แม่เสียชีวิต เป็นหนี้บัตรหลายใบค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ เมื่อเดือนก่อนผมก็เพิ่งสูญเสียน้องชายไปเหมือนกัน มีหนี้เหมือนกัน
อยากจะถ่ายทอดประสบการณ์และอยากบอกว่าต่อจากนี้ไป  คุณต้องตั้งสติ ทำหน้าที่เป็นหลักให้กับครอบครัวด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. แจ้งเรื่องการเสียชีวิต เบื้องต้นส่งใบมรณบัตร และทำเรื่องที่อำเภอและนำสำเนาทะเบียนบ้านชื่อของคุณแม่ที่ปั๊มว่า"ตาย"
ส่งไปทาง Fax / E-Mail และส่งไปทางไปรษณีย์และเขียนจดหมายด้วยลายมือว่าขอแจ้งการเสียชีวิตไปนะครับ
เก็บหลักฐานการส่งไว้ สถานะการส่ง EMS เพื่อใช้นับอายุความ กรณีนี้มีอายุความ 1 ปีหลังจากเจ้าหนี้ทราบถึงการเสียชีวิตของลูกหนี้ครับ
หรืออาจจะแจ้งไปตามสาขาในห้างสรรพสินค้าจะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องเอาไว้แล้วนำเอกสารตอบรับกลับมาด้วย

จากประสบการณ์พบว่า
1.1 Call Center มีแต่ระบบตอบกลับอัตโนมัติเป็นส่วนใหญ่ ไม่ตอบโจทย์ในกรณีแบบนี้
1.2 E-Mail ส่งได้ไม่เกิน 1 - 2 MB เท่านั้น ส่งได้ถ้าติดต่อ Call Center ได้จะมีอีเมล์เฉพาะที่ไม่มีบน Website ธนาคาร

2. แจ้งประกันสังคม ตามจัดเตรียมเอกสารที่ประกันสังคมแจ้งมา ถ้าคุณเป็นผู้จัดการศพคุณต้องเอาใบรับรองการจัดการศพจากวัด
ให้ท่านเจ้าอาวาสเซ็นรับรองและมีตราประทับด้วย ศึกษาจากกระทู้นี้ประกอบ pantip.com/topic/36572756

3. คุณต้องกล้าคุย กล้าชนกับปัญหานี้ อย่าไปเซ็นรับสภาพหนี้เด็ดขาด คุณรับผิดชอบหนี้ได้ไม่เกินมรดกที่ได้รับมาเท่านั้น
การประกันชีวิต ไม่ถือเป็นสินทรัพย์ของบุพการี เพราะฉะนั้น หากบุพการีเสียชีวิต เงินได้จากประกันชีวิตจะไม่สามารถถูกนำไปใช้จ่ายหนี้สินได้
ผู้ได้รับผลประโยชน์ ยังคงได้รับต่อไป ยกเว้นเสียแต่ว่า บุพการีระบุไว้อย่างชัดเจนให้ประกันชีวิตเป็นทรัพย์สิน หากบุพการีเสียชีวิต
เจ้าหนี้สามารถยึดเงินได้จากประกันชีวิตได้อย่างชอบธรรม

4. ถ้าถูกฟ้องมา เจ้าหนี้ฟ้องคนตายไม่ได้  เขาฟ้องทายาทแทน ให้ติดต่อคุณอาไพโรจน์เพื่อเขียนคำให้การสู้คดีนะครับ (ส่วนนี้ปรึกษาคุณอาไพโรจน์ได้)

อันที่จริงแล้ว เงินประกันชีวิต(1.เงินจากประกันสังคม 2.เงินประกันชีวิตจากบริษัท)เป็นเงินที่เกิดจากสัญญาระหว่างผู้เอาประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิต
ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัย  เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต  บริษัทที่รับประกันก็จะชดใช้เงินแก่ผู้รับประโยชน์
ที่ผู้เอาประกันระบุไว้สืบเนื่องจากความตายของผู้ตาย

เงินที่ได้จากประกันชีวิตนี้จึงมิใช่มรดกของผู้ตายที่มีอยู่ก่อนหรือมีอยู่ในขณะถึงแก่ความตาย
ดังนั้น เมื่อเงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดกจึงไม่ตกทอดไปสู่ทายาทเมื่อผู้เอาประกันชีวิตถึงแก่ความตาย
ไม่ว่าจะเป็นทายาทโดยธรรมเช่นคู่สมรสตามกฏหมาย, บุตร เป็นต้น  หรือทายาทผู้รับพินัยกรรมตามพินัยกรรม
แต่จะตกกับคนที่มีชื่อเป็นผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันชีวิตนั่นเอง

เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่แน่ใจแต่  ได้ตามสัดส่วนตาม พรบ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530