เพิ่งเริ่มหยุดจ่ายคะ

เพิ่งเริ่มต้นหยุดจ่ายเดือนนี้เป็นเดือนแรกคะ เครียดมากแต่บอกกับทุกคนที่อยุู่ใกล้ตัวแล้ว และเริ่มต้องรับมือกับการโทรทวงแล้วคะ ที่อื่น ๆ ก้อยังพอเข้าใจคะ แต่ยูเมะนี่พยายามมากคะ โทรมาทุก 2 วัน เครียดนิดหน่อยเพราะไม่สามารถเก็บเงินก้อนเอาไว้ h/c ได้เนื่องจากต้องจ่ายนี่นอกระบบให้หมดก่อนเพราะแพงมากคะ เหนื่อยแต่ต้องพยายามคะ

สู้ๆๆครับ ผมก็กำลังจะเริ่ม หนี้ล้านกว่า จากบัตร และสินเชื่อ จ่ายจนตัวเองแทบจมดินแล้ว

อ่านกระทู้เยอะ ๆ นะคะ แล้วจะมั่นใจว่าเราทำได้ สู้ ๆ ของเราก็หยุดเข้ารอบบิลที่ 3 แล้ว เครียดบ้างแต่รู้สึกดีกว่าตอนหมุนเงินจ่ายขั้นต่ำเยอะเลยค่ะ

ตอนนี้เริ่มเข้าเดือนที่สองคะ กระหน่ำโทรกันตลอดเวลาของแบงค์ยังพอไหวคะ หนักสุดดุูจะเป็นยูมะ ที่ทวงแบบไร้มารยาทนิดหนึ่งคะ แต่จะพยายามอดทนคะ แต่สบายใจกว่าหมุนหาเงินมาจ่ายอีกคะ รับโทรศัพท์ไป เหวี่ยงบ้าง หวานบ้างคะ

สู้ๆค่ะ คุณ kanidtha ดิฉันก็เป็นสมาชิกใหม่เหมือนกันค่ะหยุดเดือนแรกเหมือนกันค่ะ โทรกระหน่ำเหมือนกันค่ะ อิออน โหดสุด โทรถี่มากค่ะ

หยุดจ่ายเป็นเดือนที่สองคะ บัตรอื่น ๆ โทรมาตามระบบแจ้งไปก้อจบ บอกแค่ว่าจะโทรตามระบบ แต่ยูเมะพลัส มีข้อเสนอคะ ให้จ่ายครึ่งหนึ่งของจ่ายขั้นต่ำทุกเดือน ไม่่ทราบว่าใครเคยเจอปัญหาแบบนี แล้วควรจะต้องทำอย่างไรคะ รบกวนผู้รู้แนะนำทีนะคะ เพราะว่าตอนนี้ยังยืนยันที่จะไม่จายอยู่คะ

ขอความคิดเห็นด้วยนะคะ

ลองอ่านกระทู้นี้ดูนะครับ
และนำมาปรับใช้กับตัวเอง สู้ๆไปด้วยกันครับ

ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=19608&Itemid=29

ขอบคุณมาก ๆ คะ

ถ้าจะแก้ไขหนี้ตามแนวทางชมรมเราจะแนะนำให้หยุดจ่ายทุกบัตร เก็บเงิน
และต้องควบคุมรายรับ-รายจ่ายเพื่อเก็บเงินรอ hair cut
สำหรับยูเมะ หยุด 3 เดือนก็เสนอส่วนลด 20-30% แล้ว
แต่ถ้าอยากได้ส่วนลดงามๆ 60% ขึ้นไปก็ต้องหยุด 5-6 เดือนขึ้นไปค่ะ
อย่าไปใจอ่อนจ่ายหยอดหรือปรับโครงสร้างเด็ดขาด

ปัญหาหลักๆที่เจอคือ "ดอกเบี้ย" มหาโหด (เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้เก็บซะอีก) จ่ายไปเท่าไหร่ก็ไปตัดดอกเบี้ยก่อน เงินที่เหลือถึงจะเอาไปตัดเงินต้น ในความคิดส่วนตัวผมคิดว่า การจ่ายครึ่งเดียวของขั้นต่ำแต่อัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมมันก็เท่ากับเราจ่ายเลี้ยงดอกเบี้ยและตัดเงินต้นได้น้อยลง ยิ่งนานวันดอก (เบี้ย) ก็ยิ่งเบ่งบาน เหมือนโดนช็อตไว้เป็นแหล่งส่งเงินไปเลี้ยงบริษัทบัตรฯ เรื่อยๆจนกว่าจะลาจากกันไปข้าง
สำหรับเจ้านี้ผมได้ข้อเสนอปิดเป็นตัวแรกของที่มีทั้งหมด 7 รายการ เสนอมาตอนเข้าเดือนที่ 6 ได้ส่วนลดจากยอด ณ.วันหยุดประมาณ 42.15%
และที่สำคัญคือผมขอขอบคุณแนวคิดของชมรม และคำปรึกษาจากประธานและกรรมการทุกๆท่าน ที่เสียสละเวลาให้คำปรึกษาจนตอนนี้ผมสามารถจัดการไปได้ครึ่งทางแล้วครับ ขอบคุณจริงๆ

.
ผมรวมกระทู้ให้แล้วนะครับ


รบกวนช่วยไปโพสต์ถามต่อจากในกระทู้เดิมของตัวเองด้วยครับ


1คน ต่อ 1กระทู้ เท่านั้น ขอความร่วมมือด้วยนะครับ

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=8062&Itemid=64#12130






วิธีค้นหากระทู้ของตัวเอง

ขอบคุณมากคะ สำหรับคำแนะนำ จะพยายามทำให้ได้คะ

ขอบคุณมากคะ ขอโทษด้วยคะที่ทำผิดนะคะ

เดือนที่ 2 ที่เริ่มหยุดจ่ายคะ โทรมาทวงกันตามปกติคะ มีกรุงศรีเฟิรส์ช้อยท์คะโทรมาชวนเข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ตามที่อ่านมาเราต้องปฏิเสธการเข้าร่วมโครงการและยืนยันที่จะยังไม่จ่ายถูกมั้ยคะ ใครเคยมีประสบการณ์นี้ช่วยแชร์หน่อยคะ ขอบคุณคะ

ไม่ต้องไปสนใจค่ะ เจ้านี้หยุด 4-5 เดือนก็เสนอส่วนลด 40-50%
ถ้าหยุด 6 เดือนขึ้นไปก็เสนอส่วนลด 60% หรือมากกว่าแล้วแตเทคนิคการเจรจาและงวดที่จ่ายค่ะ

คุณ pfs คะ แล้วเวลาเราพูดกับเจ้าหน้าที่ที่โทรเข้าเชิญเข้าร่วมโครงการ เรายืนยันเลยใช่ไหมคะว่าไม่ต้องการเข้าร่วมเพราะคิดว่ายังไม่สามรถจะจ่ายได้ พูดแบบนี้เลยได้ใช่ไหมคะ

ขอบคุณคะ

kanidtha เขียน: เดือนที่ 2 ที่เริ่มหยุดจ่ายคะ โทรมาทวงกันตามปกติคะ มีกรุงศรีเฟิรส์ช้อยท์คะโทรมาชวนเข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ตามที่อ่านมาเราต้องปฏิเสธการเข้าร่วมโครงการและยืนยันที่จะยังไม่จ่ายถูกมั้ยคะ ใครเคยมีประสบการณ์นี้ช่วยแชร์หน่อยคะ ขอบคุณคะ

ถ้าอยากทำตามแบบเข้าใจแนวคิดต้องตามไปอ่านกระทู้ของคุณนกกระจอกเทศเกี่ยวกับเรื่องการทำประนอมหนี้/การทำสัญญานรก น่ะครับ อ่านจบเห็นภาพเลย

สำหรับผมมันคือการฟอกตัวให้สัญญาจากที่เป็นสีเทา ให้เป็นสีขาวบริสุทธิ์เพื่อเอาไว้จัดหนักเวลาเรื่องถึงกับต้องขึ้นศาล และเป็นแค่การกินยาแก้ปวดรักษาอาการแบบที่คุณนกกระจอกเทศบอกเท่านั้น

แรกๆตอนที่ตัดสินใจจะทำตามแนวทางชมรมเคยโดนคนที่ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจเรื่องพวกนี้หรือเปล่าว่าเอาว่า "ทำไมไม่ทำประนอมหนี้" ใช้น้ำเสียงแบบประมาณว่า ทำไมแกโง่นัก เรื่องแค่นี้ทำไมไม่รู้ ได้ยินแล้วอยากจะเถุียงมากแต่ก็ต้องเงียบไว้ บ้าหรือปล่าวเงินต้นแค่นี้ผมยังไม่มีปัญญาปิด แล้วจะให้เอาเงินต้นไปบวกดอกเบี้ยแล้วเอากลับมาเป็นเงินต้นตามสัญญาใหม่เพื่อคิดดอกเบี้ยผมถึงแม้จะได้ดอกเบี้ยลดลงก็เถอะ ใครมันจะไปทำ

ขอบคุณคะ อยากจะถามต่ออีกนิดนะคะ เพราะอ่านเรื่องบัตร ktc มา เห็นบอกกันว่า ktc จะไม่มีส่วนลดให้และก้อฟ้องเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นเราควรจะส่ง ktc ต่อหรือป่าวคะ

หากเก็บเงินได้พร้อมที่จะ Haircut ก็ควรใช้เงินทีมีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด
ควรนำเงินไปจ่าย Haircut กับเจ้าหนี้รายที่ให้ส่วนลดมากๆไว้ก่อน เป็นลำดับแรก
หากเจ้าหนี้รายใดที่ให้ส่วนลดน้อย ก็ให้มันรอไปก่อน หรือไม่ก็ให้มันฟ้องศาลไป แล้วค่อยไปทำเรื่องขอผ่อนต่อหน้าศาลกันอีกที (เสือกขี้เหนียวนัก ก็มารอเอาเงินผ่อนตอนฟ้องศาลละกัน)

ไปขึ้นศาลที่โดน KTC ฟ้องมา มีไฟล์เสียงมาให้เพื่อนๆฟังครับ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=40967&Itemid=64&limitstart=0#49259


ไปศาลคดีของ KTC มาแล้ว โดยไกล่เกลี่ยขอผ่อน 3ปี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40430&limitstart=120&Itemid=64#54345

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40430&Itemid=64&limitstart=120

เพหยุดจ่ายเข้าเดิ้นที่สองแต่ยังเก็บเงินก่อนได้ที่ได้เพราะมีหนี้นอกระบบ ถ้ายังเป็นยังนี้คงต้องปล่อยให้ฟ้องอย่างเดียว
ใช่ไหมคะ