รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำทางออกให้ที กรณีแบบนี้ผมลองหาดูกระทู้เก่าๆแล้วไม่มีปัญหาแบบนี้

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62558 โดย darkman2523
สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆในบอร์ด คือผมอยากจะปรึกษาเกี่ยวกับหนี้สินที่ผมแบกอยู่มานาน 9 ปีเต็มๆ ตั้งแต่เริ่มทำงาน จนถึงปัจจุบัน มันไม่เคยลดลงเลย ทำให้ผมไม่มีสมบัติทรัพย์สินใดๆเลย เหมือนกับว่าทำงานใช้หนี้อย่างเดียวมาตลอด แทบไม่มีเงินเหลือมาใช้จ่ายในครอบครัวเพื่อเลี้ยงดูแลพ่อ แม่ และลูก จนทุกวันนี้พ่อผมต้องออกไปเก็บขวดขาย เพื่อมาช่วยจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ทั้งๆที่ท่านก็อายุมากแล้ว เมื่อเห็นสภาพครอบครัวเป็นแบบนี้จึงต้องหาทางออกด้วยการหยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดต่างๆ แต่เนื่องด้วยไม่มีความรู้และประสบการณ์ กลัวว่าตัวเองจะตัดสินใจผิดพลาดเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา เลยค้นหาประสบการณ์จากผู้อื่นใน Internet จนมาเจอบอร์ดแห่งนี้ น่าจะมีข้อคิดและข้อแนะนำที่ดีให้ผมฝ่ามรสุมหนี้ไปได้
หนี้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น จะเล่าให้ทุกท่านฟังก็จะหาว่าดราม่าเกิน เอาเป็นว่ามันพลาดไปแล้วต้องหาทางเริ่มใหม่ เพื่อทุกคนในครอบครัว

หนี้ทั้งหมดของผมมีดังรายการต่อไปนี้
1.หนี้สินเชื่อธนาคารออมสิน 1,200,000 บาท โดยทำสัญญาผ่อนชำระ 10 ปี ให้หักจากบริษัทเดือนละ 14,900 บาท(ตอนแรกกู้มา 750,000 บาท เพื่อปิดบัตรเครดิตทุกใบ แต่เนื่องจากจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตอีกจนเต็มทุกใบ จึงต้องไปกู้มาปิดบัตรเครดิตทั้งหมดอีกครั้ง)
2.บัตรเครดิตกรุงไทย ยอดหนี้ 73,000 บาท ยังจ่ายขั้นต่ำอยู่เพราะกลัวฟ้องมาพร้อมกันๆรับศึกไม่ทัน
3.บัตรเครดิต AEON ยอดหนี้ 95,000 บาท ยังจ่ายอยู่เพราะติดเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ 1 คัน เหลือ 1 ปี
4.บัตรเครดิต LOTUS ยอดหนี้ 65,000 บาท หยุดจ่ายตั้งแต่ พฤษภา 57
5.บัตรเครดิต HSBC ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นกรุงศรีฯ ยอดหนี้ 88,000 บาท หยุดจ่ายตั้งแต่ พฤษภา 57
6.บัตรเครดิต UOB ยอดหนี้ 75,000 บาท หยุดจ่ายตั้งแต่ พฤษภา 57
7.บัตรกดเงินสด UOB ยอดหนี้ 50,000 บาท หยุดจ่ายตั้งแต่ พฤษภา 57
8.บัตรเครดิต KBANK ยอดหนี้ 30,000 บาท หยุดจ่ายตั้งแต่ พฤษภา 57
9.บัตรกดเงินสด KBANK ยอดหนี้ 32,000 บาท หยุดจ่ายตั้งแต่ พฤษภา 57
10.บัตรกดเงินสด CityBank ยอดหนี้ 50,000 บาท หยุดจ่ายตั้งแต่ พฤษภา 57
11.หนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ Krungsri Auto ผ่อนชำระเดือนละ 8,900 บาท เหลืออีก 48 เดือน (รถยนต์คันนี้กะเป็นสมบัติชิ้นแรกของผมตั้งแต่ทำงานมา ถ้าสามารถส่งหมด ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงดีขายเต๊นท์ก้โดนกดราคา 200,000 ต้นๆไม่พอจ่ายปิดไฟแนนซ์ที่ยอด 430,000 บาท จะคืนไฟแนนซ์ก็กลัวไฟแนนซ์เอาไปประมูลได้ราคาต่ำพอๆกับเต๊นท์รถ ก็จะทำให้เราเป็นหนี้โดยอัตโนมัติเพื่อจ่ายส่วนต่าง เลยกัดฟันส่งมาเรื่อยๆอย่างน้อยลูกไม่สบายจะได้ไม่ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์ตากแดดเสี่ยงอุบัติเหตุอีก)

