กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
narunarutoboyz เขียน: คือ เราอ่านเเล้วค่ะ แต่มันไม่เข้าใจทั้งหมด เเล้วเราเคยโทรไปถามคุณอาไพโรจน์แล้ว ท่านบอกว่าก็ให้เค้าฟ้องไป ให้เค้าอายัดไป เพราะเจ้าหนี้อายัดได้เพียงเจ้าเดียว เราเข้าใจในสิ่งที่คุณอาบอกนะคะ
แต่คือตอนนี้เราไม่อยากมีปัญหากับเจ้าอื่นๆเพียงเพราะเจ้าหนี้เจ้าเดียวเเล้วอ่ะค่ะ เราไม่อยากกลับไปรบอีกเเล้ว แล้วยิ่งเราประนอมหนี้ไปแล้วเราไม่อยากมีปัญหาเลย จากที่เราอ่านเราเลยมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เพราะกรณีเราไม่เหมือนคนอื่นๆที่เราอ่านเจอ
ในกรณีเเรกที่เราถามว่าก่อนที่เค้าจะบังคับคดี ถ้าเราจะเจรจาต่อรองผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ไม่เกิน 2000 เราทำได้มั๊ย เท่าที่เราเคยอ่านมาเเล้วนั้น มีคนทำได้ค่ะ แต่อันนั้นธนาคารเสนอเอง บางกรณีเค้าจะให้ได้ไม่เกิน 1 ปี อาจจะคิดจากยอดเต็มหรือลดให้เเล้วเเต่ดวง แล้วยิ่งวงเงินเรามันไม่มาก ยากมากๆที่เค้าจะให้เกิน 1 ปี เพราะเค้าอยากจบเร็ว...แต่เราไม่อยากจบเร็ว เราอยากเอาเเค่ 2000 เพราะไม่อย่างนั้นต่อเดือนเราก็อาจจะถึง 4,xxx ซึ่งเราไม่ไหว เราเคยเห็นมีคนเเนะนำวิธีต่อรองว่าต่อรองยังไงให้ได้เท่านี้ เเต่เค้าทำกันหลังไมค์อ่ะค่ะ(เเล้วก็คนละเจ้าด้วย) เราเลยอยากรู้ว่าโอกาสที่จะได้เดือนละ 2000 มันมีเหมือนคนอื่นชัวร์ๆมั๊ย หรือมันมีวิธีการพูดแบบไหนให้ได้มาซึ่งแบบนี้
เพราะสุดท้าย หากตกลงไม่ได้ก็จะเข้าสู้การอายัดเงินเดือน
อย่างกรณีการต่อรองกับกรมบังคับคดี เค้าจะลดให้ 10-15% แล้วเเต่ความเห็นใจ ถ้าเรามีการดูเเลแม่ บุตร หรือมีค่าใช้จ่ายที่ดีงามอ่ะค่ะ แล้วเราเคยอ่านเจอค่ะว่าเค้าจะไม่เห็นใจถ้าเราอ้างว่าเรามีหนี้บัตรอื่นหรือผ่อนรถ เพราะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายฟุ้มเฟือยไม่น่าเห็นใจ ทำตัวเองบลาๆ เค้าไม่สนว่าเงินที่เหือจะเอาไปใช้หนี้เจ้าใด เพราะเค้าถือว่าเงิน 10000 ขั้นต่ำนั้นเพียงพอเเล้วกับการใช้ชีวิตคน 1 คน เเต่นึกออกมั๊ยคะถ้าเค้าไม่เห็นใจเราเเย่อ่ะค่ะ เราก็รู้อีกว่าต่อให้เราเเย่จนไม่มีกินเค้าก็ไม่เห็นใจ ทั้งๆที่เราอยากเคลียร์ให้ได้ทุกเจ้า เราไม่ได้มีเเค่หนี้ เรามีอีก 2 ชีวิต แม้ว่าเงินเดือนทั้งหมดจะไปกับหนี้เเล้วก็ตาม(เราหมุนเอาค่ะ) เเล้วถึงจะเป็นค่าใช้จ่ายฟุ้มเฟือยเเต่เราก็อยากหมดหนี้ทุกอันพร้อมๆกัน ไม่ใช่อันใดอันนึง เราเลยอยากรู้ว่ามันมีวิธีเจรจามั๊ยคะ
