สวัสดีครับ ผมชื่อ Issy หรือ เรียกอิสซี่ ก็ได้ครับ
เรียกชื่อผมคงจะชวนให้นึำกถึงเจ้าหนี้สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง
อีซ่าเบย..
ย้อนกลับไป 2 ปีที่แล้ว! ผมเป็นหนี้ตั้งแต่อายุ 20 ปีเนี้ยนะ !!!
จุดเริ่มต้นของการเป็นหนี้มันเริ่มต้นขึ้น
ผมอยากจะเล่าเรื่องราวการเริ่มต้นของการเป็นหนี้ของผมทั้งหมด ผมคงโทษใครไม่ได้นอกเหนือจากจะบอกว่าเป็นเพราะตัวเอง ความอยากได้อยากมี อยากมีเหนือคนอื่น ตั้งแต่ผมเรียนจบปริญญาตรี เริ่มจากตรี ก็เป็นหนี้แล้วครับ แต่มันก็ผ่านไปได้ กยศ..!! คุณแม่จ่ายให้ ผมตั้งความหวังไว้ว่า อีกสักหน่อย อยากจะมีความสำเร็จเร็วๆ อยากจะเรียนต่อปริญญาโท อย่างที่ใจหวังไว้
เริ่มแรก มันก็สวยอยู่หรอกครับ ผมได้เข้าเรียนตามมหาวิทยาลัยที่หวังไว้ ผมยอมรับว่า ผมไม่ได้กู้กองทุนสำหรับการศึกษาที่ธนาคารหลายๆที่ปล่อย ช่างโง่จริงๆ ที่ไม่หัดศึกษาให้เข้าใจและเตรียมการอย่างดีก่อนตัดสินใจ แต่การทำอะไรที่เขาเรียกว่า มักง่าย ไม่ประมาณตน มันเจ็บหนักมากครับ (ผมว่าตัวเองนะครับ)
ผมเริ่มรู้จักคำว่า "บัตรมหัศจรรย์" วงเงินเริ่ดๆช่างโง่ซะจริงๆ ความรู้สึกดีในช่วงแรกมันเหมือนเราอยู่ท่ามกลางความปลื้มปิติที่เรามีเงินใช้ เราหมุนเงิน ส่งตัวเองเรียน แต่หารู้ไม่ว่า หายนะมันกำลังเริ่มก้าวเข้ามา
จาก บัตรมหัศจรรย์ มันกลายเป็น บัตรมหันตภัย เมื่อ เวลาจ่ายหนี้แล้ว ดูยอดคงเหลือจนต้องตาค้าง!!
นี้คือ สิ่งที่เด็กน้อยคนนี้ไม่รู้..!!
ขออนุญาติใช้คำหยาบคาย
จ่ายเกินขั้นต่ำไป ตั้ง 2500 บาท ----
มึงหักค่าอะไรนะ Interest 800 บาท Credit usage charge 1,050 บาท หักเงินต้น 750 บาท
มึงไม่หักกูซะแค่ 100 บาท แล้วคิดดอกรวมค่าธรรมเนียม 2400 ซะเลยหละ !!
บัตรมหันตภัยทั้งหมดที่ผมเคยมี และยังมีอยู่ !!
กลุ่มที่ 1
ยูโรโบ้ --- 45,xxx บาท
แสตนดาร์ดShark---- 40,xxx บาท
ฮ่องกรง --- 50,xxx บาท
กลุ่มที่ 2
ไทยโภชนา--- 30xxx บาท
กรุงไทร้
30,xxx บาท
กรุงศิริ ---- 12,xxx บาท
อิอ่อน --- 30,xxx บาท
ผมขอแยกเป็นสองกลุ่ม.. กลุ่ม 1 คือเป็นกลุ่มของบัตรที่ผมได้ทำเมื่อได้งานแห่งที่สองเงินเดือนเริ่ดสุดๆ แต่ก็ดิ่งลงเหวสาหัส!!
