บ้านนอกเข้ากรุง 11 ปีกับหนี้ 2 ล้าน

ขออนุญาติตั้งกระทู้ไว้ในห้องนี้ก่อนครับ ตอนนี้ยังไม่มีคำถาม ต่อไปคงมีแน่ครับ

ผมเพิ่งตัดสินใจหยุดจ่ายหนี้เพื่อตั้งหลักเดือนนี้เอง หลังจากที่มาสุดทางแล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้เคยเข้ามาหาความรู้ในนี้ประมาณ 2 เดือนมาแล้วเพิ่งสมัคร สมาชิกเมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้เห็นการแก้ปัญหา และแนวทางมากกมายในนี้ แต่ตอนนั้นยังไม่กล้าตัดสินใจหยุด เนื่องจากยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถรับมือเรื่องต่างๆ ที่จะตามมาได้ดีแค่ไหน มาเจอรูปในกระทู้หนึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นของท่านใด

กอบัวขอเพิ่มเติมคำตอบของคุณว่า
ภาพนี้เอามาจากกระทู้ของน้องฝ้าย ในห้องเรื่องเล่าชาวหนี้ กอบัวจะแม่น 555++

หลังกลับไปนอนคิด อยู่หลายวันคงได้เวลาที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตจริงๆ แล้ว ทุกอย่างจึงเริมขึ้นครับ

ผมเป็นคนต่างจังหวัดครับ เรียนจบวิศวกรรม ที่มหาลัยต่างจังหวัดด้วย สมัครงานเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ ปี 2543 เข้ากรุงด้วยกระเป๋าเสื้อผ้า 1 ใบ บัตรเครดิตใบแรกเกิดขึ้นหลังทำงานได้ 1 เดือน ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่งงาน และมีลูก 2 คนที่นี่ คนโต 5 ขวบ คนเล็กเพิ่ง 9 เดือน แฟนออกจากงานตั้งแต่มีคนที่ 2 เนื่องจากมีปัญหาเรื่องคนเลี้ยง โดยปกติกำลังหลักของครอบครัวก็คือผม ตอนนี้กลายเป็นกำลังเดียวแล้ว

ที่มาของหนี้ผมคิดว่ามาจากตัวผมเอง พอมานั่งนึกย้อนไปก็เป็นที่เราหลงเข้าไปในวังวนของความฟุ้งเฟ้อเอง คือโดยพื้นฐานเดิมแล้ว ผมมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยครับ พอเริ่มมีหนทางที่เราสามารถมีอะไรต่างๆ อย่างที่อยากมีได้ ก็หลงระเริงกับมัน นั่นคือช่วงแรกของวัยรุ่น พอมีครอบครัวด้วยความคิดเดิม อยากให้ครอบครัวมีความสุข มีโน่น มีนี่ที่เราตอนเด็กไม่เคยมี ลุกอยากได้โน่น แฟนอยากมีโน่น ได้หมด..พ่อจัดให้ จนมันเกินตัว และยังมีบางอย่างที่เป็นอุบัติเหตุในชีวิต ที่ต้องใช้เงินจริงๆเพื่อช่วยเหลือญาติพี่น้องอีกพอสมควร ก็คิดเข้าข้างตัวเองเสมอว่า ไม่เป็นไรน่า แค่นี้เอาอยู่ มาตลอด แม้จะฉุกคิดได้ ในบางช่วงว่า ท่าทางจะหนักแล้ว แต่พอมีช่องให้นำเงินตรงโน้นมา อุดตรงนี้ได้เรื่อย ก็ชะล่าใจ และหลอกตัวเองไปวันๆ เหมือนเดิม
ครอบครัวผมไม่เคยรับรู้รายละเอียดเรื่องหนี้สินนี้หรอกครับ ผมไม่เคยบอกรายละเอียด ไม่อยากให้ใครมีความทุกข์ ขอทุกข์เองดีกว่า ผมคิดมาเสมอว่าคนเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องดูแลทุกคนให้มีความสุขที่สุด เรื่องไม่ดี เรื่องแย่ๆ พ่อขอแบกรับไว้เอง(จริงๆแล้วผมคิดผิด เพราะท้ายที่สุดผมก็ทำให้ครอบครัวเป็นทุกข์อยู่ดี) .....จนวันนี้มันสุดทางหมุนแล้วครับ

....เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ.....

