ระวังสมัครบัตรอิออนดูให้ดีๆนะคับ

เมื่อเกือบปลายปีที่แล้วมีเจ้าหน้าที่ทำบัตรอิออนไปที่ทำงาน
ของผมผมเป็นสมาชิกบัตรเครดิตอิออนอยู่แล้ว
แต่ต้องการสมัครบัตรโกลด์ และอัพวงเงิน
(วงเงินผม8,000บาทมาหลายปีแล้ว คนอื่นๆสมัครใหม่ได้วงเงินสูงกว่านี้มาก แต่ก็ใช้บริการมาตลอด)
เจ้าหน้าที่บอกผมว่าใช้หนังสือรับรองเงินเดือน
และให้สมัครบัตรอื่นอีกสามใบ พร้อมกัน ผมบอกว่าผมจะสมัครบัตรเดียว
เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมและบอกว่า ไม่ใช้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ผมเลยตกลงทำ หลังจากนั้นมีโทรศัพท์มาหาผมถามว่าผมมีบัตรมาสเตอร์การ์ดแล้ว
ขอเปลี่ยนเป็นวีซ่าได้ไหม อันนี้ผมเข้าใจว่าผมจะได้บัตรโกลด์และได้อัพวงเงินแน่ๆ
แต่ผลออกมาปรากกว่า บัตรโกลด์ผมไม่อนุมัติและวงเงินก็ยังเท่าเดิม
แต่ได้บัตรเครดิตอิออนที่เป็นวีซ่าแทนและได้บัตรอื่น คือบัตรไอแมกซ์
ผมเลยไปติดต่ออิออนที่สาขายูดีทาวน์ อุดรธานี เอาบัตรไปคืนและสอบถามการอัพวงเงินปรากกว่าเจ้าหน้าที่บอกว่า เมื่อยังไม่เปิดใช้บัตร ก็จะยังไม่มีค่าธรรมเนียม
และค่าใช้จ่ายและให้ผมเก็บบัตรไว้ไม่ต้องคืน และการอัพวงเงินต้องใช้สลิปเงินเดือนพร้อมสเตทเมนท์ธนาคารที่เงินเดือนเข้า
ผมก็บอกเค้าว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำบัตรให้ผมไม่ได้บอกผมแบบนี้แต่แรกเจ้าหน้าที่ที่สาขานี้บอกผมว่า
เจ้าหน้าที่ที่ไปทำบัตรบอกแบบนั้นมันเป็นเพียงหลักฐานการสมครบัตรเท่านั้นไม่ได้เป็นการอัพวงเงินผมเลยไปหาหลักฐานที่ว่านั้นมาทำการอัพวงเงิน
เพราะเงินรายได้ผมต่อเดือนนั้น 20,000 บาทขึ้น
แต่วงเงินผมมีแค่ 8,000 บาท มาหลายปีแล้ว และผมก็จ่ายให้อิออน
เป็นปกติทุกงวดมาตลอด เห็นคนอื่นๆ อัพให้เอาๆๆ บางครั้งผมยังแอบคิดว่า
จะเบี้ยวอิออนสักวัน ผลออกมาว่าไม่อนุมัติการอัพวงเงิน อันนี้ผมก็ทำใจได้
เพราะผมคงดีไม่พอ แต่ก็จ่ายอิออนปกติไม่ได้เบี้ยวอะไรแค่หวังสักวันอิออนคงจะเห็นความดีที่ผมส่งอิออนมาตลอด มาเมื่อวานผมได้รับ ใบแจ้งหนี้ค่าธรรมเนียมบัตร
สองใบที่ผมนำไปคืนแต่เจ้าหน้าที่ไม่รับคืน นั้นใบละ 214 บาท
ผมสงสัย ว่าจะถูกเจ้าหน้าที่อิออนหลอกอีกแล้ว คราวนี้ผมไม่จ่ายแน่ๆพรุ่งนี้จะบุกสำนักงานอิออนสาขายูดีอุดรธานี มาลองติดตามดูนะคับว่าจะเป็นยังไงต่อไป

