ปรึกษาเรื่องโดนโทรมาปรับโครงสร้างหนี้ทางโทรศัพท์ แต่ไม่มีเอกสาร

สวัสดีครับ

พอดีผมตั้งใจจะทำสัญญานรกกับทาง KTC

เนื่องจากก่อนหน้านี้ผมเคยโพสต์ในกระทู้ของเรา

และได้รับคำแนะนำได้หยุดจ่ายเพื่อให้ทาเคทีซีเสนอปรับโครงสร้าง

เพราะผมเหลือที่เป้นหนี้คือเคทีซีและกรุงศรีครับ

เลยคิดว่าน่าจะผ่อนตัวเคทีซีไหว

และผมได้หยุดจ่ายมาได้สักพักแล้วประมาณสามเดือน

จนเมื่อวานมีเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่าจะปรับโครงสร้างให้

แต่ผมจำได้ว่าจะต้องมีการไปเซ็นชื่อรับเอกสารด้วยใช่หรือไม่ครับ

เพราะทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าแค่เราส่งแฟกซ์กับระบุต้องการปรับโครงสร้างไป

พร้อมระบุเลขบัตร เซ็นสำเนาถูกต้องเท่านั้น

แต่ไม่มีเอกสารอะไรให้เรา หรือต้องเซ็นเอกสารอะไรเพิ่มเติม

ผมเลยไม่แน่ใจว่า ตามจริงแล้วจะต้องมีเอกสารที่เราจะต้องไปเซ็นกับทางเคทีซี และได้รับเป็นหลักฐาน

กลับมาด้วยไหมครับ

ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าเป็นคำถามที่อาจจะดูเหมือนไม่อ่านก่อน ผมเคยอ่านเจอครับ แต่ค้นหาแล้วหาไม่

เจอจริงๆ เลยอยากขอคำปรึกษาครับ เพราะจะได้ดำเนินการต่อไปครับ

ขอบคุณมากครับ

ปล. ผมเคยสมัครแล้ว แต่พอเข้าระบบมันเข้าไม่ได้ ส่งพาสเวิร์ดใหม่มันก็ขึ้น error เลยตัดสินใจสมัครใหม่ ต้องขอโทษด้วยนะครับ

เคทีซีไม่มีประนอมหนี้นะคะ เจอมากับตัวเลยครั้งแรกที่จ่ายไม่ได้ เข้าให้เราทำเอกสารเข้าไปว่าจะขอชำระน้อยลงจาก 10% เหลือ 5 % แต่บัตรต้องยกเลิกและดอกเบี้ยคิดอัตราเดิม // เราเห็นว่ายอดเราเยอะ 5 % ก็ยังจ่ายไม่ไหว แถมที่จ่ายยังไม่พอค่าดอกเบี้ยเลยมั้ง ก็เลยไม่ทำเอกสารเข้าไปค่ะ หลังจากนั้นพยายามติดต่อจนท.เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เค้าก็ยืนยันว่าไม่มี // จนกระทั้งขาดการจ่ายไปประมาณ 5 เดือน จนท.ถึงเป็นฝ่ายติดต่อมาเองในครั้งนี้แจ้งจะยื่นฟ้องแล้ว จนท.บอกว่าจะขอลดดอกเบี้ยก็ต้องไปตกลงในศาลเท่านั้นค่ะ

การปรับโครงสร้างหนี้ต้องทำเป็นสัญญา ถ้าไม่มีเอกสารที่เราลงนามก็ฟ้องไม่ได้ คงฟ้องตามมูลหนี้เดิม แต่เมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าสัญญาเลิกต่อกันแล้ว โจทก์จะอาศัยข้อสัญญาที่เลิกแล้วมาฟ้องให้ลูกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ 5 ต่อปี และค่าติดตามหนี้อีกไม่ได้ เพราะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนอันสมควร ศาลมีอำนาจปรั้บลดลงให้ได้ตามที่ศาลเห็นสมควร ปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี การคิดดอกเบี้ย+ค่าธรรมเนียมอัตราร้อยละ 20 ต่อปี โจทก์มีกำไรร้อยละ 18.5 ต่อปี คิดเป็นกำไรอัตราร้อยละ 1,233.33 ของต้น ทุนเงินฝากร้อยละ 1.50 ต่อปี (18.5 หาร 1.50 คูณ 100 เท่ากับ 1,233.33)