เป็นกำลังใจให้นะคะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้คะ ถือว่าคุณเป็นคุณพ่อที่น่ารักของลูกๆ และเป็นสามีที่ีดีของภรรยานะคะ เพราะคุณแบกภาระไว้คนเดียว ไม่อยากให้ครอบครัวรับรู้ ในเมื่อมาถึงวันนี้คุณอาจจะบอกภรรยาคุณก็ได้นะคะ เชื่อว่าภรรยาคุณเข้าใจ และจะคอยให้กำลังใจคุณแน่นอน ในเมื่อเรามีกำลังใจที่ดี และมีภรรยา และลูกๆคอยเป็นกำลังใจให้ อีกไม่นานคุณต้องผ่านมันไปได้แน่นอนคะ และอ่านกระทู้ปักหมุดให้เยอะๆๆนะคะ ถือว่าโชคดีมากเลยนะคะ ที่เข้ามาเจอชมรมนี้ สู้ๆๆนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ

ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจแรก

มาต่อกันที่ปัจจุบันนะครับ ตอนนี้รายได้ผมหลังหัก ภาษี ประกันสังคม และอื่นๆ ได้ประมาณเดือนละ 60000 ครับ เหมือนเยอะนะครับ แต่ไม่ใช่เช่นนั้น 60000 มาจากการทำงานไต่เต้ามา 12 ปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน 60000 แต่ ผมต้องใช้หนี้ขั้นต่ำเดือนละ 100000 ครับ เลี้ยงลูก 2 คน ภรรยาอีก 1 รายจ่ายในบ้านทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ของใช้ ค่ากิน ค่าน้ำมัน แต่ละเดือน ติดลบมากมาย จึงเป็นสาเหตุแห่งการ หมุนเงินไม่รู้จบ ครับ

พรุ่งนี้ ยังมีความหวังค่ะ ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งทีมาเจอ เวปนี้ แล้วกำลังเดินตามแนวทางของเวป อดทนนะคะ

มาเป็นอีกหนึ่งกำลังใจคะ ...

ทุกปัญหามีทางออก ( แต่ต้องรอเวลาคะ ) สู้ๆๆ

สวัสดีค่ะ คุณยอด น้ำมนต์เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะคะ....ความรู้ และ หนทางแห่งการปลดหนี้

หาได้จากแวปนี้ค่ะ...ทยอยๆ อ่านนะคะ ความรู้มากมายจริงๆ ความจริงใจ และ กำลัง ก็มากเช่นกัน..





download (3).jpg
[/color]

เป็นกำลังใจให้นะครับ

สู้ๆๆคร้า แล้วมันจะผ่านไปค่ะต้องบอกตัวเองเสมอ แล้วมันก็จะผ่านไป

สู้ๆๆนะค๊ะ (ขออนุญาติเรียกพี่นะค๊ะ) ให้คิดว่าคุณพี่ไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีน้องๆๆในเว็บนี้อีกเยอะ หนูก้ออีกคนที่กำลังหยุดจ่าย
เรากำลังลงเรื่อลำเดียวกันจร้า ช่วยๆๆกันพายเรื่อฝ่ามรสุมหนี้ไปให้ถึงฝั่งกันนะค๊ะ สู้ค่ะ

สู้ๆๆ ครับพี่ ค่อยๆ เดี๋ยวก็หมดนะครับ ในการสู้ต้องมีความอดทน ทนต่อการทวงหนี้และค่อยปลดไปทีละเจ้า เดี๋ยวก็หมด เพราะยังไงเราต้องเก็บเงินไว้ปลดหนี้จะดีกว่า
จ่ายไปไม่รู้จะหมดเมื่อไร
อย่างพี่หน้าจะหมดเร็วอยู่นะครับ เพราะฐานรายได้เยอะ แต่ต้องอดทนมากหน่อยนะครับ (ทนจากการทวงหนี้และทนทางด้านสังคม)

โชคดีครับคุณพี่ เป็นกำลังจัยให้
ธนาเทพ

โหของพี่นี่สุดๆไปเลย
ผมก็เด็กต่างจังหวัดเข้ามาทำงาน กทม เหมือนกันครับ

ย้อนกลับไปได้ ผมจะไม่ขอมาทำงานที่นี่อีกเลย หรือ มาแค่ปีสองปีพอแระ

อยู่บ้านนอกไม่รู้จักบัตร ไม่มีหนี้ มาที่นี่ ไม่นาน งานก็มีทำ
แต่หนี้บาน งงกะตัวเองเหมือนกัน ตกลงทำงานไปเพื่อไรฟร่ะ

แต่ยังไงก็สู้สู้ครับ
หัวอกเดียวกัน

จำคำนึงของพี่กอบัวได้ ประโยคท้ายแกบอกว่า
ติดหนี้เป็นล้าน แต่เราก็ยังมีชีวิต โดนครับ สเตตัสนี้

ผมเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยตอนนี้
เพราะไม่ต้องมานั่งคิด ว่าจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายรอบบิลสิ้นเดือน
ก็หยุดจ่ายมันซะเลย แต่ค่อยมาจ่ายทีหลังอ่านะ
หลังจากที่เคยพยายามประคองจ่ายขั้นต่ำทุกบัตรมานานมาก

จนไม่ไหวก็หยุดเลย

ยินดีต้อนรับครับ

ผมก็หนี้ล้านขึ้นเหมือนกัน

สู้ๆนะครับ

สวัสดีครับคุณพ่อยอด

จบวิศวกรรมศาสตร์ เริ่มทำงานปีเดียวกับผมเลยครับ มีหนี้หลักล้านเหมือนกัน(ผม1.4MB) 5555
สู้ๆ นะครับ ชมรมช่วยเราได้ครับ ผมหยุดมา 7เดือนแล้วหนี้ต่ำกว่าล้านแล้วครับ
มีสติ คิดแก้ปัญหาที่ละ step นะครับ ที่สำคัญครอบครัวเราต้องมาก่อนนะครับ ไม่มีอะไรแนะนำนอกจากบอกว่าอ่านข้อมูลเยอะๆ หาเวลาเข้าอบรมกับชมรมเพื่อเพิ่มความมั่นใจนะครับ

สู้ๆ นะเพื่อนร่วมอาชีพ

ขอบคุณทุกกำลังใจครับ สถานะตอนนี้หลังจากเริ่มหยุด บางที่ก็ 2 รอบบัญชีแล้ว การติดตามของเจ้าหนี้ ยังไม่มีอะไร ที่ผมคิดว่ารุนแรงครับ ส่วนใหญ่เขาก็ดำเนินการไปตามระบบเขา ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในส่วนของธนาคารเองทั้งหมด โดยหลักการณ์ผมคิดไว้เสมอว่าผมต้องใช้หนี้คืนทั้งหมดครับ ไม่มีความคิดจะเบี้ยวที่ไหนทั้งนั้น เราเอาเงินเขามาเราต้องใช้คืนครับ เหมือนกับที่ท่านกรรมการท่านต่างๆบอกไว้ ดังนั้นการพูดคุยกันระหว่างผมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงอยู่บนหลักเกณฑ์นี้ เขาพูดมาเราก็แจ้งไป ไม่ได้มีอารมณ์ โกรธ หรือรำคาญในช่วงนี้ รับสายครั้งนึงไม่เกิน 20 วินาทียังไม่มีปัญหาครับ บางสายถ้าติดประชุมอยู่ก้ปิดเสียงไป อีกสักพักเขาก็โทรมาใหม่เอง หรืออาจยังไม่ถึงจุดก็ได้ ไม่แน่ครับ

ตอนนี้เหมือนคนที่โทรมาจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งหมดคือต้องการให้เรานัดวันชำระ หรือผมตอบทุกที่เหมือนกันว่ายังนัดวันไม่ได้ แต่ยินดีให้โทรมาถามได้เรื่อยๆ มี HSBC ที่เริ่มมีการขอให้จ่ายเข้าไปบางส่วน ซึ่งก็ได้ตอบปฏิเสธไปแล้ว สินเชื่อไทยพานิชย์ จะโทษมาถี่สุดโทรมาทุกวันครับ ลองถามเขาแจ้งว่าเป็นระบบของเขาต้องขอโทษด้วย แต่พูดดีครับ เคยลองแซวไปว่า น้องไม่คิดว่าการโทรมาทุกวันมันเป็นการสร้างความรำคาญ หรือรบกวนการทำงานของผมเหรอครับ เขารีบขอโทษใหญ่ อ้ำๆอึ้งๆ แล้วบอกว่าทำตามระบบ ผมก็บอกกลับไปว่า ไม่เป็นไรยินดีรับสายครับ จากนั้นก็ยังโทรมาทุกวันเปลี่ยนคนไปเรื่อยๆ


ตอนนี้ผมพยายามอ่านกระทู้ปักหมุดซ้ำเรื่อยๆ รวมถึงประสบการณ์ของท่านสมาชิกคนอื่นด้วย ในส่วนความรู้ด้านกฏหมาย หลักเกณฑ์ตายตัว นำข้อมูลไปใช้ได้เลย แต่ในส่วนของประสบการณ์ แต่ละท่าน หลังจากอ่านแล้วต้องนำมาวิเคราะห์อีกครั้ง เนื่องจากคิดว่าสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา ของปัญหาแต่ละคนต่างกัน ไม่สามารถเลียนแบบวิธี ปฏิบัติ หรือหลักเกณฑ์มาใช้ตรงๆได้ นโยบายของแต่ละธนาคารก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆด้วย ผมใช้วิธี จดจำหลักปฏิบัติมาใช้ มากกว่า ไม่ได้คาดหวังว่า UOB จะได้ HAIR CUT 50% เหมือนของบางท่าน หรือ ไม่ได้ตั้งป้อมรอฉะกับ HSBC ที่บางท่านเล่ามาเรื่องการทวงหนี้แบบโหดๆ ยังไงคงต้องปรับใช้ตามสถานการณ์ เป็นกรณีไปครับ
แต่อย่างไรก็ตามข้อความต่างๆ ที่อยู่ในนี้ มีประโยชน์มากมายกับผมครับ ทั้งความรู้ และกำลังใจครับ ขอบคุณมากมายครับ
ผมไม่แน่ใจว่าสุดท้ายเรื่องของผมจะจบยังไง แต่ตอนนี้ตัดสินใจสู้แล้ว ก็ต้องพยายามให้ถึงที่สุดครับ ถึงจะสู้แบบไม่มั่นใจนัก ก็สู้ครับ

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นช่วงทำยอดของธนาคารหรือยังไง มีโทรศัพท์ เข้ามาแนะนำสินเชื่อเยอะมาก หลายที่ด้วย ธนาคารเดียวกัน คนนึงโทรมาทวงหนี้ วางหูปุ๊ป อีกคนโทรมาแนะนำสินเชื่อ ที่เดียวกันเลย ดูแล้วคนที่โทรมาแนะนำสินเชื่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนทวงเลย ระบบมันไม่ถึงกันมั้ง เลยแซวไปว่า ของเก่าผมยังไม่ได้จ่ายคุณเลย จะให้ผมทำใหม่แล้วเหรอ ก็งงๆ กันไปครับ


จริงๆแล้วผมว่าพวกชวนทำบัตร ทำสินเชื่อเนี้ย ทำให้รำคาญกว่าคนทวงหนี้อีกนะ พวกนี้พูดเยอะ คุยนานถ้าไม่รีบตัดบท โฆษณากันยาวเลยกว่าจะจบ พวกทวงหนี้คุยกันไม่ถึงนาทีจบ จำไม่ได้เหมือนกันว่าเคยไปเซ็นยินยอมให้ใช้เบอร์เรา เพื่อการตลาดตอนไหนบ้าง ทีนี้พอจะไม่ให้โทร ไม่รู้ต้องแจ้งยังไง ไอ้เราก็รับทุกสายเผื่อพวกทวงหนี้โทรมาจะได้คุยกัน เจอพวกนี้บ่อยๆก็รำคาญเหมือนกันครับ กว่าเขาจะเข้าเรื่องว่าโทรมาแนะนำบัตร ก็พูดไปพักใหญ่แล้ว

มาแชร์ประสบการณ์ และใช้ความรู้จาก เว๊บนี้มาปลดหนี้ด้วยกันนะคะ ฟ้าประทานทางออกให้กับเราแล้วคะ

ไทยพานิชย์โทรมาครับ เป็นสินเชื่อบุคล ที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าเจ้านี้จะโทรมาทุกวัน วันนี้น้องที่โทรมาน่าสงสารครับเลยมาเล่าให้ฟัง

น้อง- สวัสดีค่ะ ขออนุญาติเรียนสาย คุณพ่อยอด ค่ะ

ผม-ครับพูดอยู่ครับ จากไทยพานิชย์ไช่มั้ยครับ(ผมแมมเบอร์ที่เคยมาทวงหนี้ไว้ทั้งหมดครับ ถ้าใช้เบอร์เดิมจะรู้เลย ธนาคารบางที่สายออกจะเป็นเบอร์เดียวกันทั้งหมดครับ)

น้อง-ใช่ค่ะ หนูต้องขอโทษพี่เป็นอย่างมากนะคะ ที่ต้องโทรมาทุกวัน เนื่องจากต้องทำตามระบบค่ะ ต้องขอโทษที่รบกวนเวลาพี่จริงๆ ค่ะ (ขอโทษ 2 ครั้ง)