รายจ่ายทั้งหมดผมต้องรับผิดชอบคนเดียวเพราะแฟนหนีไปแล้วเหลือลูกน้อยไว้ให้ดุแล
โดยรายได้จากของผมมาจากทำงานบริษัทเอกชน ฐานเงินเดือน 18,910 บาท ซึ่งบริษัทหัก ณ ที่จ่ายก็หมดแล้วครับ(เงินกู้ออมสิน 14,900 บาท + ประกันสังคม 750 บาท +สำรองเลี้ยงชีพ 1300 + ภาษี 1500)ทุกวันนี้อยู่ได้เพราะ O.T และสวัสดิการของบริษัท)

อยากทราบว่า
1.เจ้าหนี้บัตรต่างๆถ้าฟ้องบังคับคดีเพื่อหัก 30%แล้ว สามารถหักจากบริษัทได้เลยหรือไม่ เพราะตอนนี้ผ่อนชำระสินเชื่อกับธนาคารออมสิน สัญญาเหลืออีก 8 ปี)
2.ผมจะเผชิญกับปัญหาข้างหน้ายังไงดี ผมไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นของตัวเองให้เจ้าหนี้ยึด มีเพียงแต่เงินเดือนที่ได้รับแต่ละเดือน
3.เรื่องรถที่ผมผ่อนอยู่ ตอนนี้ผู้มีสิทธิฟ้องยึดรายแรก คงจะเป็นธนาคารกรุงศรี เจ้าแรกแต่ต้องรออีกถึง 4 ปี ซึ่งจากนี้ไปผมคงสามารถ H/C กับทางธนาคารได้ก่อนผมคิดถูกมั้ย มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

ปล.ดีนะผมไม่ตัดสินใจกดเงินจากบัตรกดเงินสด KTC และบัตรเครดิต Citybank เพื่อมาจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตอื่นๆ ไม่งั้นมันไม่ลดหนี้กับเพิ่มหนี้ให้ผม พึ่งทราบหลังจากมาอ่านในกระทู้อื่นๆในบอร์ด

อนึ่งเนื่องจากมีเจ้าหนี้เยอะโทรมาไม่ขาดสาย ทำให้ผมประสาทแทบกินเลยตัดสินใจเลือกไม่รับสายไปพัก
พอรับผมก็บอกให้ทำตามระบบไปเลยผมยังไม่มีตอนนี้ เป็นการท้าทายเจ้าหนี้มั้ยแบบนี้

ต่อไปนี้ถ้ามีเจ้าหนี้โทรมาผมจะรับทุกสาย ไม่กลัวเหมือนก่อนตั้งแต่ได้มาศึกษาในกระทู้ปักหมุด และจะใช้แนวทางตามที่ท่านอื่นๆเคยแนะนำในกระทู้ของแต่ละคน แล้วจะมาอัพเดทให้ทุกคนทราบว่าสถานการณ์เป็นยังไง อย่างน้อยตั้งแต่ค้นพบเจอกระทู้นี้ ผมคิดว่าผมไม่ได้โดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อน

โทษทีนะครับเขียนยาวไปหน่อย แต่เหมือนกับผมได้ระบายใจที่อัดอั้นมานาน.. หนี้ผมต้องใช้แน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่มี ถ้าผมได้โบนัสแต่ละปีจะติดต่อไปปิด ผิดถูกประการใด ขออภัย ด้วยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62560 โดย FFM

