เริ่มจะหยุดจ่ายแล้วจร้า

จริงๆ ก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้วคะ แต่แค่ต้องการความแน่ใจในสิ่งที่ตัวเองจะทำคะ ขอบคุณมากนะคะ จะขอสู้ต่อไปคะ ไม่มีก็ยังไม่จ่าย ไม่พอใจส่วนลด ก็ขอต่อไปเรื่อย ๆ

ไม่ได้คำตอบ ขอกำลังก็ยังดีคะ

เก้ง เขียน: ไม่ได้คำตอบ ขอกำลังก็ยังดีคะ

ใครนะที่ไม่ตอบคุณเก้งนะถามมานะจะตอบ

วันนี้อีซี่บายโทรมาคะ แต่ไม่สะดวกรับ แล้วมันก็โทรเข้าที่ทำงาน พอดีดิฉันไปพักทานข้าว น้องที่ทำงานรับ พอฉันกลับมา น้องก็บอกว่าพี่ อีซ่บายมันให้หนูบอกว่ามันโทรมา แค่นั้นแหล่ะคะอารมณ์ดิฉันขึ้นทันที รีบโทรไปหามันแล้วขอสายคนที่โทรหาฉันที่ทำงาน สักพักมันก็มารับ ดิฉันก็เลยถามมันว่า คุณใช่ไหมที่โทรหาฉันที่ทำงาน ทีหลังไม่ต้องโทรเข้านะ โทรมาที่มือถือ ฉันสะดวกรับฉันจะรับเอง มันก็รีบเปลี่ยนเรื่องกลับมาถามยอดเงินที่ต้องชำระวันนี้ ดิฉันก็บอกว่าดโน่นพูดนี้สาระดยังไม่มี มีจะจ่ายเอง แล้วมันถามว่าเมื่อไร ฉันก็บอกว่าไม่รู้ มันก็พูดโน่นพูดนี่สารพัด ดิฉันก็ยืนยันคำเดิม จนสุดท้ายดิฉันเห็นว่าพูดไม่รู้เรื่องก็เลยวางหูซะเลย

คุณเก้งค่ะ เจ้าหนี้ถ้าเขาโทรมาที่ทำงาน แล้วแจ้งให้ทราบเฉยๆว่า "อีสิควาย ,อิอ้อนตรีน...โทรมา" พอทำใจได้ ก็ทำใจนะคะ บัวไม่ได้บอกว่า ให้ยอมเขา
แต่เขาก็ทำหน้าที่ของเขา เราก็เก็บเงิน อดออมไป รอเวลา
เพราะเขาก็ไม่ได้ประจาน ด่าว่า หรือเสียดสีเราให้บุคคลที่สามรับฟัง
อย่าเอาเรื่องเล็กๆน้อยๆมาเป็นอารมณ์ นอกจากอดทนอะไรหลายๆอย่างแล้ว ต้องหัด "วางใจ" เสียบ้าง
เพราะความจริงข้อหนึ่งที่เราหนีไม่พ้นคือ "เราเอาเงินเขามาจริง" ในวันเวลาที่เราไม่มี และยากลำบาก เราไปเงินเขามา...
แต่ชมรมสอนให้สู้เรื่องดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม หยุดชำระเพื่อหยุดวังวนการหมุนบัตร และรอจ่ายคืนในเวลาที่เหมาะสม
อย่าไปคิดว่าเจ้าหนี้เลวไปหมดทุกคน หลายๆคนทวงหนี้ เขาก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเขา เขากดดันเครียดยิ่งกว่าเรา อภัยได้ก็อภัยไป
แต่ถ้าหากรุกล้ำสิทธิส่วนตัวเรา ประจานเรา ส่อเสียด เหยียดหยาม บัวเชียร์ให้คุณเก้งเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
กรรมการหลายคน สมาชิกหลายคน ปากไม่หวาน แต่ผ่านประสบการณ์มาเยอะ คุณอาจจะฟังไม่รื่นหู แต่เป็นความจริงที่สุด ที่เราเคยเจอมา
เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปค่ะ

โหย..!!!

อ่านมาเป็นชั่วโมงแล้ว...คิดๆอยู่ ว่าจะโพสตอบ..ว่า..ให้อ่านของเพื่อนๆเยอะๆ..

ดีแล้วละ.."อาจารย์แม่"..มาเองเลย..แจกแจงมาหน่อยจ้า..หนี้อะไรมั่ง?

แต่ละราย..เท่าไหร่?..ซิตี้..ไม่เกิน หกเดือน ฟ้อง..(ห้าหมื่นขึ้น)รอดไม่กี่ราย(ไม่ถูกฟ้องก่อน)

ตอนนี้..อ่านไปเรื่อยๆ..ไม่ต้องลนลาน..เก็บเงินไว้.เค้าจะติดต่อมาเอง..ยังไม่ต้องถามหาส่วนลด

ไปอ่านที่พี่ๆแปะลิ้่งก์ไว้ให้ก่อนเลย....ยังไม่่ได้อายุ..ไม่มีหรอก.ส่วนลด.มีแต่ตามจิก..





?

สำหรับอีซี่บายพี่เจออยู่ 2 ที่ประทับใจมิรู้ลืม (ประทับใจจริงๆ และถือว่าเป้นประสบการณ์ชีวิต)

1. โทรเข้าที่ทำงาน เผอิญโทรศัพท์อยู่ที่ห้อง ผอ. (พี่เป็นข้าราชการ) เขาบอก ผอ. ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของศาล ลูกน้องของท่านกำลังจะถูกดำเนินคดี มีปัญหาเรื่องบัตรเครดิต ขอให้เขาโทรกลับผมด่วน ที่เบอร์ ........
2. โทรเข้าที่ทำงาน (และผอ.เป็นผู้รับอีกแล้ว) บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาล อยากช่วยไกล่เกลี่ยคดีให้ เพราะเห็นว่าเป็นข้าราชการ ขอให้ติดต่อกลับที่เบอร์ ............

แต่พี่ก็ผ่านสถานการณ์ทั้ง 2 ได้ด้วยดีนะ เพราะมีความรู้ดีดีจากที่นี่ ที่นี่สอนทุกอย่าง ลองตั้งใจอ่าน หาความรู้ หาทางรับมือ อยากบอกน้องเก้งว่าใจเย็นๆ อดกลั้น และมีสติ แค่นี้ยังถือว่าเบามาก สำหรับ อีซี่บาย

ขอบคุณคะพี่ๆ ทุกคน ที่หนูโมโหก็เพราะว่า น้องที่ทำงานมันตะโกบอกว่า อีซี่บายโทรมาคะพี่ แล้วทุกคนหันมามองหน้าหนู หนูก็เลยคิดว่าโทรมาไม่เจอแล้วทำไมต้องฝากบอกด้วยว่าใครโทรมา มันเหมือนประจานหนูป็นนัยๆคะ แต่ก็โอเคคะ หนูจะอดทนให้มากกว่านี้ ตอนนี้อีซี่บายโทรมาตื้อหนูมากที่สุด วันละหลายๆ รอบ เสาร์-อาทิตย์ก็โทร พอหนูถามว่าโทรมาทำไมมันเป็นวันหยุดพักผ่อน มันกลับย้อนหนูซะงั้นว่า วันหยุดก็โทรได้คะ ถ้าจะโทร หนูก็เลยถามชื่อ มันรีบวางหูซะงั้นคะ

คุณเก้ง...ถ้าเจอแบบ คุณอุบลเจอนะ...จัดไปอย่าให้เสีย...ฝากกระทืบมันหนักๆ ถ้าข่มขู่ แอบอ้างจนท.ของรัฐ แอบอ้างหมายศาล กอบัวเจอมาแล้ว ด่ามันจนหูชา...เยี่ยวเล็ดเยี่ยวราดไปเล้ย
เอานี่ไปอ่านนะคะ

