เป็นหนี้บัตรค่ะ มีหมายศาลมาเรียกที่บ้าน ทำไงดีค่ะ ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี

ก่อนอีื่นขอสวัสดีพี่ ป้า น่้า อา ก่อนเลยค่ะ หนูอายุ24ปี มีปันหาเรื่องหนี้บัตรเงินพ้อมใช้ ของบริษัท บัตรกรุงไทยคะ ยอดหนี้ เงินต้นอยู่ประมาน 28000 กว่าบาท ดอกเรียกเก้บมาอีกประมาน 12000 รวมตอนนี้ยอดรวม 40000 กว่าคะ ก่อนหน้า1เดือน มีเจ้าหน้าที่โทรมาขอให้ผ่อนผันชำระหนี้ เดือนละ3000กว่าบาทคะ แต่หนูสู้ยอดไม่ไหว ขอลดเค้า เค้าบอกไม่ได้และให้ไปคุยที่ศาลคะ ตอนนี้มีหมายนัดมาที่บ้านให้ไปขึ้นศาลประมานเดือนมิถุนายนคะ หนูควรจะไปหรือไม่คะ แล้วหนูต้องนำเอกสารอะไรไปไหม เตรียดมากคะ กลัวด้วย ไม่รู้จะทำยังไง ขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยค่ะ
ขอบคุณมากๆคะ

แนะนำให้ไปเถอะคะ...ของดิฉันไทยพาณิชย์ทั้ง2บัตรเลยคะ..รวมฟ้องยอดยุที่100000 กว่าๆตั้งแต่ปีที่แล้วละคะ..เลื่อนนัดไป2ครั้ง พอครั้งที่2ตัดสินใจให้ศาลตัดสินศาลตัดสิน..เหลือ70000 เพราะบอกต่อหน้าศาลว่ามีส่วนไหนที่พอจะลดได้บ้าง...ก็คือตั้งใจจะผ่อนชำระเดือนละ4000บาท พอศาลตัดสินเสร็จก็ให้เราเซ็นเอกสาร..แล้วก็ให้เรากลับบ้านได้..เราเคยอ่านในกระทู้บอกว่า..เมื่อให้ศาลตัดสินแล้วรอรับเอกสารยืนยันจากทางศาลกันภายใน2อาทิย์เพื่อให้เรารับทราบยอดหนี้จริงๆที่เราต้องชำระ..ถ้าไม่ได้รับยังไม่ต้องไปชำระเงินใดๆ..ศาลตัดสินเมื่อนเดือน ม.ค 57 เราก็รอๆๆๆๆไๆๆเอกสารไม่มาสักที..จนตอนนี้ก็ยังไม่มัเอกสารทางทนายเลย..แต่ทุกวันนี้ก็มีโทรมาแต่พูดจาดีมาก..บอกว่ายังไม่มีเค้าก็บอกว่าจะติดต่อกลับมาใหม่..

ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำคะ

กี่เดือนหรอค่ะ โดนฟ้อง

amornrat2533 เขียน: ก่อนอีื่นขอสวัสดีพี่ ป้า น่้า อา ก่อนเลยค่ะ หนูอายุ24ปี มีปันหาเรื่องหนี้บัตรเงินพ้อมใช้ ของบริษัท บัตรกรุงไทยคะ ยอดหนี้ เงินต้นอยู่ประมาน 28000 กว่าบาท ดอกเรียกเก้บมาอีกประมาน 12000 รวมตอนนี้ยอดรวม 40000 กว่าคะ ก่อนหน้า1เดือน มีเจ้าหน้าที่โทรมาขอให้ผ่อนผันชำระหนี้ เดือนละ3000กว่าบาทคะ แต่หนูสู้ยอดไม่ไหว ขอลดเค้า เค้าบอกไม่ได้และให้ไปคุยที่ศาลคะ ตอนนี้มีหมายนัดมาที่บ้านให้ไปขึ้นศาลประมานเดือนมิถุนายนคะ หนูควรจะไปหรือไม่คะ แล้วหนูต้องนำเอกสารอะไรไปไหม เตรียดมากคะ กลัวด้วย ไม่รู้จะทำยังไง ขอคำแนะนำจากผู้รู้ด้วยค่ะ
ขอบคุณมากๆคะ

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

ถ้าถูกฟ้อง สิ่งสำคัญที่สุดคือ คำให้การ เป็นการบอกศาลว่า ที่โจทก์ฟ้องมา มีประเด็นใดไม่ถูกต้องบ้าง เช่น KTC Cash Revolve ไม่ใช่การให้กู้ยืมเงิน แต่เป็นสินเชื่อหมุนเวียน เป็นลักษณะบัญชีเดินสะพัด จึงไม่ใช่การให้กู้ยืมเงิน ตามคำนิยามของสินเชื่อส่วนบุคคล จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ได้
หรือจำเลยหยุดฝช้บัตรเบิกเงินสด และหยุดชำระหนี้มา 1 ปี 9 เดือน แล้ว พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่า โจทก์จำเลยไม่ประสงค์จะทำสัญญากันอีกต่อไป สัญญาจึงสิ้นสุดลง โดยจะอาศัยข้อตกลงในสัญญาผูกพันจำเลยอีกไม่ได้ การคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ถือเป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนอันสมควร ศาลมีอำนาจปรบลดลงให้ได้ตามที่ศาลเห็นสมควร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
ปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ อัตราร้อยละ 1.50 ต่อปี การคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี เท่ากับมีกำไรร้อยละ 26.5 ต่อป่ี (28-1.50 เท่ากับ 26.50) หรื่อกำไรอัตราร้อยฃะ 1,766.67 ของต้นทุนเงินฝาก จึงเป็นการกำหนดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนอันสมควร