ไม่ได้แย่ แต่รู้สึกอยากเปลี่ยนแปลง

ตอนนี้เป็นหนี้บัตรเครดิต 4 กับ สินเชื่อส่วนบุคคล 1
ยอดรวมๆ ประมาณ 155,000 บ. (ดูจากยอดที่ใช้ไปทั้งหมดในปัจจุบัน)
ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่มากค่ะ ยังคงหมุนทัน แต่กลัวในอนาคตจะไม่ไหว เพราะค่าใช้จ่ายก็เพื่อขึ้นทุกวัน
พอดีในอนาคตมีแพลนจะซื้อบ้าน เลยไม่กล้าจะปล่อย กลัวติดบรูโล
อยากขอคำปรึกษาว่า ถ้าเราไปทำสินเชื่อส่วนบุคคลมา แล้วมาผ่อนแค่ทางเดียว ดีกว่าผ่อนทุกใบ อยู่แบบนี้ ดีกว่ามั้ยค่ะ? หรือทำยังไงดี ขอบคุณสำหรับคำปรึกษาล่วงหน้าค่ะ (ไปสมัครของ TMB มา 2 ครั้งแล้ว เว้น 3 เดือน แต่ไม่ผ่าน ไม่รู้ว่าธ.ใช้กฏเกณฑ์ดูยังไง ใครรู้ช่วยตอบด้วยนะค่ะ)

abyadato เขียน: ตอนนี้เป็นหนี้บัตรเครดิต 4 กับ สินเชื่อส่วนบุคคล 1
ยอดรวมๆ ประมาณ 155,000 บ. (ดูจากยอดที่ใช้ไปทั้งหมดในปัจจุบัน)
ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่มากค่ะ ยังคงหมุนทัน แต่กลัวในอนาคตจะไม่ไหว เพราะค่าใช้จ่ายก็เพื่อขึ้นทุกวัน
พอดีในอนาคตมีแพลนจะซื้อบ้าน เลยไม่กล้าจะปล่อย กลัวติดบรูโล
อยากขอคำปรึกษาว่า ถ้าเราไปทำสินเชื่อส่วนบุคคลมา แล้วมาผ่อนแค่ทางเดียว ดีกว่าผ่อนทุกใบ อยู่แบบนี้ ดีกว่ามั้ยค่ะ? หรือทำยังไงดี ขอบคุณสำหรับคำปรึกษาล่วงหน้าค่ะ (ไปสมัครของ TMB มา 2 ครั้งแล้ว เว้น 3 เดือน แต่ไม่ผ่าน ไม่รู้ว่าธ.ใช้กฏเกณฑ์ดูยังไง ใครรู้ช่วยตอบด้วยนะค่ะ)

ตอนนี้หนี้เสียเยอะคะ เดี๋ยวหนี้แบงค์ก็ฉลาดขึ้น ที่เขาให้เรากรอกอนุญาติเช็คเครดิตบูโรนั้นแหละคะ เขาจะเอามาประเมินหนี้ที่มีกับ เงินรายได้ ความเสี่ยงของธนาคาร คะ เราก็เคยผ่านมาและ สู้ต่อไปนะ

ขอบคุณมากคะคุณ vitadada
แต่รอบล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ ที่เดินเรื่องให้ แจ้งว่า รายได้ หลังหักรายจ่ายแล้ว ยังอยู่ในเกณฑ์
เลยไม่แน่ใจว่า เค้าใช้หลักเกณฑ์อะไร ถึงไม่ผ่าน นี่ก็ 2 รอบแล้ว ธ.เดิม แต่เปลี่ยนสาขาค่ะ

เอารายได้ - รายจ่าย - ค่าครองชีพโดยประมาณค่ะ (ค่ากิน ค่าน้ำ ไฟ อื่นๆ) โดยเฉพาะค่าจ่ายหนี้ขั้นต่ำถ้าเกิน 50 % ของเงินเดือนไม่ผ่านค่ะ

พอลองคิดๆดู มันก็เกิน 50% ของรายได้ค่ะ
รายได้ 21000 บ./เดือน
รายจ่ายสินเชื่อส่วนบุคคลต่อเดือน 4690 บ./เดือน
บัตรเครดิตจ่ายขั้นต่ำ รวม 10500 บ./เดือน
ใช่จ่ายส่วนตัวโดยประมาณ 3500 บ./เดือน
รายจ่ายเกิน 50% ของรายได้จริงๆ
ขอบคุณมากค่ะ คุณ anawon

abyadato เขียน: ตอนนี้เป็นหนี้บัตรเครดิต 4 กับ สินเชื่อส่วนบุคคล 1
ยอดรวมๆ ประมาณ 155,000 บ. (ดูจากยอดที่ใช้ไปทั้งหมดในปัจจุบัน)
ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่มากค่ะ ยังคงหมุนทัน แต่กลัวในอนาคตจะไม่ไหว เพราะค่าใช้จ่ายก็เพื่อขึ้นทุกวัน
พอดีในอนาคตมีแพลนจะซื้อบ้าน เลยไม่กล้าจะปล่อย กลัวติดบรูโล

การที่ลูกหนี้จะเป็น NPL หรือเป็น"หนี้เน่า"ได้นั้น เกิดขึ้นจากการที่ลูกหนี้หยุดจ่ายหนี้เป็นเวลานานติดต่อกันถึง 3เดือน แล้วหลังจากนั้น สถานะของลูกหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นหนี้ NPL ทันที

NPL ย่อมาจากอะไร หมายถึง…
webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:HCgCJcjyY94J:www.xn--12c0ecxsex2q.com/npl/+&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th




ประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรสำหรับลูกหนี้ที่ใช้วิธีหยุดจ่าย
หลังจากที่ลูกหนี้หยุดจ่ายหนี้มานานจนครบ 3เดือนแล้ว ก็จะมีประวัติเป็น"หนี้เสีย"(NPL)อย่างเป็นทางการ...ซึ่งก็หมายความว่าลูกหนี้ได้มีสถานะเป็น Blacklist (บัญชีดำ) ในเครดิตบูโรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ถ้าหากวันใดที่ลูกหนี้ได้ทำการจ่ายปิดบัญชีหนี้จนหมดแล้ว (โดยไม่สนใจว่าลูกหนี้จะจ่ายปิดบัญชีด้วยวิธีการ Haircut หรือด้วยวิธีการใดๆก็ตาม รวมทั้งการขายหนี้เน่าของลูกหนี้ออกไปด้วย) ลูกหนี้ก็จะต้องติด Blacklist อยู่ต่อไปอีกแค่ 3ปี เท่านั้น แล้วหลังจากนั้น ประวัติหนี้เสียที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปจนหมดสิ้น

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1372&Itemid=64




แถมกฏหมายฉบับใหม่ของเครดิตบูโร ยังเขียนไว้ด้วยอีกว่า ต่อให้ลูกหนี้ไม่จ่ายชำระหนี้คืนเลยก็ตาม ก็กำหนดให้ลูกหนี้ต้องติด"บัญชีดำ"(Blacklist)อยู่ในเครดิตบูโร เพียงแค่ 8ปีเท่านั้น หากเมื่อเกิน 8ปีไปแล้ว ต้องทำการลบล้างประวัคิเสีย(Blacklist)ของลูกหนี้ ออกจากระบบข้อมูลของเครดิตบูโรทันที
*** กำหนดไว้อยู่ใน ข้อ ๑๘ (๒) และ (๓) ของราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง ***

ผมเคยอธิบายไว้มานานแล้ว อยู่ในกระทู้นี้ครับ

เหมือนเกิดใหม่"ราชกิจจานุเบกษา" ประกาศชัด ล้างประวัติลูกหนี้แบล็คลิสต์ 6 แสนราย
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41892&Itemid=64#58267

ดังนั้น...ใครก็ตามที่ติด Blacklist อยู่ในเครดิตบูโรมานานจนครบ 8ปีแล้ว
ต่อให้ลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ , ไม่ยอม Haircut , ไม่จ่ายหนี้เลยไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆทั้งสิ้นก็ตาม

ประวัติ Blacklist (บัญชีดำ) ของลูกหนี้ที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปทันทีตามที่กฎหมายฉบับใหม่ได้บัญญัติเอาไว้


ไม่มีใครเขาติด Blacklist อยู่ในเครดิตบูโรไปจนตลอดชีวิตหรอกครับ ถึงแม้จะไม่จ่ายหนี้เลยก็ตาม

abyadato เขียน: พอลองคิดๆดู มันก็เกิน 50% ของรายได้ค่ะ
รายได้ 21000 บ./เดือน
รายจ่ายสินเชื่อส่วนบุคคลต่อเดือน 4690 บ./เดือน
บัตรเครดิตจ่ายขั้นต่ำ รวม 10500 บ./เดือน
ใช่จ่ายส่วนตัวโดยประมาณ 3500 บ./เดือน
รายจ่ายเกิน 50% ของรายได้จริงๆ

วิธีแก้หนี้

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64

ขอแนะนำจขกท.อย่างหนึ่ง ไม่ใช่แนวทางของชมรม แต่ไม่อยากให้หนี้วน ๆ อยู่แบบนี้

ถ้ากู้ผ่าน ควรนำเงินไปชำระหนี้บัตรเครดิตทั้งก้อน แล้วยกเลิกบัตรเครดิตที่มีทั้งหมด เพื่อไม่ให้สร้างหนี้อีก

เพราะคนที่เป็นหนี้ส่วนใหญ่เพราะหมุนบัตรนั้นจ่ายบัตรนี้

ขอให้โชคดี

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะค่ะ