หมายศาลฉบับแรกมาถึงมือเรียบร้อย เป็นเจ้าที่ยอดไม่เยอะ
และคิดว่าน่าจะปิดได้ง่ายๆ แต่หมายศาลก็มาแล้วค่ะ ซึ่งได้ทำการตรวจสอบ
ข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง หมายศาลตัวจริงเสียงจริงเลยค่ะ
บัตรเครดิตกรุงศรีฟ้องค่ะ ด้วยยอด 39,xxx
ซึ่งจ่ายครั้งสุดท้ายวันที่ 30 สิงหา 57 ยอดหยุด 33,xxx
ครบปีหมายศาลก็มาเลยค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเจ้านี้ของเรานานๆ จะโทรมาที
โทรมาก็เสนอส่วนลดเรื่อยๆ ครั้งล่าสุดที่ยื่นข้องเสนทคือเดือนเมษา 58
ให้ปิดที่ 20,000 ซึ่งตอนนั้นเราไม่มีเงินก้อนก็เลยขอผ่อน แต่ทางสำนักกฎหมายไม่ยอมเลย
ก็เลยขอผ่านไปก่อน อีกอย่างเท่าที่อ่านกระทู้ในนี้ก็ทราบมาว่าเจ้านี้ต่อรองได้ลดเกิน 50%
อยู่หลายราย จึงชะล่าใจค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อมาอีก จนกระทั้งวันนี้ได้รับหมายค่ะ
แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากนะคะ ก็เตรียมรับมือเรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว
ก่อนจะมีคำถาม จะขอเล่าถึงข้อมูลคร่าวๆ ของมูลหนี้ก้อนนี้ก่อนนะคะ
เราใช้บัตรเครดิตกรุงศรีใบนี้มีประมาณ 5-6 ปี จ่ายตรง และจ่ายขั้นต่ำมาตลอด
และเราได้อ่านกระทู้ปักหมุดในเรื่องการรับมือเรื่องหมายศาลจนเข้าใจพอสมควร
แต่ก็ยังมีคำถามที่สงสัยอยู่ค่ะ เพื่อการปิดบัญชีหนี้แบบตัวเลขสวยงามที่สุด ยุติธรรมที่สุดค่ะ
คือเราตั้งใจจะไปตามหมายเรียก และไม่ขอเลื่อนเพราะอยากจะจบเคสนี้ไวๆ ค่ะ
ในขั้นตอนไกล่เกลี่ย เราตั้งใจจะรับฟังข้อเสนอที่ทางทนายโจกท์ยื่นเสนอมา
ถ้าไม่ไหว เราจะไม่ยอมประณีประนอมค่ะ แต่ถ้าข้อเสนอฟังดูโอเคเรามีกำลังไหวก็จะเข้ามายอม
ทำเรื่องประณีประนอมต่อหน้าศาลค่ะ
***ซึ่งถ้าข้อเสนอของทนายโจทก์ตัวเลขมันสูงจนเราไม่ไหว เราก็มีทางเลือก 2 ทาง คือ
1. ให้ศาลตัดสินเลย โดยขอให้ศาลพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ลดหย่อนเรื่องค่อดอกบี้ยต่างๆ ค่าล่าช้า ค่าติดตาม ค่าทนายโจกท์ แล้วบอกว่าจะบอกไปตกลงผ่อนชำระกับทางโจทก์เอง อย่างนี้ทำได้หรือเปล่าคะ **และมีคำถามค่ะ ในกรณีให้ศาลตัดสินเลย แต่ขอให้ศาลพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยที่เป็นธรรม เราต้องยื่นคำให้การหรือไม่คะ เรื่องธนาคารคิดดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด เพื่อให้ศาลท่านรับฟัง โดยที่ไม่ต้องมีทนาย เพราะไม่ได้จะสู้คดี อย่างนี้จะทำให้ยอดหนี้ลดลงได้เยอะไหมคะ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าการยื่นคำให้การจะถือว่าเป็นการสู้คดีหรือเปล่า และจะมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมอีกไหม เราเพียงแค่อยากให้ศาลทราบเรื่องดอกเบี้ยที่ผิดกฎหมายค่ะ
2. คือการสู้คดี ซึ่งเราคิดว่าเราจะไม่สู้ เพราะประเด็นของเรามันอ่อน อาจจะสามารถหยิบเรื่องดอกเบี้ยที่ผิดกฎหมายขึ้นสู้ได้ แต่ก็น่าจะได้ลดยอดไปไม่มาก เพราะจะสู้เรื่องอายุความก็ไม่ได้ เพราะทางโจกท์ฟ้องมาหลังหยุดไปแค่ปีเดียว และก็ยื่นฟ้องในศาลพื้นที่ตามทะเบียนบ้านเป๊ะเลย อีกทั้งเรื่องฟ้องบัตรเสริมก็ไม่มี
ถ้าสู้ไปก็ไม่น่าจะคุ้มกับค่าทนาย และค่าธรรมเนียมศาลค่ะ
ขอความเมตตาเพื่อนๆ พี่ๆ ในชมรมไขข้อสงสัยด้วยนะคะ
ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