- จำนวนโพสต์: 5911
- ขอบคุณที่รับ: 2590
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ใครเลือกใช้วิธีที่ 2
ก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับกับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นดังนี้
1.หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอดอย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์
(ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย
2.ต้องบอกครอบครัวให้รู้จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไรและเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย
3.ต้องบอกที่ทำงาน(หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อนคนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร)ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไรและจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชีห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักทีให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่าแล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนรวมงานตามความเหมาะสม
4.จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10,000 เหลือ 5,000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3,500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1,500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัวสำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดูส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัวพยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม
5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และเมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆที่มีสารพัดรูปแบบ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
wisan เขียน: จากที่ผมไล่อ่านกระทู้ ผมเลยกังวลกับ 3 เจ้านี้มากครับ
1.TMB สินเชื่อบุคคล 130170 วงเงิน 147000
2.TMB บัตรเครดิต 70781 วงเงิน 88000
3.KTC สินเชื่อพร้อมใช้ บัตรกดเงินสด 49214 วงเงิน 50000
4.KTC บัตรเครดิต 43101.5 วงเงิน 50000
5.UOB บัตรเครดิต48176 วงเงิน 50000
6. UOB บัตรเครดิต 45414 วงเงิน 50000
-ใครมีประสบการณ์กับ TMBบ้างครับ เขาจะให้ปิดรวมทั้งสองบัตรหรือไม่ ถ้าสองบัตร ยอดผมรวมกันก็ 200,000 เลยครับ
-KTC ,UOBส่วนใหญ่จะรวมสองบัตรใช่มั้ยครับ
ผมเก็บตังได้เดือนละ 5000 ครับ เครียดเลยครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
wisan เขียน: ตอนนี้ กสิกร โทรมาขอปิดยอดทั้งสองบัตร ที่ 35000
โดยวันที่ หยุดจ่าย จะเป็นเดือน พ.ย 2557 ยอดตามนี้ครับ
Kbank สินเชื่อ กดเงินสด 22771 วงเงิน23000
Kbank บัตรเครดิต 41912 วงเงิน 47000
ผมเลยขอเอกสาร และ ขอให้เขาลดให้อีกครับ เพราะเงินไม่พอ
ถ้าลดได้ เขาจะ faxเอกสาร มาพรุ่งนี้เลย พร้อมกับจะขอ สำเนาถูกต้องบัตรประชาชน และภาระหนี้เพียงแค่ 1 รายการเท่านั้นครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
IndyGirL เขียน: นับถือจริง ๆ คะ ต่อรองกันยังไงกับ UOB คะได้ลดเยอะมาก ๆ หรือเพราะเป็นบัตรเครดิตจึงลดเยอะ ของเรานี่ถือว่าจ่ายต้นให้เจ้านี้เต็ม ๆ เลย เป็นเจ้าหนี้ที่เคี่ยวที่สุดที่เจอเลยคะ
ปล. ขอติดตามเคส TMB ด้วยคนนะคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา