ถามเกี่ยวกับการส่งธนาคารในยอดที่สูงเกินไป

เราทำกิจการอพาทเม้น ค่ะ กู้เงินมาสร้าง ส่งธนาคารต่อเดือนเดือนละ148,000บาทแบ่งเป็น86,000 ธ.ไทยพาณิชย์กับ62,000ธ.กรุงศรีหมุนไปหมุนมา ทั้งที่รายได้หักคชจ.ต่อเดือนไม่ถึง148,000บาทค่ะยอด86,000 จ่ายได้ แต่62,000เงินไม่พอน่ะคะ คือได้ประมาน2-3หมื่นน่ะ เงินก้อจะหมด ทีนี้คนที่กู้มาคือแม่เรา และเราเป็นคนเซนต์ค้ำประกัน แม่เราไม่ได้จ่ายยอด62,000 มาไม่ทราบว่ากี่เดือนแต่มีจดหมายจากธ.กรุงศรีมาหาเรา(ผู้ค้ำประกัน) เราอยากทราบว่าเราจะทำยังไงดี เข้าไปขอคุยลดยอดผ่อนชำระต่อเดือน จะดีมั้ย อย่างนี้เค้าเรียกว่าประนอมหนี้รึป่าว เท่าที่ทราบการประนอมหนี้ มันไม่ค่อยดีกับลูกหนี้อย่างเราสักเท่าไหร่ ตอนนี้ก้อเอาจดหมายนั้นให้แม่ดู เราในฐานะลูกและผู้ค้ำประกัน ควรทำอย่างไรดีคะ

ถ้า Cash Flow กระแสเงินสด ติดลบ ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ก็ต้องไปเจรจา คุยกันด้วยตัวเลข รายรับ รายจ่ายในมุมมองของกระแสเงินสด ในลักษณะ Win Win ด้วยกันทั้งสองฝ่าย อัตราดอกเบี้ยที่ทำให้อยู่ได้ ลองดูครับ ข้อมูลเพิ่มเติม 087-016-4541

หมายถึงว่า ติดต่อขอเข้าเจรจาตอนนี้เลยใช่มั้ยคะ ตอนนี้สับสนกะว่าจะปล่อยเน่า แล้วขอแฮร์คัท แต่ยอดมันก้อสูงเกินไปคิดว่าคงไม่มีเงินมากพอที่จะไปแฮร์คัทได้
ขอบพระคุณมากๆนะคะสำหรับคำแนะนำค่ะ

จะเตรียมบัญชีรายรับรายจ่ายที่ทำทุกเดือนไปให้เค้าดูค่ะ เค้าคงจะถามว่าของไทยพาณิชย์ตั้ง86000 มากกว่ายอดของกรุงศรีอีก กรุงศรี62000ทำไมจ่ายได้ แต่ว่าไทยพาณิชย์เป็นระบบหักเงินอัติโนมัติค่ะ ตรงนี้ก็อเดือดร้อนเหมือนกัน ทำเราเช็คเด้งก้อหลายครั้งเพราะเราตั้งใจจะจ่ายเช็คแต่พอถึงวันตัดมันก้อหักเงินเราเฉยๆๆ แล้วเจ้าหนี้ก้อมาด่าเราที่ทำเช็คเด้ง เราก้อเถียงเค้าว่าเราเอาเงินเข้าพอแล้ว แล้วก้อช๊อตค่ะ หมุนเงินไม่ทัน อ่อขอถามอีกสักหน่อยนะคะ win win นี่หมายถึงการประนอมหนี้รึป่าวคะ เท่าที่ทราบการประนอมหนี้มันไม่ค่อยเป็นผลดีกับลูกหนี้อย่างเรานี่คะ
การเจรจาควรเจรจาแบบไหนดี ขอลดยอดผ่อนส่งต่องวด หรือขอลดดอกเบี้ย หรือยังไงดีคะ ไม่เคยทำมาก่อนเลยค่ะ ยัง งง งง ค่ะ (คิดว่าการเข้าเจรจาแบบนี้จะกลายเป็นการประนอมหนี้) และกลัวจะพูดคำที่ไม่สมควรพูอออกไป แบบเผยไต๋ให้เค้ารู้น่ะคะ

