ขอความช่วยเหลือหน่อยครับกังวลมาก

สวัสดีครับผมเป็นสมาชิกใหม่นะครับ ขอคำปรึกษาด้วยครับ ร้อนใจเรื่องของตัวเองและแฟนมาก

เรื่องที่1 เรื่องของผมก่อนละกันครับ
1.เมื่อปีที่แล้วผมมีหนี้อยู่3ใบครับ (Umayชำระเต็ม40000บาท, Aeonชำระเต็ม 20000บาท และ1stchoiseชำระเต็ม60000บาท)
เมื่อเดือนพฤษภาคม2014 นั้นผมได้ทำการปิดบัตรไป2ใบนั่นคือ ของ umayและAeon ทำการปิดบัตรแล้วตัดบัตรทิ้งเลย จนถึงบัดนี้ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ของทั้ง2บริษัทโทรมาทวงเงินอีก
แต่ปัญหาของผมคือผมไม่ได้เก็บใบเสร็จที่ทำการปิดบัตรเอาไว้ คือทิ้งไปแล้วหมดเลย ผมเลยกังวลใจว่าจะมีการเล่นแง่อะไรอีกหรือไม่ อยากถามเพื่อนๆว่า ตอนนี้ยอดหนี้บัตรที่ผมเคยปิดทั้งหมด
ไปแล้ว ผมไม่ต้องกังวลใจได้แล้วใช่ไหมครับเรื่องทิ้งใบเสร็จตอนปิดไป

2.อีกบัตรนึงที่เหลือของผม1stchoiseนั้น ก็ชำระยอดขั้นต่ำทุกเดือนแล้วกดเงินสดออกมาหมุนอยู่เรื่อยๆ ปัจจุบันยอดปิดอยู่ที่ 63000บาท ผมมีแพลนว่าจะปิดบัตรนี้ให้หมดอีกในเดือน
พฤษภาคมปีนี้ ผมอยากถามว่าผมพอจะมีวิธีใดบ้างที่สามารถทำได้โดยที่ให้ยอดปิด6หมื่นกว่าดังกล่าวลดน้อยลงมากที่สุด
- ไม่จ่ายตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปจนถึงพฤษภาคมค่อยต่อรองเค้าขอปิด จะทำได้ไหม
- จ่ายขั้นต่ำไปทุกเดือนแบบนี้ ยอมโดนกินดอกมหาโหดแล้วค่อยไปปิดตามช่วงเวลา



เรื่องที่2 เรื่องของแฟนผม
1.แฟนผมมีหนี้อยู่3ใบครับ (scbชำระเต็ม60000บาท, citi ชำระเต็ม20000บาท, 1stchoise ชำระเต็ม 40000บาท)
คือสถานภาพปัจจุบันแฟนผมทำได้แค่จ่ายขั้นต่ำทุกใบไปเดือนๆ แล้วกดมาหมุนตลอด ทำได้แค่นี้จริงๆ บางเดือนก็จ่ายมั่ง ไม่จ่ายมั่ง
ผมอยากได้วิธีที่ดีที่สุดสำหรับแฟนหน่ะครับ ว่าควรทำไงดี เพราะตอนนี้มองเห็นว่าทำงี้ไม่คุ้มอย่างแรง โดนดอกไปเดือนๆ
จากที่อ่านเคสของเพื่อนๆมาหลายๆคนก็คือปล่อยฟ้อง ก่อนฟ้องจะมีhaircut ระหว่างนี้ก็เก็บเงินยาวไป ส่วนตัวผมคิดเองนะว่าแฟนไม่น่าจะห่วงเรื่องเครดิดบูโรอะไร
ก็รอจนกว่าจะเสนอhaircut แลเวค่อยเอาเงินเก็บๆมาปิดทั้งหมด ซึ่งคิดว่าจาก3ใบนั้น ปิดทั้งหมดไม่น่าเกิน120000
สิ่งที่ผมคิดแล้วถามเผื่อแฟนผมมันพอจะเข้าท่าไหม แล้วถ้าเพื่อนๆคิดว่าไม่เวิค มันพอจะมีทางไหนบ้างที่ดีที่สุด


แบล็กกราวของผมและแฟนจะคล้ายกันคือเคยทำงานแล้วสมัครบัตร จากนั้น พอจังหวะย้ายงาน ช่วงยังหางานไม่ได้ทำให้ต้องใช้เงินตลอด และปัจจุบันต่างคนต่างก็มีงานทำใหม่แล้ว แต่ถ้าจะให้มานั่งผ่อนๆไปด้วยดอกโหดๆ แต่ละเดือนก็จะใช้ไม่พอครับ
ตัวผมนั้นดีหน่อยตรงที่ว่ามีโบนัสเป็นก้อนในแต่ละปี ถึงสามารถปิดของตัวเองได้บางส่วนก่อนแฟน

ใจอยากหมดหนี้ครับ ส่วนแฟนผมเค้าไม่ต้องการให้ช่วยอะไรเค้าจะจัดการหนี้ของเค้าเอง แต่ผมกังวลใจและอยากหาทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองและแฟนครับ

ปล.เรายังไม่ได้แต่งงานกันนะครับ อายุไม่ถึงเลข3กันเลยครับ


ขอบคุณทุกความเห็นครับ

เรื่องที่ 1
ข้อที่ 1 จ่ายครบแล้ว ไม่ต้องกังวลใดๆทั้งสิ้นครับ
ข้อที่ 2 ถ้าจ่ายขั้นต่ำแล้วไหว เหลือเงินพอกินพอใช้ ก็จ่ายเถอะครับ จะได้ไม่เสียประวัติ แต่ถ้าเดือดร้อนจริงๆก็หยุดจ่ายแล้วเก็บเงินไป HC ตอนที่พร้อม

เรื่องที่ 2
ถ้าไม่ไหว ก็หยุดแล้วเก็บเงินครับ


วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64

ความรู้ต่างๆอยู่ในลิ้งค์นี้ และกระทู้ปักหมุดอื่นๆ ลองอ่านดูครับ

ผมก็พึ้งจะหยุดจ่ายครับแต่ก็อาศัยอ่านตามกระทู้เพื่อนมาก็ขอแนะนำตามแนวทางผมรู้ว่าเเล้วกันนะครับ

ข้อ1 ลองเช็คเครดิตบูโล ดูครับว่าสะถานะเป็นเช่นไร แต่โดยทั่วไปจ่ายแล้วยังไม่เคยเจอที่มีปัญหาจนต้องเอาเอกสารมายืนยันกันเลยครับ
ข้อ2 ก็หยุดจ่ายครับ รอไปถึงเดือนคุณมีตังค์ค่อยจ่าย h/c ทีเดียว ถึงจะถึงตอนนั้นเขายังไม่เสนอมาแต่คุณมีตังค์แล้วจะกลัวอะไรครับเราเป็นต่ออยู่แล้ว ยังไงเราก็เหนือกว่า

สวนเรื่องของแฟนคุณถ้าเขายังไม่เชื่อว่าวิธีตามแนวทางของชมรมดีและเห็นผลว่าจะหมดหนี้ คุณก็แสดงให้เธอเห็นสิว่ามันเป็นไปได้จริงคร่าวนี้คุณก็หมดนี้แล้วแถมมีตังค์มาช่วยแฟนคุณปิดหนี้อีก สู้ สู้ นะครับ ขอบคุณครับ

อัพเดดหนี้ของ1choice 60000บาท และฝากคำถามปรึกษาหน่อยครับ

วันนี้ครบรอบบิลที่ผมต้องจ่ายแล้ว

ตามแผนคือผมจะหยุดไปเรื่อยๆ

28มกรา2015
28กุมภา2015
28มีนา2015
28เมษา2015
28พฤษภา2015(ตรงนี้ผมว่าน่าจะเริ่มมีเสนอHCแล้ว)

ผมอยากทราบว่าหากผมพอใจตัวเลขแล้วปิดที่ปลายเดือนพค นี้
ชื่อของผมจะสามารถปิดหนี้ก่อนที่ทาง1st choiceจะส่งไปข้่อมูลเครดิตบูโรหรือเปล่าครับ

คือที่ผมอ่านในกระทู้ตอกหมุดมา บอกว่าอาจเป็นไปได้ที่เจ้าหนี้จะส่งข้อมูลปีต่อปี หรือไม่ก็ทุกๆ6เดือน

คือที่ผมวางแผนแบบนี้คือผมอาจมีแพลนกู้บ้านในอีกปีหน้าหน่ะครับ

ใครพอทราบรายละเอียดเรื่องการส่งข้อมูลของเจ้าหนี้ที่ไปเครดิตบูโรช่วยวิเคราะห์ให้หน่อยครับ

ผมแก้ไขหัวกระทู้ไม่เป็นครับ

พอดีเพิ่งไปอ่านถึงมรรยาทการตั้งกระทู้

adminช่วยแก้หน่อยครับ ขอโทษอีกทีครับ

จะว่ายังไงดีหละครับ.. พอคุณหยุดจ่าย สถานะในเครดิตบูโรมันก็เปลี่ยนจาก 10 เป็น 40

สมมุติ คุณมีเงินจ่ายตอนเดือน พ.ค. สถานะหลังจากนั้นมันจะเป็นปิดบัญชี 11

ทีนี้ คุณจะกู้ซื้อบ้านปีหน้า ตอนสิ้นปีนี้บริษัทสินเชื่อก็จะส่งสถานะบูโรเครดิตเข้าไปหมายความว่า

สถานะบูโรเครดิตคุณมันจะโชว์แบบนี้

ม.ค. 58 : 10
ก.พ. 58 : 40
มี.ค. 58 : 40
เม.ย. 58 : 40
พ.ค. 58 : 40
มิ.ย. 58 : 11

แล้วเขาก็จะส่งข้อมูลนี้เข้าไปที่บูโรเครดิต หมายความว่า สถานะแบบนี้ มันจะโชว์ไปอีก 3 ปี ถึงจะถูกล้างจากระบบ

FFM เขียน: จะว่ายังไงดีหละครับ.. พอคุณหยุดจ่าย สถานะในเครดิตบูโรมันก็เปลี่ยนจาก 10 เป็น 40

สมมุติ คุณมีเงินจ่ายตอนเดือน พ.ค. สถานะหลังจากนั้นมันจะเป็นปิดบัญชี 11

ทีนี้ คุณจะกู้ซื้อบ้านปีหน้า ตอนสิ้นปีนี้บริษัทสินเชื่อก็จะส่งสถานะบูโรเครดิตเข้าไปหมายความว่า

สถานะบูโรเครดิตคุณมันจะโชว์แบบนี้

ม.ค. 58 : 10
ก.พ. 58 : 40
มี.ค. 58 : 40
เม.ย. 58 : 40
พ.ค. 58 : 40
มิ.ย. 58 : 11

แล้วเขาก็จะส่งข้อมูลนี้เข้าไปที่บูโรเครดิต หมายความว่า สถานะแบบนี้ มันจะโชว์ไปอีก 3 ปี ถึงจะถูกล้างจากระบบ

งั้นแปลว่าหมดสิทกู้ซื้อบ้านรวมถึงทำบัตรเครดิตอื่นๆเพราะข้อมูลresult 40 โชว์หลาอยู่ติด3ปี

