ถูกชักชวนให้ซื้อบ้านทำคลีนิค ตอนนี้กำลังถูกขายทอดตลาด มีนักเลงข่มขู่ ช่วยผมด้วยครับ

8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #77478 โดย castial
ตึกดังกล่าวเป็นตึกที่เคยถูกใช้ในการประกอบกิจการคลินิก ใกล้ทะเล ตรงข้ามโรงแรมขนาดใหญ่หลายพันห้อง ใกล้ทะเล มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มีกำลังซื้อสูง แต่เนื่องจากมีปัญหากันระหว่างหุ้นส่วนทำให้ไม่สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ โดยหุ้นส่วนของผมอีก ๒ คนได้ไปร่วมกันเปิดคลินิกแห่งใหม่แต่ไม่บอกผม จนผมต้องควักจ่ายค่าผ่อนตึกด้วยตนเองเป็นเงินประมาณ ๒.๖ ล้านบาทและเงินดาว์นอีกประมาณ เกือบล้าน ในช่วงที่ระหว่างหุ้นส่วนทั้งสองคนของผมบริหารคลีนิค
บัดนี้ ธนาคารได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับผมแล้ว โดยที่ความซวยบังเกิด ผมไม่ได้รับหมายศาลเนื่องจากต้องเดินทางไปทำงานยังต่างถิ่น ปล่อยบ้านที่มีทะเบียนย้านอยู่ให้คนเช่า โดยผู้เช่าก็ไม่ได้แจ้งเรื่องหมายศาลให้ผมรับทราบ ซึ่งการจะไปร้องให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ ทนายความก็บอกกับผมว่า ผมไม่มีทางสู้ธนาคารได้ เนื่องจากขาดส่งงวดจริง จึงต้องหาทางออกอื่น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ตึกดังกล่าวนี้ มีการประกาศขายทอดตลาดในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.

ตึกดังกล่าวทำเลดีจริงๆ โดยตึกของผมเป็นอาคารพาณิชย์ ๑ คูหา โดยอยู่ติดกับอาคารพาณิชย์ของหุ้นส่วนของผมอีก ๑ คูหาเช่นกัน ทั้ง ๒ ตึก ถูกทำให้โล่งต่อกันทุกชั้น แต่เนื่องจากระหว่างที่หุ้นส่วนทั้งสองของผมบริหารคลินิก หุ้นส่วนคนหนี่งได้ให้ญาติของเค้า มาก่อสร้างอาคารขนาดปานกลางปิดหน้าตึกฝั่งตึกของหุ้นส่วนเพื่อเปิดกิจการ ซึ่งอาคารลักษณะนี้หากเจ้าของอาคารพาฌิชย์ไม่อนุญาตจะไม่สามารถก่อสร้างหรือนำมาติดตั้งได้ และภายหลังจากที่มีปัญหาขัดแย้งกัน ร้านของญาติหุ้นส่วนผมก็ย้ายไปอยู่ฝั่งตรงกันข้าม แต่ที่หน้าตึกของผมซึ่งไม่เคยอนุญาตให้ผู้ใดทำการก่อสร้างขวางหน้าตึกของผม เมื่อผมสอบถามหุ้นส่วนของผมว่ารู้หรือไม่ว่าใครมาสร้างอาคารปิดหน้าตึกของคลินิก
หุ้นส่วนผมก็แจ้งกับผมว่าไม่ทราบ ผมจึงได้เข้าไปสอบถามกับผู้ที่ประกอบกิจการที่หน้าตึกผม ว่าเข้าก่อสร้างและประกอบกิจการได้อย่างไร บุคคลดังกล่าวก็แจ้งว่าได้รับอนุญาตจากเจ้าของตึกแล้ว ผมจึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของตึก จากนั้นก็มีชายฉกรรจ์ ๓-๔ คนเข้ามาล้อมผม
ผมจึงถามยืนยันไปอีกว่าผู้ที่อนุญาตให้เข้ามาประกอบกิจการคือใคร บุคคลดังกล่าวก็ไม่ตอบ ชายฉกรรจ์ก็ยังยืนล้อมผมอยู่ด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร ผมจึงต้องระเห็จออกจากบริเวณตึกของตนเอง ด้วยสภาพจำยอม
คลินิกนี้เปิดกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ หลายท่านที่มีคลีนิคเป็นของตนเองย่อมทราบดีว่าในปีแรก คลินิกจะมีภาระในการผ่อนชำระอุปกรณ์ทางการแพทย์แทบทุกชนิด เช่นเดียวกันกับคลินิกแห่งนี้ แต่ผมจะได้แนบเอกสารซึ่งแสดงผลประกอบการซึ่งเป็นลายมือของหุ้นส่วนของผมเองนั้น มีกำไรสุทธิ เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ปี ๑๕๕๒ เป็นเงิน ๖๐๗๔๖๘.๗๕ บาท


โดยในปีดังกล่าวผมได้มีโอกาสบริหารอันเนื่องมาจากหุ้นส่วนของผมทั้งสองคน ปฏิบัติผิดเงื่อนไขจากที่ได้ตกลงกันไว้ว่า ทุกคนมาลงทำงานสัปดาห์ล่ะ ๒วัน แล้วจ้าง บุคคล ภายนอกในอีก ๑ วันที่เหลือ แต่ปรากฏว่าหุ้นส่วนทั้งสองคนอ้างว่า ตนเองเป็นแพทย์เฉพาะทาง จะไม่มาปฏิบัติงานหากผมไม่รวมคนไข้ไว้ให้มากพอ ทำให้ผมเป็นเสมือนเป็นผู้บริหารคลินิกคนเดียว โดยที่ นางสาว ๑ เป็นคนเก็บเงินและทำบัญชี โดย นางสาว ๒ แทบจะไม่เข้าคลีนิคเลย เนื่องอ้างว่าต้องบริหารคลินิกตนเอง อย่างไรก็ตามในปี ๒๕๕๓ ภายหลังจากที่การบริหารของผม ทำรายได้ให้กับคลินิก เพียงเดือนล่ะ ๓ -๕ แสนบาท หุ้นส่วนของผมทั้งสองคนก็ได้ขอคุยกับผมว่า ตนเองบริหารได้ดีกว่า ทำรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนล่ะ ๑ ล้านบาท จึงขอให้ผมออกจากคลินิกที่ผมเป็นเจ้าของร่วมไป ผมจึงไปหางานทำใหม่เป็นลูกจ้างในกรุงเทพ หลังจากนั้นเป็นเวลาปีเศษ ผมก็ได้รับข้อความสั้น จากนางสาว ๑ ว่าให้ผม ไปยกเลิกน้ำ ไฟ โทรศัพท์และ อินเตอร์เน็ต เนื่องจากจะปิดกิจการคลินิก ผมจึงได้โทรหา นางสาว ๒ เพื่อสอบถาม นางสาว ๒ จึงแจ้งกับผมว่า นางสาว ๒ โดน นางสาว ๑ หลอกลวง ให้ทำไม่ดีกับผมและเสียใจในทุกอย่างที่ทำไป ผมจึงขอดูบัญชีเนื่องจากไม่เข้าใจว่ากิจการในทำเลที่ดี และมีผู้บริหารเป็นหมอเฉพาะทางถึงสองคน จะขาดทุนไปได้อย่างไร หุ้นส่วนทั้งสองก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมแสดงรายการบัญชีรับจ่ายเงินของคลินิก แต่กลับบอกให้ขายตึกและนำเงินที่ได้หลังจากหักหนี้ธนาคารมาแบ่งปันกัน ทั้งๆที่เงินที่ผ่อนชำระตึกหลังนี้กว่าร้อยล่ะ ๘๐ เป็นเงินส่วนตัวของผม ซึ่งไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการประกอบกิจการของคลินิกแต่อย่างใด ผมจึงไม่ยอม และยืนยันให้หุ้นส่วนของผมทั้งสองคน ชี้แจงรายละเอียด ทางบัญชี ซึ่งได้รับการปฏิเสธ จึงได้แยกย้ายกันกลับ


จากนั้นเมื่อไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจ ผมจึงเริ่มสืบจนทราบว่า เหตุที่คลินิก ประสบปัญหาขาดทุน เนื่องมากจากหุ้นส่วนของผมทั้งสองคน ได้ไปร่วมกันเปิดคลินิกอีกแห่งหนึ่ง โดยไม่แจ้งให้ผมทราบ และ พิรุทในการสั่งซื้อเวชภัณท์และ ครุภัณท์หลายรายการ อาทิเช่น คลินิกปิดกิจการในวันที่ ๑๕ ธันวามคม ๒๕๕๔ แต่ ในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๕ กลับมีการสั่งซื้อ แบตเตอรี่เครื่อง X ray ในนามของคลินิก และมีการลงรายการว่าใช้เงินของคลินิกในการจาก โดยรายลายมือของหุ้นส่วนของผมเอง ซึ่งเครื่อง X ray ดังกล่าวนั้น ตอนที่ผมไปดูตึกของผมในปลายปี ๒๕๕๔ ก็ไม่อยู่แล้ว ปรากฏตามภาพถ่ายที่แนบไว้



ซึ่งจากทั้งหมดที่ได้บอกเล่ามานี้ จะเห็นได้ว่าเหตุที่ผมไม่สามารถไปซื้อตึกของตนเองได้ เพราะเนื่องมาจาก ผมเองก็สิ้นเนื้อประดาตัว ไม่สามารถพาคนอื่นไปซื้อตึกก่อนที่จะถูกธนาคารฟ้องได้ ก็เพราะมีชายฉกรรจ มายืนล้อมผมทุกครั้งที่ผมเข้าพื้นที่ แม้นกระทั่งคนที่มาประกอบกิจการหน้าตึกผม ยังบอกว่าเจ้าของตึกอนุญาตแล้วทั้งๆที่ผมไม่เคยอนุญาตผู้ใดมาก่อน และเมื่อผมบอกให้ย้ายออก ก็บอกให้ผมไปคุยกับเจ้าของตึกเอง ซึ่งสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ ธนาคาร ที่โทรศัพท์หาผมและแจ้งให้ผม ขายตึกของผมให้แก่หุ้นส่วน ซึ่งผมไม่สะดวกใจที่จะคุยต่อ จึงปฎิเสธไปและขอให้ธนาคารฟ้องผมแทนดีกว่า ดังนั้นหากท่านใดสนใจ ตึกที่ทำเลดีเหมาะแก่การเปิดคลินิก โดยไม่สนใจว่าจะมีคนมาก่อกวน ได้โปรด ส่งข้อความหาผม ผมจะแจ้งสถานที่ตั้ง ของทรัพย์ และสถานที่ที่จะทำการประมูล ทั้งนี้การประมูลจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. โดยผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีคนเข้าสู้ราคา เพื่อไม่ให้หุ้นส่วนของผม ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน อันที่เขาไม่ควรจะได้ ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดเป็นจำนวนมาก
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #77479 โดย castial
ผมเองก็เป็นแพทย์ GP สาขาหนึ่ง แม้นไม่รวยแต่ก็ไม่เคยมีประวัติเสียเรื่องการเงิน
ขณะเกิดเรื่อง ผมรับราชการเงินเดือนรวมทุกอย่าง 32000 บาท แต่ต้องผ่อนตึกเดือนล่ะ 38500 และมีภาระต้องรับผิดชอบมากมาย ผมทนผ่อนโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆเป็นเวลานาน ขอเอาตึกออกเช่าหาเงินมาชำระธนาคาร หุ้นส่วนก็ไม่ยอม
เมื่อขอเจรจากับหุ้นส่วนทั้งสองหลายครั้งและร้องขอให้นำคนกลางในวิชาชีพมาเป ็นคนกลาง แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยจะให้ร้อยเวรที่ได้รับการฝากฝัง จากฝ่ายตนเองดำเนินการเท่านั้น
ผมไม่ได้อยากฟ้องร้องไม่ได้อยากต่อสู้ แต่ถูกบีบจนไม่เหลือหนทางอื่นจริงๆครับ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #77480 โดย castial
ผมได้ต่อสู้ตามกระบวนการ เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องคดี หลังจากที่พยายามเกือบ 3 เดือนในการขอเจรจา จึงกลัวคดีขาดอายุความ เพราะคดียักยอกมีอายุความแค่ 3 เดือน
ผมอดทนสู้ทุกอย่างตามหนทางที่ถูกต้อง ถึงจะเสียเปรียบทุกทางทุกด้าน ไม่มีแม้นแต่หลักฐานแผ่นเดียวในการสู้
โดนจัดฉากให้ขอเครื่องรูดบัตรไปใช้ในคลีนิคแล้วให้ร้ายว่าผมเป็นคนโกง
โดนใส่ร้ายว่าแอบไปเปิดร้านเพิ่มอย่างเดียวกับที่หุ้นส่วนสองคนทำ แต่ก็ต่อสู้จนพิสูจน์ได้ว่าไม่จริง
ผมไปเดินสมัครงานใน กทม ตั่งแต่ปี 2553 และไม่เคยกลับไปที่เกิดเหตุยกเว้นมีธุระจำเป็น จะให้ไปหุ้นเปิดร้านอีกแห่งได้อย่างไร เงินก็ไม่มี เงินเดือน GP สาขาที่ผทจบใน กทม = 32000 บาท ในราชการ
อย่างที่แจ้งเรื่องที่ post ได้ ไม่ถึง 10 % ของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงครับ
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

คำให้การหุ้นส่วนที่ 1 ปี 2555
High light ไว้ 3 ข้อ sensor ไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาครับ
1 หุ้นส่วนที่ 1 อ้างผมเป็นคนเก็บเงินและทำบัญชี โดยไม่ยอมส่งมอบเงินและบัญชีให้ตั้งแต่ปี 2552
2 หุ้นส่วนที่ 1 อ้าง น้อง part time ศ เป็นพยาน ยืนยันข้อมูลของตนเอง
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #77481 โดย castial
แต่คำให้การของหมอ part time ที่จำเลยที่ 1 อ้างและพยาบาล เป็นตามเอกาสรตามนี้ครับ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #77482 โดย castial
เมื่อหุ้นส่วนเห็นแล้วว่า ผมสามารถพิสูจน์ได้ว่า ตนเองไม่เคยเก็บเงินไว้ และพบหลักฐานการโอนเงินของห้างหุ้นส่วนเข้าบัญชีส่วนตัวของหุ้นส่วนที่ 1
นี่คือสิ่งที่หุ้นส่วนคนที่ 1 ให้การต่อมาใน ปี 2557 ครับ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #77483 โดย castial
ส่วนหุ้ส่วนคนที่สอง ซึ่งเป็นจำเลยในคดีแพ่ง ได้มาเป็นพยานให้หุ้นส่วนที่ 1 ในคดีอาญา โดยมีคำให้การในคดี แพ่ง ปี 2555 และ คดี อาญา 2557 เป็นดังเอกสาร
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #77486 โดย castial
เมื่อหุ้นส่วนทั้งสองผลัดกันให้การเป็นพยานซึ่งกันและกัน ถ้าเอามาเรียงลำดับเวลา ตามเวลาที่ให้การ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.840 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena