 6500
ค่ารถก็ค้างไม่ได้อีกเเล้ว ต้องจ่ายสถานเดียวอีก 3000
หนี้นอกระบบที่ยื้อมา ก็ต้องจ่ายควบ 2 เดือน 3200(ปกติจ่ายเดือนละ 1600 ไปจนถึงพ.ค.ปีหน้า)

เมื่อคิดคำนวณเเล้วสิ้นเดือนนี้เราเหลือเงินเเค่ 500บาทเท่านั้น
บัตรที่เราตั้งใจหยุดเเน่ๆคือ First choice, Tesco และยูเมะพลัส

ตอนนี้เเนวความคิดเราคือ หยุดบัตรทั้ง3 ดังกล่าว เเล้วผ่อนอีก 3 บัตร ของ 2 สถานบันที่เหลือต่อ
เพื่อยื้อเวลาฟ้อง เรายินดียื้อเอง เพราะ KTC เราขาดส่งตัวบัตรกดเงินสดมาจะ 4 เดือนเเล้วค่ะ
เเล้วได้ข่าวว่าฟ้องเร็ว ถ้าฟ้องตอนนี้เค้าต้องรวบสินเชื่อกับเครดิตเป็น 60,000กว่า เราแย่เเน่ๆ
เก็บเงินไม่ทันเเม้กระทั่งจะ H/C เเน่ๆ

เพราะเท่าที่เราอ่านของท่านอื่นๆที่เป็นหนี้เยอะๆ หลาย 10 บัตร บางท่านมีเงินเก็บสำรองบ้างล่ะ
ยืมญาติได้บ้างล่ะ(เราไม่มีญาติที่ไหนที่จะสนิทพอหยิบยืมได้เลยค่ะ) มีคนช่วยหา หรือเงินเดือนเยอะๆ
แบบเก็บได้ทีละเป็นหมื่น เราเเย่ตรงนี้แหล่ะค่ะที่เราโดดเดี่ยว
คนเราบทจะเเย่ก็เเย่ทั้งหมด รายได้เเม่ก็น้อยลง เฮ้อออ ท้อเหมือนกันนะคะ

ยังไงเดี๋ยวสิ้นเดือนรู้กัน.....เรามักจะตัดสินใจช่วงเสี้ยววินาที คิดมา 18ตลบ สุดท้ายก็ทำอีกแบบ
ขอขอบคุณคุณ uncle john อีกครั้งนะคะ ดีใจที่มีคนมาตอบกระทู้ให้คำแนะนำซักที

===========================================

วันนี้ First choice โทรมาอีกเเล้ว พูดไม่รู้เรื่อง น่ารำคาญมากอ่ะ
โทรมาเช้าตรู่ 8.30 บ้าบอมากๆ เรามีประชุมบรีฟงานทุกเช้า เราก็บอกประชุม
ที่นี้เมื่อซักครู่ 10.00 นางก็โทรเข้าออฟฟิตเลยจ้าาาาา บ้าป่าววะ
เราก็บอกทำไมไม่โทรเข้ามือถือ นางก็บอกว่า โทรตามระบบ แต่เมื่อ 8.30 ลงบันทึกว่าติดประชุม
ทางเราไม่ทราบว่าประชุมเสร็จหรือยัง เลยโทรมา>>>บ้ามากๆ
เราก็เลยบอกว่า งั้นคุณก็ต้องรู้สิว่าเราทำงานอยู่ เเล้วทำไมไม่โทรเข้ามือถือ
นางก็เถียงว่าทำตามระบบๆๆๆๆๆๆ สุดท้ายนางเลยตัดบทบอกว่างั้นตอนนี้ไม่สะดวกใช่มั๊ยคะ
เราบอกว่า..ใช่ค่ะ ให้โทรมาอีกทีตอนเที่ยง
เเล้วนางก็วางสายไป

เมื่อวานก็ยังงี้ เราโทรไปเองด้วยนะ แต่เค้าเเจ้งว่าคนดูเเลบัญชีติดสาย
เราเลยบอกว่าโทรมาอีกทีตอนเที่ยงเลยนะ
สุดท้ายก็ไม่โทรมา...

เรากะว่าถ้าเที่ยงนี้โทรมาเราจะตำหนิด้วย เมื่อวานเราติดต่อไปเองเเท้ๆ ลงบันทึกไว้ ทำไมไม่โทร
เเล้วปกติ ถ้าโทรมือถือติดเเล้วเราเเจ้งว่าติดธุระ ครั้งที่ 2หรือ 3 ก็จะโทรเข้ามือถือ
ไม่เคยโทรเข้าโต๊ะซักครั้ง นี้เหมือนเริ่มงี่เง่า พูดไม่รู้เรื่องเเระ

อยากรู้จริงๆว่าถ้าเราบอกให้ยกเลิกเบอร์ที่ทำงานไปเลย
เเล้วเอามือถืออีกเครื่องไปแทนนี่ พวกนางจะซื่อสัตย์ยอมลบเบอร์ออฟฟิตมั๊ย
เราว่ามันหยามหน้ากันมากเลยนะ เรารับตลอด ไม่น่าทำกันยังงี้ เอะอะอ้างระบบตลอด
ระบบตั้งโทรไว้จริงๆเหรอคะ เราอยากรู้มากๆเลย มีใครทราบตรงนี้มั๊ยคะ
เราอยากด่าเรื่องนี้มากๆ Tesco ก็เหมือนกัน ทั้งๆที่เราเลยวันจ่ายเเค่วันเดียว
แล้วดันโทรมาตอนเช้าตรู่เหมือนกัน เราประชุม พอสายๆ นางโทรเข้าเบอร์โต๊ะเลยจ้าาา
เราก็ตำหนิ นางก็อ้างมา...ตามระบบค่ะ
เกลียดมาอ่ะคำนี้ มีวิธีตอกกลับมั๊ยคะ

เราว่าเราพยายามรับสายมือถือ เเละนัดเวลาที่เราสะดวกทุกครั้งนะ คืออยากคุยให้เค้ารู้ว่าเราไม่หนี
เเต่เหมือนพวกนี้มันฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือยังไงโทรมาในเวลางานตลอด
แล้วเเม่งก็เเถ....ตามระบบ เเล้วเมื่อกี้ตูจะนัดทำไมวะ

แบบนี้มีโอกาสที่ต่อให้เรารับสาย มันก็ยังหน้ามึนส่งคนมาระรานที่บ้านหรือที่ทำงานได้อยู่ดีใช่มั๊ยคะ

ขอสรุปหนี้ใหม่
เรามีบัตรทั้งหมด 6 บัตร แต่ที่ตัดสินใจหยุดเเน่ๆๆ
1. First Choice - 37,000 >>ค้างจ่าย 3 งวดสิ้นเดือนนี้ค่ะ
2. Tesco Premire - 30,000 จ่ายเดือนละประมาณ 2200 >> สิ้นเดือนนี้ก็จะเป็น 2 เช่นเดียวกัน
ุ3. U-me - 38,000 จ่ายเดือนละ 1400 >> ไม่จ่าย 1 งวดเเล้วค่ะ สิ้นเดือนนี้ก็จะเป็น 2


ส่วนที่ยังลังเล คิดไม่ตก เพราะมีเงื่อนไขโง่ๆ(บ้าบอ -*-) ไม่มีความกล้าที่จะหยุด
1. K-express - 20,000 จ่ายเดือนละประมาณ 1300 >> ไม่จ่ายมา 1 งวด สิ้นเดือนนี้ก็เป็น 2 งวดพอดี กะว่าจะจ่ายงวดชนงวด พอโบนัสเราก็จะเคลียร์ให้กลับสู่ภาวะปกติ แล้วมันก็กดใช้ไม่ได้เราเลยจะเอาการกดไม่ได้มาช่วยในการเคลียร์หนี้ ไม่กดจนกว่าจะปิดหมด (เราเลยไม่อยากหยุด เพราะสามารถปิดบัตรได้ยอดน้อยด้วย)

2. KTC Pround(กดเงินสด) - 30,000 จ่ายเดือนละประมาณ 1000 >> ไม่จ่ายมา 3 งวดเเล้วค่ะ เมื่อถึงสิ้นเดือนนี้จะเป็น 4 งวด อันนี้คุยกับทาง KTC เค้าบอกว่า ถ้าสิ้นเดือนนี้เราจ่ายเค้า 3 งวด ก็จะไม่มีปัญหาอะไร เเละเราก็กะจะงวดชนงวดจนถึงปลายปีโบนัสออก ซึ่งบัตรนี้ก็เหมือนกสิกร คือ มันกดใช้ไม่ได้เราเลยจะเอาการกดไม่ได้มาช่วยในการเคลียร์หนี้ ไม่กดจนกว่าจะปิดหมดเหมือนกัน ก็จะเคลียร์ให้กลับมาเหมือนเดิม


3. KTC Credit - 30,000 จ่ายเดือนละประมาณ 3600 >> สถานะปกติค่ะ ไม่ติดค้างค่างวดอะไร ยังผ่อนได้ไม่เคยขาด เพราะเรากดออกมาหมุนตลอด แต่ตอนนี้มันโดนระงับชัวคราว ถ้าเราจ่ายของสินเชื่อ 3 งวด ก็จะเปิดบัตรนี้ได้ แล้วก็สามารถเอามาหมุนต่อ ซึ่งผิดหลักการเวบนี้มากๆ แต่พออ่านเวบนี้เราคิดว่าในอนาคตมันซื้อเวลาของเราในการยื้อเวลาการฟ้องเร็วของ KTC ได้ และอาจไม่ต้องฟ้องเลยก็ได้

แต่ถ้าเราหยุดบางบัตรแบบนี้ จะมีผลอะไรในการ H/C บัตรที่เราหยุดมั๊ยคะ
แบบบัตรที่เราหยุดเค้าจะรู้ม๊ยคะว่าเราไม่ได้หยุดหมด

คือ ณ ตอนนี้ทั้งๆที่เราอ่านกระทู้ปักหมุด, กระทู้ของท่านอื่นๆ แต่เราเหมือนคนโลเล คิดไม่ตก สับสน เรื่องมาก เพราะ ณ ตอนนี้เราไม่มีเงินเก็บด้วย กว่าจะได้เก็บจริงๆก็นู่นนน ปีใหม่ มันเลยทำให้เราตัดสินใจได้ไม่เด็ดขาด

แต่บางอารมณ์ก็มีลูกฮึดนะคะ แบบหยุดไปเถอะ เพราะใจเราอยากหยุดหมดมากๆ ปีใหม่ค่อยเก็บก็ได้ ไม่ต้องไปกลัวอะไรทั้งนั้น แต่คิดไปได้ไม่นานความกลัว KTC ก็เข้ามา โอ๊ยยย พอมาคิดถึง KTC เราก็หงอยอีก เพราะยอดรวมเยอะกว่าเพื่อน

แต่ไม่แน่ค่ะ สิ้นเดือนนี้เราอาจจะยังหมุนแบบโง่ๆอยู่เพื่อขอเวลาเตรียมตัว เเล้วพอสิ้นเดือนตุลาเราอาจหยุดหมดเลยก็ได้ เพราะคำนวณเเล้ว มันก็อาจจะเก็บได้ซัก 3000

เขาไม่ได้มารู้หรอกครับว่าเราติดหนี้ใครเท่าไหร่ ยังงัย การที่ให้หยุดทั้งหมด ก็เพื่อที่เราจะได้เก็บเงินได้เยอะขึ้น

ในแต่ละงวดซึ่งก็จะทำให้เราเป็น ไท เร็วขึ้น แต่ถ้าเงินเดือนสูงมี่พอเก็บในระยะสั้นได้ ถ้าจะหยุดบางบัตร

ก็ไม่เป็นไร แต่ควรพิจารณาว่าที่เหลือนั้น จ่ายดอกต่ำสุดแล้ว ไม่เหนื่อยมากในการแบกภาระที่นั้น

มันก็เป็นการดีอีกอย่าง ถ้าหยุดหมดพร้อมกัน พอมันลดให้พร้อมกันด้วย ..... เลยหน้ามืด

เพราะ หาเงินสดมาปิดบัญชีลงไม่ได้..... ดังที่ผมเจออยู่ มาทีเดียว 5 บัตรเลย จ่ายได้เพียงแค่สามก็จอด

เสียดายส่วนลดที่เขาให้แต่ไม่มีประโยชน์

ในเครือกรุงศรี ทวงถามได้น่ารังเกลียดมากนะ ณ ปัจจุบันจ่ายตามระบบไม่เคยล่าช้า
ในบิลกำหนดจ่ายทุกวันที่ 15 ของเดือน บิลมาไม่เกินวันที่ 5 แต่มันโทรมาถามตั้งแต่
วันที่ 7 ว่าให้จ่ายทุกวันที่15เพื่อไม่ให้เลยกำหนด ขอบอกว่าเราปี๊ดแตกสวนกลับมันทันที
นี่เธอ! วันที่เท่าไหร่หรอทำไมต้องถามตั้งแต่เรียกเก็บบิลมาเคยล่าช้าสักรอบไหม มันเงียบ
เลยบอกมันว่าถ้าเลยกำหนดค่อยโทรมาถาม แล้วมันก็เงียบไปจนทุกวันนี้คะ