แล้วกรณีของเราเท่าที่อ่านมันไม่เหมือนคนอื่นตรงที่เราไม่มีหลักฐานการดูเเลเเม่ค่ะ พวกใบเสร็จค่าใช้จ่ายจากรพ. แล้วเราจะเอาที่ไหนไปอ้างกับเค้าคะ เรามีเเต่ใบเเจ้งหนี้อ่ะค่ะ หรือใช้แค่ใบรับรองแพทย์ว่าเเม่ป่วยจริง(แม่ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันค่ะ ทำให้รายได้ของเเม่ลดลงครึ่งต่อครึ่ง เเล้วทานยาตลอด แต่อย่างที่บอกไปครั้งเดียว 30 บาทรักษาทุกโรค จากนั้นเราก็ซื้อยาทานเอง)
การดูเเลน้อง(ไม่ใช่ลูกอีกต่างหาก จะเอามาอ้างได้รึเปล่าก็ไม่รู้) อันนี้เรามีใบเสร็จค่าเทอม ซึ่งเท่าที่ดูค่าเทอมเด็กมันก็น้อยนิด เทอมละ 2000 กว่าบาท มันไปหนักค่าเสื้อผ้า เเต่ใบเสร็จพวกนั้น...ก็ส่งให้โรงเรียนไปเเล้ว ตามการช่วยเหลือจากรัฐบาล
แล้วหนี้กยศ. สามารถเอามายื่นการลดหย่อนได้หรือไม่คะ
ที่มาถามก็เเค่อยากเห็นจะๆ ตอกย้ำกันว่ากรณีของเรามันเกินเยียวยา เพราะบอกตรงๆสิ่งที่เราอ่าน มันมีเเต่คำว่า "ไม่เห็นใจ ยังไงก็ไม่เห็นใจ" เราเเค่อยากรู้ว่ามันมีวิธีสักนิดมั๊ด เเค่นิดเดียวให้เรามีหวัง ตอนนี้เรายังมีความหวังเล็กๆในใจ อีกอย่างที่บอก ปีหน้าเราจะหมดหนี้บัตรตั้ง 2 ใบรวมถึงหนี้รถด้วย .....ถ้ามันทำได้เราจะได้สบายใจ แต่ถ้ามีคนรู้จริง รู้จริงๆมาตอบว่า "ไม่ได้!!! ยังไงมันก็ทำไม่ได้ ยังไงเค้าก็ไม่เห็นใจกับหลักฐานหนี้ฟุ้มเฟือยเรา แถมยังไม่มีหลักฐาดูเเลเเม่ นู่นนี่นั่น" เราจะได้ทำใจว่าเราต้องกลับไปรบกับการทวงหนี้อีกครั้ง เราต้องเริ่มต้นใหม่ทุกๆอย่าง กับทางที่เราเลือกเเล้ว เราจะได้รู้ว่าที่เราทำมาทุกอย่างมันไม่มีประโยชน์เลย
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
narunarutoboyz เขียน: คือ เราอ่านเเล้วค่ะ แต่มันไม่เข้าใจทั้งหมด เเล้วเราเคยโทรไปถามคุณอาไพโรจน์แล้ว ท่านบอกว่าก็ให้เค้าฟ้องไป ให้เค้าอายัดไป เพราะเจ้าหนี้อายัดได้เพียงเจ้าเดียว เราเข้าใจในสิ่งที่คุณอาบอกนะคะ
แต่คือตอนนี้เราไม่อยากมีปัญหากับเจ้าอื่นๆเพียงเพราะเจ้าหนี้เจ้าเดียวเเล้วอ่ะค่ะ เราไม่อยากกลับไปรบอีกเเล้ว แล้วยิ่งเราประนอมหนี้ไปแล้วเราไม่อยากมีปัญหาเลย จากที่เราอ่านเราเลยมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เพราะกรณีเราไม่เหมือนคนอื่นๆที่เราอ่านเจอ
ในกรณีเเรกที่เราถามว่าก่อนที่เค้าจะบังคับคดี ถ้าเราจะเจรจาต่อรองผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ไม่เกิน 2000 เราทำได้มั๊ย เท่าที่เราเคยอ่านมาเเล้วนั้น มีคนทำได้ค่ะ แต่อันนั้นธนาคารเสนอเอง บางกรณีเค้าจะให้ได้ไม่เกิน 1 ปี อาจจะคิดจากยอดเต็มหรือลดให้เเล้วเเต่ดวง แล้วยิ่งวงเงินเรามันไม่มาก ยากมากๆที่เค้าจะให้เกิน 1 ปี เพราะเค้าอยากจบเร็ว...แต่เราไม่อยากจบเร็ว เราอยากเอาเเค่ 2000 เพราะไม่อย่างนั้นต่อเดือนเราก็อาจจะถึง 4,xxx ซึ่งเราไม่ไหว เราเคยเห็นมีคนเเนะนำวิธีต่อรองว่าต่อรองยังไงให้ได้เท่านี้ เเต่เค้าทำกันหลังไมค์อ่ะค่ะ(เเล้วก็คนละเจ้าด้วย) เราเลยอยากรู้ว่าโอกาสที่จะได้เดือนละ 2000 มันมีเหมือนคนอื่นชัวร์ๆมั๊ย หรือมันมีวิธีการพูดแบบไหนให้ได้มาซึ่งแบบนี้
เพราะสุดท้าย หากตกลงไม่ได้ก็จะเข้าสู้การอายัดเงินเดือน
อย่างกรณีการต่อรองกับกรมบังคับคดี เค้าจะลดให้ 10-15% แล้วเเต่ความเห็นใจ ถ้าเรามีการดูเเลแม่ บุตร หรือมีค่าใช้จ่ายที่ดีงามอ่ะค่ะ แล้วเราเคยอ่านเจอค่ะว่าเค้าจะไม่เห็นใจถ้าเราอ้างว่าเรามีหนี้บัตรอื่นหรือผ่อนรถ เพราะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายฟุ้มเฟือยไม่น่าเห็นใจ ทำตัวเองบลาๆ เค้าไม่สนว่าเงินที่เหือจะเอาไปใช้หนี้เจ้าใด เพราะเค้าถือว่าเงิน 10000 ขั้นต่ำนั้นเพียงพอเเล้วกับการใช้ชีวิตคน 1 คน เเต่นึกออกมั๊ยคะถ้าเค้าไม่เห็นใจเราเเย่อ่ะค่ะ เราก็รู้อีกว่าต่อให้เราเเย่จนไม่มีกินเค้าก็ไม่เห็นใจ ทั้งๆที่เราอยากเคลียร์ให้ได้ทุกเจ้า เราไม่ได้มีเเค่หนี้ เรามีอีก 2 ชีวิต แม้ว่าเงินเดือนทั้งหมดจะไปกับหนี้เเล้วก็ตาม(เราหมุนเอาค่ะ) เเล้วถึงจะเป็นค่าใช้จ่ายฟุ้มเฟือยเเต่เราก็อยากหมดหนี้ทุกอันพร้อมๆกัน ไม่ใช่อันใดอันนึง เราเลยอยากรู้ว่ามันมีวิธีเจรจามั๊ยคะ
แล้วกรณีของเราเท่าที่อ่านมันไม่เหมือนคนอื่นตรงที่เราไม่มีหลักฐานการดูเเลเเม่ค่ะ พวกใบเสร็จค่าใช้จ่ายจากรพ. แล้วเราจะเอาที่ไหนไปอ้างกับเค้าคะ เรามีเเต่ใบเเจ้งหนี้อ่ะค่ะ หรือใช้แค่ใบรับรองแพทย์ว่าเเม่ป่วยจริง(แม่ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันค่ะ ทำให้รายได้ของเเม่ลดลงครึ่งต่อครึ่ง เเล้วทานยาตลอด แต่อย่างที่บอกไปครั้งเดียว 30 บาทรักษาทุกโรค จากนั้นเราก็ซื้อยาทานเอง)
การดูเเลน้อง(ไม่ใช่ลูกอีกต่างหาก จะเอามาอ้างได้รึเปล่าก็ไม่รู้) อันนี้เรามีใบเสร็จค่าเทอม ซึ่งเท่าที่ดูค่าเทอมเด็กมันก็น้อยนิด เทอมละ 2000 กว่าบาท มันไปหนักค่าเสื้อผ้า เเต่ใบเสร็จพวกนั้น...ก็ส่งให้โรงเรียนไปเเล้ว ตามการช่วยเหลือจากรัฐบาล
แล้วหนี้กยศ. สามารถเอามายื่นการลดหย่อนได้หรือไม่คะ
ที่มาถามก็เเค่อยากเห็นจะๆ ตอกย้ำกันว่ากรณีของเรามันเกินเยียวยา เพราะบอกตรงๆสิ่งที่เราอ่าน มันมีเเต่คำว่า "ไม่เห็นใจ ยังไงก็ไม่เห็นใจ" เราเเค่อยากรู้ว่ามันมีวิธีสักนิดมั๊ด เเค่นิดเดียวให้เรามีหวัง ตอนนี้เรายังมีความหวังเล็กๆในใจ อีกอย่างที่บอก ปีหน้าเราจะหมดหนี้บัตรตั้ง 2 ใบรวมถึงหนี้รถด้วย .....ถ้ามันทำได้เราจะได้สบายใจ แต่ถ้ามีคนรู้จริง รู้จริงๆมาตอบว่า "ไม่ได้!!! ยังไงมันก็ทำไม่ได้ ยังไงเค้าก็ไม่เห็นใจกับหลักฐานหนี้ฟุ้มเฟือยเรา แถมยังไม่มีหลักฐาดูเเลเเม่ นู่นนี่นั่น" เราจะได้ทำใจว่าเราต้องกลับไปรบกับการทวงหนี้อีกครั้ง เราต้องเริ่มต้นใหม่ทุกๆอย่าง กับทางที่เราเลือกเเล้ว เราจะได้รู้ว่าที่เราทำมาทุกอย่างมันไม่มีประโยชน์เลย
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
narunarutoboyz เขียน: ในหมายเรียกมีปั๊มว่า "ปิดหมายให้มีผลทันที" พร้อมกับบอกว่า
"ให้ท่านไปศาลเพื่อไกล่เกลี่ย ให้การสืบพยานในวันที่ 26/8/2558 เวลา 16.30 น. เพื่อศาลจะได้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป" และยังมีวงเล็บต่อท้ายว่า "ให้ดูคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติฯท้ายสำเนาคำฟ้อง"
ก่อนอื่น ตอนนี้วันที่เราต้องไปศาลมีเเค่วันเดียวคือวันที่ 26/8/2558 16.30 นี้ใช่มั๊ยคะ
แต่ว่าคำเเนะนำวิธีปฏิบัติท้ายสำเนา ไม่เห็นมีเลยค่ะ
ส่วนจะเอายังไงคือเราไม่รู้ว่าการขอเลื่อนปากเปล่าเป็นขั้นตอนเเรกของการขึ้นศาลรึเปล่า
แบบเพื่อให้เราตั้งตัวใช่มั๊ยคะ (เเต่ดอกเบี้ยก็ไม่ได้หยุดใช่มั๊ยคะ) เเล้วรอศาลนัดอีกที ขั้นตอนนี้ไม่ทราบว่าศาลจะนัดเราวันนั้นเลย หรือจะส่งหมายศาลไปที่บ้านอีกรอบคะ
- ตอนคุณขอเลื่อน จะมีเอกสารให้คุณเซ็นต์รายงานต่อศาล ในใบนั้น จะมีวันที่จะต้องมาศาลครั้งต่อไป (เป็นวันที่คุณต้องตกลงกับ ศาล ทนาย และ ตัวคุณเองต้องว่างด้วย) แล้วคุณก็จำวันที่กลับมา หรือไม่ก็ขอคัดสำเนากลับมา
จากนั้นเเล้วเราค่อยไปตามนัดครั้งที่ 2 เพื่อไกล่เกลี่ยหน้าศาลว่าเค้ายื่นข้อเสนอให้แบบไหนอีกที
- ตอนไปนัดแรก หรือ ก่อนขึ้นศาลนัดแรก คุณก็ลองโทรไปถามข้อเสนอได้ครับ ว่าเขามีวิธีการให้เราผ่อนแบบไหน หรือ ถ้าจะปิดบัญชีให้ส่วนลดเท่าไร
หรืออีกวิธีคือเราจะขอไกล่เกลี่ยกันวันที่ 26/8/2558 เลยค่ะ ถ้ารับไหวก็ตกลงกันตรงนั้นเลยหรือถ้ายังไม่ไหว ตรงนี้เราสามารถขอเลื่อนปากเปล่าทีหลังได้มั๊ยคะ
- วันที่ 26/8/2558 คือวันที่เขานัดคุณไปเพื่อ "ไกล่เกลี่ย ให้การ และ สืบพยาน"
คุณไป คุณก็ต้องได้ไกล่เกลี่ยอยู่แล้ว ถ้าตกลงไม่ได้ คุณก็หาเหตุผลไปขอเลื่อนศาลได้ หรือถ้าอยากสู้คดีก็หาทนายความเขียนคำให้การ หรือพาทนายไปศาลเพื่อสู้คดี
ปล.ตอนนี้ที่เราได้มามีใบปะหน้า กับสำเนาหนาปึ๊กเลยค่ะ
ปลล.อ่านกระทู้ของคุณแก้วจ๋า ยังมีงงเล็กน้อย เหมือนจะทำได้แต่ก็ไม่เเน่ใจอ่ะค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา