ติดหนี้บัตรกดเงินสดอีซีบาย และหยุดจ่ายมา 5 เดือนแล้วมีเรื่องสอบถามค่ะ

ตอนนี้หยุดจ่ายบัตรกดเงินสดอีซีบายมา 5 เดือนแล้ว มีพนักงานโทรมาทวงตลอด และโทรไปหาแม่เราด้วยค่ะ แต่เราอยากจะขอเก็บเงินก่อนเพื่อจะได้จ่ายทีเดียวและอยากจะรอขึ้นศาล แต่ปกติ 4 เดือนจะฟ้องศาลแล้วแต่ทำไมของเรา 5 เดือนยังโทรตามไม่ยอมฟ้องศาลสักที ตอนนี้ยอดหนี้จาก 35,000 บาท เพิ่มเป็น 4 หมื่นแล้วค่ะ และจะทำอย่างไรไม่ให้เค้าโทรไปหาแม่เรา หรือเราสามารถโทรไปแจ้งไม่ให้เค้าโทรหาคนรอบข้างเราได้ไหมค่ะ เรามีสิทธิแจ้งความได้ไหมค่ะ ขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

สิ่งสำคัญเราคิดว่าคุณต้องพยายามรับโทรศัพท์ทวง เพื่อที่ว่าถ้าเค้าติดต่อเราได้ จะได้ไม่ต้องโทรหาคนรอบข้าง แล้วมีเงินพร้อมเมื่อไหร่ ลองขอส่วนลดปิดบัญชีดูคะ สำหรับเรา umay ให้ส่วนลดก่อนเจ้าอื่น มากกว่า 50% อีกคะ สู้ๆ นะคะ
แล้วถ้าเจ้าหนี้รบกวนแม่มาก ลองโทรไปคอมเพลนได้นะคะ ลองดู

มีแนวทางแล้ว กะจะหยุดชำระ Ume+ เดือนแรก

aojung เขียน: ถ้าเราทำแบบนี้จะมีเอกสารอะไรแจ้งไปที่บ้านรึป่าวค่ะ(เป็นคนต่างจังหวัดแต่มาทำงานที่กรุงเทพฯค่ะ) แต่ที่อยู่ปัจจุบันกับที่อยู่ที่ทำงานเป็นกรุงเทพค่ะ ไม่อยากให้ทางบ้านรู้ ถ้ารู้พ่อกับแม่ต้องเป็นทุกข์กับเราแน่ๆเลยค่ะ

พวกมันจะส่งจดหมายทวงหนี้หรือส่งพนักงานทวงหนี้ โดยส่งไปยังทุกๆสถานที่ เท่าที่มันมีข้อมูลของลูกหนี้อยู่ในมือของมัน โดยไม่สนว่าข้อมูลที่มันมีอยู่นั้น จะเป็นข้อมูลใหม่หรือข้อมูลเก่าก็ตาม

หากมันมีข้อมูลสถานที่ติดต่อของลูกหนี้ 10ที่ มันก็จะส่งจดหมายทวงหนี้ไปยังสถานที่ตามข้อมูลนั้นๆ 10ที่เช่นกัน(ส่งจดหมายไป 10ฉบับ) ทั้งที่บ้านและที่ทำงานของลูกหนี้...ตามเท่าที่มันมีข้อมูล

ทางชมรมฯ จึงได้เขียนแนะนำในกระทู้ปักหมุดเอาไว้ว่า

ใครเลือกใช้วิธีที่ 2
ก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับกับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นดังนี้
1.หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอดอย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์
(ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย

2.ต้องบอกครอบครัวให้รู้จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไรและเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย

3.ต้องบอกที่ทำงาน(หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อนคนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร)ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไรและจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชีห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักทีให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่าแล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนรวมงานตามความเหมาะสม

4.จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10,000 เหลือ 5,000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3,500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1,500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัวสำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดูส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัวพยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม
5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และเมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆที่มีสารพัดรูปแบบ

อ้างอิงข้อมูลจาก
วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64#216

สอบถามหน่อย ที่ทางบัตรโทรไปหาทางแม่เราได้นั้น ทำไมถึงรู้เบอร์โทรแม่หรอค่ะ เค้าหามาจากไหน หรือเราเป็นคนให้เอง

SassyGirl5433 เขียน: สอบถามหน่อย ที่ทางบัตรโทรไปหาทางแม่เราได้นั้น ทำไมถึงรู้เบอร์โทรแม่หรอค่ะ เค้าหามาจากไหน หรือเราเป็นคนให้เอง

