ขอถามเรื่องสัญญานรก แต่ยังไม่จ่ายงวดแรก จะขอH/C ได้ไหม

พอดีไปเซ็นสัญญานรกของอี่ชี่บายไป แต่อ่านเจอเวปนี้ก่อนก็เลยไม่ได้จ่ายงวดแรกไป เพราะทำตามคำแนะนำ แต่ทางอี่ซี่บายก็โทรจิให้จ่ายเข้ามาก่อน อย่างน้อย 1 งวด ถ้าไม่อย่างงั้นทางบริษัทไม่สามารถส่งข้อมูลไปให้คุณได้ จริงเปล่าวค่ะควรจ่ายดีไหม แล้วหยุดอีกกี่เดือนสัญญานรกนี้จะกลับไปใช้สัญญาเดิมค่ะ???

ขอบคุณมากค่ะ หยุดจ่ายเข้าเดือนที่ 4 แล้ว จะอดทนต่อไปค่ะ สู้ๆๆ

เฉียดฉิว...maruko มาเป็นสมาชิกก่อนที่จะหยุดจ่าย..และทำความเข้าใจแต่เนิ่นๆ..สัญญานรกจึงเป็นวลีที่ท่องขึ้นใจ..ไม่พลั้งเผลอ..ทำสัญญากับคนใจดำ..ขอให้อดทนตามขั้นตอนนะครับ..สู้ๆๆ

หยุดจ่ายมา 6 เดือน ส่งให้สำนักงานกฎหมายแล้ว ต้องการปิดบัญชีแบบมีส่วนลด แต่เขาให้จ่าย เดินบัญชี 1,200 บาทถ้าไม่จ่ายเขามาไม่ได้ส่วนลดให้ จะให้ทำอย่างไงดีค่ะ โทรมาทุกวัน ตอนนี้กำหนดวันแล้ว ถ้าไม่จ่ายภายในวันนี้คุณก็ไม่ได้แล้ว ช่วยชี้แจ้งด้วยค่ะ

Wichittra_tu2625 เขียน: หยุดจ่ายมา 6 เดือน ส่งให้สำนักงานกฎหมายแล้ว ต้องการปิดบัญชีแบบมีส่วนลด แต่เขาให้จ่าย เดินบัญชี 1,200 บาทถ้าไม่จ่ายเขามาไม่ได้ส่วนลดให้ จะให้ทำอย่างไงดีค่ะ โทรมาทุกวัน ตอนนี้กำหนดวันแล้ว ถ้าไม่จ่ายภายในวันนี้คุณก็ไม่ได้แล้ว ช่วยชี้แจ้งด้วยค่ะ

ส่วนลดดีๆต้อง
อดทน..ไม่จ่ายหยอด..เราใหม่ต่อสถานะการนี้เหมือนมวยโดนหมัดแยบมีอาการเซ...เขาก็จะต้อนเข้ามุมเพื่อน็อคครับ....ห้ามใจอ่อนต้องรู้จักรอ..เก็บตังเพื่อรอวันนั้น...จะจ่ายปิดบัญชีอย่างเดียว..จ่ายทีเดียวครั้งเดียวเท่านั้น..ห้ามใจร้อน

ในกรณี ที่เซ็นสัญญานรกแล้ว หมายถึงเขารวมค่า โน้นนี่นั้น รวมเป็นยอดหนี้ก่อนใหม่แล้ว
กรณีที่ไม่ได้จ่ายเลยสักงวด หรือจ่ายมาบางส่วนแล้วก็ตามนะ

ถ้าหากมีกรณีฟ้องร้องขึ้นมา เขาจะยึดทรัพย์ได้ง่ายขึ้น และฟ้องศาลยังไงก็ตัดสินยอดเต็มอยู่ดี
ข้อดีคือ คุณได้มีเวลาเก็บเงินไว้จ่ายตอนนั้น และจ่ายได้น้อยลง

ดังนั้นคุณควรจะสำรวจทรัพย์สินว่ามีอะไรเป็นชื่อคุณบ้าง

ทางที่ดี หาทางปิดตัวที่คุณไปเซ็นต์สัญญา เป็นสิ่งที่จำเป็นอันดับแรกเลย
ตัวอื่นปล่อยไว้ก่อน

ปล ที่ศาลพิจาณายอดเต็ม เพราะสัญญาบอกในตัวว่าดอกเบี้ยมันถูกอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่เราเสียเปรียบมากมายก็เถอะ มันเป็นสิ่งที่หลอกตา

ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64

ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ก็ไม่จ่ายค่ะ เลยเวลาที่เขากำหนดแล้ว แถมยังบอกอีกว่าคุณไม่จ่ายทางเราก็จะไม่มีส่วนลดให้อีกแล้วในกรณีจะเปิดบัญชี จริงเปล่าวค่ะ หรือว่าขู่เรา

.
ระยะเวลา และขั้นตอนในการทวงหนี้


1. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ (1-2 เดือนแรก) โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ตัวจริง

2. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ + จดหมายทวงหนี้ (ช่วงเดือนที่ 2-3) โดยเริ่มมีการเสนอให้ทำ"ประนอมหนี้" , "ปรับโครงสร้างหนี้" (ซึ่งสรุปก็คือหลอกให้ทำ"สัญญานรก"นั่นแหละ แต่เรียกชื่อให้มันดูไพเราะสักหน่อย ก็เท่านั้น) หรือ อาจโทรมาหลอกลวงให้ลูกหนี้ทำการ"จ่ายหยอด"เพื่อเดินบัญชี...เป็นต้น
ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64

3. ส่งเรื่องออกไปให้สำนักงานกฏหมายข้างนอก ให้เป็นผู้ทำการทวงหนี้แทน ซึ่งเป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 (ช่วงเดือนที่ 4-6) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 20-30% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

4. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 ทวงหนี้ไม่ได้ ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ให้มาทวงหนี้ต่อ (เดือนที่ 7-9) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 30-40% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

5. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ก็ยังทวงหนี้ไม่ได้อีก ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 3 ให้มาทวงหนี้ต่ออีก (ช่วงเดือนที่ 10-12) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 40-50% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)

6. ถ้าเปลี่ยนสำนักงานกฏหมายทวงหนี้ไปตั้งหลายบริษัทแล้ว ยังไงก็ทวงไม่ได้สักที ก็ส่งฟ้องศาล (เดือนที่ 12 เป็นต้นไป จนถึงปีครึ่ง) โดยยังคงมีข้อเสนอเรื่องส่วนลดในการ Hair cut ให้อยู่ แต่เป็นราคาช่วงที่งามที่สุด (หรือที่เรียกกันว่า "นาทีทอง" ในการทำ Hair cut โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เป็นผู้กำหนดราคา)

ดังนั้น หากมีลูกหนี้บางราย ที่เจ้าหนี้มันทำเรื่องฟ้องศาลช้ากว่าปกติ (เกินกว่า 1ปีขึ้นไป)
ลูกหนี้อาจถูกทวงหนี้โดยสำนักงานกฏหมาย(บริษัททวงหนี้) ที่ต้องถูกเปลี่ยนบริษัททวงหนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ซ้ำหน้ากัน เกินกว่า 5บริษัททวงหนี้...หรือจนกว่าหมายศาลฟ้องจะมา

---

ข้อสังเกตุ : ณ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทรับจ้างทวงหนี้ในประเทศไทยทั้งหมด ประมาณพันกว่าบริษัท

ซึ่งบริษัทรับจ้างทวงหนี้พวกนี้ ส่วนใหญ่มักตั้งชื่อที่ใช้จดทะเบียนในนามนิติบุคคลว่า "สำนักงานกฏหมาย" หรือ "สำนักงานทนายความ" เพื่อสร้างความตกใจต่อลูกหนี้...เพราะในชื่อของบริษัทดังกล่าว มีคำว่า "กฏหมาย" หรือ "ทนายความ" ปรากฏอยู่ด้วย

พอลูกหนี้ได้ยินหรือได้เห็นชื่อของบริษัททวงหนี้เหล่านี้ ก็มักเกิดความกลัวและคิดไปเองว่า "เรื่องหนี้ของฉัน ตกไปอยู่ในขั้นตอนของกฏหมายแล้วหรือนี่? , สงสัยจะโดนฟ้องแล้วแน่เลย?"...แต่โดยแท้จริงแล้ว บริษัทพวกนี้ มีอาชีพหรือรายได้หลักมาจากการ"รับจ้างทวงหนี้ "เท่านั้น

และถ้าหากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายแรก ไม่สามารถทวงหนี้ได้ตามที่ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างได้กำหนดไว้ (ซึ่งส่วนมากทางสถาบันการเงิน จะกำหนดให้บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ ต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือนเท่านั้น) บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ทำการ"ถีบหัวส่ง"ออกไป...เพราะถือว่า"ไร้ความสามารถ"ในการทวงหนี้ให้ได้ภายใน 2-3 เดือน ตามที่เจ้าหนี้ตัวจริงได้กำหนดเอาไว้

แล้วหลังจากนั้น...ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปทำการว่าจ้างบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายใหม่ ให้มาทำการทวงหนี้แทนบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายเดิมที่ถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไป โดยกำหนดว่าจะต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เช่นกัน

หากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายที่สองนี้ ก็ยังไม่สามารถทวงหนี้กับลูกหนี้ได้ภายใน 2-3 เดือนอีก ก็จะถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไปอีก แล้วทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปว่าจ้างบริษัททวงหนี้รายที่ สาม , สี่ , ห้า ให้มาทำหน้าที่ทวงหนี้แทนเหมือนเดิม...เป็น"วัฏจักร"เช่นนี้เรื่อยไปตลอด จนกว่าจะทวงหนี้ได้สำเร็จ(Hair cut สำเร็จ) หรือจนกว่าจะฟ้องศาล ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานเป็นปี

ในเมื่อ"บริษัทรับจ้างทวงหนี้"ในประเทศไทย มันมีจำนวนมากมายนับพันบริษัท
ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) จึงสามารถใช้บริการว่าจ้างบริษัทไหนก็ได้ โดยเรียกมาใช้งานได้โดยง่าย และก็สามารถ"ถีบหัวส่ง"เปลี่ยนให้ออกไปได้ง่ายๆเช่นกัน หากมันไร้น้ำยาในการทวงหนี้ได้สำเร็จ

แล้วอีกอย่างหนึ่ง บริษัทรับจ้างทวงหนี้เหล่านี้ ก็ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือน สำหรับค่าว่าจ้างในการทวงหนี้จากทางเจ้าหนี้ตัวจริง แต่จะได้รับเป็น"เงินค่าคอมมิชชั่น"ตามจำนวนเงินที่ทวงหนี้มาได้สำเร็จ (ก็คล้ายๆกับอาชีพ"เซลล์แมน"ขายของนั่นแหละ หากขายของได้ ถึงจะได้ค่าคอมมิชชั้น หากขายของไม่ได้ก็"อด")

ด้วยสาเหตุนี้...จึงเป็นบ่อเกิดแห่ง"การทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรม"จากบริษัทที่รับจ้างทวงหนี้บางราย ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้แบบเลวๆ ในลักษณะของการข่มขู่และกดดันลูกหนี้ เพื่อให้ตัวเองได้เงินมาจากลูกหนี้ไห้ได้(ไม่งั้นจะโดน"ถีบหัวส่ง"และ"อด แdก ค่าคอมฯด้วย") จึงต้องใช้วิธีในการทวงหนี้แบบชั่วๆ หรืออ้างข้อกฏหมาย"มั่วๆ" เพื่อข่มขู่ลูกหนี้ต่างๆนาๆ


อ้างอิงข้อมูลจาก
ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64

กรรมการ พี่นกกระจอกเทศ ย้ำนักย้ำหนาว่า ถ้าเคยได้ส่วนลดเท่าไหร่ เราจะได้เช่นเดิม หรือไม่ก็น้อยกว่าเดิม จำไว้


อ้างอิงข้อมูลจาก
1ปี10เดือน สรุปเส้นทางปิดหนี้กอบัวทุกสถาบัน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64

ขอบคุณมาค่ะ จะพยายามศึกษาแนวทางของรุ่นพี่ ๆต่อไป และจะอดทนเพื่อวันนั้นมาถึงค่ะ

ตอนนี้ ของ kct เงียบมาก จม ก็ไม่ส่ง หยุดจ่ายมา เข้าเดือนที่ 6 จะเข้าที่ 7 เดือน มิย นี้ kct ส่งฟ้องยังค่ะ เป็นยอดหนี้อยู่ 27,xxx กว่าบาท จะติดตามได้ที่ไหนค่ะว่าส่งฝ้องแล้ว เพราะได้ยินเจ้านี้ส่งฝ้องเร็วมา รบกวนตอบหน่อยค่ะ

Wichittra_tu2625 เขียน: ตอนนี้ ของ kct เงียบมาก จม ก็ไม่ส่ง หยุดจ่ายมา เข้าเดือนที่ 6 จะเข้าที่ 7 เดือน มิย นี้ kct ส่งฟ้องยังค่ะ เป็นยอดหนี้อยู่ 27,xxx กว่าบาท จะติดตามได้ที่ไหนค่ะว่าส่งฝ้องแล้ว เพราะได้ยินเจ้านี้ส่งฝ้องเร็วมา รบกวนตอบหน่อยค่ะ

ปกติก็ใกล้จะฟ้องแล้วครับ...เงียบๆแล้วมักจะตามด้วยหมายศาล..ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ...อ่าน"ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหน้าที่ของศาล" ให้เข้าใจนะครับตาม link

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

ตอนนี้เริ่มเตรียม พร้อมของktc เพราะเงียบมาก หยุดจ่ายมาครึ่งปีแล้วแต่มีเจ้าหนี้อีกหลาย FC เฟริสช้อย โทรมาให้จ่ายหยอดรักษาบัญชี มิงัยจะดำเนินตามกฎหมาย ให้ส่วนลดมาแล้วก็ยังไม่พร้อมจ่าย เพราะกำลังจ่ายH/c ของยูเมะอยู่ผ่อนจ่าย 3 ครั้งเพราะยอดสูง ท่านไหนมีประสบการณ์ของFC นี้บางเขาฟ้องแล้วเปล่าวค่ะ หยุดจ่ายมาครึ่งปีแล้ว ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