bank เรียกเก็บหนี้ผมไม่ได้เป็นคนก่อ

มีค่าใช้จ่ายเกิดชึ้น เป็นเงิน 240,000 เยน ค่าเงินญี่ปุ่นครับ เงินไทยประมาณ 74,0505.32 บาท แบงค์โทรมาไกล่เกลี่ย แต่ผมไม่สามารถตกลงได้ เพราะผมไม่ได้เป็นคนใช้ คือ ทางร้านค้าเอาบัตรไปรูดแล้วเซ็นต์เอง ครับ ลายเซ็นต์ใครก็ไม่รู้ครับ ยอดก็ไม่เคยเห็น ผมทำเอกสารไปยัง แบงค์ประเทศไทย พร้อมหลักฐานทุกอย่าง แบงค์ปนะเทศไทยดูหลักฐานหมดแล้ว แต่ธนาคารเจ้าของบัตรไม่ยอม ผมเลยบอกให้เค้าดำเนินการตามเห็ฯสมควรครับ คราวนี้ผมต้องไปศาลครับ ทางแบงค์ประเทศไทยบอกให้ไป เกิดมาไม่เคยเจอเรื่องอย่างนี้ครับ รบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ ว่าผมต้องทำยังไงต่อไปครับ ต้องการความยุติธรรมครับ ผมไม่ผิดแต่ต้องรับผิดชอบ ไม่ยุติธรรมเลยครับ วอนพี่ๆผู้รู้ทุกท่านครับ

เหตุการณ์คือ ร้านค้าเอาบัตรผมไปรูดแล้วบอกไม่ผ่านแล้วคืนบัตรให้ ให้จ่ายเงินสดจำนวน 10,000 เยน แต่วันรุ่งขึ้นผมโทรเช็คแบงค์สรุปว่าบัตรโดนรูดครับเลยสั่งอาญิติ เหตุการณ์ก็ดำเนินมาเรื่อยๆครับ แบงค์ก็บอกรู้ว่าผมโดนโกงแต่ไม่ช่วยจะให้จ่ายครับ แบงค์ไกล่เกลี่ยแล้วครับ ถ้าพี่ๆต้องการหลักฐานผมมีหมดครับ ต้องการคนช่วยเรื่องคดีครับ ไม่รู้จะทำยังไงครับ

โทรมาหาผมสิครับ จะช่วยดำเนินการผ่านทาง"สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ"ให้

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

รบกวนถาม ความรู้อีกเรื่องครับ พวก บ.ทวงหนี้ จะโทรมาคุยแนวไหนครับ ผมคิดว่าอาจจะได้รับโทรศัพท์เร็วๆนี้ครับ อยากจะมีความรู้ว่า ถ้าโทรมาจะเป็นแนวไหน พูดจายังไงครับ ไม่มีประสบการณ์เลยครับ ไม่เคยเป็นหนี้ แต่ต้องมาตกเป็นจำเลย ในสิ่งที่ไม่ได้ทำครับ ขอบพระคุณสำหรับความรู้ครับ

ถ้าเป็นดิฉันคงบอกไปว่า "ไม่ใช่หนี้ของผม ผมไม่จ่ายครับ" และวางสาย

ดูง่ายจังครับ แล้วเค้าจะไม่โทรกลับมาหรอครับ ส่วนใหญ่คำพูดคนทวงจะหยาบคายไหมครับ แล้วเราควรหรือไม่ควรจะทำอะไรบ้าง อ่านคำแนะนำผมก็แอบยิ้ม มีกำลังใจดีครับ

มาต่อเรื่องราวต่อครับ พอดีติดธุระทั้งวัน มีแค่เวลามาพิพม์หยอดๆ

เรื่องนี้เกิดเมื่อ 26 ตุลาคม 2557 ครับ ที่ประเทศ ญี่ปุ่น ผมโดนร้านอาหารเอาบัตรไปรูดบอกไม่ผ่าน เลยจ่ายเงินสดแทน กลับมาไทย 27 โทรเช็ค citi มียอดขึ้น ผมบอกอาญัติ แบงค์จัดการให้ครับ ให้ปฎิเสธการจ่าย ผมก็ทำครับ

จากนั้น เดือนธันวาคมวันที่ 9 ส่งจดหมายมาทวง โดยมีหลักฐาน สลิปพร้อมลายเซ็นต์ใครไม่รู้ งง มากครับ พร้อมใบเสร็จ 240,000 เยน (งงครับ ใครกิน) ผมโทรกลับไป citi ทำการตรวจสอบอีกทีครับ ผมไปแจ้งความ แจ้ง สคบ ธปท ส่งหลักฐานทุกอย่าง ทาง ธปท ให้คำแนะนำดีมากครับ ผมส่งหลักฐานทุกอย่างเพื่อยืนยัน ทาง ธปท ส่งจดหมายถึงแบงค์ จนแบงค์โทรมาบอกว่า รู้ว่าผมถูกโกง แต่มีแอบขู่นิดนึงถ้าไม่รับข้อเสนอ

แบงค์จะช่วย 30 ผมรับเอง 70 ผมเลยบอกว่า ผมไม่ผิดจะให้จ่ายได้ยังไง เป็นคุณจะจ่ายไหมครับถ้าคุณไม่ผิด ทำแบงค์มาฆ่าผม แบงค์บอกผมประวัติดี เพราะผมไม่เคยค้างชำระ ผมก็บอกว่า ประวัติผมคุณเช็คได้ ผมไม่เคยใช้เงินขนาดนี้ คุณเองก็บอกรู้ว่าผมโดนโกง ทำไมถึงไม่ไปเอาจากทางร้านค้า

ซึ่งเรื่องนี้ ธปท แนะนำผมไว้แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น วันที่ 12 มกราคม 2558 แบงค์โทรมาถามว่า ผมจ่ายได้เท่าไหร่ ผมบอกว่าผมไม่อยากจ่ายในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ แต่ถ้าจะให้จ่ายจริงๆ ผมจ่ายได้ 5,000-10,000 บาท จากยอด 74,050.32 บาท แบงค์บอกขอปรึกษาก่อน โทรกลับมา บอกว่าช่วย 50% ผมตอบว่า ผมไม่ไหว เลยบอกว่าถ้าเงื่อนไขเราไม่ตรงกัน เราเดินมาถึงทางแยก ผมไม่เคยดื้อกับแบงค์ ประวัติผมดี ไม่เคยติดแบงค์เลย ชำระตรงและเกินตลอด ผมขอให้แบงค์ดำเนินการกับผมตามที่สมควรแล้วกัน และ ผมเป็นผู้บริโภค ผมก็มีทางของผมเหมือนกัน นี่คือคำตอบผมที่ให้กับแบงค์ วันที่ 13 มกราคา 2558

ผมมาคิดว่า ถ้า case นี้ผมแพ้ ธนาคารจะเป็นระบบที่ไว้วางใจไม่ได้เลย ถ้าเราไปร้านค้าจ่ายบัตร แล้วร้านบอกไม่ผ่านเอาบัตรเราไปเซ็นต์เอง แล้วเราต้องรับผิดชอบ แถมแบงค์จะฟ้องเราอีก ยังงี้ไม่มีบัตรดีกว่าครับ

ต้องขอบคุณ เวป นี้มากๆครับ ที่มี case study ดีๆ และ ผู้รู้ที่ช่วยเหลือ ใน case ของผม ผมอยากสู้เพราะผมไม่ผิดครับ ผมบอกแบงค์ว่าถ้าผมผิด ผมไม่กล้าสู้กลับแบงค์ขนาดนี้ ผมพยายามเรียกร้องความถูกต้อง ความยุติธรรมให้กับตัวเองครับ รบกวนผู้รู้ทุกท่าน อย่างน้องมันก็จะเป็นบทเรียนให้กับคนอื่น ไม่ว่าผมจะแพ้ หรือ จะชนะ มันก็จะเป็น case ที่ไว้ศึกษาครับ ผมจะทำเต็มที่ ขอบพระคุณเวปนี้มากๆครับ และ ประธานชมรม อย่างสูงครับ