ปรึกษา ได้รับหมายศาลแล้วดื้อแพ่ง(ยังไม่พร้อม) เจ้าหนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #66593 โดย ple1966
สวัสดีคะ ตอนนี้ได้รับหมายศาลบังคับจ่ายภายใน 15 วัน (ตอนถามเลยกำหนดแล้วคะ) และยังไม่พร้อม (ไม่มีเงินแฮร์คัท ไม่มีทรัพย์สิน) เป็นข้าราชการ อยากทราบว่า เจ้าหนี้จะดำเนินการต่อไปอย่างไรคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #66595 โดย jackTs
ถ้าลูกหนี้เป็นข้าราชการ เจ้าหนี้อายัดเงินเดือนไม่ได้ เพราะกฎหมายเขียนคุ้มครองเอาไว้


หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #66596 โดย ple1966
ขอบพระคุณอย่างสูงคะ อย่างน้อยความเครียดก้อลดลดลงมาหน่อย แต่ไม่ได้มีเจตนาให้ครบอายุ 10 ปี นะคะ ความตั้งใจขอให้เงินเดือนเป็นยอดบวกก่อนตอนนี้ติดลบเป็นหมื่นคะ แล้วระหว่างนี้ไปหาสิบปี บริษัทจะติดต่อเข้ามาต่อรองอีกหรือป่าวคะ จะได้เตรียมตัวเตรียมคำพูดอย่างไร การขอแฮร์คัท จะทำภายหลังการบังคับคดีได้หรือไม่

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #66597 โดย jackTs

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ple1966

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #66606 โดย ple1966
สวัสดีคะ วันนี้มาอ่านข้อมูลจนตาลาย มีพลังต่อสู้มากขึ้นคะ ต้องขอขอบคุณทีมงานและผู้ดูแลในเว็บบอร์ดนี้เป็นอย่างสูงนะคะ

เรื่องที่อยากแชร์ให้กับผู้ที่มีความทุกข์เกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิต เพื่อให้มีกำลังสู้สู้นะคะ เหตุที่เกิดกับตัวเองไม่ได้เริ่มมาจากบัตรเครดิตหรอกคะ เกิดจากเราประมาทในชีวิต เห็นใครกู้กู้ตาม แต่ไม่วางแผนในเรื่องการชำระหนี้ระยะยาวของตัวเอง คิดว่าเงินที่กู้มานำไปชำระหนี้นอกระบบ แล้วยังมีส่วนที่เหลือเก็บไว้ใช้จ่าย และชำระหนี้ได้อีกนาน (การทำงานวางแผนดีมาก แหะแต่เรื่องตัวเองไม่วางแผน) จนกระทั่งเงินหมด ก็เริ่มกดบัตรเครดิตและทำบัตรเครดิตเพิ่มเพื่อนำไปชำระหนี้ออมสินที่กู้มาล้านกว่าบาท (งวดละ 13,000) และยังหมุนกดบัตรเครดิตเพื่อชำระหนี้บัตรเครดิต (เดือนละประมาณ 10,000) เงินเดือนก็ชำระหนี้สหกรณ์ที่กู้มาเยอะ เหลือหลังหักค่าใช้จ่ายที่หักจากเงินเดือนแล้ว เหลือ 1,000 บาท และมีโอที ระหว่าง 1,000 - 2,000 บาท ทีนี้ละแย่เลย ค่าใช้จ่าย 23,000 บาท รายได้มี 3,000 บาท (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กลุ้ม) หนี้นอกระบบก็กู้ไม่ได้ จนกระทั่งผิดนัดชำระออมสินเกิน 3 เดือน ก็เข้าสู่ระบบประนอมหนี้ ปรับโครงสร้าง จากส่งเดือนละ 13,000 บาท เป็น 9,000 บาท บัตรเครดิตก็ถึงคราวตัน สินทรัพย์ทั้งหลาย(รถ ฯลฯ ก็เริ่มขายไปชำระหนี้ บังเอิญบ้านที่ซื้อไว้ขายไปก่อนแล้วไม่ได้ไปดูแลปลวกขึ้น จึงไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีก) ออมสินก็เริ่มเข้ามาบอกว่าจะฟ้องล้มละลายละนะ(เกินล้าน) คนค้ำประกันเลยเข้ามามีบทบาท เนื่องจากหากฟ้องล้มละลาย บุคคลที่ค้ำประกันก็ต้องถูกยึดทรัพย์และหรือถูกฟ้องล้มละลายไปด้วยกัน กรณีไม่มีอะไรให้ยึด (บุคคลที่ค้ำประกันก็เป็นทั้งเพื่อนทั้งน้องที่ทำงานด้วยกัน รักและสนิทสนมกันจึงค้ำกันไปมา) ก็มานั่งวางแผนให้(เราทำไม่ได้ มึนสับสน ปล่อยไปตามเวรตามกรรม ความจริงเราทำตัวเราเอง) และก็จะเป็นผู้ดำเนินการชำระหนี้ส่วนต่างจากรายได้ที่รับจริง (เพราะกลัวเราสับสนในชีวิตไม่ชำระอีก แหะ ก็ บัตรเครดิตโทรตามซะไม่เป็นอันทำงาน ก็ไปเซเว่นชำระ 500 บาทค่าปิดปากแต่ไม่เป็นสิ่งที่ถูกต้องคะ) แม้จะมีการวางแผนอย่างดี แต่ในขณะที่อยู่คนเดียวก็คิดมาก อยากตาย (ความรู้สึกเฉยๆ) กินยานอนหลับทุกวัน ทีนี้สังคมสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานเริ่มรับรู้ในสิ่งที่เราเครียด(เริ่มเปิดเผยเก็บไว้ไม่ได้) ได้รับการเยียวยาสุขภาพจิตให้ดีขึ้น และการให้กำลังใจจากทุกคน(ผู้บังคับบัญชา ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ก็มีบางคนที่ซ้ำเติมช่างหัวเผือก) แผนชำระหนี้ออมสินจึงได้เริ่มดำเนินไปได้จนไม่มีปัญหา แต่หนี้บัตรเครดิต ก็เริ่มเสียเพราะไม่จ่ายหลายงวด จึงเริ่มเข้ามาแสวงหาข้อมูลหลังได้รับหมายศาลกรณีบัตร ยูโอบีเป็นอันดับแรก ให้ไปประนีประนอม (การประนีประนอมให้เราจ่ายตามขึ้นบันไดเริ่ม 2,500 บาท ตามลำดับรวม 28 งวดให้เสร็จสิ้น) เราก็ทำไม่ได้ตามนั้น แล้วตอนอยู่ในห้องประนีประนอม มีใครไม่รู้เขาไม่ได้แนะนำ เหมือนเป็นคนกลาง แต่ดูจะเข้าข้างทนายฝ่ายบริษัท คือพูดทำนองให้จ่ายตามเงื่อนไขขั้นบันได เราก็ตอบว่า 500 บาทได้มั้ย ทางทนายก็ลุกไปถามบริษัทไม่สามารถตัดสินใจได้ สุดท้ายเราไม่ตกลง แล้วได้เซนอะไรไม่รู้(มึน) หลังจากนั้นก็ไปขึ้นศาลเพื่อพิจารณา เราก็พูดหน้าบัลลังก์ถึงปัญหาที่ไม่สามารถชำระได้ตามขั้นบันได อยากชำระงวดละ 500 บาท ศาลก็บอกว่าไม่สามารถทำได้ และได้เซนอีกไม่รู้อะไรอีก(มึนอีกเซนไป) การไปศาลก็เรียนรู้จากกระทู้ ทำเป็นคนรู้กฎหมาย แต่การพูดต่อหน้าผู้พิพากษา ไม่รู้จะอ้อนว่าอย่างไร จนกระทั่งได้รับคำสั่งศาลแบบตัวอย่างในเว็บนี้เลย จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิก เนื่องจากหลายๆ คนก็อยากรู้ว่าแล้วเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร ก็ได้รับความรู้ว่าเรายังมีหนทางสู้ต่อไป แต่จะจบแบบไหน จะพยายามเข้ามาแชร์ให้ได้รับรู้กันนะคะ สุดท้ายนี้หวังว่าข้อมูลส่วนตัวนี้จะทำให้สมาชิกที่ยังทุกข์มีกำลังใจสู้ต่อไปนะคะ เรายังมีลมหายใจ ยังมีมืออีกสองข้าง เรายังมีความสามารถที่จะทำให้ชีวิตของเราเองดีขึ้นได้คะ ขอบคุณมากคะ (หมายเหตุ สำหรับหนี้บัตรเครดิต รอเงินเดือนบวก คือมียอดเหลือเกิน 9,000 บาท(ภายใน 3 ปี ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 1ปีคะ) คนค้ำจะคืนให้จัดการหนี้อื่นๆ ต่อไปคะ ยกบัตรเงินเดือนให้คนค้ำถือไว้คะไม่ไว้ใจตัวเอง แหะ ) อ้อ แล้วสำหรับคนที่สงสัยว่า ครอบครัวละไปไหนทำไมไม่ช่วย พ่อแม่ไม่มีรายได้ชราภาพแล้ว พี่น้องก็มีภาระครอบครัวของตัวเองมากแล้ว สามีก็ไปมีเมียใหม่แล้ว แต่ส่งเสียลูกสาว(ฝากพ่อแม่ฝ่ายเราเลี้ยงดูคะก็ขอตังค์ลูกใช้ และได้รับการดูแลจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานในเรื่องการกินอยู่คะ กินบ้างอดบ้าง ก็ได้หุ่นสวยผอมคะ)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #66620 โดย BananaBoat
สู้ๆครับ ผมก็จะขึ้นศาลพรุ่งนี้แล้วเช่นกันครั้งแรก เกร็งๆเหมือนกัน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #66628 โดย chanisorn
เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้สู้ค่ะ ขอให้ผ่านเรื่องเลวร้ายไปโดยเร็วค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.458 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena