การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ .. หนูอยากหมดหนี้

ทุกวันนี้มีรายการหนี้ ทั้งหมด 6 รายการ
1. บัตรเครดิต KTC 32,843.43 บาท (คุยรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ เเละยินยอมจ่ายทุกเดือนเดือนละ 2,000 บาท ส่ง 2,000 บาทมาทุกเดือน เป็นเวลา 1.3 ปี ไม่เคยขาดส่ง)
2. บัตรกดเงินสด KTC 38,329.86 บาท (คุยรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ เเละยินยอมจ่ายทุกเดือนเดือนละ 2,000 บาท ส่ง 2,000 บาทมาทุกเดือน เป็นเวลา 1.3 ปี ไม่เคยขาดส่ง) ทำเหมือนกับใบแรก กลับมาเป็นเด็กดี ไม่เคยขาดส่ง เพราะอยากหมดหนี้
3. บัตรยูเมะ 7,063 บาท อันนี้ไม่มีภาวะหนี้เสีย เป็นหนี้ปกติ จ่ายทุกเดือน ไม่มีขาดส่ง
4. บัตรเครดิตธนาคารกสิกร 25,000 บาท (คุยรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ ขอจ่ายที่เดือนละ1,000 บาท จ่ายทุกเดือนเป็นระยะเวลา 1.3 ปีไม่เคยขาดส่ง)

มาถึงบัตรที่สร้างความปวดหัวให้ในตอนนี้
5. บัตรเครดิต ธนาคารไทยพาณิชย์ 42,200 (เจ้าหน้าที่เคยโทรมาคุยรายละเอียดเเละให้จ่ายขั้นต่ำที่ 2,450 บาท ทุกเดือน เเต่จ่ายเดือนละ 3,000 บาท เพราะอยากหมดหนี้ไวไว )
ุ6. บัตร speedy cash ของไทยพาณิชย์ 11,400 บาท บัตรนี้ส่งตรงทุกเดือน บัญชีปกติ

เมื่อวานเจ้าหน้าที่ที่บอกว่าเป็นคนดูเเลเคส โทรมาสอบถามให้เราปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อลดภาระการผ่อนชำระ เเละวันนี้เจ้าหน้าที่อีกท่านโทรมาพูดคุยเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของธนาคาร เห็นว่าเป็นลูกค้าที่ภายหลัง ชำระหนี้สม่ำเสมอ เลยจะเสนอลดดอกเบี้ยให้ โดยรวมหนี้ 2 บัตรของธนาคารไว้เป็นก้อนเดียวกัน จากยอด 42,200 และ 11,400 โดยเสนอให้ชำระ 1,510 บาทต่อเดือน ภายในระยะเวลา 60 งวด
ซึ่งคำนวณดอกเบี้ยที่ 15% ต่อปี โดยให้ยื่นเอกสาร บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน โดยเเจ้งว่าให้เขียนคำขอตามเอกสารที่ส่งให้ เเล้วเเนบเอกสารมาให้

พอสอบถามว่า...
เราจ่ายมากกว่าเดือนละ 1,510 บาทได้มั้ย เพราะตอนนี้บัตรเครดิตเราก็จ่ายมากกว่าขั้นต่ำที่เสนอมา เพื่อจะลดต้นลดดอก เจ้าหน้าที่เเจ้งว่า ไม่ได้ เพราะจะไม่เข้าข่ายในโครงการ ยังไงก็ต้องจ่าย 1,510 บาท เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราจ่ายสม่ำเสมอ อาจขอลดต้นลดดอกได้อีกในอนาคต

เจ้าหน้าที่เเจ้งอีกว่า ลูกค้าต้องติดตามหนี้เอาเอง หากมีการชำระในเเต่ละครั้ง ว่าหมดหนี้เมื่อไหร่ ยอดคงเหลือเท่าไหร่

พอเราสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดตัวบัตรเครดิต เจ้าหน้าที่เลยเเจ้งว่า ปกติบัตรเครดิตเรามีวงเงิน 20,000 บาท เเต่ก็มีการขอวงเงินเพิ่ม 20,000 บาท ซึ่งเป็นเรื่องจริง เเละเจ้าหน้าที่เเจ้งเพิ่มเติมอีกว่า

หากเราไม่เข้าปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ยอดการจ่ายเดือนกุมภาพันธ์ (25/02/16) ต้องจ่ายจำนวน 26,000 บาท ของบัตรเครดิต เพราะจะมีการเรียกเก็บยอดที่ได้มีการขอวงเงินเพิมเติมในครั้งก่อน

ขอคำปรึกษาด้วยนะคะว่าควรทำอย่างไรดี อยากหมดหนี้ ไม่อยากสร้างหนี้เพิ่ม กำลังเป็นเด็กดีจ่ายตรง ไม่หนี เเต่เจอเเบบนี้ก็ท้อใจ

เค้ากำลังทำผิดให้เป็นถูก กำลังทำให้ตัวเองได้เปรียบ


www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6343&Itemid=29 สัญญานรกคืออะไร? (การประนอมหนี้ ,เซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ยังไม่จ่ายมีผลบังคับหรือไม่)

ขอบคุณ คุณ Tomyumkung สำหรับคำตอบนะคะ

อย่างนั้น ถ้าเราไม่เซ็นเอกสารปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เเล้วยืนยันจ่ายหนี้ตามเดิมของบัตรเครดิตที่ 3,000 บาท จะเป็นอย่างไรบ้างคะ

เพราะเรื่องการจ่ายขั้นต่ำที่ 1,510 บาท คงไม่ได้จ่ายตามนั้น เพราะคงมีการจ่ายเพิ่มจากเดิมอยู่เเล้ว

หรือควรทำอย่างไรดีคะ

ถ้าพี่ จ่ายตรงเวลา เครดิตดี มาตลอด จะ ปรับปรุงโครงสร้างก็ได้นะครับ

แต่ กรณี ถ้าจ่าย ไม่ไหว แล้วเรื่องถึงต้องขึ้นศาล สัญญาตัวที่ปรับโครงสร้างหนี้จะทำให้เจ้าหนี้ได้เปรียบครับ

คุณ Tomyumkung คะ ขอสอบถามหน่อยค่ะ

ยอดหนี้ที่มีการจ่ายหลังการปรับปรุงโครงสร้าง เดือนละ 1,510 บาท เป็นจำนวน 60 งวด ทำเเบบนี้ เจ้าหนี้ก็ได้

ประโยชน์อยู่เเล้วนี่คะ เพราะถึงจะจ่ายมากกว่าหลังจากปรับปรุงโครงสร้าง ก็ไม่ได้ทำให้ยอดหนี้ลดลงเลย

เดือนละ 1,510 บาท * 60 งวด เป็นเงิน 90,600 บาท ถึงเเม้ว่าเราจะจ่ายมากกว่า ก็ไม่ได้ลดต้น ลดดอกนี่คะ

หรือมีความเข้าใจผิด ขอคำเเนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะ