เข้าคลินิกแก้หนี้ปีนี้ไม่ทัน คิดว่าปี 2565 นี้จะมีเฟสใหม่มั้ยคะ หนี้รวม 1 ล้าน

เคยศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2563 แต่ช่วงนั้นคือมีเงินก้อนมาปิดไปได้บางส่วน จนเริ่มไม่ไหวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 แล้วค่ะ แต่พอมีโบนัสก็จ่ายผ่านมาได้ เพิ่งมาไม่ไหวจริง ๆ คือเดือนที่แล้วค่ะ เกิดปัญหามากมายรุมล้อม แล้วไหวตัวช้าไป (มาก) หนี้รวมบัตรเครดิต+สินเชื่อส่วนบุคคลประมาณ 1 ล้านบาท ตีกลม ๆ อยากเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้มากๆ ค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเค้าจะเปิดอีกรึป่าว โทรถาม เค้าแจ้งว่าไม่แนะนำให้รอ เพราะสินทรัพย์อาจจะถูกยึดได้ พี่ ๆ คิดว่าหนูควรทำอย่างไรต่อคะ?

ตอนนี้หยุดจ่ายกำลังเข้ารอบบิลที่ 2 ดังนี้ค่ะ
1. บัตร KTC
2. บัตรกดเงินสด KTC (ขอเปลี่ยนประเภทหนี้เป็นผ่อนระยะยาว 48 งวดแล้ว)
3. สินเชื่อกรุงศรี เดอะวัน (ปรับโครงสร้างเมื่อปี 63)
4. บัตรกรุงศรีเดอะวัน (ปรับโครงสร้างเมื่อปี 63)
5. บัตรเฟิร์สช้อย (ปรับโครงสร้างเมื่อปี 63)
6. บัตรกดเงินสด SCB (ขอเปลี่ยนประเภทหนี้เป็นผ่อนระยะยาว 48 งวดแล้ว)
7. บัตรกดเงินสด UOB
8. สินเชื่อส่วนบุคคล TMB 
ไม่ไหวมาก ๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง คิดว่าช่วยแนะนำคนจังหวะไม่ดีแบบหนูหน่อยนะคะ

และอยากทราบต่อว่าถ้าหนูไม่สามารถเข้าคลินิคแก้หนี้ได้ หนูควรจะทำอย่างไรต่อคะ กลัวมีปัญหาเรื่องที่ทำงานมาก ๆ ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ🙏

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ

สอบถามเพิ่มเติมค่ะ ถ้าเราเข้าร่วมมาตรการ แก้ไขหนี้ระยะยาวของ ธปท. ที่ให้รวมหนี้บ้าน กับพวกบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล (เห็นว่ารวมหนี้ข้ามสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการได้)
สอบถามว่ามันจะเหมือนสัญญาปรับโครงสร้างนี้มั้ยคะ เข็ดขยาดจริง ๆ ค่ะ ตอนแรกจะรอคลินิกแก้หนี้ ก็กลัวจะเหมือนกับที่ คุณ Badman บอกค่ะ พยายามหาแนวทางอยู่ค่ะ พอดีมีสินเชื่อบ้านอยู่ ถ้ารวมหนี้ได้ จะดีมั้ยคะ?

จะเข้าของปี 65 
ตอนนี้  
คุณต้องเกิดหนี้เสีย เริ่มตั้งแต่ของปี 64  จนถึง 1 เมษายน 65 นะครับบ  
ถ้าหลังจากนั้น  ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบว่าจะเปิดเฟส ใหม่อีกเมื่อไหร่  อาจจะราวๆ เดือน ตุลาคม  แต่ไม่ชัวร์นะ  ครับบ.  
ถ้าคุณจะเข้าคลีนิก  คุณมีตัวไหน ที่เกิดหนี้เสียเกิน 120 วันบ้างแล้ววครับบ?  *** ถ้าไม่มี  ต้องคิดหาทางออกใหม่  ครับบ  ถ้าจะเอาเข้าคลีนิกแก้หนี้ ต้องหยุดจ่าย หยุดส่งขั้นต่ำ หยุดจ่ายหยอด  ต้องไม่จ่ายอะไรทั้งสิ้น...   *** แต่ต้องระวัง จะมีบางบัตร บางสินเชื่อ  จะฟ้องเร็ว...บางบัตรฟ้องช้า 


อ่าน และหาข้อมูลจากสมาชิกเยอะๆแล้วมาปรับใช้กับสถานะ สถานการณ์ ของตัวคุณเอง 
ต้องหาและ  เอาข้อมูลให้ตรงๆ ชัวร์ๆ กับหนี้ของตัวเองให้มากที่สุด....
.
จึงจะเป็นแนวทางในการแก้ไขได้...สู้ๆๆครับย