และกลุ่มที่สอง ยอดขำๆ แต่ไม่ขำ เมื่อไม่มีเงินจ่าย!! เป็นบัตรที่ผมเริ่มเปิดเพราะทำงานที่แรกเงินเดือนก้ตามนั้นหละครับ แต่ไม่มีความพอ ออกจากงานเพราะต้องการหาเงินมาเรียน
และสุดท้าย ผลที่ได้รับ คือ... เรียนไป ครึ่งปี ต้องดรอป !! เพราะหมุนเงินไม่ทัน
และตกงาน!! เด้งที่สอง เงินเก็บทั้งหมด จมไปอยู่กับการปิดบัตร โดยวิธีทางทั่วไปคือ หาเงินมาขุนให้หมูมันอิ่ม!!
แต่กระนั้นนะ นั่นอาจเป็นเพราะผมอายุน้อยมาก ตอนนี้ผมอายุ 24 และเพิ่งรู้จักเว็บนี้ แต่ก็เจ็บใจนัก ที่มารู้ช้าไป ผมทำงานมา 4 ปี อายุงานน้อยเนอะ โบนัสแต่ละปี ผมต้องเอามาโป๊ะจนหมด โดยไม่รู้คำว่า Hair cut คืออะไร ใบลดหนี้ ประนอมหนี้คืออะไร บ้าที่สุด!! มีเวลาเล่นเน็ต ท่องเน็ตได้ แต่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตที่เป็นอยู่ จะต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่
ยอมรับว่า หน้าบางมากครับๆ กลัวนั่น นู้น นี่ สารพัด เขาขู่มา นั่นนี้ก็ยอมไป เพราะกลัวแบล๊คลิส
ใจอยากจะกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ ตอนนี้ช่างหละ ไม่สนใจ หาทางออกอย่างเดียวครับ
เพราะอ่านเรื่องราวจากรุ่นพี่ๆในบอร์ดแห่งนี้มา ทำให้รู้ว่า ถ้าเริ่มจากติดลบ ยังไงมันก็ลบครับ
แต่ก็ดีครับ ที่ผมรู้ตอนนี้ ผมปลอบใจตัวเองแบบนี้
ตอนนี้สรุป หนี้บัตรทั้งหมดที่ผมยังเหลืออยู่คือ
ไทยพาณิชย์ 30,000 จาก 50,000 บาท
กรุงไทย 28,000 จาก 45,000 บาท
กรุงศรี 12,500 จาก 25,000 บาท
อิออน 6,000 จาก 15,000 บาท
นี้คือ ส่วนที่ผมถยอยผ่อน และเอาโบนัส 3 ปีทุ่มปิดไปจนหมด กับตัวที่ดอกเบี้ยเยอะมหาศาล ... ตลกตัวเองมาก หลายคนอาจถามผมว่า เอ้าแล้วทำไมหนูยอมจ่ายมาจะหมดแล้ว เหลือรวมๆ ไม่แค่ 70,000 บาท ทำไมไม่จ่ายต่อหละจ๊ะหนู
..
ผมเพิ่งได้งานใหม่ครับ ซึ่งต้องยอมทำ ตอนนี้ไม่ไหวครับ ตกงาน 2 เดือนแถมมีหนี้สิน ต้องเอาไว้ก่อนฮะ
เงินเดือนเหรอ เหมือนที่แรกครับ..!!
และผมอยากบอกว่า พี่ครับ ผมเจอบอร์ดนี้แล้ว ตาสว่างแล้ว และผมคิดว่า เรื่องของผมอาจเป็นวิทยาทานให้กับคนเป็นหนี้รุ่นเยาว์วัยใกล้เคียงกับผม หลายคนอาจถามว่า เร็วไปไหม ยังส่งหมดทันนะ อนาคตหละ ไม่ละครับ ผมรู้ดี ตอนนี้อยากหมดหนี้ให้เร็วที่สุด ไม่สนแล้ว!!
ผมอ่านกระทู้พี่ๆหลายคน และทำให้รู้ว่า จะหนี้มากหรือหนี้น้อย ก็ทุกข์เหมือนกันแฮะ ถ้าไม่มีส่งเขา
ผมเริ่ม หยุดจ่าย บัตรที่เหลือตั้งแต่วันนี้ ..
ไทยภาโนช
กรุงไทร
กรุงสิริ
และ จะมาอัพเดทให้ฟังอีกครั้งครับ
[/size]