ได้อ่านชีวิตหนี้ของแต่ละท่าน โชกโชน หนักหนากว่าผมมาก
ที่ผ่านมาผมมีปัญหาเรื่องค่าโทรศัพท์ สมัยที่ยังเป็นออเรนจ์
ติดต่อประมาณพันห้า ก็มีโทรมาทวงหนี้ทั้งโทรมือถือทั้งที่ทำงานสุดท้ายก้เงียบไปนานละ มาเรื่องที่สองก็เรื่องบ้าน ผ่อนบ้านจัดสรร กับธนาคารแห่งหนึ่ง
ยอดบ้านและที่ดิน 9แสนกว่า ปกติผมกับพ่อคนละครึ่งผมก็เอาส่วนของผมให้พ่อไปจ่ายทุกเดือน ส่งอยู่ปีกว่าๆ ผมก็ไปกู้เงินมาเตรียมแต่งงานสามแสนบาท ไปสู่ขอ
ตกลงสินสอดทองหมั้นกันเรียบร้อย ก่อนงานแต่งงาน จู่ๆพ่อผมก็เอาหมายศาลมาให้ดู
ผมตกใจอย่างมาก เลยถามว่าเกิดอารัยขึ้น พ่อบอกว่าเงินพ่อชอตไม่พอจ่ายส่วนของพ่อ
และไม่กล้าบอกผม เลยไม่เอาไปจ่ายธนาคาร มาหลายเดือนละ
และก็เอาส่วนของผมที่ให้ไปจ่าย ไปใช้แล้วด้วย ผมเลยดูวันฟ้องและคำฟ้อง
นี่มันผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว ผมเลยถามว่าทำไมเพิ่งเอามาให้พ่อบอกว่ากลัวผมว่า ซะงั้น ดูวันแล้ว นัดไกล่เกลี่ยแล้วมันผ่านมาแล้วด้วยเลยติดต่อไปที่ทนายโจทก์ตามเบอร์ที่อยู่ในคำฟ้อง
ผมจบกฎหมายมาแต่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับกฏหมายประสบการณ์ที่ได้รับมาก็อยู่แต่ในตำราเท่านั้นพอเจอของจริงไปไม่ถูกเลยคับทนายนัดเจอวันขึ้นศาลเลย ผมก็ไปมือเปล่านี่แหละ
สมองมันมึนไปหมดสุดท้ายก็ยอมรับสภาพหนี้ใหม่ เงินต้น แปดแสนเก้า บวกดอกเบี้ยผิดนัดอีกสามแสนกว่า ผ่อนบ้านยังไงเงินต้นไม่ลดแถมยังเพิ่มขึ้นเป็นล้านกว่า
ฮ่าๆ ค่าขึ้นศาลไม่ต้องเสีย แต่ต้องจ่ายค่าทนายความไปสี่พันแต่ขอบอกว่าเงื่อนไขโหดมากๆ
ปีแรกถูก ปีต่อไปหลักหมื่นเลยตอนนั้นเงินเดือนหมื่นกว่าๆเองแถมระยะเวลายังกระชับเข้ามาจากสามสิบปีมาเป็นสิบห้าปีเองมั้ง ถ้าตอนนั้นผมเจอข้อมูลดีๆจากเวบนี้คงไม่ต้องเสียโง่
เสียเงิน ไปโดยเปล่าประโยชน์ สุดท้ายผมก็ไปไม่รอด
เพราะหลังจากทำสัญญาใหม่ผมมานั่งนึดนั่งคิดดีๆ
ผมก็รู้ละว่าไม่รอดแน่ๆอย่างเก่งก็สองปี ตอนนี้เริ่มฉลาดมาบ้างละเลยวางแผนไว้ล่วงหน้าให้น้องชายรับช่วงแทน เพราะเสียดายบ้าน ถ้าไปซื้อที่ใหม่ราคามันเพิ่มขึ้น
จาก เก้าแสนเป็นล้านสามล้านสี่แล้วถูกกว่านี้ไม่มีขายแล้วแล้วถ้าใช้ชื่อผมกู้ใหม่เครดิตผมก็ไม่เหลือแล้ว และตอนนั้นน้องชายเงินเดือนยังไม่เยอะที่จะกู้ได้เลยรอสักสองปีส่งแค่ปีแรกปีที่สอง
ไม่ส่งเลยปีที่สามกว่าจะลงตัวกับธนาคารได้เพราะผมบ่ายเบี่ยงมาตลอดคำเดียวเท่านั้นเงินมีไม่พอและถ่วงเวลาให้เงินเดือนน้องชายยับขึ้นสูงที่สุดจนถึงจุดอิ่มตัวที่จะรั้งไว้ได้เเล้วเพราะถึงขั้น
ประกาศขายทอดตลาดแล้ว ครั้งที่สองก็ยังไม่มีใครมาซื้อโชคยังช่วยไว้อยู่ก็เจรจาลดดอกเบี้ยละผมคุยเองลดได้แสนเดียวจากสามแสน แต่ก็มีคนในวงการบ้านจัดสรรมาช่วยพูพราะดให้ลด
ได้อีกแสนนึงเลยปลดภาระตรงนี้ได้เปลี่ยนเป็นน้องชายเป็นผู้กู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ในวงเงินล้านหนึ่งแสนส่งเดือนละ เจ็ดพันสอง
ผมกับน้องๆและพ่อส่งช่วยกันและคุยกันว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์นี้ซ้ำสองใครไม่ไหวยังไงให้บอกกันและคนที่เหลือก็ต้องช่วยกันอุดช่องว่างนั้น
ไม่งั้นต้องไปหาบ้านที่ไกลในเมืองแถมราคาแพงกว่านี้มากอาจจะไม่ได้บ้านเลยเลยด้วยซ้ำ
ความอดทนและรู้จักคิด มีสติช่วยได้มาก ช่วยได้มากเลยครับ
หลังเหตุการนี้ผมก็มีความกล้ามากขึ้นกล้าที่จะต่อรอง กล้าคุย กล้าทำ กล้าคิด ทุกอย่างมีทางออกคับ สู้ๆนะคับทุกคน

อูย..ตาลาย..!!!จบกฎหมายยังไงน๊อ...??

ท่านเชาวเลิศ ช่วยจัดวรรคตอน..เว้นบรรทัดให้หน่อยเหอะ...

ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งคับ มือใหม่หัดตั้งกระทู้ เลยทำให้อ่านลำบากแถมยังตั้งกระทู้ซ้อนอีก ผมจิ้มบนมือถือคับ เลยมองในภาพรวมไม่ชัดเจน จอมันเล็ก แต่จะแก้ไขปรับปรุงคับ
จากกรณีมีค่าธรรมเนียมบัตรอิออนเรียกเก็บกับผมโดยที่ยังไม่เปิดใช้บัตรเลยนั้น ผมติดต่อกับสำนักงานใหญ่แล้ว บอกให้ผมไปยกเลิกใบแจ้งหนี้ดังกล่าวที่สาขาที่อยู่ใกล้ได้เลย เพราะไม่มีการเปิดใช้บัตร แต่ก็ยังไม่วายแนะนำผมว่า หากสนใจจะเปิดใช้บัตรก็สามารถเปิดรที่เค้าเตอร์ได้เลย ไม่มีค่าธรรมเนียม ผมใช้บัตรเดียวก็พอละคับเอามาทำไมหลายใบวงเงินแค่นี้ ผ่อนทีวีรองรับระบบดิจิตอลยังไม่ได้เลย
ส่วนขนาดเรียนกฏหมายมายังเป็นถึงขนาดนี้ อันนี้ผมยอมรับคับ ผมไม่ได้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับกฏหมายเลย ผมจบปี48ใช้เวลาเรียน6ปีครึ่ง ผ่านระบบทางไกล เพราะที่ๆผมอยู่ส่วนใหญ่ มีแต่ป่า เขา และดินลูกรัง หนังสือที่ใช้เรียนบางเล่มพิมพ์ตั้งแต่ปี21 ปีเกิดผมพอดี ไปเรียนสอนเสริมกับอาจารย์เดือนละครั้งในเมือง ประสบการณ์ที่ได้รับจึงมีแต่ในตำราและทค่อาจารยืบรรยาย สมัยนี้อินเตอร์เนตเข้าถึงแล้วหาประสบการณ์ได้หลากหลายและทันต่อเหตุการณ์ ปัจจุบันก็ยังศึกษากฏหมายอยู่คับ

เป็นกำลังใจให้และขอให้คุณ war6221 โชคดีนะคะ

การเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บัตรนั้นปกติจะมี2ส่วนคือ ธนาคารเจ้าของบัตรกับธนาคาร(บริษัท)เจ้าของตู้ ซึ่งธนาคารบ้านเราตกลงกันไว้คือผ่านเครือข่ายATM Pool ค่าธรรมเนียมก็จะเป็นตามที่เราเห็นๆนั่นแหละคือถอนต่างธนาคารได้กี่ครั้ง ค่าโอนเป็นเท่าไร ที่นี้ปัญหามันมาเกิดว่า อิออนไม่ได้อยู่ในเครือข่าย ATM Pool สังเกตที่ตู้จะไม่มีเครื่องหมายนี้ แต่จะมีเครื่องหมายพวก Plus ,Cirrus แทน ซึ่งถ้าบัตรATMคุณมีเครื่องหมายVisaอยู่จะสามารถถอนผ่านเครือข่ายเหล่านี้ได้ โดยมีค่าธรรมเนียมตามที่ตกลงกันไว้โดยต้องสอบถามธนาคารเจ้าของบัตร