ตอนสมัครบัตร อาจจะมีให้กรอกเบอร์โทร แล้วคุณก็กรอกไป เขาก็จะโทรไปทุกเบอร์ที่คุณให้เขาไปครับ

เหมือนกันครับ

ผมเพิ่งหยุดจ่าย Umay+ เป็นเดือนแรกเหมือนกันครับ

โทร.เข้ามาทุกวันครับ

คงต้องรับสายทุกครั้งครับ จะได้ไม่มีปัญหา โทร.เข้าไปที่ออฟฟิศ / บ้าน

ยังไงก็คงต้องอดทน 3 เดือนแรก

หยุดมาตั้ง5เดือนแล้วทาง umay คงเริ่มให้ส่วนลดแล้วมั้งคะ รับสายแล้วลองต่อรองดูคะ เท่าที่เราเจอเจ้าหน้าที่เค้าก็สุภาพอยู่นะคะ
ปล. เราหยุด 4เดือน ลดไป 57% จากยอดรวมดอกเบี้ยคะ

IndyGirL เขียน: หยุดมาตั้ง5เดือนแล้วทาง umay คงเริ่มให้ส่วนลดแล้วมั้งคะ รับสายแล้วลองต่อรองดูคะ เท่าที่เราเจอเจ้าหน้าที่เค้าก็สุภาพอยู่นะคะ
ปล. เราหยุด 4เดือน ลดไป 57% จากยอดรวมดอกเบี้ยคะ

สอบถามหน่อยค่ะ หยุดจ่าย 4 เดือน แล้วทางบัตรลดให้ คือผ่อนจ่าย หรือจ่ายทั้งหมดค่ะ

ของเราเค้าเสนอมารอบแรกที่ 32,000 เราต่อไป 20,000 เค้าบอกได้ที่26,000เรายืนยันได้แค่ 20,000จริงๆคงได้แหละแต่เรากลัวไม่ได้เลยเพิ่มให้เค้า21,000 เค้าเสนอเองค่ะว่าผ่อนได้ 2 เดือน แต่เราว่าจริงๆถ้าขอต่อรองน่าจะได้นะคะ ลองดูคะ

IndyGirL เขียน: ของเราเค้าเสนอมารอบแรกที่ 32,000 เราต่อไป 20,000 เค้าบอกได้ที่26,000เรายืนยันได้แค่ 20,000จริงๆคงได้แหละแต่เรากลัวไม่ได้เลยเพิ่มให้เค้า21,000 เค้าเสนอเองค่ะว่าผ่อนได้ 2 เดือน แต่เราว่าจริงๆถ้าขอต่อรองน่าจะได้นะคะ ลองดูคะ

ขอบคุณมากๆนะค่ะ

โมโห มากครับ กับ Ume+ มันจะให้หามาจ่ายให้ได้ เราบอดปัดพรุ่งนี้ๆ
มันยังจะบอกว่าไม่เกินเท่านั้นเท่านี่ รำคาญสุดๆกับ อีซี่บาย 3เวลาหลังอาหาร สมคำร่ำลือจริงๆ

เอาจริงๆ อีซี่บาย มันก็ไม่จุกจิก เช้า กลางวัน เย็นนะครับผมคิดว่า ผมก็ค้างชำระมา เข้า2-3รอบบิลแล้วจำไม่ได้ต้องกลับไปดูโน๊ต มันจะโทรจนกว่าเราจะรับ โทรทั้งวัน และมันจะโทรเวลาที่2 ที่3 ถ้าเรานัดเวลามัน เช่น มันโทรมาตอนเช้าแล้ว มันให้จ่ายภายในวันนี้เวลาเที่ยงเราก็เออออแต่เอาเข้าจริงไม่จ่าย ถึงเวลาเที่ยงมันจะโทรมาอีก และถ้ายังไม่จ่าย เย็นมันก็จะโทรมาถามอีกที่นัดวันนี้ชำระมาหรือยัง // ก็คือ ถ้าในทั้งวันไม่อยากปวดหัวกับมัน ผมว่าให้รับสายมันตั้งแต่ช่วงเช้าเลย แล้วจะปฏิเสธวิธีไหนก็ตามวิชาแต่ละคน

จากที่อ่านกระทู้อื่นๆ รู้สึกว่า ยูเมะจะให้ส่วนลดดีกว่าเจ้าอื่นนะค่ะ ยังไงสู้ๆ นะค่ะ เราก็เพิ่งหยุดจ่ายไป เดือนเดียวเองค่ะ โทรกระหน่ำมากกก