สองสามวันที่่ผ่านมา มีจดหมายทวงหนี้จากเจ้าหนี้อีกรายมาทวงหนี้ค่ะ จากบริษัท กฎหมายธรรมศิริรัฐ จำกัด ค่ะ (พิมพ์ตามจดหมายเลยนะคะ)
เรื่อง ขอให้ชำระหนี้
ตามที่ท่านได้สมัครใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล กับธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย)จำกัด(มหาชน)"ธนาคาร"เลขที่สัญญาxxxxxx746522 ท่านได้ผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าวกับธนาคารฯ ธนาคารฯได้ดำเนินการติดตามทวงถามหนี้ดังกล่าวตลอดมาแต่ท่านยังคงเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆทำให้มีภาระหนี้คงค้างจนถึงวันที่30เมษายน2558 เป็นระยะเวลา60วัน เป็นเงินต้นและดอกเบี้ยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 367,097.08บาทและค่าใช้จ่ายในการเรียกเก็บหนี้เป็นจำนวนเงิน556.40บาท
ดังนั้นโดยหนังสือฉบับนี้ บริษัท กฎหมายธรรมศิริรัฐ จำกัด ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากธนาคารฯจึงขอเรียนมายังท่าน เพื่อให้ท่านชำระหนั้ทั้งหมอภายใน7วัน นับตั้งแต่วันที่ ที่ระบุในหนังสือฉบับนี้(30/4/2558)
กรณีที่ท่านมีข้อขัดข้องหรือต้องการเจรจาเกี่ยวกับภาระหนี้ดังกล่าว กรุณาติดต่อคุณจารุวรรณ โทร02-378-9700 ต่อ5502




ส่วนรายละเอียดที่ทางธนาคารแจ้งมาคือ 22 ธันวาคม2553 เริ่มต้นกู้
อัตราดอกเบี้ย24.75%
วงเงินกู้1,000,000บาท
ระยะเวลากู้ 60งวด
ยอดเงินต้นคงเหลือ350,157.62
จำนวนที่ต้องชำระในเดือนนี้ (ก่อน22/5/2558)คือ113,634.60บาท



และมีซองขาวไม่จ่าหน้าซองในซองระบุว่า กรุณาติดต่อกลับ พัชรี(สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด) และลงเบอร์โทร



จากที่อ่านกระทู้ปักหมุดทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัว พอเจอเข้าจริงๆก็หวั่นใจนะคะ คือตรงนี้ถ้้าโทรมาก็ตอบอย่างเดียวเลยค่ะว่ายังไม่มี ก้อพยายามเก็บเงินไปเรื่อยๆ ตอนนี้มี35000 ที่ทำอยู่นั้นคือถูกแล้วใช่มั้ยคะ ยังจะต้องเจอทั้งจดหมายและโทรศัพท์แบบนี้ไปอีกเรื่อยๆใช่มั้ยคะ ณ ตอนนี้มาถูกทางแล้วใช่มั้ย ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

ตัวอย่างจดหมายทวงหนี้ จดหมายขู่จากเจ้าหนี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=8&id=6076&Itemid=64

มันคือจดหมายทวงแบบที่ทุกคนเจอกันแหละครับ และในอนาคตก็ต้องเจออีกในลักษณะนี้

ขอบพระคุณค่ะ

สอบถามเพื่อความมั่นใจนะคะ เมื่อสักครู่จนท.ธนาคารโทรมาแจ้งว่าไม่ได้ชำระเขามา3เดือนแล้วให้เข้าไปชำระด้วย ไม่อย่างนั้นจะส่งฟ้องศาล และหากฟ้องศาลก็จะฟ้องรวมทั้งหมดเลย ซึ่งเรามีบัญชีเงินกู้กับธนาคารทั้งหมด4ตัว เป็นcommercail loans 3ตัว เป็นสินเชื่อบุคคล1ตัวด/บ 20.99% และมีโฉนดของอพาทเม้น1ฉบับอยู่ที่ธนาคาร 3ตัวที่เป็นcommercial loansนี้แหละ มี1ตัวที่เราไม่ได้จ่ายไป3เดือนอย่างที่เขาบอกแต่อีก2ตัวก็จ่ายมั่งไม่จ่ายมั่ง กระท่อนกระแท่นไปน่ะค่ะ แล้วอย่่างนี้จะฟ้องรวมได้หรอคะ(เท่าที่อ่านกระทู้ต่างๆมา เข้าใจว่าฟ้องไม่ได้เพราะนับวันเริ่มผิดนัดชำระไม่เท่ากันน่ะค่ะ) ตอนที่เขาโทรมาก็ได้แต่ฟังยังไม่ได้พูดอะไร หากเขาโทรมาอีกแล้วตอบว่า จะฟ้องก็เชิญฟ้องเลยค่ะเพราะว่าตอนนี้หาเงินจ่ายให้ไม่ได้จริงๆไปหยิบยืมใครก็ไม่ได้แล้ว(พูดตัดเค้า) หากพูดอย่างนี้จะมีผลอย่างไรคะ (มันเป็นcommercail loans ด/บ ไม่ถึง15%) หรือว่าควรจะพูดเชิงประนีประนอมดึงเวลาไปก่อนว่ากำลังหาเงินมาจ่ายอยู่ ทำอย่างไรจะดีกว่ากันคะ