ผม-ไม่เป็นไรครับยินดีคุยด้วย

น้อง-ต้องขอโทษด้วยนะคะ พี่ยังนัดวันชำระไม่ได้ใช่มั้ยคะ

ผม-ครับ

น้อง-คะ งั้นช่วงนี้จะมีเจ้าหน้าที่โทร ติดต่อทุกวันนะคะ ขอโทษที่ต้องรบกวนจริงๆ ค่ะ คือต้องทำตามระบบค่ะ ขอโทษนะคะ

ผม- ครับ

วางสาย

ใช้เวลาไม่ถึง 15 วินาทีผมยังไม่ได้พูดอะไรซักคำ ขอโทษมา 5 ครั้งแล้ว สงสัยก่อนโทรหาผมเพิ่งโดนมา


คือที่เล่าให้ฟัง เพราะผมรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่บางคน เขาไม่ได้เลวร้ายอะไร เขาต้องทำตามหน้าที่ของเขา ตามที่เจ้านายสั่งมา ซึ่งการโทรทวงหนี้ก็มีโอกาส โดนต่อว่ากลับเยอะอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่เริ่มก่อน ก็อย่าใจร้ายกับเขานักเลยครับ เราไม่อยากโดนว่า เขาก็ไม่อยากเหมือนกัน .... นี่ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ถูกต้องค่ะ การหยุดจ่ายและรับสายทวงหนี้ ไม่จำเป็นต้อง "บู๊" ทุกสาย
กอบัวเองใช้ทั้งบุ๋นและบู๊
คือดีมาดีไป ร้ายมาร้ายไป (จะเลี้ยงไว้ทำพ่ออะไร ไม่ได้ขอข้าวมันกินเสียหน่อย)
ชมรมต่อต้านการทวงหนี้โหด ต่างหาก
คุณพ่อยอด ยังไม่เจอสายทวงแบบ non bank ประเภทอีอ้อน(กวน) ตรีน สุดยอดของความต่ำช้าในการทวง
ถ้าคุณเคยเจอเสียงสะอึกสะอื้นร้องไห้ บางคนแทบจะฆ่าตัวเองเพราะคำพูดของคนทวงหนี้ คุณจะไม่ใจดีแบบนี้
บัวเองแต่ก่อนแทบจะนั่งพับเพียบเรียบร้อย พูดจาค่ะขา ทุกคำ
ตั้งแต่หยุดจ่าย และเริ่มรับสายทวงหนี้ สถุลถ่อยขึ้นไปทุกวัน 555++
ม่ายช่าย...เวลาคนเราโดนรังแก จะให้ยิ้มมมม แล้วยกมือไหว้ขอบคุณหรือคะ
เราต้องปกป้องสิทธิของเรา อย่าให้เขามาประจาน โทรเข้าที่ทำงาน มาข่มขู่เราได้ และบอกต่อๆให้รู้ถึงสิทธิ์ของตัวเอง เป็นหนี้ก็ยังมีคุณค่ามีศักดิ์ศรีของความเป็นคน ไม่แตกต่างอะไรกับคนทวงหนี้เหมือนกัน

ปอลิง...อ่านคำตอบของกอบัวแล้วอย่าพึ่งใจคอฝ่อแฟ่ เพราะใครที่เจอตัวจริง มีแต่คนชมว่าสวย เอ๊ย...มีแต่คนบอกว่า ใจดีโคตรๆ (จริงๆนะ เชื่อเถอะ)

อ่า....อ่า....อ่า.... ครับผม

ที่คุณกอบัว บอกมาผมเข้าใจหมดเลยครับ ผมไล่อ่านกระทู้เก่าๆมาแล้ว เข้าใจหลักการของชมรมดีครับ

ผมตั้งใจจะใช้หลักการณ์ เดียวกันแหละครับ ดีมา ก็ดี ร้ายมาก็ร้าย ถึงที่ผ่านมาจะยังไม่เจอที่ผมรู้สึกว่าร้ายมากๆ เจอแต่พวกกวนๆ เสียงแข็งๆ พูดเองเออเอง

พอดีในระหว่างที่ไล่อ่านกระทู้ใหม่ๆ บางกระทู้ รู้สึกว่าบางท่าน มีแนวทางที่ตั้งถ้าจะฉะ กับทุกสายที่โทรมาทวงหนี้ ไม่สนว่ามาดี มาร้าย โทรมาต้องโดน ก็เลยเล่าเรื่องของตัวเองแลกเปลี่ยนให้ฟังบ้างครับ

ผมไม่ใช่คนใจดีเวอร์หรอกครับ อายุก็พอสมควรผ่านเรื่องดี เรื่องร้ายมาก็มากครับ ครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตอีกครั้ง ที่ต้องสู้ และผมจะสู้อย่างมีสติครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับผม