KTC กับ UOB ใครโหดกว่ากัน

เราตกงานมาหลายเดือน ทำให้ไม่ได้จ่ายหนี้บัตรเครดิต
เป็นหนี้ uob black visa 36,000
ไม่ได้จ่ายราว 4 งวด
มีคนโทรมาให้จ่ายหนี้ พูดจาแย่มาก
เสนอให้ส่วนลดด้วยการปิด (ที่เราคิดเองตอนนี้ก็ราว 25% เหลือ 27000)
แต่เราไม่มีเงินก้อน ถามว่ามีทางอื่นมั้ย
เขาก็เสนอให้ทยอยจ่าย 6 งวด งวดละ 6000
โดยไม่ให้ส่วนลดแม้แต่สตางค์แดงเดียว
แต่จะหยุดดอกให้ ไม่งั้นส่งฟ้อง
เรากลัวมาก และไม่รู้จะทำยังไง
เลยยอมรับข้อเสนอนี้ เพิ่งส่งไป 2 งวด ปลายเดือนนี้ต้องจ่ายงวดที่ 3 แล้ว
แต่ปัญหาคือ เราได้รับหมายศาลของ KTC ยอดหนี้ 61,000
ให้ไปขึ้นศาล 21 ตุลาคมนี้
เราควรทำยังไงดีคะ
จะหยุดจ่าย uob แล้วเก็บเงินไปจ่าย KTC ดีมั้ย
แต่ก็กลัว UOB ฟ้องศาล
อีกอย่างในเอกสารก็ระบุว่าหากเราไม่ชำระแม้งวดเดียวสัญญาเป็นอันยกเลิก และกลับไปคิดดอกเบี้ยตามเดิม
เราควรแก้ปัญหายังไงดี
เครียดมาก ศาลนัดต่างจังหวัดตามภูมิลำเนา แต่เราทำงานอยู่กรุงเทพฯ ไม่สะดวกเลย

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64


ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64


กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64


หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

วันนี้ติดต่อเข้าไปที่ฝ่ายประนอมหนี้ของ KTC
บอกว่าจะปิดบัญชี ขอส่วนลดหนีหน่อย
จนท. บอกว่า ลดให้ได้แค่ 53000
(ยอดค้างก่อนหยุดส่ง 49000 กว่าๆ ไม่ถึง 50000
ยอดฟ้อง 61000)
ใครมีคำแนะนำดีๆ บ้างมั้ยคะ
โทรไปทีไรก็เจอ จนท. เสียงเหมือนเด็กจบใหม่ๆ
ยืนยันคำเดียวว่าลดให้ไม่ได้ ให้ไปเจรจาที่ศาล
คุยกันสามครั้งแล้ว ได้คำตอบเดิม
ทำยังไงดีคะ
กลุ้มมาก

เรากำลังจะแจ้งย้ายออกจากภูมิลำเนาในต่างจังหวัดมาเข้าทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯ
แต่ KTC ส่งหมายศาลไปที่ต่างจังหวัดแล้ว นัดวันที่ 21 ตุลาคม
ถ้าเราแจ้งย้ายเข้าและย้ายออกภายในเดือนกันยายน (หลังได้รับหมายศาล และรอไปไกล่เกลี่ย+สืบพยาน)
เรายังต้องไปตามหมายศาลที่ต่างจังหวัดอยู่มั้ย
หรือต้องทำยังไงคะ

แล้วกรณีที่ย้ายออกก่อนได้รับหมายศาล เราไม่ไปศาลตามที่นัดได้มั้ยคะ

ดอกไม้สีขาว เขียน: เรากำลังจะแจ้งย้ายออกจากภูมิลำเนาในต่างจังหวัดมาเข้าทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯ
แต่ KTC ส่งหมายศาลไปที่ต่างจังหวัดแล้ว นัดวันที่ 21 ตุลาคม
ถ้าเราแจ้งย้ายเข้าและย้ายออกภายในเดือนกันยายน (หลังได้รับหมายศาล และรอไปไกล่เกลี่ย+สืบพยาน)
เรายังต้องไปตามหมายศาลที่ต่างจังหวัดอยู่มั้ย

หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

ดอกไม้สีขาว เขียน: แล้วกรณีที่ย้ายออกก่อนได้รับหมายศาล เราไม่ไปศาลตามที่นัดได้มั้ยคะ

ไม่ได้ตั้งใจหนีสาล แต่จำวันที่ผิด
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41834&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

โทรเข้าไปคุยกับ KTC เป็นครั้งที่สี่
ได้รับคำตอบเดิม ลดให้ไม่ได้
เสนอ ผ่อน 12 งวด งวดละ 4600 บวกดอก 10%/ปี
หรือ 36 งวด งวดละ 1700 บวกดอก 10%/ปี
แต่ถ้าขอปิดตอนน้ี้ยังไงก็ลดให้ไม่ได้

ไอ้ที่เสียเวลาเก็บเงินรอปิดบัญชีก็เปล่าประโยชน์
เครียดจัง
เทียบกับคนรู้จักคนหนึ่ง SCB ฟ้อง 3 บัตร ยอด 9 หมื่นกว่า เกือบๆ แสน
แบงก์โทรมาเอง เสนอปิดจบที่ 28000
ไม่ต้องไปศาล จบหนี้
ทำไมต่างกันราวฟ้ากับเหวนะ

ดอกไม้สีขาว เขียน: โทรเข้าไปคุยกับ KTC เป็นครั้งที่สี่
ได้รับคำตอบเดิม ลดให้ไม่ได้
เสนอ ผ่อน 12 งวด งวดละ 4600 บวกดอก 10%/ปี
หรือ 36 งวด งวดละ 1700 บวกดอก 10%/ปี
แต่ถ้าขอปิดตอนน้ี้ยังไงก็ลดให้ไม่ได้

ไอ้ที่เสียเวลาเก็บเงินรอปิดบัญชีก็เปล่าประโยชน์
เครียดจัง
เทียบกับคนรู้จักคนหนึ่ง SCB ฟ้อง 3 บัตร ยอด 9 หมื่นกว่า เกือบๆ แสน
แบงก์โทรมาเอง เสนอปิดจบที่ 28000
ไม่ต้องไปศาล จบหนี้
ทำไมต่างกันราวฟ้ากับเหวนะ

KTC ไม่มีนโยบายลดหนี้เงินต้นให้ครับ ลดได้แต่ดอกเบี้ยอย่างเดียว (ไม่เหมือนกับเจ้าหนี้รายอื่นๆ)
พูดง่ายๆก็คือ มันยอมเอาดอกเบี้ยออกไปให้ ขอเพียงเอาเงินต้นก่อนที่จะหยุดจ่ายกลับคืนมา
โดยการให้จ่ายเงินคืนแบบเต็มก้อนเดียว หรืออาจขอผ่อนต่อก็ได้ แต่ต้องเป็นการผ่อนระยะสั้นๆเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น

หากลูกหนี้ไม่มีเงินก้อนจ่ายคืน แต่ต้องการจะผ่อนต่อแบบยาวๆอีกซัก 3ปี ก็ต้องไปทำ"ยอมความ"ที่ชั้นศาล และต้องยอมรับตัวเลขเต็มๆตามยอดที่ฟ้อง เอามาผ่อนจ่ายใหม่ โดยไม่มีส่วนลดใดๆเลย

ไปขึ้นศาลที่โดน KTC ฟ้องมา มีไฟล์เสียงมาให้เพื่อนๆฟังครับ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=40967&Itemid=64&limitstart=0#49259


ไปศาลคดีของ KTC มาแล้ว โดยไกล่เกลี่ยขอผ่อน 3ปี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40430&limitstart=120&Itemid=64#54345

โอ๊ย เศร้า
น้ำตาจะไหล

กลับไปเปิดหมายศาลดูอีกที
ปรากฏว่าหยุดจ่าย 4 งวด มันก็ฟ้องในเดือนที่ 4 เลย
เคยได้รับโทรศัพท์โทรทวงหนี้แค่ครั้งเดียว
ไม่มีสัญญาณอะไรทั้งสิ้น
เอาหมายมาส่งเลย

UOB โทรมา
เลยถามเรื่องที่คุยกันอาทิตย์ก่อน
เราถามว่าถ้าจะปิดพอจะมีส่วนลดอะไรให้มั้ย
(ยอด cash plus 16400 จ่ายขั้นต่ำอยู่เดือนละ 1000
visa ยอด 24000 ทำประนอมหนี้อยู่ จ่ายงวดละ 6000)
มันบอกว่า จะลดดอกเบี้ยให้ ปิดสองบัตรอยู่ที่ 40000
โอ้ ถามมันว่านี่ลดแล้วเหรอ ลดตรงไหนคะ
ลดดอกเบี้ยให้แล้วค่ะ ไหวมั้ยคะ คิดดูนะคะ แล้วจะติดต่อมาใหม่ สวัสดีค่ะ
โอ้ พระเจ้า ลดดอกให้ตั้ง 400
ซึ้งใจมากกกกก

แถมยังบอกว่าเราค้างอยู่ 7 งวด ไม่เคยจ่าย
พระเจ้า อีชั้นเพิ่งจ่ายมันไป 2 เดือนซ้อน แถมทำประนอมหนี้ไว้ด้วย
มันไม่ดูข้อมูลก่อนโทรรึไง
เลยถามชื่อ นามสกุล
แล้วขอคุยกับ จนท. ที่ทำประนอมหนี้ด้วย
ให้ถือสายนานมาก สุดท้ายมีเจ้าหน้าหญิงคนหนึ่งมารับสาย
เลยบอกว่าขอคุยกับคนที่ทำประนอมหนี้ให้เรา คนตะกี้บอกว่าติดสาย ให้ถือสายรอ แล้วทำไมเป็นคุณล่ะ
นางบอกว่า อ๋อ คนก่อนจำผิดคน คนโน้นลาหยุด
อ้าว เล่นยังงี้เลย
พอเล่าพฤติกรรมนางคนโทรจิกให้ฟัง
คนใหม่ก็บอกว่าเป็นเด็กใหม่ ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง ซะงั้น
และขอให้เราแฟกซ์ใบแจ้งหนี้ของสถาบันอื่นๆ ไปให้ เผื่อจะดูแนวทางว่าจะช่วยได้ยังไงบ้าง
แต่ยังไงก็ลดได้มีเกิน 20% นางว่าอย่างนี้
ใครเคยมีประสบการณ์แฟกซ์ใบแจ้งหนี้ของที่อื่นๆ ไปให้เจ้านี้คนไหนเพื่อใช้ประกอบการขอลดยอดปิดหนี้มั้ยคะ
ถ้าเราแฟกซ์ไป จะเป็นยังไง เสี่ยงมั้ย คิดไม่ตก
หรือใครเคยมีประสบการณ์การต่อรองกับยูโอบี หรือได้ส่วนลดของยูโอบีมั้ย ช่วยแชร์หน่อยค่ะ
เครียดจัด

UOB. ธนาคารนี้ถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงไม่ใช้บริการเลยน่าจะดี
ผมโดนทวงมาสารพัดรูปแบบ จนถึงขึ้นศาล แบงค์ก็ยังลดให้ไมงถึง 50%
ถือว่าเป็นธนาคารที่ไม่คิดช่วยลูกหนี้เลย ผมเลยทำผ่อน 12งวดจบ
ผ่อนหมดว่าจะกวดน้ำคว่ำขันกับธนาคารนี้ทันที..อย่าได้เจอะได้เจอกันเลย
ผมใช้ตั้งแต่เป็นบัตรธนาคารเอเชียอ่ะคับ คิดดูว่าเอาดอกเบี้ยเราไปไม่รู้เท่าไหร่?

จากที่ส่งเอกสารสารพัดหนี้เข้าไป 5-6 เจ้า
UOB ก็โทรมา บอกว่าปิด black visa ได้ที่ 18000 จากยอดค้าง 24000
จ่าย 2 งวด งวดแรกเดือนนี้ 1300 กับ 16700 ในเดือนหน้า
และปิด cash plus ได้ที่ 15300 จากยอดเดิม 16400
ลดให้เยอะมาก ตั้ง 1100 บาทแน่ะ
และมีข้อแม้ว่าจะยื่นเรื่องให้ก็ต่อเมื่อเราจ่าย cash plus เข้าไปก่อนภายในวันนี้ 1300
ไม่งั้นจะฟ้องรวมหนี้ 2 บัตร
จำยอมจริงๆ เราต้องโอนเข้าไป 1300 เพื่อให้ทำเรื่องปิด black visa ให้
เรากะว่าจะปิดตัวยอดสูงก่อน ถ้ามันฟ้องพร้อมกันเราก็แย่เพราะตอนนี้ก็มีหมายศาลของ KTC อยู่แล้ว
เจ้านี้ก็ไม่ยอดลดสักบาท แถมจะเอาดอกเบี้ยด้วย

สุดท้ายก็ถูกจนท. ยูโอบีหลอก

ดิฉันจ่ายยอดขั้นต่ำของ cash plus เข้าไป 1300 บาท ในวันที่ 25 กันยายน เพื่อจะดึงบัญชีไม่ให้ส่งฟ้อง
และจะปิดบัญชี black visa ที่ 18000 บาท แบ่งชำระได้ 2 งวด คือ 12/10/57 ยอด 1300 บาท และจ่าย 12/11/57 อีก 16700
จนท.บอกว่าต้องจ่าย 1300 ของ cash plus เข้าไปก่อน แล้วเธอจะดำเนินการให้ ไม่ต้องเป็นกังวล ไว้ใจเธอได้ เธอประสานงานกับคุณxxxซึ่งดูแลบัตรของดิฉันแล้ว เธอกับคุณxxxเป็นพนักงานยูโอบีเหมือนกัน ไม่ใช่พนักงานจากหน่วยงานข้างนอก ฉะนั้นดิฉันไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
และบอกว่าวันจันทร์ 29/9 จะยื่นเรื่องให้ วันอังคาร 30/9 น่าจะเรียบร้อย ดิฉันก็บอกว่าจะรอหนังสือยืนยันภาระหนี้จากธนาคารเพื่อจะจ่ายยอด 1300 ของงวดแรก
วันนี้ 30/9/57 ดิฉันก็ยังรอใบยืนยันภาระหนี้จากทางธนาคารยูโอบีอยู่ แต่คุณxxxซึ่งดูแลบัตร black visa กลับโทรมาทวงว่าจ่ายยอดบัตรเข้าไปหรือยัง พอดิฉันแจ้งเรื่องที่คุยกับคนก่อนไว้ คุณxxxกลับปฏิเสธไม่รู้เรื่อง และตำหนิดิฉันที่ไปคุยตกลงกับคนอื่นทั้งที่เขาเป็นคนดูแลบัตร และให้ดิฉันคุยกับคนนั้นเอง
สรุปคือ นางคนนั้นหลอกให้จ่ายขึ้นต่ำเพื่อดึงบัญชีที่ตัวเองดูแลเท่านั้น และไม่ได้ยื่นเรื่องปิดบัญชีของบัตรอีกใบให้เลย
ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ รู้สึกว่าตัวเองโง่มาก
ชั่งใจอยู่ตั้งนานว่าจะจ่ายดีมั้ย รู้ว่าไม่ควรจ่ายหยอด แต่ก็อยากปิดอีกบัตรเพราะถ้ามันฟ้องรวม 2 ก็บัตร ยอดสูงถึง 40400

สุดท้ายก็ถูกหลอกอีก
คงต้องปล่อยเลยตามเลย ตามบุญตามกรรม
ใครเคยขึ้นศาลของ UOB บ้างคะ
เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ

KTC ยอดเท่าไหร่ คุณดอกไม้สีขาว

KTC ยอดเงินต้น 49900 ไม่จ่าย 4 งวด ฟ้องที่ 61000 วันที่ท 21 นี้ไปขึ้นศาลค่ะ

ยอดของหนุ 30,000 บาท มีโทรมาทวง มีโทรมาให้ปรับจ่ายน้อยลง แต่ก้พักหลังหายไป

หยุดเข้าเดือนที่ 6 แล้วคะ กลัวว่าเร็วนี้จะได้หมายมาละคะ

วันนี้ลองโทรไปหา KTC อีก
อีชั้นก็ตื้อไม่เลืก อือือื
เพราะไม่อยากลางานไปขึ้นศาล
สรุปว่า
ถ้าจะปิดบัญชีก่อนฟ้องก็ต้องจ่่ายงวดเดียว ที่ยอดไม่ต่ำกว่าเงินต้น
ของอีชั้นคือ 49900
ขอผ่่อนจ่่ายก็ไม่ได้ ต้องงวดเดียวเท่านั้น ใจร้ายมาก
ถ้าไปศาลไม่ได้ก็ให้ศาลตัดสิน แล้วค่อยทำเรืองประนอมหนี้ทีหลัง

อีชั้นก็คงต้องลางานไปล่ะคะเพราะขืนให้ศาลตัดสินไปก่อนแล้วค่อยทำประนอมหนี้
มีหวังยอดเป็นแสนแน่

ส่วน UOB รอหนังสือย่ืนยันภาระหนี้เลยไม่จ่ายยอด 6000 ที่ทำเรืื่องหยุดดอกเบี้ยไว้
แต่มันไม่ยื่นให้ หลอกให้จ่ายหยอดเข้าไปฟรีๆ
สุดท้ายกลายเป็นเราเสียประวัติ ผิดเงื่อนไข ที่หยุดดอกก็ยกเลิก กลับมาคิดดอกเหมือนเดิม
ประเสริฐแท้
เลยถามไปว่า ในเมื่อเป็นความผิดของ จนท แล้วทำไมเราต้องมารับผิดชอบ
นางหัวหน้าก็บอกว่า ในเมื่อ จนท ของเราไม่คุยประสานงานกัน
เราก็ต้องว่ากล่าวตักเตือนกันอยู่แล้ว แต่คุณผิดเงื่อนไข ต่อไปขอส่วนลดอะไรก็คงยากแล้ว
ให้ปิดที่ 2 บัญชี 32000 ผ่อนจ่ายได้ 2 งวด
จากยอดค้าง black visa 24000 cash plus 15100
หลังจากนั้นสัก 3 เดือน คุณก็สามารถสมัครใช้บริการำธนาคารเราได้อีก
แหม ยังมีหน้ามาพูด แค่นี้ก็ขอกรวดน้ำคว่ำขันกันแล้วล่ะ

สรุปว่าไม่สามารถปิดได้ ทั้ง KTC และ UOB

ดอกไม้สีขาว เขียน: สุดท้ายก็ถูกจนท. ยูโอบีหลอก

สรุปคือ นางคนนั้นหลอกให้จ่ายขึ้นต่ำเพื่อดึงบัญชีที่ตัวเองดูแลเท่านั้น และไม่ได้ยื่นเรื่องปิดบัญชีของบัตรอีกใบให้เลย
ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ รู้สึกว่าตัวเองโง่มาก
ชั่งใจอยู่ตั้งนานว่าจะจ่ายดีมั้ย รู้ว่าไม่ควรจ่ายหยอด แต่ก็อยากปิดอีกบัตรเพราะถ้ามันฟ้องรวม 2 ก็บัตร ยอดสูงถึง 40400

สุดท้ายก็ถูกหลอกอีก
คงต้องปล่อยเลยตามเลย ตามบุญตามกรรม
ใครเคยขึ้นศาลของ UOB บ้างคะ
เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ

เสียแล้วเสียไปค่ะ คิดซะว่าเป็นบทเรียน

ดิฉันเคยผ่านจุดที่คุณโดนมาแล้ว แต่ดิฉันไม่ยอมเสียรู้จ่ายให้มันเพราะท่องไว้เสมอว่า การจ่ายคือการจ่าย H/C ปิดบ/ชหนี้เท่านั้น (การอ่านกระทู้ปักหมุดตามห้องต่างๆ ซ้ำไปซ้ำมามันจะจำขึ้นใจไปเองค่ะ กว่าจะจำได้ก็เล่นเอาต้องไปตัดแว่นใหม่กันเลยทีเดียว)
ตอนนั้นเครียดมากค่ะ ร้องไห้เกือบทุกครั้งหลังรับสายจอมมารยูเสร็จ ตอนนั้นแฟนก็ไม่อยู่ปลอบเพราะต้องไปทำตจว. ได้แต่ร้องไห้เจ็บใจอยู่กับน้องหมา 2 ตัว

เงินของเรามีค่า กว่าจะหามาได้แต่ละบาทช่างเหนื่อยหนักหนา
เก็บไว้จ่ายให้คนที่เค้าคุยดี คุยง่าย ไม่ตุกติก ดีกว่าค่ะ

และต้องจ่ายหลังจากมีเอกสารยืนยันข้อตกลงชำระปิดหนี้มาแล้วเท่านั้น

ดิฉันเคยโดนกสิกรหลอกเหมือนกันนะคะ เจรจา H/C ส่งเอกสารภาระไปตั้งแต่วันที่ 15 กย. กว่านางจะโทรมาบอกว่าอนุมัติก็วันที่ 29 กย. แล้วมีข้อแม้ว่าต้องชำระภายใน 30 กย. ก้อนเดียว

แต่พอดิฉันถามหาเอกสารที่ว่า นางบอกไม่มีให้ ....

"พี่ไปจ่ายที่เคาท์เตอร์ธนาคารได้เลยค่ะ เชื่อหนู"

"ดิฉันไม่เชื่อค่ะ ถ้าคุณไม่มีเอกสารนี้ ดิฉันไม่จ่ายนะคะ !!" เสียงแข็งใส่มันไปเลย ให้มันรู้ว่าเรารู้ทันมัน

"แต่ถ้าพี่จะเอาเอกสารต้องขอเวลาทำเอกสารนะคะ พรุ่งนี้เที่ยงๆ นะคะ" ... (เวลา 15 วันที่ผ่านมามัวไปทำบ้าบออะไรอยู่ไม่ทราบ?)

"ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่มีเอกสาร เจ๊ไม่จ่าย โอเคนะ !!" วางหูใส่ ... หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นก็มีเอกสาร fax มา ...


++++++++++++++++++++++++++

วันจันทร์ที่ 29 ตค. นี้จะไปขึ้นศาลนัดแรกของจอมมารยูค่ะ ไว้ว่างๆ จะมาเล่าฟังนะคะว่าเป็นไงบ้าง

(ปล. ขอย้ำ จขกท. นะคะว่า ให้ตั้งสติให้ดี อย่าเป๋เป็นอันขาด ไม่งั้นโดนหลอกซ้ำซากแน่ๆ ไอ้ยูน่ะ ไม่ต้องไปสนใจมันเลยค่ะ อย่าให้มันมาเหยียบหัวเราค่ะ จำไว้)

leadglass ไปขึ้นศาล UOB มา
เป็นไงมั่งคะ เล่าให้ฟังหน่อย