บัตรเครดิต

ขอเรียนสอบถาม ผมหยุดจ่ายบัตรเครดิตเพราะจ่ายไม่ไหวควรจะต้องแจ้งยกเลิกบัตรและส่งคืนบัตรหรือไม่

.
พอคุณหยุดจ่ายไปได้สักระยะหนึ่ง เดี๋ยวทางฝ่ายเจ้าหนี้มันก็ทำเรื่องยกเลิกบัตรของคุณให้เองแหละครับ
แต่ถ้าคุณแจ้งกลับไปว่า คุณต้องการขอยกเลิกบัตรเอง(แต่ยังไม่ยอมใช้หนี้) มันจะเป็นการเร่งรัดให้ทางฝ่ายเจ้าหนี้ รีบทำเรื่องฟ้องร้องคุณต่อศาลให้เร็วขึ้น (เปรียบเสมือนกับท้าทายเจ้าหนี้ให้รีบฟ้องศาลนั่นแหละครับ)

ขอบพระคุณครับ

เรียน ท่านประธาน / ชมรม
เมื่อเช้าผมส่งข้อความ แต่อาจจะส่งไม่ผ่าน ขอส่งอีกครั้ง ถ้าซ้ำ ต้องขออภัยด้วยครับ
1) ผมมีภาระหนี้ดังนี้
1.1 ทหารไทย บัตรเครดิต 44,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
1.2 ทหารไทย สินเชื่อส่วนบุคคล 66,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
1.3 กรุงไทย บัตรเครดิต 88,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน ,ฟ้อง,สืบพยาน
16/11/58
1.4 กรุงไทย บัตรเงินสด 80,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 3 เดือน, ฟ้อง,สืบพยาน
16/11/58
1.5 กรุงศรีอยุธยา สินเชื่อส่วนบุคคล 20,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
1.6 กรุงศรีอยุธยา สินเชื่อส่วนบุคคล 29,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
1.7 กรุงศรีอยุธยา สินเชื่อส่วนบุคคล 22,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
1.8 กรุงศรีอยุธยา สินเชื่อส่วนบุคคล 98,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
1.9 กรุงศรีอยุธยา บัตรเครดิต 31,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
1.10 CITI สินเชื่อส่วนบุคคล 156,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
1.11 แสตนดาร์ด บัตรเครดิต 46,000.00 หยุดจ่ายประมาณ 5 เดือน
รวม 709,000.00
และชำระหนี้เงินยืมพี่ชาย คงค้างประมาณ 300,000.- เดือนละ 5,000.-บาท
มีรายได้ดังนี้
1 เงินเดือน 41,000.- หัก ภาษี,เงินกู้ไทรทอง คงเหลือ 32,000.-
2.มีรายได้จากค่าเช่า หักคชจ.แล้ว คงเหลือประมาณ 6-7 พันบาท
3.โบนัส ปีละประมาณ 2 เดือน
ค่าใช้จ่าย
1. ค่าการศึกษาบุตร 1 คน เดือนละประมาณ 8,000.-บาท
(มี 2 คน จบแล้ว เพิ่งทำงาน 1 คน)
2. คชจ.ส่วนตัว เดือนละประมาณ 4,000.-บาท
ทรัพย์สิน
เป็นชื่อภรรยาทั้งหมด ที่เช่าทรัพย์สิน (นำมาทำบ้านเช่า) ชื่อบุตรเป็นเจ้าบ้าน และบ้านเป็นชื่อภรรยาอีก 1 หลัง ขายไม่ได้เพราะซื้อร่วมกับน้องชาย หย่ากับภรรยาแล้วก่อนถูกต้อง แต่ยังอยู่ด้วยกันปกติ
ที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาหนี้ผิด และมีภาระค่าใช้จ่ายสูง เพราะทำงานคนเดียวดูและทั้งครอบครัว 5 คน
คดีกรุงไทย ฟ้องรวมประมาณ 190,000.- บาท ดอกเบี้ย 15% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินบัตรเครดิต 5%, บัตรเงินสด 10% ผมมี 2 แนวทาง คือ
1) ทำยอม ผ่อนเดือนละ 2-3 พันบาท ระยะเวลาประมาณ 3 ปี (ผมคิดว่าอาจจะมีเงินเหลือปิดบัญชีอื่นทีทให้ส่วนลดงามๆ) แต่ผมกลัวว่าธนาคารอื่นๆ ฟ้องอีกจะทำยอมไม่ไหว
2) ให้ศาลพิพากษา ขอความเมตตาให้ตัดส่วนที่เป็นค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน (ไม่แน่ว่าจะได้ลดเท่าใด) ยอมให้อายัดเงินเดือน 30%
ผมขอความกรุณาช่วยแนะนำว่าควรจะใช้แนวทางใดครับ ขอบพระคุณครับ

วันนี้ไปคดีบัตรกรุงไทยมาแล้วครับ 2 บัตร ฟ้องรวมกัน ตามฟ้อง ประมาณ 190,xxx เงื่อนไขผ่อนชำระ 3 ปี ระหว่างผ่อนชำระดอกเบี้ย 10% ปีแรกบัตรละ 1,000.-, ปี 2 บัตรละ 1,500.-,ปี3 บัตรละ 2,000.- ขอลดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมตามฟ้องไม่ได้ เห็นว่าพอรับได้จึงเซ็นสัญญายอม
ระหว่างรอศาลเรียก มีคดีบัตรกรุงไทยเช่นกัน ได้เงื่อนไขดีกว่า ระหว่างผ่อนชำระไม่เสียดอกเบี้ย แต่ยอดของเขา 80,xxx เสียดายจัง
ในความเห็นหากเจรจาต่อรอง ควรจะโทรไปเจรจาต่อรองก่อนวันนัด อาจจะได้เงื่อนไขที่ดีกว่าผม เพราะทนายพิมพ์สัญญายอมเตรียมมาแล้ว ไม่แก้ไขเลย