ผมเข้าใจถูกไหมครับ

ผมคิดว่าแบบนั้นนะครับ แต่รอผู้รู้จริงๆมาตอบอีกทีดีกว่า

เพราะอย่างของแม่ผม ตอนสิ้นปี มีจดหมายจากธนาคารส่งมาว่า จะส่งข้อมูลบูโรเครดิต

แล้วก็โชว์สถานะของเรา ที่เขาจะใช้ส่งไป มันก็เป็นประมาณที่ผมบอกคุณไปครับ

แชร์หน่อยครับ

จ่ายงวดสุดท้ายไป26ธค ตอนนี้เลยมาถึงมีนาละ

เริ่มโดนทวงหนัก บอกจะส่งเรื่องไปสำนักงานนอก

เราก็บอกว่าเป็นหนี้ก็อยากจ่ายแต่ตังค์ไม่เหลือ

ส่วนลดอย่าเพิ่งมาตอนนี้นะ ยังไม่มีตังค์ค่อยมาตอนเดือน5โบนัสออกพอดี

พอออกไปสำนักงานนอก อาจโดนโทรทวงบ่อยขึ้น อย่ากังวลครับ รอเวลา
เก็บเงินไว้ พอมีเงิน + มีข้อเสนอดีๆ ก็จ่ายครับ

leader group อนุมัติยอดปิดที่ 35,000 ของ 1st choise แล้ว

แต่ทว่า ตอนตกลงจะปิดในวันที่6พค นี้แต่ทางเค้าไม่ได้faxเอกสารมา

พอมาวันนี้โทรกลับมาบอกว่าจะส่งเอกสารให้วันนี้8พค แต่ในใบจะระบุว่าต้องชำระภายในวันที่6พค.

โดยอ้างกับผมว่า ทางเจ้าหนี้อนุมติส่วนลดช้าไม่ทันวันที่6 แต่ตอนนี้อนุมัติแล้วสารมารถจ่ายเลทได้2-3วัน


ผมไม่ยอมเพราะผมต้องการวันในเอกสารให้ตรง leader group จึงให้หัวหน้าโทรมาแล้วพูดลักษณะเดิม

ผมยังยืนกรานไม่ยอม เค้าเลยงั้นบอกผมว่า งั้นคุณผ่านละกันตรงนี้


ไม่ทราบว่าผมตัดสินใจถูกหรือไม่ครับ ผมเกรงว่าจะมีปัญหาภายหลังถ้าเอกสารกับวันชำระเงินแล้วใบเสร็จไม่ตรงกัน (เซงเครียด มาเล่นมุขไรนี้อ่านมายังไม่เคยเจอ)


ขอบคุณครับ

คุณตัดสินใจถูกต้องแล้วครับ ที่ไม่จ่ายเข้าไป ถ้ามันไม่ยอมแก้ไขวันที่ในเอกสาร

ยืนยันอีกเสียงค่ะว่าตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่จ่าย ถ้าไม่มีการแก้ไขวันที่ให้
กรณีของลูกน้องที่มาปรึกษาก็เจอกรณีเดียวกันือวันที่ที่ระบุให้จ่ายเลยมาแล้วแต่ทาง บัตรเจ้าหนี้ก็มั่วนิ่มว่าจ่ายได้ (ทั้งๆที่ในเอกสารเขียนไว้ว่าถ้าจ่ายเกินกว่วที่กำหนดถือว่าโมฆะ)
ก็เลยแนะนำไปว่าถ้าเขาไม่แก้ไขเอกสารให้ถูกต้องก็อยู่เฉยๆ ยังไม่ต้องจ่ายเดี๋ยวก็เสนอมาใหม่เอง
ล่าสุดผ่านมา 1 เดือนมาเสนอยอดลด 30% เท่าเดิม ก็แนะนำว่าให้ต่อรองไปขอส่วนลด 50% ไปเลย
ผลสรุปคืออนุมัติสามารถปิดหนี้ไปได้เป็นบัตรแรก ขอให้ตั้งสติและอดทน หยุดแล้วเก็บเงินให้ได้เพื่อรอโอกาสค่ะ

ขอบคุณพี่ทั้ง2คนครับ ที่มาเพิ่มความมั่นใจหลังจากตัดสินใจ

ลูกน้องโทรมาคุยดี หัวหน้าโทรมาพูดจากแย่มากๆ อยากจะถีบหน้าให้

ถ้าพูดไม่ดีข้อชื่อ นามสกุลเลย บอกไปเลยว่าจะร้องเรียน
pfs จะใช้วิธีบันทึกเสียงระหว่างสนทนาไว้แทบบทุกครั้ง ถ้าพูดไม่ดีก็จะบอกไปเลยว่าบันทึกเสียงเป็นหลักฐานไว้ร้องเรียน
เป็นหนี้นะ ไม่ได้ห่าใครตาย

มาอัพเดดครับ

เมื่อวานมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา เป็นคนจากสำนักงานใหม่

แจ้งผมคำแรกเลยว่า พี่ติดปัญหาอะไรทำไมพี่นัดชำระกับสำนักงานที่แล้วๆถึงยังไม่ดำเนินการ

ผมนี่งงเลย เลยตอบเค้าไปว่า ตัวผมยังไม่ได้ตกลงจะชำระนะครับ มันมีประเด็นเรื่องวันในเอกสารที่จะให้ชำระไม่ตรง และนอกจากนี้เอกสารที่ออกส่วนลดให้ผมก็ยังไม่เคยได้รับซักแผ่น

เค้าเลยแจ้งผมว่าหากเป็นอย่างนั้นแสดงว่า สำนักงานเดิมหลังจากขอส่วนลดได้แล้วเมื่อมีปัญหาเรื่องวันชำระกับลูกค้า(ผมไม่ยอมตอบตกลงเพราะเอกสารวันที่ไม่ตรง) แล้วไม่ยอมยกเลิกเรื่องให้ผม

ทำให้fcคิดว่าผมเบี้ยวชำระ

ทางสำนักงานใหม่เลยบอกจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาfcก่อน โดยทางผมก็ยืนยันกับเค้าไปว่าเงินก้อนที่ผมมีผมยังมีเท่าเดิม

แต่ทางเค้าก็แจ้งว่าเคสนี้มันเหมือนกับตกลงกันแล้วลูกค้าพลาดไม่ไปจ่ายเองฉะนั้นหากมีส่วนลดอีกจะได้น้อยลงมาก


ผมนี่เซงสุดๆคือเอกสารไรก็ยังไม่ได้รับ หลังจากนั้นก็ไม่มีติดต่อมาบอกข่าวอีก คือตกลงนี่กุผิดใช่ไหมเนี่ย

เจ้าหน้าที่โทรมาแล้วครับ..บอกว่ายอดปิดลดได้เหลือ55000

เหอะๆ จากเจ้าแรกลดมาได้35000

พอมาเจ้าหนี้กระโดดสุดๆ หมั่นไส้หัวหน้าเจ้าแรกมากที่ไม่ยอมยกเลิกเรื่องให้ผม

แบบนี้ผมควรทำไงต่อดีครับ

รถก็ติด..มาถึงห้องมานี่เครียดอีกว่าจะรับมือต่อยังไงดี

ผ่านไปหลายวัน มาอัพเดดให้ฟังเรื่องราวหน่อยครับ

ที่ผ่านมาเคลียร์กับสำนักงานที่2อยู่เรื่องส่วนลด

ยอดวิ่งไป67000กว่าๆแล้วบ้าบอคอแตกมาก

สรุปคือผมโทรเข้าไปอธิบายกับทางเจ้าหนี้ตัวจริง เรื่องสัญญาแรกผิดชำระ เพราะวันในเอกสารไม่ตรงกับวันที่ผมแจ้งชำระ