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62562 โดย pfs
ถ้าให้ตอบตามตรงก็ขอบอกว่าเป็นโจทย์ที่ยากมาก
1. รายได้สุทธิไม่มากนัก แต่รายจ่ายคงที่เกินกว่ารายรับ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะโดนหักจากบัญชีเงินเดือน
2. ระยะเวลาที่คุณหยุดจ่ายนานพอที่บางบัตรจะฟ้องคุณต้องเตรียมตัวรับมือ
3. ถ้าคุณไม่มีความสามารถจ่ายคืนหนี้ มีโอกาสที่จะไปสิ้นสุดที่การอายัดเงินเดือน ซึ่งข้อนี้น่าห่วงเพราะ
การอายัดเขาจะคิด 30% ของรายรับที่ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใดๆ รวมถึงยอดเงินกู้ที่คุณถูกหักเงิน ฉนั้นเท่ากับว่าเงินเดือนทั้งหมดของคุณรวมทั้งโอที จะโดนอายัด 1 ส่วนอันดับแรก ส่วนที่เหลือก็จะโดนหักเรื่องเงินกู้สวัสดิการ
4. เรื่องเงินกู้สวัสดิการเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขอยืดระเวลาเพื่อลดยอดผ่อนลง จะเป็นทางนึงที่คุณจะพอเอาตัวรอดได้บ้าง
5.ส่วนถ้าโดนอายัดแล้ว ก็ยังสามารถยื่นเรื่องขอลดลงเหลือ 15% ซึ่งคุณก็ต้องเตรียมหลักฐาน ภาระ ต่างไว้
แสดงเพื่อขอลดยอดอายัด
6.ส่วนแนวทางใช้หนี้คงจะเป็นยากพอสมควร นอกจากคุณต้องหารายได้เสริมเพื่อเก็บเงินเพิ่ม
7.ถ้าเลือกแนวทางให้อายัดเงินเดือน ข้อดีคือเจ้าหนี้จะอายัดได้ทีละ 1 แห่งจนกว่าจะหมด

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62563 โดย darkman2523
เมื่อกี้มีเจ้าหนี้โทรมา 2 เจ้า
คือ บัตรเครดิต LOTUS และ บัตรกดเงินสด Citybank
1.เจ้าหนี้บัตรเครดิต LOTUS
จนท .ติดต่อให้ชำระปิดยอด จาก 70,800 เหลือ 45,000 บาท
ผม บอกว่ายังไม่มี
จนท.บอกให้จ่ายขั้นต่ำเข้าไปก่อน
ผม บอกว่าไม่มีอีก
จนท.งั้นทางเราขอส่งฟ้องตามระบบนะ
ผม. ครับ
2.เจ้าหนี้บัตรกดเงินสด Citybank
จนท .ติดต่อให้ชำระปิดยอด จาก 60,000 มั้ยเรามีส่วนลดให้
ผม บอกว่ายังไม่มี
จนท.บอกให้จ่ายขั้นต่ำเข้ามาก่อน ได้มั้ย
ผม บอกว่าไม่มีอีก
จนท.งั้นทางเราขอส่งฟ้องคดีคุณขึ้นศาลนะ
ผม. ครับ แล้วผมก็วางสาย

