อยากให้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และชมรมหนี้บัตรเครดิตช่วยทวงสัญญากับธนาคารแห่งประเทศไทย

ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ดอกเบี้ยค่าบริการที่ธนาคารพาณิชย์อาจเรียกได้ในการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 ความว่า บัดนี้ ภาวะเศาษฐกิจการเงินของประเทศได้เปลี่ยนแปลงไป โดยอัตราดอกเบี้ยมีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2549 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ย MLR เฉลี่ย และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือนเฉลี่ย (เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยรายใหญ่ 5 แห่ง) อยู่ที่ร้อยละ 5.00 7.75 และ 3.50 ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากปลายปี 2546 ร้อยละ 3.75 2.00 และ 2.50 ตามลำดับ โดยอัตราที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวได้สะท้อนไปยังต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงเห็นสมควรปรับเพดานอัตราดอกเบี้ยและค่าบริการดังกล่าวให้สอดคล้องกับต้นทุนทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะได้ติดตามต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตอย่างใกล้ชิดทั้งการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นและลดลง เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาปรับเปลี่ยนเพดานอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงินในอนาคต
ปัจจุบัน ดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย อยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี ลดลงจากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 5.00 ค้อปั ลดลงร้อยละ 3.50 ต่อปี ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี อยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี ลดลงจากเดิมที่อยู่ที่่ร้อยละ 3.50 ต่อปี ลดลงร้อยละ 2.00 ต่อปี ดอกเบี้ย MLR อยู่ที่ 6.625 ต่อปี ลดลงจากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 7.75 ต่อปี ลดลงร้อยละ 1.13 ต่อปี
ท่านเคยสัญญาว่า ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะได้ติดตามต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตอย่างใกล้ชิดทั้งการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นและลดลง เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาปรับเปลี่ยนเพดานอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงินในอนาคต บัดนี้ ต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจได้ลดลงเป็นอันมาก จึงขอทางสัญญากับธนาคารแห่งประเทศไทยให้ปรับลดเพดานลงเหลืออัตราร้อยละ 18 ต่อปี ตามเดิม การลดเพดานดอกเบี้ยลง จะทำให้หนี้เสียน้อยลง และพวกผมจะนำดอกเบี้ยที่ลดลงนี้ไปช่วยชาติ โดยการบริโภคเพิ่มขึ้น อันจะช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการผลิตเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น เงินจำนวนนี้จะหมุนได้ถึง 4 รอบ ก็จะเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง ดีกว่าให้ทุนต่างชาติเอากำไรส่วนเกินนี้ไป ให้พวกผม ผู้บริโภค ได้ช่วยชาติบ้างเถอะครับ

ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน อัตราร้อยละ 1.50 ค้อปี ถือเป็นต้นทุนเงินให้สินเชื่อ
หากคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตในอัตราร้อยละ 20 ต่อปี ธนาคารจะมีกำไรร้อยละ 18.5 ต่อปี หารด้วย 1.5 คูณ 100 เท่ากับธนาคารกำไรขั้นต้น 1,233.33% ของต้นทุนเงินฝาก นอกจากนี้ ยังมีดอกเบี้ยแฝงอีก คือ ค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด และค่าใข้จ่ายติดตามหนี้ ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตสถาน ถือเป็นดอกเบี้ยทั้งสิ้น