ปรากฏบ่ายวันนั้นเจ้าหนี้ตัวจริงโทรมาอีกครั้ง
คุยกับผมว่าสัญญาแรกยกเลิกไปแล้ว จำเป็นต้องขอใหม่แต่ยอดจะซ้ำกับยอดเดิมไม่ได้(ตอนนั้นลดเหลือ35000)

เจ้าหนี้ตัวจริง : ผมเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้ว และผมอยากจบให้กับพี่นะ แต่ผมอาจต้องเพิ่มยอดนิดหน่อยเพราะพี่พลาดอันเดิมมาแล้ว
ผม : ครับ..แล้วเอายังไงต่อดีครับ (จิงๆก็รู้แหละว่ามันนัว...เพราะผมยังไม่ได้รับเอกสารh/cไรเลย...แต่แค่มันอยากขยับยอดขึ้นอีก)
เจ้าหนี้ตัวจริง : เดี๋ยวผมจะติดต่อไปทางสำนักงานที่ดูแลเรื่องของพี่เพื่อแจ้งถึงยอดใหม่ที่จะให้ได้ละกัน
ผม : ถ้าเพิ่มมาจากเดิมหลายๆพันถึงหมื่น ไม่ต้องติดต่อผมมานะ ผมไม่มีปัญญาหามาให้ ตอนนี้ลำบากมาก
จนท : ไม่เยอะครับ เดี๋ยวผมดูให้ พี่รอรับโทรสับสำนักงานละกัน

จบการสนทนา

หลังจากนั้นสำนักงานโทรมาหาผม แจ้งว่ายอดปิดที่จะทำเรื่องให้ใหม่อยู่ที่37000....แต่ต้องแฟกซ์สำเนาบัตรประชาชนกับรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อเดือนไปแนบเพื่อประกอบส่วนลดด้วย

ผมขี้เกียจคุยต่อแล้ว ก็เลยตัดสินใจบอกว่าตกลงเดี๋ยวผมจะแฟกซ์ให้ ผมก็ส่งให้ไปแล้วขีดคล่อมไว้แล้วว่า "ใช้ประกอบพิจารณาเพื่อขอส่วนลดเท่านั้น"

ซักพักมันโทรมาว่าได้แฟกซ์แล้ว ให้ผมรอยืนยันจากโทรสับมันอีกที ผ่านมาอีกวันโทรมาแจ้งผมว่าเอกสารh/c เรียบร้อยแล้ว
ผมก็เลยบอกให้แฟกซ์มาเลย

สรุป ยอดหยุดอยู่ที่ประมาณ67000กว่าๆ
h/c แล้วเหลือ 37000 ลดไปประมาณ45%

ถึงแม้ยอดปิดหนี้จะโดนเพิ่มมาหน่อย แต่ผมมองว่าผมสามารถจ่ายได้ ก็เลยตัดสินใจจ่ายๆไปเลย จะได้จบๆไป

ช่วงเวลาหนี้เริ่มเน่าแล้วเรื่องออกไปสำนักงานข้างนอกผมมองว่าสำคัญมาก มันขึ้นอยู่กับดวงด้วยว่าจะได้สำนักงานหมาๆ หรือสำนักงานดีๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยด้วย บอกเค้าถึงความจำเป็นเรื่องเงินที่เราเจออยู่ ผมคิดว่าคนทวงหนี้เค้าก็เป็นคนอ่ะแหละ คงจะเข้าใจเราบ้าง ยกเว้นจะไปเจอพวกหมาจริงๆ

สุดท้ายผมอยากจะบอกว่าผมโชคดีมากๆที่เจอเวปไซต์นี้ กระทู้ปักของแอดมินและเคสตัวอย่างของเพื่อนๆที่เล่าสู่กันฟังมีความหมายมาก

"เราแค่เป็นหนี้ ไม่ได้ฆ่าคนตาย"
"เราไม่คิดที่จะเบี้ยว แต่ขอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน"

สู้ๆครับ

แนบไฟล์ครับ