ทั้ง 2 เจ้า ผมหยุดจ่ายมาตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 57 ครับ
คือตอนนี้ผมก็นั่งอ่านวิธีการตอบโต้ต่างๆจนตาลายแล้ว แต่มันโทรมาเร็วมากผมยังศึกษาประสบการณ์คนอื่นยังได้ไม่มากเลย ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังไม่มีเงินที่จะไปปิดบัญชีไหนได้เลย ผมบอกว่าไม่มีแล้วให้เค้าส่งฟ้องไปเลยอย่างนี้เป็นการท้าทายเจ้าหนี้มั้ยครับ นี้คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผมในตอนนี้ด้วยใช่มั้ยครับ
ผมก็ยิ่งพุดไม่ค่อยเก่งด้วย ชั่วโมงบินเรื่องแบบนี้น้อย ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62565 โดย pfs
คุณรับโทรศัพท์ไปเถอะ บอกเค้าไปว่าเรามีปัญหา ขอเวลาเคลียร์ปัญหาก่อน เรามีเจตนาที่จะใช้หนี้คืนแต่ต้องขอเวลาเคลียร์ปัญหาก่อน แล้วจะจ่ายเมือ่เราพร้อม ท่องไว้ตายตัวไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องไปเครียด เพราะถ้าเราเครียด เราทุกข์ ถ้าไม่สบายตัวเรายิ่งลำบากไปใหญ่ เดี๋ยวก็มีทางออกค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62567 โดย darkman2523
ขอบคุณครับ คุณ pfs
ผมนอนไม่หลับหลายวันแล้วเครียดกังวลไปหมด จะเอายังไง จะทำไรก่อนอะไรหลัง จนมาเจอบอร์ดนี้ ผมก็นั่งอ่านไม่สนใจงานเลย เพราะรีบเก็บข้อมูล ก่อนที่จะตัดสินใจผิดพลาด นี่ผมก็เกือบปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ไปแล้ว 2-3 ราย อย่างว่าล่ะนะเอาเงินเค้ามาผมก็อยากจ่ายให้ แต่ตอนนี้ผมไม่มี ถ้าผมมีผมก็จ่ายให้มาตลอดตั้ง 8-9 ปี ไม่เห็นต้องมาทวงผม เพราะตอนนั้นผมพอหมุนจากจ่ายขั้นต่ำแล้วกดออกมาจ่ายอีกบัตรแบบนี้จนเป็นกิจกรรมประจำเดือน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #68392 โดย darkman2523
มีหมายศาลมาบัตรแลกแล้วครับ เป็นบัตรกรุงศรี ให้นัดขึ้นศาลต้นเดือนมิถุนายนนี้ อยากรู้ว่าทำยังไงเราจะยื้อไปศาลให้ครบถึง 3 ครั้ง เพื่อยืดเวลาศาลตัดสินไปให้สิ้นปี เพื่อรอโบนัส มา Hair cut กับเจ้าหนี้รายนี้ได้ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #68396 โดย jackTs
.
ไม่มีทางหรอกครับ ที่ขอขอเลื่อนนัดศาลให้ยืดไปถึงสิ้นปี
เต็มที่ ก็ขอเลื่อนไปได้อีกแค่ เดือน สองเดือน เท่านั้น
และสามารถขอเลื่อนศาลได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #68399 โดย darkman2523
ขอบคุณครับ พี่นกกระจอกเทศ

พอจะถึงวันศาลนัดจริงๆว่าจะไม่เครียด มันกลับเครียดขึ้นมาอีก ในกรณีแบบผมนี้ถ้าขึ้นศาลครั้งแรกแล้วผมไม่พร้อมที่จะ Hair cut ได้ เพราะสถานะการเงินตอนนี้ยังแย่อยู่เดือนชนเดือน ไม่มีเงินเก็บ หนทางที่ดีที่สุดสำหรับผมถ้าปล่อยให้ศาลตัดสินแล้วรอบังคับคดี อายัดเงินเดือน จะดีกว่าทางอื่นมั้ยครับ เพราะกว่าจะทางบังคับคดีจะยื่นเรื่องมายังบริษัท วิธีอาจทำให้เรามีเวลาตั้งนานขึ้น พี่นกกระจอกเทศว่าผมคิดผิดมั้ย เพราะบัตร UOB ก็บอกหมายศาลอกแล้วให้รอรับอีก 1 หมาย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #68402 โดย jackTs
คุณคิดถูกแล้วครับ ถ้ายังไม่มีเงินเก็บเพื่อไปทำ Haircut ได้ ก็ปล่อยให้เจ้าหนี้มันฟ้อง แล้วให้มันไป"เข้าแถว"รออายัดเงินเดือนไปที่ละเจ้า ทีละราย

พอพวกมันต้องมา รออายัดเงินเดือนแบบนี้ ซึ่งต้องใช้เวลานานมากๆกว่าจะหมดหนี้
เดี๋ยวมันก็จะติดต่อกลับเข้ามาใหม่ เพื่อเจรจาขอทำ Haircut กันอีกที เพราะดอกเบี้ยที่พวกมันจะได้ระหว่างการรออายัดเงินเดือนนี้ เป็นดอกเบี้ยตามที่ศาลสั่ง(ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าดอกเบี้ยของบัตรเครดิตมาก)

โดยเฉพาะไอ้บรรดาเจ้าหนี้ที่ต้องมาต่อคิวเข้าแถวเป็นรายหลังๆ ไอ้พวกนี้ยิ่งซวยเข้าไปกันใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหนกว่าจะถึงคิวของมัน ดังนั้น ไอ้พวกที่ต้องมาเข้าแถวเป็นรายหลังๆนี้ มันจะให้ราคา Haircut ที่งามใช้ได้เลยล่ะครับ


ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64


ปล. แต่ต้องระวังเรื่องการถูกยึดรถในอนาคตด้วยนะครับ หลังจากที่ผ่อนจ่ายค่ารถจนหมดแล้ว

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #68416 โดย chanisorn
เข้ามาอ่านหาข้อมูลค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้สู้ ๆ ค่ะ
คำแนะนำของคุณนกระจอกเทศ ยอดเยี่ยมค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #68421 โดย Rjumma
เข้ามาอ่านแล้ว น่าสงสารเจ้าหนี้คะ คงต้องต่อคิวกันยาวเลย :ไม่ยอม:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #68428 โดย เจ๋งแจ๋ว
ค่อยๆคิดแก้ปัญหานะครับ
มันเกิดขึ้นแล้วนั่งกังวลไปเสียเวลาเปล่าครับ ( รู้ครับว่าพูดง่าย แต่ทำยาก )
แต่เอาเวลาที่เสียไปกับการนั่งกังวล มาคิดว่าจะหาช่องทางเพิ่มรายได้ยังใงน่าจะเวิร์คกว่าครับ

ลองคิดดูว่าคุณสามารถหารายได้เพิ่มเติมจากช่องทางใหนได้เพิ่มครับ

สู้สู้ ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #70754 โดย darkman2523
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมได้ไปขึ้นศาลโดยมีบัตรกรุงศรีเป็นโจทย์ พอไปถึงนั่งในห้องพิพากษา ได้มีทนายทางโจทย์เข้ามาถามว่าพอจะผ่อนไหวมั้ย ซึ่งผมก็ไม่ได้ถามว่าจะให้ผมผ่อนยังไง เดือนละเท่าไหร่ ผมจึงบอกว่ายังไม่มี กลัวทนายโจทย์เอาสัญญาทาส เอาหนังสือปรับปรุงโครงสร้างหนี้มาให้เซ็น จะตอบรีบปฏิเสธไปและด้วยความที่ยังไม่เคยขึ้นศาล ผมคิดว่าศาลคงจะตัดสิน ให้ชดใช้หนี้ ตามกำลังเรา โดยกำหนดระยะเวลา แต่เปล่าเลยครับ ศาลถามว่าเป็นหนี้ตามโจทย์ฟ้องมั้ย ผมก็ตอบท่านไปว่าครับ แล้วท่านก็บอกว่าเดี๋ยวจะพิจารณา ลดดอกเบี้ยให้บางส่วน และให้โจทย์ติดตามต่อ แค่นี้ท่านก็บอกว่าเรียบร้อย ให้ออกไปนั่งรอได้
มาวันนนี้ทางเจ้าหน้าที่บัตรกรุงศรีได้โทรมาว่าพอจะปิดได้มั้ย หรือดำเนินการอย่างไร คดีจะได้สิ้นสุด และจะขอผู้ใหญ่ให้มีส่วนลด (ผมก็คิดในใจผู้ใหญ่นี่ใครกันหรือครับ เจ้าของธนาคารหรือหุ้นส่วนกันถึงจะลดให้ผมนี่) ผมก็เลยตอบไปว่าศาลตัดสินแล้วก็น่าจะสิ้นสุด ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้าไม่ติดต่อเค้าก็จะไม่มีส่วนลดให้ ผมจะทำไงต่อไปดีครับ ผมเดินทางตามทางที่ถูกต้องแล้วหรือยัง ช่วยแสดงความคิดเห็นให้ผมที
ปล.
1. เรื่องรถตอนนี้ยังติดไฟแนนซ์ อยู่อีก 45 งวด ซึ่งเป็นสมบัตรชิ้นเดียวที่ผมมี และยังผ่อนไม่หมด
2.หนี้ธนาคารออมสินที่ถูกหักอยู่เดือนละ 14900 บาท ถ้าถูกบังคับคดีอาจจะส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงานที่ค้ำประกัน เพราะถ้าบริษัทไม่หักตามจำนวนเท่านี้ให้ทางออมสิน ก็ต้องหักคนค้ำ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #70755 โดย Pych

darkman2523 เขียน: เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมได้ไปขึ้นศาลโดยมีบัตรกรุงศรีเป็นโจทย์ พอไปถึงนั่งในห้องพิพากษา ได้มีทนายทางโจทย์เข้ามาถามว่าพอจะผ่อนไหวมั้ย ซึ่งผมก็ไม่ได้ถามว่าจะให้ผมผ่อนยังไง เดือนละเท่าไหร่ ผมจึงบอกว่ายังไม่มี กลัวทนายโจทย์เอาสัญญาทาส เอาหนังสือปรับปรุงโครงสร้างหนี้มาให้เซ็น จะตอบรีบปฏิเสธไปและด้วยความที่ยังไม่เคยขึ้นศาล ผมคิดว่าศาลคงจะตัดสิน ให้ชดใช้หนี้ ตามกำลังเรา โดยกำหนดระยะเวลา แต่เปล่าเลยครับ ศาลถามว่าเป็นหนี้ตามโจทย์ฟ้องมั้ย ผมก็ตอบท่านไปว่าครับ แล้วท่านก็บอกว่าเดี๋ยวจะพิจารณา ลดดอกเบี้ยให้บางส่วน และให้โจทย์ติดตามต่อ แค่นี้ท่านก็บอกว่าเรียบร้อย ให้ออกไปนั่งรอได้


ศาลท่านทำหน้าที่ของท่านครบถ้วนถูกต้องแล้วครับ มีเอกสารจากโจทก์มาว่าจำเลยเป็นหนี้ แต่จำเลยไม่มีคำให้การ ไม่มีทนาย ไม่เอกสารใดๆ อีกทั้งทางวาจา ท่านก็ถามคุณแล้ว คุณก็ยอมรับว่าเป็นหนี้จริง แสดงว่า จำเลยยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหาของโจทก์ ศาลท่านก็เมตตาคุณมากแล้วนะครับ ที่ท่านบอกว่าจะพิจารณา ลดดอกเบี้ยให้บางส่วน

คุณควรจะศึกษาหาข้อมูลก่อนไปศาล จะได้เข้าใจและรู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร ในการไปศาล
ไม่ใช่ไปศาลโดยไม่ศึกษาหาความรู้ พอไม่เป็นไปตามที่ตัวคุณเองหวังก็มาบ่นในกระทู้

กระทู้ ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล ที่พี่นกกระจอกเทศ สละเวลาเขียนยาวเหยียด อธิบายไว้ดีมาก คุณควรอ่านก่อนไปศาล รวมทั้งกระทู้ต่างๆ ในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ อ่านตอนนี้ก็ยังไม่สายนะครับ
่อ่านเยอะๆ ครับ คำตอบที่คุณหาอยู่ในนั้นหมดแล้วครับ แล้วก็ระวังข้อความที่เขียนในกระทู้ด้วยครับ คุณกำลังเข้าข่ายหมิ่นประมาทศาล อยู่นะครับ


ผู้ใดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198)

darkman2523 เขียน: มาวันนนี้ทางเจ้าหน้าที่บัตรกรุงศรีได้โทรมาว่าพอจะปิดได้มั้ย หรือดำเนินการอย่างไร คดีจะได้สิ้นสุด และจะขอผู้ใหญ่ให้มีส่วนลด (ผมก็คิดในใจผู้ใหญ่นี่ใครกันหรือครับ เจ้าของธนาคารหรือหุ้นส่วนกันถึงจะลดให้ผมนี่) ผมก็เลยตอบไปว่าศาลตัดสินแล้วก็น่าจะสิ้นสุด ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้าไม่ติดต่อเค้าก็จะไม่มีส่วนลดให้ ผมจะทำไงต่อไปดีครับ ผมเดินทางตามทางที่ถูกต้องแล้วหรือยัง ช่วยแสดงความคิดเห็นให้ผมที
ปล.
1. เรื่องรถตอนนี้ยังติดไฟแนนซ์ อยู่อีก 45 งวด ซึ่งเป็นสมบัตรชิ้นเดียวที่ผมมี และยังผ่อนไม่หมด
2.หนี้ธนาคารออมสินที่ถูกหักอยู่เดือนละ 14900 บาท ถ้าถูกบังคับคดีอาจจะส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงานที่ค้ำประกัน เพราะถ้าบริษัทไม่หักตามจำนวนเท่านี้ให้ทางออมสิน ก็ต้องหักคนค้ำ


1. รถที่ยังผ่อนกับไฟแนนซ์อยู่ ยังไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของคุณ โจทก์ตามคำพิพากษายึดไม่ได้ แต่ผ่อนหมดเมื่อไหร่ โอนมาเป็นชื่อคุณ เขาก็สามารถให้จนท.กรมบังคับคดีมายึดได้นะครับ

2. การอายัดเงินเดือน จะอายัดได้ทีละราย หรือทีละคดี หากคุณยังไม่เคยถูกอายัดจากกรมบังคับคดี (หลังพิพากษาแบบครั้งนี้) บริษัทของคุณต้องหักเงินเดือนของคุณนำส่งกรมฯ หากไม่ส่ง บริษัทของคุณจะมีความผิดครับ เขาไม่สนใจว่าคุณมีภาระอะไรอยู่หรอกครับ แต่คุณสามารถนำหลักฐานภาระหนี้ไปขอลดหย่อยกับกรมบังคับคดีได้ ซึ่งอาจได้รับลดหย่อนจาก 30% เหลือ 15% ครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #70763 โดย darkman2523
โทษทีครับ....ผมไม่ได้มีเจตนาหมิ่นศาล หากผมเข้าข่ายหมิ่นโดยไม่ได้ตั้งใจก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
ที่ผมบรรยายตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างกับที่ผมจินตนาการเหมือนกับในหนัง ในละคร ไม่ได้ตั้งใจจะบ่นนะท่านและไม่คิดจะบ่น เพียงเพราะอยากให้เพื่อนๆแนะนำว่าผมควรทำยังไง คราวหน้าจะได้เตรียมตัวถูกจากการที่เราเคยขึ้นศาลครั้งแรก ที่ในห้องภายในศาลผมเห็นแต่ทนายเต็มหน้าบัลลังค์เลย จากหลายคดี คงเป็นเพราะคงมีคดีแพ่งแบบนี้เยอะมากแน่ๆ ผมประหม่ามากเลย และผมไม่รู้ธรรมเนียมศาลด้วยว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง เมื่อไหร่เราจะได้พู เมื่อไหร่ศาลท่านจะถาม พอตัดสินเสร็จผมยังไม่รู้เรื่องเลยว่าท่านตัดสินยังไง ยอดหนี้อยู่ที่เท่าไหร่ ผมก็เลยเดินเข้าไปถามกับทนายโจทย์เลย ทางทนายโจทย์ก็บอกว่าอีกประมาณ 1 เดือนให้มาดูผลการตัดสินที่ศาลอีกครั้ง
เดือนหน้ามีขึ้นศาลอีกครั้ง ผมว่าจะลองไกล่เกลี่ยดู ขอยอดที่เราพอไหว และระยะเวลาที่นานที่สุด ถ้าไม่ไหวจริงๆค่อยให้ศาลท่านตัดสินอีก

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #70766 โดย jackTs

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #70770 โดย okok
ตรงอายัดเงินเดือนได้ ทีละรายนะคะ

ปัจจุบันนี้ เขาอายัดได้หลายรายค่ะ แต่ว่าต้องไม่เกิน 30% ของเงินเดือน

สมมุติมี เจ้าหนี้ 5 ราย ก็เอา 30% หาร 5 ค่ะ แต่หนี้แต่ละเจ้าจะหมดช้า

เอาไว้สำหรับคนที่มีหนี้หลายรายและ ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ วิธีอายัดเงินเดือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ

บางเจ้าหนี้ เขาไม่รอนะ เขาจะไปยึดทรัพย์ต้องระวังเรื่องทรัพย์สินด้วย ถ้าไปโยกย้าย ทรัพย์สิน ตอนโดนฟ้องแล้ว

จากคดี แพ่งธรรมดา จะกลายเป็นคดีอาญา

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #70773 โดย darkman2523
ขอบคุณครับ พี่ๆทุกท่าน ผมอ่านกระทู้ทุกกระทู้แต่มันเยอะมาก จนไม่รู้จะ Focus ตรงไหน มันหลายกรณีมากทำให้ผมจำไม่ได้ แม้จะอ่านหลายรอบ มันเหมือนน้ำเต็มแก้วเลยครับ เติมแล้วล้นออกหมดเลย สมองผมนี่แย่จริงๆ ต่อไปนี้สำคัญกับผมมากที่สุดก็ตามที่พี่นกกระจอกเทศส่งลิ้งค์มาให้ จะพยายามอ่านและจำให้ได้มากที่สุด ถ้าผมยังมีประเด็นสงสัยอีก เดี๋ยวมาถามพี่ไขข้อข้องใจอีกครั้งนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #70774 โดย Pych

okok เขียน: ตรงอายัดเงินเดือนได้ ทีละรายนะคะ

ปัจจุบันนี้ เขาอายัดได้หลายรายค่ะ แต่ว่าต้องไม่เกิน 30% ของเงินเดือน

สมมุติมี เจ้าหนี้ 5 ราย ก็เอา 30% หาร 5 ค่ะ แต่หนี้แต่ละเจ้าจะหมดช้า

เอาไว้สำหรับคนที่มีหนี้หลายรายและ ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ วิธีอายัดเงินเดือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ

บางเจ้าหนี้ เขาไม่รอนะ เขาจะไปยึดทรัพย์ต้องระวังเรื่องทรัพย์สินด้วย ถ้าไปโยกย้าย ทรัพย์สิน ตอนโดนฟ้องแล้ว

จากคดี แพ่งธรรมดา จะกลายเป็นคดีอาญา


ผมขอเสริมนะครับ

การอายัดเงินเดือน กรมบังคับคดีจะอายัดเต็มที่ 30% ของเงินเดือนก่อน แต่จะต้องเหลือให้จำเลยดำรงชีพอีก 10,000 บาทและ คงไม่มีมีเจ้าหนี้หลายๆ รายจับมือไปติดต่อกรมบังคับคดีให้อายัดเงินเดือนพร้อมกัน 5 ราย นอกจากว่า 5 คดีเป็นเจ้าหนี้รายเดียวกัน แต่คนละบัตร คนละคดี และพิพากษามาในเวลาไล่เลี่ยกัน

ในทางปฏิบัติแล้ว กรมจะอายัด 30% ส่วนลูกหนี้จะร้องขอลดหย่อนอายัดเงินเดือน ก็สามารถทำได้ แต่ส่วนใหญ่จะได้รับลดหย่อนเหลือ 15-20% ไม่น่าจะมีใครที่ได้รับลดหย่อนจนเหลือแค่ 5% นะครับ

เมื่อได้รับลดหย่อนเหลือ 15% แล้วโจทก์รายที่สองมีสิทธิยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงินเดือน หรือพูดง่ายๆ คืออายัดอีก 15% ที่เหลือ ซึ่งเคยมีเคสแบบนี้แล้ว

ดังนั้น หากมีหนี้หลายราย อีกทั้งคาดว่าจะโดนฟ้องหลายราย และปล่อยให้อายัดเงินเดือน ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาร้องขอลดหย่อนการอายัดเงินเดือนหรอกครับ ปล่อยให้อายัด 30% เจ้าแรกไปดีกว่าครับ

ที่เราพูดกันสั้นๆ ว่าอายัดหรือยึดทรัพย์ได้ทีละรายนั้น มาจาก ป.วิ.พ. มาตรา 290 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินอย่างใดของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นซ้ำอีก"

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.184 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena