เซ็นยินยอมประนอมหนี้แต่ktc ไม่ได้หยุดดอกเบี้ยให้

ขอสอบถามหน่อยครับktc ฟ้องและนัดไกล่เลี่ย7ตค.57โดยเนื้อหาระบะว่ายอดสรุป ณ วันฟ้อง163861.26 พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ10ต่อปีแต่ผมถามทนายว่ายอดนี้ผมต้องเสียดอกเบี้ยอีกเหรอ แต่ทนายกลับบอกว่าไม่มีดอกเบี้ยเพิ่มแล้วยอด บาทจ่ายสุทธิคือ163861.26บาทผมถึงยอมเซ็นประณีประนอมเพราะเข้าใจว่าเขาหยุดดอกเบี้ยแต่พอชำระเข้าไปขั้นตำโทรเช็คcall center กลับบอกว่ายอดที่จ่ายเข้ามายังไม่ลดนอกนี้มีเพียงดอกเบี้ยร้อยละ10ต่อปี งงเลย ใครพอแนะนำได้บ้างครับ

ขอเอากระทู้ คุณ pfs มาช่วยให้หายข้องใจนะคะ

ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความพร้อมที่จะผ่อนชำระหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือไม่พร้อมต้องการยื้อเวลาเก็บเงินไปได้อีกสักสองเดือน คุณก็ไปศาลเพื่อขอเลื่อนไป 1 ครั้งโดยสามารถขอเลื่อนปากเปล่าให้เหตุผลไปว่าขอกลับไปเจรจากับเจ้าหนี้อีกครั้ง และต้องอยู่เซ็นรับทราบวันที่ในการนัดครั้งต่อไป
ส่วนถ้าคุณพร้อมที่จะไกล่เกลี่ยก็เจรจาได้เลย แต่นโยบาย ktc ไม่มีส่วนลดเงินต้นจะลดให้เฉพาะดอกเบี้ย ถ้าผ่อน 12 เดือนไม่คิดดอดเบี้ย ผ่อน 36 เดือนเลือกผ่อนแบบขั้นบันไดได้ คิดดอกเบี้ย10%ลดต้นลดดอก

แล้วตอนผมเซ็นต์เพราะเข้าใจว่าเงินยอดวันฟ้องให้จ่ายหมด 36เดือนผมไหว แต่ถ้ามีดอกเบี้ยอีก10%แสดงว่ายอดจ่ายเข้าไปก็มีแต่ดอกซิครับ เราโดนฟ้องเพราะไม่มีกำลังจะจ่ายแล้วแต่ถ้าเป็นแบบนี้ผมคงไม่สามารถจ้ายได้ แล้วขั้นตอนต่อไปจะเป็นไงครับ

แล้วหลังจากที่ผมหยุดจ่าย อีกนานมั้ยครับเรื่องจะถูกส่งต่อไปยังกรมบังคับคดี เพื่ออายัติทรัพย์ แล้วช่วงที่จะถูกอายัติทรัพย์ศาลจะแจ้งให้เราทราบเพื่อไปตกลงกับโจทย์มั้ยครับ หรือว่าจะอายัติที่ดินเพื่อขายทอดตลาดเลย

ขอยกกระทู้ คุณ pfs มาให้ศึกษาคะ ktc จะมีขั้นตอนตามนี้เลย ถ้ายังสงสัย ท่านประธานเลยค่ะ hotline

ไปศาลครั้งที่สองของคดีบัตรกรุงไทยมาแล้ว เป็นวันที่ทางบัตรกรุงไทยจัดมหกรรมทุกๆ 3 เดือน
ผลการไกล่เกลี่ยค่อนข้างดีเกินความคาดหมายดังนี้
จากยอดหนี้ที่ฟ้อง 428,XXX บาท (ยอดรวมสองบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด)
ลดดอกเบี้ยให้ 28,XXX บาท
ยอดหนี้ที่ต้องจ่าย 400,000 บาท ติดดอกเบี้ยระหว่างผ่อน 7.5% ผ่อน 36 เดือน
เดือนที่ 1 - 12 ผ่อน 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
เดือนที่ 13 - 24 ผ่อน 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
เดือนที่ 25 - 36 ผ่อนขั้นต่ำ 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
โดยต้องผ่อนให้ครบภายใน 36 งวด
pfs ตกลงไกล่เกลี่ยตามนี้เพราะได้เงื่อนไขดีกว่าที่ตั้งใจไว้อย่างน้อยก็ได้เริ่มจัดการตัวที่เจรจายากสุด
และยังเก็บเงินเพื่อปิดบัตรอื่นได้เพิ่ม ทั้งนี้ต้องขอบคุณท่านนกกระจอกเทศที่ให้คำปรึกษาเพื่อเป็นแนวทา

ขอโทษจริงๆนะครับผมไม่ค่อยมีความรู้มากนัก แสดงว่าหลังจากขึ้นศาลไกล่เกลี่ยครั้งแรกแต่ไม่ได้จ่ายตามเงื่อนไข ทางโจทย์จะมีการนัดไปศาลครั้งที่2หรือครับ โดยไม่มีการดำเนินการในขั้นตอนของการบังคับคดีเลยใช่มั้ยครับ

อยากรู้ว่าktc เขาจะเริ่มขบวนการอายัติที่ดินของเราได้เมื่อไหร่หลังจากไกล่กลี่ยครั้งแรกแต่ไม่สามรถชำระเข้าไปได้ตามข้อตกลง พอดีมีที่ดินต่างจังหวัดเพิ่งโอนเข้าเป็นชื่อตัวเองหลังจากถูกฟ้องได้ไม่นาน

ใช่คะ ครั้งแรกที่ไปศาลสามารถเลื่อนนัดได้ 1 นัด ระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน นัดที่สองคือไปไก่ลเกลี่ยคะ ระยะเวลาผ่อน 12 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าผ่อน 36 เดือน ดอกเบี้ย 10% ซึ่งคุณสามารถศึกษาจากเคสกระทู้ปักหมุดแดง ktc คะ

ค่อยๆอ่านนะคะ ถ้ายังไม่เข้าใจ โทรถาม คุณนกกระจอกเทศ ท่านประธานได้เลย คิดว่าน่าจะให้คำตอบที่ชัดเจนมากกว่า เพราะตัวเองก็หยุด ktc เช่นกันคะ 3ใบเลย ยอด 5xx,xxx สูงมากเลยคะ ศึกษาและอ่านกระทู้ทุกวันคะ เตรียมพร้อมสำหรับ ktc ยอดโด่งมากเลย

เอาใจช่วยนะคะ สู้ไปด้วยกันคะ

0980159949 เขียน: ขอโทษจริงๆนะครับผมไม่ค่อยมีความรู้มากนัก แสดงว่าหลังจากขึ้นศาลไกล่เกลี่ยครั้งแรกแต่ไม่ได้จ่ายตามเงื่อนไข ทางโจทย์จะมีการนัดไปศาลครั้งที่2หรือครับ โดยไม่มีการดำเนินการในขั้นตอนของการบังคับคดีเลยใช่มั้ยครับ

ความหมายของ วันนัดไปศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6915&Itemid=64

0980159949 เขียน: อยากรู้ว่าktc เขาจะเริ่มขบวนการอายัติที่ดินของเราได้เมื่อไหร่หลังจากไกล่กลี่ยครั้งแรกแต่ไม่สามรถชำระเข้าไปได้ตามข้อตกลง พอดีมีที่ดินต่างจังหวัดเพิ่งโอนเข้าเป็นชื่อตัวเองหลังจากถูกฟ้องได้ไม่นาน

การอายัดเงินเดือน หรือการอายัดทรัพย์ใดๆนั้น จะใช้เวลานานเท่าใดนั้น มันขึ้นอยู่กับความขยันของฝ่ายโจทก์(เจ้าหนี้) ที่จะเป็นผู้นำคำพิพากษาของศาล ไปเขียนคำร้องขอต่อกรมบังคับคดีให้เป็นผู้ทำการอายัด โดยให้เหตุผลว่าลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล(ดื้อแพ่ง)
เจ้าหนี้จึงจำเป็นต้องยื่นคำร้องดังกล่าวต่อกรมบังคับคดี พร้อมกับแนบหลักฐานว่า เจ้าหนี้สืบพบว่าลูกหนี้ในคดีนี้ ทำงานอยู่ที่บริษัท xxxx จำกัด โดยหลังจากนี้ ทางกรมบังคับคดีก็จะจัดส่งจดหมาย ไปถึงยังผู้บริหารของบริษัท xxxx จำกัด เพื่อให้ทำการหักอายัดเงินเดือนของลูกจ้าง(จำเลยที่ถูกพิพากษา) พร้อมกับให้นายจ้างเป็นผู้นำส่งเงินที่อายัดจำนวนนี้ ส่งมาให้กรมบังคับคดีทุกเดือน เพื่อชดใช้หนี้ตามคำพิพากษาจนกว่าจะหมดหนี้

ดังนั้น...ระยะเวลาในการอายัดใดๆ ของกรมบังคับคดี หลังจากที่ศาลได้พิพากษาไปแล้วนั้น...มันจึงไม่แน่นอน (ถึงแม้นว่าในคำพิพากษา จะเขียนเอาไว้โดยชัดเจนว่า บังคับภายใน 15 หรือ 30 วัน ก็ตามที) เพราะเงื่อนไขของระยะเวลาดังกล่าว มันขึ้นอยู่กับทางฝ่ายโจทก์(เจ้าหนี้)เอง ว่าจะไปยื่นเรื่องเมื่อไหร่?

ยังมีเงื่อนไขแห่งความล่าช้าของการอายัดอีกประการหนึ่ง...กล่าวคือ

เนื่องจากยังมีคดีในการติดตามอายัดต่างๆ ที่ค้างอยู่ในกรมบังคับคดีจำนวนมหาศาล ที่ยังรอคิวเพื่อทำเรื่องส่งอายัดอยู่อีกตั้งมากมายหลายคดี

โดยทั้งนี้ทั้งนั้น ยังขึ้นอยู่กับเขตพื้นที่ของกรมบังคับคดีในแต่ละจังหวัดอีกด้วย เพราะในบางจังหวัดมีคดีในการฟ้องร้องบังคับคดีกันน้อยมาก อย่างจังหวัดซึ่งอยู่ในพื้นที่ความเจริญน้อย เช่น จังหวัด แม่ฮ่องสอน , น่าน , ตราด , ระนอง , สตูล , พังงา , ยโสธร , เลย , และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้…เป็นต้น จังหวัดเหล่านี้จะมีคดีที่ถูกยื่นให้ทำการอายัดน้อยคดี จึงสามารถดำเนินการอายัดบังคับคดีได้โดยเร็วเพราะไม่ต้องรอคิวนาน

ส่วนจังหวัดที่มีความเจริญสูงมากๆ ก็จะมีคดีที่รอคิวให้ทำการอายัดเป็นจำนวนมาก อย่างจังหวัดซึ่งอยู่ในพื้นที่ความเจริญสูง เช่นจังหวัด กรุงเทพมหานครและปริมณฑล , ชลบุรี , เชียงใหม่ , นครราชสีมา , ขอนแก่น , อุบลราชธานี , อุดรธานี , สงขลา...เป็นต้น จังหวัดเหล่านี้จะมีคดีที่ถูกยื่นให้ทำการอายัดเป็นจำนวนมาก จึงสามารถดำเนินการอายัดบังคับได้ช้ามาก เพราะไม่รู้ว่าต้องรออีก กี่พัน กี่หมื่นคดี กว่าจะถึงคิวของตน

ดังนั้น...ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนที่ถูกอายัด...กว่าจะ"โดน" ก็เกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้ (15 วัน) กันทั้งนั้น...และแต่ละคนจะมีระยะเวลาในการ"โดน"ที่ไม่เท่ากันเลย...เอาแน่นอนอะไรไม่ได้เลย

บางคน"โดน"หลังจากที่ศาลพิพากษา เพียงแค่ 2 เดือน

บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 4 เดือน

บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 6 เดือน

บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 1 ปี

บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 2 ปี

บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 4 ปี

บางคนก็"โดน"หลังจากศาลพิพากษาไปแล้ว 6 ปี


แล้วจะเอาตรงไหนมาเป็นบรรทัดฐานดีล่ะครับ?
.