เรื่อง : แนวปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้

เลขที่ : ธปท.ฝนส.(21)ว.1796/2550
วันที่ออกหนังสือเวียน : 14 กันยายน 2550
วันที่มีผลบังคับใช้ -
วันที่สิ้นสุดผลบังคับใช้ -
สถาบันผู้รับ
1.ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ
2.ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ
3.บ.ที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ
4.บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
5.บริษัทเงินทุน
6.ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต
แนวปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้
1. เหตุผลในการออกแนวปฏิบัติ
เนื่องจากปัจจุบันปรากฏว่ามีประชาชนที่เป็นหนี้สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
ได้รับความเดือดร้อนจากการติดตามทวงถามหนี้ที่ไม่เหมาะสมในหลายลักษณะ ทั้งในกรณีที่สถาบัน
การเงินและผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินเป็นผู้ติดตามทวงถามหนี้เอง และในกรณีที่มีการ
ว่าจ้างบุคคลอื่นเป็นผู้ติดตามทวงถามหนี้ภายนอกดำเนินการ ดังนั้น เพื่อให้การติดตามทวงถามหนี้
ของผู้ประกอบธุรกิจทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและที่ไม่ใช่สถาบันการเงินไม่ว่าจะเป็นหนี้ประเภทใด
นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วหรือไม่ มีมาตรฐานเดียวกันและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงได้ออกแนวปฏิบัติฉบับนี้
2. สถาบันการเงินที่ต้องปฏิบัติ
แนวปฏิบัตินี้ให้ใช้บังคับกับธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ผู้ประกอบ
ธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่ไม่ใช่
สถาบันการเงิน ทุกแห่ง
3. เนื้อหา
ในการดำเนินการติดตามทวงถามหนี้ ทั้งในกรณีที่สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ
บัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่ไม่ใช่
สถาบันการเงิน (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ผู้ประกอบธุรกิจ”) เป็นผู้ดำเนินการเองรวมถึงการว่าจ้างให้
บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้
3.1 แนวปฏิบัติทั่วไปในการติดตามทวงถามหนี้กับลูกหนี้
3.1.1 เวลาและความถี่ในการติดต่อเพื่อการติดตามทวงถามหนี้
ในการติดต่อลูกหนี้เพื่อติดตามทวงถามหนี้ ให้ดำเนินการภายในเวลา 8.00–20.00 น.
ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการ ให้ดำเนินการภายในเวลา 8.00-18.00 น. ภายใต้ความถี่ที่เหมาะสม
3.1.2 การแสดงตัวเพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตามทวงถามหนี้
ให้ผู้ประกอบธุรกิจและผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้แสดงตัวต่อลูกหนี้โดยแจ้งชื่อและ
วัตถุประสงค์ในการติดต่อให้ลูกหนี้ได้รับทราบอย่างถูกต้องเหมาะสม และในกรณีที่เป็นการติดต่อ
โดยตรงของผู้ให้บริการ (face to face) ให้ผู้เรียกเก็บหนี้แสดงเอกสารซึ่งแสดงให้เห็นว่าตนได้รับ
อนุญาตจากผู้ประกอบธุรกิจให้ทำการติดตามทวงถามหนี้แทนด้วย
3.1.3 วิธีการเรียกเก็บหนี้
ก. ไม่ให้เรียกเก็บหนี้จากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ เช่น ญาติพี่น้อง หรือ
เพื่อนร่วมงาน เว้นแต่ได้รับการยินยอมจากลูกหนี้หรือเป็นสิทธิตามกฎหมาย
ข. ไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อทำร้ายร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกหนี้ชำระหนี้
ค. ไม่ปลอมแปลง บิดเบือนข้อมูล เอกสารหรือแสดงท่าทางอันทำให้ลูกหนี้สำคัญผิด
เช่น
- ไม่ปลอมแปลง บิดเบือนว่าเป็นบุคคลอื่น หรือใช้ชื่ออื่นนอกเหนือจากชื่อจริง
รวมถึงไม่ปลอมแปลงบิดเบือนข้อมูลในการแสดงตัวหรืออำนาจหน้าที่ของผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้
ไม่ใช้สัญลักษณ์หรือแสดงท่าทางเพื่อทำให้ลูกหนี้สำคัญผิดว่ามาจากหน่วยงานของรัฐ หรือบริษัท
ข้อมูลเครดิต
- ไม่ปลอมแปลง บิดเบือนเพื่อให้ลูกหนี้สำคัญผิดว่าเอกสารเรียกเก็บหนี้ หรือ
เอกสารที่ใช้ในการติดต่อกับลูกหนี้นั้น ออกหรือได้รับอนุญาตหรือการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ
หรือบริษัทข้อมูลเครดิต หรือทำให้ลูกหนี้เข้าใจผิดในสาระสำคัญทางกฎหมายของเอกสารดังกล่าว
- ไม่ปลอมแปลง บิดเบือน หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับยอดหนี้เกินกว่าที่มีอยู่
ตามกฎหมาย เช่น ประเภท จำนวน สถานะปัจจุบัน หรือค่าธรรมเนียมจากการเรียกเก็บหนี้ เป็นต้น
หรือแสดงท่าทางอื่นใดอันเป็นเท็จเพื่อให้ลูกหนี้สำคัญผิดและชำระหนี้
ง. ไม่ข่มขู่ คุกคามที่มีลักษณะผิดกฎหมาย เช่น
- ข่มขู่ว่าจะใช้ความรุนแรง ทำร้ายร่างกาย ทรัพย์สิน หรือชื่อเสียงของลูกหนี้
หรือของบุคคลอื่น หรือข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องด้วยความอันเป็นเท็จว่าลูกหนี้กระทำผิดกฎหมายหากไม่มี
การชำระหนี้
- ข่มขู่ว่าจะเพิ่มค่าธรรมเนียมทนายความ ค่าสืบสวน ค่าบริการในการติดตาม
ทวงถามหนี้ ค่าบริการทางการเงิน หรือค่าธรรมเนียมอื่นใดซึ่งไม่สามารถเรียกเก็บได้จริงตามกฎหมาย
- ข่มขู่ว่าจะกระทำการใด ๆ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจและผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ไม่มี
เจตนาที่จะกระทำหรือไม่สามารถกระทำได้จริงตามกฎหมาย
- ข่มขู่ว่าจะปลอมแปลงหรือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับยอดหนี้ของลูกหนี้อันเป็นเท็จ
หรือข้อมูลอื่นเพื่อทำลายชื่อเสียงของลูกหนี้
จ. ไม่รบกวน หรือรังควานลูกหนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควร เช่น
- การติดต่อด้วยโทรศัพท์หลายครั้งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือทำให้โทรศัพท์
ดังอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ลูกหนี้หรือบุคคลอื่นเกิดความรำคาญ
- การติดต่อด้วยโทรศัพท์กับลูกหนี้หรือบุคคลอื่นโดยไม่เปิดเผยชื่อ
ฉ. ไม่ใช้ภาษาหยาบคาย ข่มขู่ ดูหมิ่นหรือส่อให้เห็นถึงผลกระทบที่มีลักษณะเป็น
การข่มขู่ลูกหนี้หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ หรือทำให้ลูกหนี้สำคัญผิดว่าลูกหนี้ได้กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย
หรือผิดศีลธรรมอันดีงาม
3.1.4 การเก็บรักษาความลับของลูกหนี้
ให้ผู้ประกอบธุรกิจและผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ใช้ความระมัดระวังเยี่ยงผู้ประกอบ
วิชาชีพในการเก็บรักษาความลับของลูกหนี้ และไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับหนี้ของลูกหนี้ระหว่างการ
ติดต่อกับบุคคลอื่น เว้นแต่ได้รับการยินยอมจากลูกหนี้ เช่น
ก. ไม่เปิดเผยข้อความ หรือสัญลักษณ์ที่แสดงให้ทราบว่าลูกหนี้มีหนี้สิน ซึ่งมีเจตนา
ให้เข้าถึงได้เป็นการทั่วไปและทำให้ลูกหนี้เกิดความอับอาย เช่น การใช้ไปรษณียบัตรหรือโทรสาร
ทั้งนี้ ในการติดต่อด้วยจดหมาย บริเวณด้านนอกซองจดหมายไม่ควรระบุข้อความ
หรือสัญลักษณ์อื่นใดอันแสดงให้ทราบว่าลูกหนี้มีหนี้สิน นอกเหนือจากที่อยู่และชื่อของผู้เรียกเก็บหนี้
ข. ในการติดต่อกับนายจ้างของลูกหนี้ ให้ติดต่อภายในความถี่ที่เหมาะสมเพื่อยืนยัน
การจ้างงานหรือที่อยู่ของลูกหนี้เท่านั้น และต้องไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินของลูกหนี้ กล่าวคือ
สอบถามได้เฉพาะว่าลูกหนี้เป็นพนักงานอยู่หรือไม่เท่านั้น
ค. ในการติดต่อกับบุคคลในครอบครัวของลูกหนี้ ให้ติดต่อภายในความถี่และสถานที่
ที่เหมาะสม และต้องไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินของลูกหนี้เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากลูกหนี้หรือ
สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย
ง. ไม่ควรติดต่อบุคคลอื่นเพื่อติดตามทวงถามหนี้นอกเหนือจากบุคคลที่กล่าวไว้ตาม
ข้อ 3.1.4 ข และ ค เว้นแต่เป็นการติดต่อเพื่อสอบถามที่อยู่ของลูกหนี้หรือได้รับคำยินยอมจากลูกหนี้
3.1.5 การรับเงินจากลูกหนี้
ให้ผู้ประกอบธุรกิจและผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้มีระบบและหลักฐานการรับเงินจาก
ลูกหนี้ที่เหมาะสมและมีผลในทางกฎหมาย

3.2 การว่าจ้างผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้เรียกเก็บหนี้แทน
3.2.1 การว่าจ้างผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้
ก. ในการใช้บริการผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องรับผิดชอบต่อ
ลูกหนี้และบุคคลภายนอกเสมือนผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้ดำเนินการเอง และต้องจัดให้มีการทำสัญญา
ว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งดูแลการปฏิบัติงานของผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ให้มีมาตรฐาน
เช่นเดียวกับที่ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการเอง
ข. ผู้ประกอบธุรกิจควรต้องแจ้งให้ลูกหนี้ทราบตั้งแต่ในเวลาที่ขอกู้เงินว่าจะใช้บริการ
บุคคลอื่นในการติดตามทวงถามหนี้รวมถึงระบุค่าใช้จ่ายที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ
ดังกล่าว
3.2.2 ในการคัดเลือกผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้
ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจพิจารณาเลือก
ผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ที่มีลักษณะการจัดตั้งแบบบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน และพิจารณาถึงประวัติของ
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน รวมถึงผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วน และผู้จัดการ สถานะทางการเงิน ระบบการกำกับ
ดูแลการปฏิบัติงานของพนักงาน ระบบการเก็บรักษาความลับของลูกหนี้ และการเยี่ยมชมที่ทำการ
ของผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ เป็นต้น รวมทั้งจัดให้มีการประเมินผลการดำเนินงานของผู้ให้บริการว่า
ผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ไดมี้การดำเนินการตามแนวปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้ที่ ธปท. กำหนด
เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการพิจารณาต่อสัญญาการว่าจ้างบริการของผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้
ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดให้มีการติดตามดูแลผลการดำเนินงานของผู้ให้บริการ
เรียกเก็บหนี้อย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ
3.2.3 การให้ข้อมูลกับลูกหนี้
ในขั้นตอนติดตามทวงถามหนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้แจ้งให้
ลูกหนี้ทราบล่วงหน้าถึงการมอบหมายใหผู้้ให้บริการเรียกเก็บหนี้เป็นผูด้ ำเนินการแทนและต้องจัดส่ง
เอกสารยืนยันยอดหนี้ให้กับลูกหนี้ ที่มีรายละเอียดอย่างน้อยดังนี้
(1) จำนวนเงินและระยะเวลาค้างชำระ
(2) หมายเลขโทรศัพท์เพื่อใช้ในการติดต่อที่เกี่ยวข้องกับการชำระหนี้
(3) ค่าใช้จ่ายในการเรียกเก็บหนี้ (ถ้ามี)
(4) สิทธิ วิธี และสถานที่ในการร้องเรียนของลูกหนี้
(5) สิทธิของลูกหนี้ในการเลือกชำระหนี้กับผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งก็ได้
ในกรณีที่ผู้ให้บริการเรียกเก็บหนี้ได้รับจ้างจากผู้ประกอบธุรกิจหลายรายให้เรียกเก็บหนี้จากลูกหนี้
รายเดียวกัน (ถ้ามี)
3.3 การจัดระบบในการรับติดต่อและรับข้อร้องเรียนจากลูกหนี้
3.3.1 ให้ผู้ประกอบธุรกิจมีนโยบาย ขั้นตอนในการรับและจัดการเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้อง
กับการติดตามทวงถามหนี้ของลูกหนี้ที่เหมาะสม ตลอดจนจัดให้มีการนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูง
ได้รับทราบเป็นระยะ
3.3.2 ให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดระบบในการที่ลูกหนี้จะสามารถติดต่อและร้องเรียนได้อย่างเป็น
กิจจะลักษณะ เพื่อรองรับประเด็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

เหตุการณ์ที่ 1 พี่ตั้งสติ และใช้โทรศัพท์ที่ห้องผอ.เลย ผอ.จะได้ฟังด้วย สอบถามชื่อ ถามไปถามมาบอกว่าไป็นทนายความของสำนักกฎหมาย(พี่จำชื่อไม่ได้) อยากให้ชำระหนี้ พี่ฟังจนจบก็เลยบอกว่า ที่ให้อภัยนะที่คุณโทรเข้าที่ทำงานเพราะพี่ไม่ได้รับโทรศัพท์จากคุณ แต่การที่คุณมาโกหาผอ.ว่าเป็นเจ้าหน้าที่สษล และเล่าเรื่องหนึ้ให้ ผอ. ฟัง พี่อภัยให้คุณไม่ได้ เพราะคุณพูดเท็จ และประจานต่อบุคคลที่ 3 พรุ่งนี้พี่จะไปแจ้งความ และจะส่งเรื่องไปร้องเรียนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และบริษัทอีซี่บาย เขาตกใจมากบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เขาไม่ได้พูด ผอ.พี่ก็เลยว่าไม่ได้พูดยังไง คุณบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาล ผอ.จะเป็นให้ เขาก็ละล่ำละลักขอโทษใหญ่ และการทวงหนี้จากอีซี่บายก็หายไปจากชีวิตของพี่เกือบ 5 เดือน และพี่ก็พลาดไปตรงที่ไม่ได้ปฏิบัติตามที่บอกไว้ (ส่งเรื่องร้องเรียน) จึงเกิดเหตุการณ์ที่ 2 ขึ้น ในอีก 5 เดือนต่อมา

ซึ่งเหตุการณ์ที่ 2 พี่ได้ที่ปรึกษาเป็นประธานชมรมแนะนำด้วยตนเอง(ทางโทรศัทพ์)ค่ะน้องบัว แล้วจะเล่าให้ฟังนะคะว่าเป็นอย่างไร ระทึกใจทีเดียว ทำให้การทวงหนี้ของอีซี่บายหายไปจากชีวิตพี่ จนพี่ต้องเป็นฝ่ายติดต่อไปเองเพราะเก็บเงินพอที่จะชำระหนี้ได้แล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างเจรจาปิดบัญชี ได้ผลอย่างไรแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะจ๊ะ

สุดยอดคะพี่ มันก็ต้องเจออย่างพี่เนี่ยแหล่ะคะ วันนี้ของหนูก็มี สนง.กฎหมายจาก HSBC โทรมาถามยอดหนี้ที่ต้องชำระ หนูก็บอกเขาไปว่าตอนนี้ยังไม่ รอพักจะเก็บเงินก้อนไปปิด เขาก็สอบถาว่าสังวดมีไหมครับ เพราะเข้าเดือนที่ 4 แล้ว หนูก็ตอบไปว่าไม่มีจริง ๆ มีปัญหาเรื่องการเงินอยู่ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมติดต่อกลับมาใหม่ แล้ววางหูไป พูดจาดีมากเลยคะ ไม่ตื้อด้วยคะ แต่อีซี่บายยังคงเหมือนเดิม หนูก็คงเหมือนเดิมไม่จ่ายเพราะไม่มีคะ 5555

มีข่าวดี อดใจไม่ได้ ในที่สุดก็จบกันได้เสียทีกับอีซี่บาย เดือนมิถุนายน 55 นี้ก็จะครบ 2 ปี ที่หยุดจ่าย อย่างที่บอกว่าสามารถเก็บเงินพอที่จะปิดได้แล้ว
- วันที่ 7 มีนาคม 2555 ตัดสินใจโทรไปที่สำนักงาน ตอนนี้เรื่องวนกลับมาที่สำนักงาน เจ้าหน้าที่พูดดีมาก สรุปให้ฟังว่า ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน 68,000 บาท จากยอดที่หยุด 55,000 บาท สามารถลดให้พี่ได้สูงสุดที่ 40,000 บาท พี่บอกว่าพี่มีเงินอยู่ 25,000 บาท และหนี้อื่น ๆ อีก 300,000 กว่าบาท สามารถชำระได้เพียง 25,000 บาท เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้
- วันที่ 8 มีนาคม 2555 เช้าโทรมาบอกว่าลดให้ที่ 25,000 ไม่ได้เพราะเกินกว่าเงินต้น ขอให้ช่วยเพิ่มให้ที่ 30,000 บาท พี่ยืนยันคำเดิมว่ามีแค่ 25,000 จริงๆ ถ้าไม่เอาจะนำไปชำระเจ้าอื่นก่อน จะลองเสนอหัวหน้าให้
- วันที่ 8 มีนาคม 2555 บ่าย หัวหน้าโทรมาสอบถามภาระหนี้ อยากให้พี่ช่วยแฟ็กซ์ใบภาระหนี้ทั้งหมดให้เพื่อประกอบการพิจารณา พี่แฟ็กซ์ไปใช้
- วันที่ 12 มีนาคม 2555 เย็นโทรมาแจ้งว่าอนุมัติที่ยอดขอแล้ว พรุ่งนี้จะแฟ็กซ์ใบยืนยันส่วนลด และบาร์โค้ดสำหรับชำระหนี้มาให้ ให้ชำระภายใน 16 มีนาคม 2555 ไม่มีปัญหา เพราะพร้อมแล้ว

ที่เขียนมาเล่าเพราะอยากบอกน้องๆ ว่า มันเป็นเรื่องจริง เราสามารถขอลดหนี้ได้ ดังนั้นขอให้น้องที่ยังลังเล สงสัย จงหยุดลังเล เก็บเงินเอาไว้ และจะสำเร็จเอง

ubon เขียน: มีข่าวดี อดใจไม่ได้ ในที่สุดก็จบกันได้เสียทีกับอีซี่บาย เดือนมิถุนายน 55 นี้ก็จะครบ 2 ปี ที่หยุดจ่าย อย่างที่บอกว่าสามารถเก็บเงินพอที่จะปิดได้แล้ว
- วันที่ 7 มีนาคม 2555 ตัดสินใจโทรไปที่สำนักงาน ตอนนี้เรื่องวนกลับมาที่สำนักงาน เจ้าหน้าที่พูดดีมาก สรุปให้ฟังว่า ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน 68,000 บาท จากยอดที่หยุด 55,000 บาท สามารถลดให้พี่ได้สูงสุดที่ 40,000 บาท พี่บอกว่าพี่มีเงินอยู่ 25,000 บาท และหนี้อื่น ๆ อีก 300,000 กว่าบาท สามารถชำระได้เพียง 25,000 บาท เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้
- วันที่ 8 มีนาคม 2555 เช้าโทรมาบอกว่าลดให้ที่ 25,000 ไม่ได้เพราะเกินกว่าเงินต้น ขอให้ช่วยเพิ่มให้ที่ 30,000 บาท พี่ยืนยันคำเดิมว่ามีแค่ 25,000 จริงๆ ถ้าไม่เอาจะนำไปชำระเจ้าอื่นก่อน จะลองเสนอหัวหน้าให้
- วันที่ 8 มีนาคม 2555 บ่าย หัวหน้าโทรมาสอบถามภาระหนี้ อยากให้พี่ช่วยแฟ็กซ์ใบภาระหนี้ทั้งหมดให้เพื่อประกอบการพิจารณา พี่แฟ็กซ์ไปใช้
- วันที่ 12 มีนาคม 2555 เย็นโทรมาแจ้งว่าอนุมัติที่ยอดขอแล้ว พรุ่งนี้จะแฟ็กซ์ใบยืนยันส่วนลด และบาร์โค้ดสำหรับชำระหนี้มาให้ ให้ชำระภายใน 16 มีนาคม 2555 ไม่มีปัญหา เพราะพร้อมแล้ว

ที่เขียนมาเล่าเพราะอยากบอกน้องๆ ว่า มันเป็นเรื่องจริง เราสามารถขอลดหนี้ได้ ดังนั้นขอให้น้องที่ยังลังเล สงสัย จงหยุดลังเล เก็บเงินเอาไว้ และจะสำเร็จเอง

ดีใจกับคุณubonด้วยครับผมคิดว่าคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ทำตามคำนะนำจากชมรมเราเจ้าหนี้รายใหนก็ปิดหนี้ได้ทุกวันทุกเดือนทุกปีไม่มีกำหนดการใช้หนี้ไม่มีกฎอะไรทั้งนั้น ขอบคุณที่มาเขียนให้อ่านกันได้ยอดดีมาก ขอให้โชคดีต่อๆทุกหนี้ที่มีอยู่ เราเป็นคนกำหนด

""มีข่าวดี อดใจไม่ได้ ในที่สุดก็จบกันได้เสียทีกับอีซี่บาย เดือนมิถุนายน 55 นี้ก็จะครบ 2 ปี ที่หยุดจ่าย "

โอ้โห้ ของพี่ 2 ปีเลยรึคะ แล้วถูกตามตื้อบ่อยไหม ยอดหนี้ของหนูก็เท่ากับพี่เนี่ยแหล่ะคะ แต่หนูได้ แค่ 2 เดือนเอง หนูจะอดทนนะคะ (สู้โว๊ย)

ถึงน้องเก้ง

พี่มีภาระหนี้หลายตัว ยอดหนี้รวมประมาณ 300,000 บาท มันเป็นยอดที่สูงมากในความรู้สึกของข้าราชการที่มีรายได้อย่างเดียวคือเงินเดือน ดังนั้นเมื่อพี่ตัดสินใจหยุดจ่ายทุกบัตร ประมาณ 6 เจ้า พี่จะวางแผนในการจ่ายเจ้าหนี้แต่ละราย (ไม่มีกฏเกณฑ์อะไร พี่ยึดเอากำลัง ความสามารถที่พอจะจ่ายได้) เช่น อีซี่บายวางไว้ว่า จะจ่ายที่ 25,000 ไม่เกิน 30,000 บาท หลังจากนั้นก็เก็บเงิน อดออม
ระหว่างที่เก็บเงินก็จะมีการทวงเป็นระยะ (ตามหน้าที่เขา) แต่ถ้าเรามีธง เราจะไม่หวั่นไหว โทรมากี่ครั้งพี่ก็จะพูดประโยคเดิมว่า กำลังเก็บเงิน เพื่อขอปิดยอดครั้งเดียว จะสามารถจ่ายได้ในเดือน..... เท่านั้น โทรมากี่ครั้งก็คำตอบเดิม เช่น อีซี่บายพี่เริ่มหยุด มิถุนายน 2553 พี่ก็จะบอกว่า ประมาณเดือนตุลาคม 2554 พี่จะมีเงินพอชำระหนี้คุณได้ เขาก็โวยวายว่าอีกเป็นปี รอไม่ได้หรอก ขอให้จ่ายเดินบัญชีเข้ามา เดือนละ 500 หรือปรับโครงสร้างหนี้ก็ได้ พี่ก็บอกว่าขอเก็บเงินปิดครั้งเดียว พูดเหตุผลเดียว เวลาเดียวคือตุลาคม 2554 โทรมาพี่ก็รับ (ถ้าไม่ติดจริงๆ) พูดดีๆกับเขา (มีอยู่ 2 ครั้งเท่านั้นที่ไม่ไหว ต้องกำราบบ้าง เพราะเกินขอบเขต) แต่สุดท้ายพี่ก็ต้องผิดนัด เดือนตุลาคมมีความจำเป็นต้องใช้เงิน พี่ก็บอกให้เขาฟัง และนัดว่าเดือนมีนาคม 2555 จะมีเงินพอปิดได้ ให้รอก่อน เขาก็ฟังอยู่นะ รอกันมาจนถึงวันนี้ และสามารถปิดจบกันได้ด้วยดี เพราะฉะนั้นน้องเก้งก็พยายาม อ่านให้มาก เพราะความรู้ในชมรมเป็นสุดยอดความรู้ อ่านเป็นพื้นฐานแล้วเราก็นำไปปรับประยุกต์ให้เหมาะกับตนเอง
**** ลืมบอกไปว่าคนรอบข้างคือกำลังใจที่ดีที่สุดของเรา ก่อนหยุดพี่เล่าให้แฟน ให้พ่อแม่ ให้ผอ.ฟังถึงความจำเป็น ในช่วงแรกพวกเขาเป็นห่วง กลัวว่าจะไม่รอดกับวิธีนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือน เป็นปี เขาก็เริ่มเข้าใจ บางครั้งโทรไปที่บ้านพ่อแม่ หรือแฟนรับก็ไม่ตกใจ คอยตอบแทนเราอีก บางครั้งโทรไปที่ทำงาน ผอ. รับก็ช่วย เช่น บอกเขาว่าห้ามโทรมาที่ทำงานอีก ให้โทรเข้ามือถือ เวลาทำงานไม่ให้ลูกน้องมารับโทรศัพท์ ถ้าไม่ฟังจะไปแจ้งความ รำคาญ (ผอ. เป็นผู้หญิง) ดังนั้นเจ้าหนี้ที่โทรไปที่ทำงานจึงมีแค่ 2 ครั้ง คือ เจ้าอีซี่บายนี่หล่ะ ******

ubon เขียน: ซึ่งเหตุการณ์ที่ 2 พี่ได้ที่ปรึกษาเป็นประธานชมรมแนะนำด้วยตนเอง(ทางโทรศัทพ์)ค่ะน้องบัว แล้วจะเล่าให้ฟังนะคะว่าเป็นอย่างไร ระทึกใจทีเดียว ทำให้การทวงหนี้ของอีซี่บายหายไปจากชีวิตพี่ จนพี่ต้องเป็นฝ่ายติดต่อไปเองเพราะเก็บเงินพอที่จะชำระหนี้ได้แล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างเจรจาปิดบัญชี ได้ผลอย่างไรแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะจ๊ะ

เอิ๊กๆ อ่านการโต้ตอบทวงหนี้ของอิสิควาย ของคุณอุบลแล้ว "ถูกใจ" ค่ะ ดีมาดีไป กำเริบมากระทืบไป...
บัวมาแก้ข่าว...คุณอายุน้อยกว่าบัวหลายปีค่ะ
เข้าใจว่า คุณดูจาก "ใบหน้า" ของกอบัว เลยเดาอายุพลาดไปหลายปี อิ...อิ...
แหม...เป็นกรรมการ และตอบหน้าเว็บบอร์ดมาตั้งนาน ได้กำลังใจก็วันเนี้ย กร๊ากกกกก ---

ขอบคุณคะพี่อุบลที่เล่าเหตุการณ์จากประสบการณ์ให้หนูฟัง ตอนนี้หนูก็เริ่มมีธงในใจของหนูแล้วคะ หนูจะปิดทุกใบได้ประมาณ เดือน พย. นี้ เพราะหนูจะได้เงินก้อนจากหน่วยงานที่ทำงานอยู่ เพราะฉะนั้นหนูก็ฟันธง ยื่นคำขาดว่าจะปิดยอดทั้งหมดในเดือนพย.นี้ครั้งเดียว ไม่มีเดินบัญชีใดๆ ทั้งสิ้นคะ หนูจะสู้ สู้และสู้ให้ถึงที่สุดคะ

มีเรื่องมา อัพเดส วันนี้ซิตี้แบงค์ วีซ่าโทรมาพูดจาค่อนข้างดี สอบถามเรื่องยอดที่หลังจากที่เราไม่ได้ชำระมา 5 เดือน เราก็บอกเหตุผล และวันที่เราพร้อมชำระไป แล้วเขาก็แนะนำว่าทางบริษัทมีนโยบายสำหรับลูกค้าที่เราคัดเลือกมา ซึ่งไม่ได้ทุกคนนะ คือเราสามารถผ่อนขั้นต่ำเดือนละ800 ในเวลา 12 เดือนในระหว่างรอเงินก้อน เราก็ปฎิเสธ แต่เขาก็ให้เราเก็บไปคิดดูก่อนและจะติดต่อกลับมาใหม่ หนูคิดว่ามันก็คงเป็นอันเดียวกับการปรับโครงสร้างหนี้นั่นแหล่ะคะ สำหรับสแตนดาร์ด เจ้าหนี้พูดจาค่อนข้างแย่มาก โทรมาทุกวัน เราก็พูดคำเดิมว่ายังไม่มี มันกลับย้อนเราซะงั้น ว่าโทรมาทีไรก็พูด ก็พูดคำเดิม เราก็ตอบว่าแล้วจะให้พูดยังงัย แล้วเราก็ปล่อยให้มันคุยคนเดียว 555