ใช้คำพูดแบบไหนดีครับ
เพื่อจะไม่ให้มันโทรมาบ่อยๆ รำคาญมาก
ตอนนี้ของผมเจอ 4เวลาเลยครับ

tanesudjam เขียน: ใช้คำพูดแบบไหนดีครับ
เพื่อจะไม่ให้มันโทรมาบ่อยๆ รำคาญมาก
ตอนนี้ของผมเจอ 4เวลาเลยครับ

ที่เราทำคือ ก้ตอบปัดๆไปอ่ะค่ะ ว่ายังไม่มี ถ้ามีจะไปจ่ายให้ แล้วก้ป่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ พูดๆๆๆไปอ่ะค่ะ แต่อดทนรับสายหน่อยนะค่ะ

นับแตื่หยุดชำระหนี้ ถือว่าสัญญาสิ้นสุดลงโดนปริยาย เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว โจทก์ไม่สามารถอาศัยสัญญาที่สิ้นสุดลงแล้วเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ได้อีก เพราะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนอันสมควร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ศาลมีอำนาจปรบลดลงให้ได้ตามท่ี่ศาลเห็นสมควร ปัจจุบัน ต้นเงินเงินฝากประจำ 12 เดือน ของธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี หักแล้ว โจทก์มีกำไร 26.50% คิดเป็นกำไรขั้นต้น 1,766.67% ของต้นทุนเงินฝาก

การกำหนดให้จ่ายภายในวันนี้ พรุ่งนี้ ถ้าไม่มีจ่ายก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ ถ้าอย่างนั้นก็ให้ไปฟ้องศาลเอา เพราะการฟ้องต้องบอกกล่าวให้ืชำระหนี้ก่อน เมื่อจำเลยไม่ได้ขำระ โจทก์จึงจะฟ้องได้ ทุกวันนี้ เศรษฐกิจชะลอตัวค่อนข้างมาก หนี้เสียค่อนข้างมาก ทนายทำคำฟ้องไม่ทัน และการฟ้องเจ้าหนี้มีค่าใช้จ่าย จึงพยายามใช้คนติดตามหนี้ สร้างแรกกดดันลูกหนี้ ที่เจ้าหนี้กลัวที่สุดคือ ตามกฎแบงค์ชาติ ถ้าลูกหนี้ไม่ได้จ่ายชำระหนี้เกิน 12 เดือน เจ้าหนี้จะต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 100% เป็นการบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สงสัยจะสูญ มีผลต่อผลประกอบการของเจ้าหนี้ ผู้บริหารจะต้องรับผิดต่อผู้ถือหุ้น ฉะนั้น จึงไม่ต้องสนใจคนทวงหนี้ครับ และเมื่อฟ้องแล้ว ศาลนัดขึ้นศาลนัดแรกประมาณ 1 เดือน นับแต่ยื่นฟ้อง เมื่อยื่นคำให้การสู้คดีเข้าไปได้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์จำเลยอีกนัดหนึ่ง อาจจะ 1 เดือน หรือ 2 เดือน สืบพยานแล้ว นัดฟังคำพิพากษาอีก 1 เดือน เมื่อศาลพิพากษาแล้ว จำเลยไม่ได้ไปฟังคำพิพากษา โจทก์จะต้องขอส่งคำบังคับมาให้จำเลยทราบ ศาลก็จะให้เวลา 15 วัน นับแต่วันรับคำบังคับ คำบังคับเป็นการบอกว่าที่โจทก์ฟ้อง ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนวนเท่าไร พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเท่าไร จากต้นเงินเท่าไร จนกว่าจะชำระหนี้แก่โจทก์เสร็จสิ้น จะเห็นว่าหนี้่้ยิ่งเสียนานเท่าไร เป็นประโยชน์กับลูกหนี้ครับ เพราะถ้าตั้งสำรอง 100% แล้ว ในทางบัญชี หนี้รายนั้นเท่ากับ 0 บาท การต่อรองหรือ Hair cut ก็จะง่ายขึ้น เปรียบกับการซื้อผลไม้ ถ้ายังสวย แม่ค้าจะลดราคาน้อยมาก ถ้าผลไม่เริ่มสุก อีกวันสองวันก็จะเริ่มเน่า แม่ค้าจึงลดราคาให้ ฉะนั้น จึงอย่าสนใจคนตามหนี้ ศึกษา พ.ร.บ.ตามหนี้ แล้วนำมาโต้ตอบคนทวงหนี้ มีโทษจำคุกนะครับ ข้อมูลเพิ่มเติม 087-016-4541