คุณยังโชคดีที่มีโบนัสมาปลดภาระลงบางส่วนบ้างเมื่อก่อนเราไม่มีเลย ต้องสู้อย่างเดียว
พวกนี้มันไม่รู้จักเวลาหรอกคะมันโทรมาทวงจนหัวหน้าบอกนี่บริษัทออฟฟิคไม่ใช่ที่ทวงหนี้
คุณอยากทวงให้โทรมือถือด่าสวนมันไป(หัวหน้าดีที่เข้าใจ)

ขอบคุณคุณ Eagle KY CNX เเละ suttida_pl ที่เข้ามาเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
สิ่งที่เรากลัวก็คือการที่เรายังเก็บเงินไม่ได้ เเล้วไม่มีจ่ายเวลา H/C นี่แหล่ะค่ะ ทำให้เรายังลังเล
แล้วจะพาลยืดเยื้อ ดอกเบี้ยบานเบอะ ก็นะ....อนาคตเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
เรื่องราวอาจจะไม่เเย่อย่างที่คิดก็ได้ แล้วคุณ suttida_pl โชคดีเหมือนกันนะคะที่หัวหน้าเข้าใจ
เเถมช่วยด่าอีกต่างหาก ของเราต้องบอกโอเปอร์เรเตอร์เเระว่าถ้ามีโทรศัพท์จากธนาคารมาให้บอกไปเลยว่าเราไม่อยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้บอกเลย.........แหะๆๆ
มาสู้ๆๆๆๆๆไปด้วยกันนะคะ

=========================================

เเละเเล้วเมื่อเช้า Frst choice ก็โทรมา
นางก็โทรทวงปกตินี่แหล่ะ เเต่พอคุยเรื่องหนี้จบ เราก็คุยเรื่องที่นางโทรมาที่ออฟฟิตว่า

เมื่อวานบอกให้โทรมาตอนเที่ยงทำไมไม่โทร เมื่อวันพฤหัสก็เหมือนกันเรา นัดให้โทรมา ก็ไม่โทร
แต่คุณกลับโทรเข้าออฟฟิต ทำเหมือนเราหนีหาย ติดต่อไม่ได้ ทั้งๆที่เราก็รับสายด้วยมือถือตลอด
คุณทำแบบนี้มันหยามหน้ากันมากๆ ไม่ดีเลยค่ะ
วันพฤหัสเราแสดงความจริงใจเป็นฝ่ายติดต่อก่อน นัดกันเเล้วคุณก็ไม่โทรมา
เมื่อวานตอนเช้าโทรมา เราเเจ้งว่าติดประชุม ครั้งที่ 2 คุณก็โทรเข้าออฟฟิตเลย
แบบนี้หมายความว่ายังไงคะ......เเล้วนางก็พูดอะไรไม่รู้เราไม่ได้ยิน

สุดท้ายเราเลยบอกว่า....เเค่นี้แหล่ะค่ะที่อยากจะบอก
เเล้วนางก็วางสายไปเลย...จบ

น่าโมโหจริงๆ.....เรากะว่าถ้าหนักกว่านี้นะ เราจัดเต็มกว่านี้อีก
เพราะเมื่อวานเตรียมบทพูดไว้หลายระดับมาก นี่เเค่ตักเตือน
ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่อง เราก็จะเอาให้หนักกว่านี้ เพราะเราถือว่าเราก็ยอมรับผิดในส่วนที่เป็นหนี้เเล้วไม่จ่าย
เราเลยพยายามเเสดงความจริงใจให้เค้ารู้ รับสายทุกครั้ง เเต่กลับทำแบบนี้...เราก้ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน

เราอยากถามในแง่กฎหมายค่ะว่า ถ้าลูกหนี้ไม่ยินยอมให้เข้าพบ แบบไม่ให้มา ก็ยังจะมา
โทรมาวุ่นวายที่ออฟฟิต วุ่นวายกับคนรอบข้าง ทั้งๆที่เราก็รับสายมือถือตลอด
เราสามารถเเจ้งหรือพูดถึงข้อหาบุกรุก หรือขมขู่ คุกคาม ทำให้เกิดความอับอาย
เสียชื่อต่อธารกำนัลได้มั๊ยคะ หน้าที่การงานเสีย อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ
เพราะการที่เค้ามาระรานถึงที่มันเหมือนหนี้นอกระบบมากๆเลย
ในเมื่อเค้าอ้างว่าเค้าเป็นหนี้ในระบบ ก็ควรอยู่เเต่ในระบบป่ะคะ เเต่ถ้าคุณยืนยันจะมาแนวนี้
เราก็ไปคุยกันที่ศาลเถอะ จะได้อยู่ในระบบ เเละให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
และถ้าเค้ายังไม่หยุดการกระทำดังกล่าว เราจะยื่นข้อกล่าวหานี้ในชั้นศาล แบบนี้ได้มั๊ยคะ

เรื่องโทรจิกนี่ปัญหากวนใจมากแรกๆกลัวร้องไห้ไม่มีจ่ายไม่มีทางออกไม่อยากทำงาน
โทรเข้าออฟฟิคเกรงใจคนอื่นด้วยนะคะแต่ก่อนมันทวงละลานไปหมดจิ้มต่อเปอร์ภายใน
มั่วด้วยนะเมื่อ4ปีก่อนแล้วก็ทำเป็นถามว่า เราอยู่ไหม ทำงานกี่โมงไรงี้มีทวงแบบ....อืม
พี่หัวหน้าบอกถ้ามันมั่วโทรไปเบอร์เจ้านายเรื่องใหญ่แน่นอน ถ้ามันทวงมาเราต้องรับคะ

ตอนนี้ ณ ปัจจุบันผ่านมา4ปีหนี้กดเงินสดอีออนเงียบไปตั้งแต่มีปากเสียงกันแล้ววางสาย
น่าจะหมดอายุความแล้วมั้ง หนี้10,000 โทรมาอยู่ได้พอบอกไม่มีให้ทำตามขั้นตอนมีมาว่า
เราเสียๆหายๆเราสวนกลับไปบอกจะตามไปถึงบริษัททวงหนี้มันปากดีนักต้ังแต่นั้นมาคือหายไป

ซิตตี้แบงค์จ่ายมาเรื่อยหยอด500อยู่2ปีแล้วก็1000จนเสนอส่วนลดให้แต่ได้ไม่เยอะ 20-30%
เพิ่งจะจบไปเมื่อปลายปี56

Frst choice ก็มีนีหยอดไปจนได้ส่วนลดพอๆกับซิตี้แบงค์ จบกันไปปลายปี 56 เช่นกัน

ยอมรับคะว่าการมีหนี้หมุนเงินไม่ทันรู้สึกเหนื่อย สู้สู้นะคะ

เป็นลูกหนี้ชั้นดีของ FC เหมือนกันค่ะ วงเงิน 36,000 ขยับรวมดอก เป็น 42000 ใช้บัตรมา 8 ปี ตอนนี้กำลังจะปิดที่ 21,000 3 งวดๆละ 7000 หลังจากหยุดจ่ายมา 6 เดือน ตั้งแต่ตัดสินใจหยุดจ่าย FC นี่แหละที่ไม่น่ากลัวเท่าบัตรอื่น ถึงแม้จะทวงกวนโมโหและน่ารำคาญสุดๆๆ เพราะเขาจะตื้อให้ชำระขั้นต่ำทุกเดือน ขู่ฟ้องนั่นฟ้องนี่ คัดคำฟ้องมั้ง อะไรมั้ง สุดท้ายก็ตื้อให้จ่ายอยู่ดี หรือเพราะยอดไม่มากก็ไม่รู้
ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ บอกจากประสบการณ์ tukky_jang นัดชำระขั้นนต่ำทุกเดือนจั้งแต่ที่เขาตื้อ แต่ไม่เคยไปชำระ เขาก็ยังไม่เห็นฟ้อง ยื้อจนรอส่วนลดโทรมาก็รับมั้งไม่รับมั้ง บอกว่าเดี๋ยวจ่าย แต่เอาเข้าจริงไม่จ่าย ติดนู้นติดนี่ 555+ ก็ยังรอดมาจน 6 เดือนนะคะ
สู้ๆๆ tukky_jang หนี้เยอะกว่าคุณเท่าตัวเลยค่ะ ทั้งในและนอกระบบ แถมเลี้ยงลูกคนเดียวด้วย เป็นกำลังใจนะค่ะ

ขอสอบถามผู้รู้หน่อยค่ะว่าคิดคำนวนดอกเบี้ย 13%, 15% ต่อปีอย่างไรคะ กดเครื่องคิดเลขไม่ถูกเลย
ตอนนี้ก็เริ่มมีมาขอปรับโครงสร้างหนี้เเล้ว แต่ก็ปฏิเสธตามสูตร เเต่เรางงเวลาที่เค้าคิดทำไมมันยัง
ดูเยอะจัง เราเลยอยากรู้ว่าคิดจากอะไร อย่าง FC เค้าบอกให้เราจ่าย 1057 บาทต่อเดือนจำนวน 48 เดือน แต่คิดจากยอดเท่าไหร่เราไม่รู้ พอดีเราไม่ได้ฟัง เพราะกะไม่เอา เเต่พอมากดเครื่องเเล้ว 1057x48 = 50,736 บาท มันช่างเยอะจากเงินต้นจนเราเหวอเลย เราเลยอยากรู้วิธีคิดค่ะ ไปหาตาม google เราก็กดไม่ได้ซักที เราเลยมาขอให้ทุกคนที่รู้ช่วยค่ะ

สมมติยอดหนี้ 40,000 บาท ผ่อนชำระ 48 เดือน ดอกเบี้ย 15% ต่อปี จะจ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ รบกวนขอวิธีคิดทีค่ะ เวลาคุยจะได้กดเครื่องคิดเลขไฟว์กะพวกเจ้าหนี้ได้ จะได้เถียงถูก

รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

เงินเดือนเราเท่าๆกันเลยค่ะ แต่เราเป็นหนี้เยอะกว่าคุน ตอนนี้เครียดกะktc มากยอดรวมสองบัตรเกือบ8000 ล่าสุดมีพนง.โทรมาถามว่าจ่ายให้ซักงวดได้มั๊ย เราบอกไม่มี นางถามจ่ายวันไหน นัดมา เราบอกยังไม่พร้อมจริงๆค่ะ นางเลยบอกจะส่งเรื่องให้ข้างนอกไม่ดึงให้แล้วนะ เลยบอกค่ะ วันนี้เครียดทั้งวันค่ะ ไม่รู้จะยังไง อ่านมาเยอะแต่ก็เครียดมาก ไม่รู้จะเจอวิธีการทวงแบบไหน หยุดจ่ายมาสองรอบบิลแล้วค่ะ. ขอแก้ไขนะคะยอดรวมสองบัตร=80000

เราจะมาอัพเดต หลังจากที่เราปรึกษากับเเม่เเล้ว ว่าจะทำยังไงกับปัญหาหนี้ตรงนี้
ซึ่งเราต้องขอโทษทุกคนในชมรมจริงๆค่ะที่เราไม่สามารถทำตามนโยบายของที่นี่ได้
เนื่องด้วยเราไม่มีเงินเก็บสำรองใน Bank, เราไม่มีญาติที่ไหนพอจะช่วยเหลือได้(ปู่ย่าตายาย หลักๆท่านเสียไปแล้วค่ะ ที่เหลือก็เลยห่างกัน ไม่ติดต่อกันอีกเลย) อยู่กันเเค่ 3 คนแม่ลูก
พร้อมทั้งเงินเดือนเราก็มีเเค่นี้ เเละเราก็ไม่ได้มีแค่หนี้บัตรเครดิต เรายังคงมีหนี้รถ ค่าเช่าห้องทุกเดือน หนี้นอกระบบ รวมไปถึงรายได้ของเเม่ที่เคยเเจ้งไว้ข้างต้น ตอนนี้ลดลงกว่าเดิมอีก
ทำให้มานั่งคำนวณอย่างถี่ถ้วนเเล้ว ต้องขอใช้วิธีปรับโครงสร้างหนี้จริงๆค่ะ เพราะไม่มีปัญญาเก็บเงินแฮร์คัท

แต่เราปรับโครงสร้างหนี้เเค่ 3 รายการนะคะ อีกที่เหลือคือ KTC 2 บัตร และกสิกร เราจะจ่ายไปเรื่อยๆ แบบไม่ขั้นต่ำ ไม่เกินปีหมดค่ะ เราไหว เพราะ 2 ชนิดนี้เราเพิ่งทำได้ไม่ถึงปีค่ะ สู้ๆๆๆๆๆๆ แต่จะเริ่มปีหน้านะคะ
ตอนนี้สถานการณ์เงินเดือนยังเเย่อยู่ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

คราวนี้เรามาคุยถึง 3 บัตรที่เหลือที่เราจะปรับโครงสร้างหนี้...
1.ยูเมะ จบเเล้วค่ะ จ่ายเดือนละ 1000 แบบลดต้นลดดอก จากยอด 37,xxx(เค้าลดดอกเบี้ยให้ค่ะ) ประมาณ 48 เดือนเเต่เราไม่ให้ถึง 48 เดือนหรอกค่ะ กะจะให้หดมภายใน 3 ปี เพราะกะว่าถ้าจ่าย ktc และกสิกรหมดในปีหน้า เราจะเอามาโปะเพิ่ม รวมไปถึงในปี 2559 รถเราก็จะผ่อนหมด น่าจะมีเงินเก็บอีก แต่ถ้ามันเกิดเหตุไม่คาดฝันจะต้องถึง 48งวด ก็ไม่เป็นไร.....ยอมรับสภาพค่ะ

2.Tesco อันนี้เค้าให้ 1000 บาท 36 งวด เราโอเคไปเเล้ว....เเต่มันดันมีประเด็นคือเค้าให้ส่งเอกสารพวกบัตรประชาชน, สลิป, เอกสารภาระหนี้ คือจากที่เราอ่านคือทางเค้ามีอยู่เเล้วนี่คะ? พอเราถามเค้าบอกว่า
เรายังไม่ได้รับการอนุมัติ ที่เสนอปรับมาเป็นเพียงเเค่การเสนอ ต้องรออนุมัติ คือ...มันจริง...เหรอคะ
ไม่ใช่ว่าเสนอมาพร้อมรอเราเซ็นเหรอคะ...(คือยูเมะไม่เห็นต้องรอหรือส่งอะไรกลับไปเเบบนี้เลยอ่ะค่ะมีเเค่สำเนาบัตรเอง) แถมตอนคุยกับจนท.เทสโก้ตอนเเรกๆที่นางเสนอ นางบอกว่าถ้าเราโอเค นางจะเอาเอกสารมาให้เซ็น เเล้วสิ้นเดือนจ่ายได้เลย นัดวัน เวลาเรียบร้อย เเละตอนนั้นเราบอกว่าขอตัดสินใจ นางเลยบอกจะโทรมาอีกครั้ง....พอวันนี้นางโทรมากลับบอกว่าต้องส่งเอกสาร เพื่อรออนุมัติ...อ้าว...ไหนบอกว่าสิ้นเดือนจ่ายได้เลยคือยังไงอ่ะคะ เรางง....สรุปเราต้องส่งจริงๆเหรอคะ แล้วถ้าไม่ส่งจะไม่ได้รับอนุมัติจริงๆเหรอ นี่สรุปเค้าอยากได้เงินอยู่รึเปล่า? เราต้องทำยังไงคะ หรือต้องยอมๆส่งไป เรากลัวว่าส่งไปเเล้วเค้าจะเห็นว่าเงินเดือนเราขึ้นเเล้วจะตุกติก ไม่ยอมปรับโครงสร้างหนี้กับเราที่ยอดนี้อ่ะค่ะ ยังไงช่วยตบทีนะคะว่าเราควรทำยังไง เพราะวันพุธเค้าจะส่งคนมาเอาเอกสารเเล้วอ่ะค่ะ

3.First Choice อันนี้ต้องว่ากันยาวค่ะ เพราะตอนเเรกเราจะปรับค่ะ เเต่เค้าเร่งรัดเราเกินไปบอกให้เราจ่ายวันที่ 10/10 จะบร้าเหรอคะ เราจะเอาที่ไหนไจ่าย เงินเดือนก็ใช้หมดเเล้วเถอะ พอเราบอกว่าสิ้นเดือน นางก็บอกไม่ได้ ถ้าไม่จ่ายจะส่งเรื่องไปสำนักงานภายนอก.....คิดว่ากลัว?....คิดว่าน่าจะส่งเเล้วค่ะ เเต่ยังไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เราอยากรู้ว่าถ้าออกไปสนง.ภายนอกเเล้ว จะสามารถปรับโครงสร้างหี้ได้รึเปล่าคะ
เเล้วเรามีเสียงในการต่อรองปรับโครงสร้างหนี้ให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้มากน้อยเเค่ไหนเหรอคะ ถ้าทำได้จริงๆ...มีวิธีพูดเจ๋งๆที่จะได้ดังใจบ้างคะ (ยอดหนี้เราประมาณ 4x,xxx นิดๆ...มั้ง เราอยากได้ประมาณ 1000 บาท 48 เดือน เรามองว่ามันได้เยอะกว่า H/C เค้าน่าจะยอม เเต่ไม่รู้ว่าเค้าจะคิดเหมือนเรามั๊ยเนี่ยสิ เรากะจะบอกว่าคุณจะเอาเต็มๆมีดอกเบี้ยนิดๆ หรือจะลดหนี้ ซึ่งเป็นใครก็อยากได้ยอดเต็มๆป่ะคะ)

ต้องขอโทษจริงๆค่ะ เรารู้ว่าคนในนี้อาจไม่ถนัดและไม่ชอบการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ถ้าพอมีวิธี หรือเเนะนำได้ ก็รบกวนด้วยนะคะ เราขอโทษจริงๆค่ะ

คุณZerogirl ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็อย่าปรับโครงสร้างหนี้เเบบเราเลยนะคะ เเต่เรามันพวกหัวเดียวกระเทียมลีบ รายได้ทางเดียว แถมยังน้อยอีก เงินเก็บไม่มี เลยต้องยอมเเบบนี้เอา ยังไงก็สู้ๆนะคะ ตอนจบของพวกเราคือเราต้องหมดหนี้ค่ะ สู้ๆ

ขอถามอีกข้อ ถ้าเราไม่ยอมส่งเอกสารดังกล่าว คือเราจะส่งเเค่สำเนาบัตรกับสลิปก็พอจะดีมั๊ยคะ แต่ถ้าเค้าเกิดเรื่องมากไม่ยอม จนต้องออกไปสนง.ภายนอก ไม่ทราบว่าสำนักงานภายนอกเค้ายังมีการปรับโครงสร้างหนี้อยู่มั๊ยคะหรือต้อง H/C อย่างเดียว แล้วถ้าเรารอไปตกลงที่ศาลขอจ่ายเดือนละ 1000 กีดือนก้ว่าไปแบบนี้ยังได้อยู่มั๊ยคะ ศาลจะรับพิจารณามั๊ยคะ เพราะเท่าที่เราอ่านๆมา เหมือนศาลจะหักจากเงินเดือนไปเลย 30% แบบไม่เเคร์สื่อ ยิ่งถ้าเราเอาหนี้สินมาให้ดูเราก็ยิ่งเสียเปรียบไปอีก เหมือนการขึ้นศาลไม่ใช่เรื่องน่ากลัวของเจ้าหนี้อย่างที่คิดหรืออ่านๆมาเลย เหมือนเราก็เสียเปรียบไปเลยอยู่ดี ไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ แบบนั้นเเย่เเน่ๆ เพราะมันฟิกไว้เเล้วว่าจ่ายได้เเค่เจ้าละ 1000 เท่านั้น มากกว่านี้ เราโดนฟ้องบานเเน่ๆ เพราะมันต้องมีผิดนัดเจ้าอื่นเกิดขึ้นชัวร์ ฮือๆๆๆๆๆ กลายเป็นเราซวยยิ่งกว่าเดิมไปเลย

แต่เราไม่อยากส่งใบภาระหนี้จริงๆนะคะ(แม้เเต่สลิปเราก็ไม่อยากให้) คือนอกจากเค้าจะมีอยู่เเล้ว แต่เเค่อยากอัพเดตข้อมูลเราโดยใช้เหตุผล"เพื่อพิจารณา"มาหลอกเราเเล้ว มันยังดูก้าวก่ายยังไงไม่รู้ถ้าต้องมาเเจกแจงหนี้สินให้บุคคลที่ 3 รู้ ถ้าต้องทำอย่างนั้นเราก็อยากทำต่อหน้าศาลนะคะ หรือเราคิดเยอะเองคะ หรือต้องจำยอมส่งๆไปเลยจะได้จบๆ เพราะถ้าไปถึงศาลเราก็ไม่ได้ดังใจอยู่ดี แถมออกไปสำนักงาข้างนอกก็ไม่มีการประนอมหนี้ เราจะได้ตัดสินใจส่งให้เค้าไปเลย

รบกวนผู้รู้ด้วยนะคะ เพราะพรุ่งนี้เค้าจะมาเอาเอกสารเเล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

ปล.ต้องขอโทษที่คอมเม้นท์ที่เเล้วมีคำผิดที่น่าตกใจ เราขอโทษจริงๆค่ะ _ _lll

สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้ง.....วันนี้เราจะมาขอถามคำถามหน่อยค่ะ ครั้นจะตั้งกระทู้ใหม่ก็ผิดกฎ
แต่เราก็ยังอยากให้มีคนมาตอบนะคะ คือตอนนี้เราติดปัญหาอยู่เจ้าเดียวแล้วค่ะคือ First choice
ดังที่เคยเเจ้งไปแล้วนั้นว่าเราจะเริ่มปรับปรุงของที่นี่ตอนสิ้นปี แต่มันมีข้อผิดพลาดค่ะ
ทำให้จนบัดนี้.....เราก็ยังไม่ได้ปรับ ได้แต่ขอเลื่อน จนเมื่อประมาณมกรา
ทางนั้นเเจ้งว่าถ้าพ้นรอบ 10 กุมภา หรือไม่จ่ายเกิน 7 รอบ บัญชีเราจะออกไปอยู่ข้างนอก
และไม่สามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้อีกแล้ว...... เราก็เลยงงค่ะว่าที่ผ่านมามันยังไม่ออกไปอีกเหรอ
เมื่ออาทิตย์ที่เเล้วมีจนท. แจ้งว่าจะ H/C ให้แต่เราไม่มีเงินก้อน หรือเเบ่งจ่ายเยอะขนาดนั้น
เราบอกว่าเราจะปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างเดียว.....
ซึ่งจนท.บอกว่าเค้าไม่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้กะคุณเเล้ว
แต่คุณจะจ่ายเดือนละ 1000 ก็ได้ เราเลยถามว่าเดือนละพันนี่คือยังไง....
เค้าบอกว่าให้จ่ายเพื่อทางเราจะได้รู้ว่าคุณยังมีแก่ใจชำระหนี้...(มาบทนี้เรารู้เลย)
แต่ยังไงคุณก็ต้องจ่ายเป็นก้อนอยู่ดีไม่มีปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เราเลยบอกว่าไม่เอาค่ะ ไม่จ่ายหยอด...
ไม่ H/C ด้วย จะปรับโครงสร้างหนี้ ถ้าทำให้ไม่ได้ก็ไปคุยที่ศาล

รู้มั๊ยคะจนท.คนนั้นมีการบอกด้วยว่าเค้าไม่คุยกะคุณหรอก..เราเลยบอกว่าไม่คุยที่ศาลเเล้วจะไปคุยที่ไหน
งั้นถ้าไม่ปรับ ไม่คุยที่ศาลก็ไม่ต้องจ่ายใช่มั๊ยเงิน.... แล้วก็ตัดสายเราไปเลยค่ะ

คำถามค่ะ...
1. เหมือนเราเคยอ่านผ่านๆ สรุปว่าการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ไม่มีเเล้วอย่างที่เค้าบอกจริงๆใช่มั๊ยคะ
เเต่เหมือนเราเคยอ่านกระทู้ไหนสักแห่งบอกว่ามันมีปรับตลอดจนกว่าจะขึ้นศาล หรือเราจำผิดคะ

2. ถ้าต้องขึ้นศาลจริงๆ ยอดประมาณ 44,xxx บาท ในขั้นตอนต่อรองเจรจาเราสามารถผ่อนจ่ายไม่เกิน 1000 ได้มั๊ยคะ หรือถ้าต้องอายัดเงินเดือน เราสามารถขอต่ำกว่า 15% ได้มั๊ยคะ.... ขอประมาณ 10% โดยบอกว่าเราหาเลี้ยงคนเดียวถึง 3 ชีวิต กับเงินเดือน 16,000..หักประกันสังคมเเล้วเหลือ 15200 ด้วย ....(ตอนนี้ไม่เหมือนก็เหมือนรายได้ของเเม่ไม่มีเเล้วอ่ะค่ะ) สามารถเอามาให้ทางกรมบังคับคดีกับศาลเห็นใจรับพิจารณามั๊ยคะ เรามีเเม่เเละน้องชายในวัยเรียนที่ต้องดูเเล ไหนจะค่าเช่าห้องอีก.....

ในที่นี้เราสามารถอ้างถึงหนี้อื่นๆที่เราซึ่งเราก็รับผิดชอบอยู๋ ประมาณว่าเราก็อยากชำระหนี้ตัวที่ขึ้นศาลไปพร้อมๆกันได้อย่างทั่วถึง เราเคยอ่านค่ะว่าศาลจะไม่เห็นใจตรงนี้ แต่ถ้าอายัดของเราไปถึง 30-15%
เราเเย่เลยนะคะ ไอ้บัตรที่กำลังจะดีก็แย่เเน่ๆ เพราะปีหน้าเราจะหมดรถ หมดบัตรอีก 2 ใบเลยนะคะ(ปีหน้าที่ว่าหมดจะอยู่ในช่วงมิถุนา 59 ค่ะ)


ขอความกรุณาผู้รู้ทุกท่านในครั้งนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

1. มีไม่มี ก็อย่าไปทำเลยค่ะ บอกภาระของคุณไป
2. มีหมายศาลมา ไปเจรจาที่ศาลง่ายกว่ากันเยอะเลยค่ะ ถ้ายังไม่มีเงินก้อน

มีเงินก้อนสามารถเจรจาปิดจบได้อีก

สู้ๆๆ ค่ะ นับถือคุณจริงๆ เอาเงินมาเลี้ยงดูคนที่เรารักดีก่อนกว่า ให้ดอกเบี้ยกับพวกผีดูดเลือด

สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้งกับปัญหาที่ไม่ยอมจบกับ First Choice
ตอนนี้เราเหลือเจ้าเดียวเลยค่ะ ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อมาคือเมื่อเดือนที่เเล้ว บอกให้เราจ่ายก้อนเดียวอย่างเดียวเลยค่ะ ไม่ยอมให้เราผ่อนใดๆทั้งสิ้น เค้าบอกว่าเค้ากำลังเขียนคำฟ้อง....
เเต่เราบอกว่าเดือนที่เเล้วที่ติดต่อมาเราเหลือเคลียร์หนี้อีกเจ้า ซึ้งจะเป็นงวดสุดท้าย
เราสามารถให้ได้คือเริ่มเดือนนี้เป็นต้นไป เราขอผ่อนแบบ Haircut เราบอกว่าของ Tesco เราก็หยุดพร้อมๆกับคุณเค้าลดให้เราเหลือ 24000 ผ่อน 2000 บาท 12 เดือน ทำไมเค้าให้ได้ เราถามเค้าว่าเค้าอยากจบมั๊ย
เค้าก็บอกอย่างเดียวเลยค่ะว่าไม่มีนโยบายนี้ เเละกรณีของเรามันเกินเยียวยา ต้องจ่ายก้อนเดียวเท่านั้น เเล้วเค้าบอกว่าเค้าจะติดต่อมาอีกครั้ง เเต่เราบอกว่าถ้าติดต่อมา เเล้วยังให้คำตอบเดิมเเก่เรา ไม่ต้องติดต่อมา เสียเวลา


เเล้วเค้าก็ไม่ติดต่อมา ตอนนี้ถ้าฟ้องศาลเราก็ไม่มั่นใจเต็มร้อย เพราะถ้าฟ้องเเล้วเค้าอายัดเงินเดือนถึง 25-30% เราเเย่เเน่ๆ เพราะมันจะกระทบเจ้าอื่นๆไปหมด เพราะทุกเจ้ามันตกลงไปหมดเเล้ว ทั้งปรับปรุงโครงสร้างเอย Haircut เอย ซึ่งมันยังอยู่ในสัญญา ถ้าผิดนี่เราโดนเละอ่ะค่ะ เราไม่อยากมาเสียหายบานตะไทเพียงเเค่เจ้าหนี้เจ้าเดียว

เราขอยกคำถามจากเม้นบนของเรานะคะ

2. ถ้าต้องขึ้นศาลจริงๆ ยอดประมาณ 4x,xxx บาท ในขั้นตอนต่อรองเจรจาต่อหน้าศาลเราสามารถผ่อนจ่ายไม่เกิน 2000 ได้มั๊ยคะ หรือถ้าต้องอายัดเงินเดือน เราสามารถขอต่ำกว่า 15% ได้มั๊ยคะ.... ขอประมาณ 10% โดยบอกว่าเราหาเลี้ยงคนเดียวถึง 3 ชีวิต กับเงินเดือน 16,000..หักประกันสังคมเเล้วเหลือ 15200 ด้วย ....(ตอนนี้ไม่เหมือนก็เหมือนรายได้ของเเม่ไม่มีเเล้วอ่ะค่ะ) สามารถเอามาให้ทางกรมบังคับคดีกับศาลเห็นใจรับพิจารณามั๊ยคะ เรามีเเม่เเละน้องชายในวัยเรียนที่ต้องดูเเล ไหนจะค่าเช่าห้องอีก.....
*เพิ่มเติม : เรื่องค่าเลี้ยงดูเเม่ เท่าที่อ่านตามกระทู้ เหมือนต้อมีใบเสร็จจากรพ. คือ เราไม่มีใบเสร็จจากทาง รพ. หรอกนะคะ เพราะเวลาเเม่ป่วยเราไม่ได้พาไปทุกครั้ง พอรักษา 30 บาท เค้าให้ยาอะไรมาเราก็มาซื้อเอาเองเพิ่มเติม รักษาเองจนกว่าจะหาย เเบบนี้อ่ะค่ะ

ในที่นี้เราสามารถอ้างถึงหนี้อื่นๆที่เราซึ่งเราก็รับผิดชอบอยู่ ประมาณว่าเราก็อยากชำระหนี้ตัวที่ขึ้นศาล(First choice)ไปพร้อมๆกับตัวอื่นที่เราเจรจาไปแล้วได้อย่างทั่วถึง เราเคยอ่านค่ะว่าศาลจะไม่เห็นใจตรงนี้ แต่ถ้าอายัดของเราไปถึง 30-15% เราเเย่เลยนะคะ ไอ้บัตรที่กำลังจะดีก็แย่เเน่ๆ เพราะปีหน้าเราจะหมดรถ หมดบัตรอีก 2 ใบเลยนะคะ(ปีหน้าที่ว่าหมดจะอยู่ในช่วงมิถุนา 59 ค่ะ) และนอกจากนี้เรายังมีหนี้ กยศ. ที่ก็ยังจ่ายไม่ครบ ตรงส่วนนี้เอามาใช้ในการขอลดหย่อนได้มั๊ยคะ
เราสามารถเจรจาได้มั๊ยคะ...สัก 10% เคสของเรามันยากมากมั๊ยคะ ในการเจรจา

เราอยากรู้จริงๆค่ะ รบกวนใครก็ได้ที่มาอ่านกระทู้เราเเล้วรู้ก็ช่วยบอกเราทีเถอะค่ะ ตอนนี้เราเหมือนจะสู้ก็สู้ไม่ได้เต็มที่ เพราะมันยังกังวลในส่วนนี้มากจริงๆ เหมือนทำเป็นไม่กลัวไปวันๆ ทั้งๆที่ในใจนั้น กลัวมากๆ

ค่อยๆอ่านกระทู้ปักหมุดและทำความเข้าใจและอ่านซ้ำๆนะครับ
คำถามของน้องเท่าที่ผมอ่านมา มันมีคำตอบให้หมดแล้ว อาจจะยังอ่านไม่หมดหรือไม่พบ
เห็นไปทำประนอมหนี้ ต้องพยายามจ่ายให้ต่อเนื่องนะครับ ถ้าเบี้ยวหรือหยุดจ่าย
เขาฟ้องเร็วและเราจะสู้เจ้าหนี้ไม่ได้

คือ เราอ่านเเล้วค่ะ แต่มันไม่เข้าใจทั้งหมด เเล้วเราเคยโทรไปถามคุณอาไพโรจน์แล้ว ท่านบอกว่าก็ให้เค้าฟ้องไป ให้เค้าอายัดไป เพราะเจ้าหนี้อายัดได้เพียงเจ้าเดียว เราเข้าใจในสิ่งที่คุณอาบอกนะคะ

แต่คือตอนนี้เราไม่อยากมีปัญหากับเจ้าอื่นๆเพียงเพราะเจ้าหนี้เจ้าเดียวเเล้วอ่ะค่ะ เราไม่อยากกลับไปรบอีกเเล้ว แล้วยิ่งเราประนอมหนี้ไปแล้วเราไม่อยากมีปัญหาเลย จากที่เราอ่านเราเลยมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เพราะกรณีเราไม่เหมือนคนอื่นๆที่เราอ่านเจอ

ในกรณีเเรกที่เราถามว่าก่อนที่เค้าจะบังคับคดี ถ้าเราจะเจรจาต่อรองผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ไม่เกิน 2000 เราทำได้มั๊ย เท่าที่เราเคยอ่านมาเเล้วนั้น มีคนทำได้ค่ะ แต่อันนั้นธนาคารเสนอเอง บางกรณีเค้าจะให้ได้ไม่เกิน 1 ปี อาจจะคิดจากยอดเต็มหรือลดให้เเล้วเเต่ดวง แล้วยิ่งวงเงินเรามันไม่มาก ยากมากๆที่เค้าจะให้เกิน 1 ปี เพราะเค้าอยากจบเร็ว...แต่เราไม่อยากจบเร็ว เราอยากเอาเเค่ 2000 เพราะไม่อย่างนั้นต่อเดือนเราก็อาจจะถึง 4,xxx ซึ่งเราไม่ไหว เราเคยเห็นมีคนเเนะนำวิธีต่อรองว่าต่อรองยังไงให้ได้เท่านี้ เเต่เค้าทำกันหลังไมค์อ่ะค่ะ(เเล้วก็คนละเจ้าด้วย) เราเลยอยากรู้ว่าโอกาสที่จะได้เดือนละ 2000 มันมีเหมือนคนอื่นชัวร์ๆมั๊ย หรือมันมีวิธีการพูดแบบไหนให้ได้มาซึ่งแบบนี้

เพราะสุดท้าย หากตกลงไม่ได้ก็จะเข้าสู้การอายัดเงินเดือน

อย่างกรณีการต่อรองกับกรมบังคับคดี เค้าจะลดให้ 10-15% แล้วเเต่ความเห็นใจ ถ้าเรามีการดูเเลแม่ บุตร หรือมีค่าใช้จ่ายที่ดีงามอ่ะค่ะ แล้วเราเคยอ่านเจอค่ะว่าเค้าจะไม่เห็นใจถ้าเราอ้างว่าเรามีหนี้บัตรอื่นหรือผ่อนรถ เพราะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายฟุ้มเฟือยไม่น่าเห็นใจ ทำตัวเองบลาๆ เค้าไม่สนว่าเงินที่เหือจะเอาไปใช้หนี้เจ้าใด เพราะเค้าถือว่าเงิน 10000 ขั้นต่ำนั้นเพียงพอเเล้วกับการใช้ชีวิตคน 1 คน เเต่นึกออกมั๊ยคะถ้าเค้าไม่เห็นใจเราเเย่อ่ะค่ะ เราก็รู้อีกว่าต่อให้เราเเย่จนไม่มีกินเค้าก็ไม่เห็นใจ ทั้งๆที่เราอยากเคลียร์ให้ได้ทุกเจ้า เราไม่ได้มีเเค่หนี้ เรามีอีก 2 ชีวิต แม้ว่าเงินเดือนทั้งหมดจะไปกับหนี้เเล้วก็ตาม(เราหมุนเอาค่ะ) เเล้วถึงจะเป็นค่าใช้จ่ายฟุ้มเฟือยเเต่เราก็อยากหมดหนี้ทุกอันพร้อมๆกัน ไม่ใช่อันใดอันนึง เราเลยอยากรู้ว่ามันมีวิธีเจรจามั๊ยคะ

แล้วกรณีของเราเท่าที่อ่านมันไม่เหมือนคนอื่นตรงที่เราไม่มีหลักฐานการดูเเลเเม่ค่ะ พวกใบเสร็จค่าใช้จ่ายจากรพ. แล้วเราจะเอาที่ไหนไปอ้างกับเค้าคะ เรามีเเต่ใบเเจ้งหนี้อ่ะค่ะ หรือใช้แค่ใบรับรองแพทย์ว่าเเม่ป่วยจริง(แม่ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันค่ะ ทำให้รายได้ของเเม่ลดลงครึ่งต่อครึ่ง เเล้วทานยาตลอด แต่อย่างที่บอกไปครั้งเดียว 30 บาทรักษาทุกโรค จากนั้นเราก็ซื้อยาทานเอง)
การดูเเลน้อง(ไม่ใช่ลูกอีกต่างหาก จะเอามาอ้างได้รึเปล่าก็ไม่รู้) อันนี้เรามีใบเสร็จค่าเทอม ซึ่งเท่าที่ดูค่าเทอมเด็กมันก็น้อยนิด เทอมละ 2000 กว่าบาท มันไปหนักค่าเสื้อผ้า เเต่ใบเสร็จพวกนั้น...ก็ส่งให้โรงเรียนไปเเล้ว ตามการช่วยเหลือจากรัฐบาล

แล้วหนี้กยศ. สามารถเอามายื่นการลดหย่อนได้หรือไม่คะ

ที่มาถามก็เเค่อยากเห็นจะๆ ตอกย้ำกันว่ากรณีของเรามันเกินเยียวยา เพราะบอกตรงๆสิ่งที่เราอ่าน มันมีเเต่คำว่า "ไม่เห็นใจ ยังไงก็ไม่เห็นใจ" เราเเค่อยากรู้ว่ามันมีวิธีสักนิดมั๊ด เเค่นิดเดียวให้เรามีหวัง ตอนนี้เรายังมีความหวังเล็กๆในใจ อีกอย่างที่บอก ปีหน้าเราจะหมดหนี้บัตรตั้ง 2 ใบรวมถึงหนี้รถด้วย .....ถ้ามันทำได้เราจะได้สบายใจ แต่ถ้ามีคนรู้จริง รู้จริงๆมาตอบว่า "ไม่ได้!!! ยังไงมันก็ทำไม่ได้ ยังไงเค้าก็ไม่เห็นใจกับหลักฐานหนี้ฟุ้มเฟือยเรา แถมยังไม่มีหลักฐาดูเเลเเม่ นู่นนี่นั่น" เราจะได้ทำใจว่าเราต้องกลับไปรบกับการทวงหนี้อีกครั้ง เราต้องเริ่มต้นใหม่ทุกๆอย่าง กับทางที่เราเลือกเเล้ว เราจะได้รู้ว่าที่เราทำมาทุกอย่างมันไม่มีประโยชน์เลย

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