เรื่องราวของผมครับ อาจจะพอเป็นกำลังให้เพื่อนๆได้บ้าง

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37461 โดย scm
สวัสดีครับ ขออนุญาตมาเล่าสู่กันฟัง เรื่องราวของผมและครอบครับ และหากมีข้อแนะนำให้ผมตรงไหน ก็ขอขอบพระคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกๆคนล่วงหน้าด้วยครับ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ที่เพื่อนๆ พี่ๆ ที่นี่ได้แบ่งปันและเป็นแนวทางให้หลายๆท่านที่มีปัญหารวมถึงผมด้วยได้นำไปประยุกต์ใช้กันครับ

เรื่องราวของเราอาจจะยาวนิดนึงนะครับ แต่วันนี้ ผมคิดว่าผมสามารถตั้งสติได้ ก็เลยอยากเล่าและอาจพอมีประโยชน์แก่เพื่อนๆบ้าง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37462 โดย scm
ผมกับแฟนเดิมก็เป็นลูกจ้างกินเงินเดือน ฐานะที่บ้านก็ปานกลาง เริ่มต้นทำงานครั้งแรกเงินเดือน 7 พันกว่าบาท ไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆและสุดท้ายลาออกไปทำกิจการ ครั้งแรกเลยเริ่มจากการขายของตามตลาดนัด จำได้ว่าค่าที่วันละ 50 บาท และไต่เต้าขึ้นมาตามจังหวะเรื่อยๆ ก็เหมือนกับทุกๆท่าน อาศัยหมุนเงินโน่น นี่ นั่น มาใช้จ่ายในครอบครัวและกิจการ หลังจากทำได้ สักพักต้องยอมรับว่ากิจการไปได้ดีมากครับ เรียกว่าชีวิตช่วงนึง ตัวเองรู้สึกว่าได้มีโอกาสขึ้นไปเกือบสูงสุดในฐานะของคนธรรมดาคนนึงจะทำได้ ด้วยวัยเพียง 30 ต้นๆ ได้มีโอกาสเข้าร่วมกับหลายๆหน่วยงาน ได้มีโอกาสทำตามความฝันที่อยากจะมีกิจการของตัวเองและนำสินค้าเข้าของตัวเองไปอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังของประเทศรวมถึงการออกโชว์ที่ต่างประเทศ ซึ่งช่วงนั้นเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เงินก็หมุนไปตามกิจการที่เราทำได้ หมุนโน่น หมุนนี่ กดนั่น กดนี่ มีเงินใช้ก็เกิดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อสิ่งของที่เราไม่เคยมี ไม่เคยได้ อยากได้ อยากมี โดยไม่เคยคิดว่าหากวันนึงสถานการณ์เปลี่ยนไปจะเป็นเช่นไร
จนมาช่วงนึงก็คือช่วงปี 2553 – ต้นปี 2556 ที่ผมจำได้แม่นมาก เริ่มจากปัญหาสภาวะการเมือง, น้ำท่วม 2554, ค่าแรง 300 2555-2556 (ต้องขออนุญาตออกตัวว่า ผมไม่ได้ตั้งใจจะโทษปัจจัยเหล่านี้ปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งตรงๆนะครับ เพราะผมเข้าใจดีว่า บางอย่างก็จะมีทั้งข้อดี-ข้อเสียในตัวของมันเอง ซึ่งปัญหาและสาเหตุจริงๆ หลังจากที่ผมได้ลองมาทบทวนตัวเอง ก็เกิดจากการที่ตัวเองหลงไปกับเงินที่เราเคยได้และไม่ได้มีการกันมาออมไว้ จนมาเจอสถานการณ์เหล่านี้ทำให้เราเองปรับตัวไม่ทัน ไปหมุนเงิน เมื่อหมุนไปหมุนมา กดไป กดมา กู้ไป กู้มา ปัญหาของดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมทบต้น ประกอบกับกิจการแย่ลงมาเรื่อยๆก็ทำให้เราไม่สามารถเดินต่อได้)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37464 โดย scm
- ช่วงที่มีปัญหาสภาวะการเมือง : กิจการของผมที่มีตามจุดใกล้ๆปัญหา ก็เริ่มจาก ยอดตก ปิดร้านในช่วงเวลาเสี่ยง รายรับลดลง รายจ่ายเท่าเดิม จนสถานการณ์ผ่านไปเริ่มทยอยเปิดได้ แต่บางที่ก็ไม่เหมือนเดิม

- ช่วงน้ำท่วม อันนี้เป็นจุดหลักของการก่อหนี้ก้อนใหญ่ครับ เริ่มจากบางจุดของเราก็ต้องปิดไป แต่ช่วงนั้นเราเองยังคิดว่าไหว จำได้ว่า เริ่มจากบ้านก่อนโดนเป็นอันดับแรกเพราะอยู่ในโซนน้ำท่วมที่หนักสุดๆ (โดนไปเกือบๆ 2 เดือน ไม่ได้เก็บอะไรเลยครับ เพราะตอนนั้นห่วงกิจการอย่างเดียว) ผมเองกับน้องๆก็ยังรวบรวมปัจจัยและสินค้าที่เรามีออกไปช่วยคนที่เจอสภาวะน้ำท่วมเพราะออฟฟิศยังไม่ปิด รู้สึกดีมากครับ เราไปขอโรงงานให้ทำสินค้าไปบริจาค ซึ่งจริงๆเค้าก็จะปิดเพราะน้ำท่วมแต่เราก็อ้อนวอนเพราะเราอยากสั่งไปช่วยเค้าก็เลยช่วยจนวันสุดท้ายที่น้ำมาจริงๆ ผมยังจำภาพของน้องผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่อยู่กับผมไปแบกถุงกระสอบได้อยู่เลย แต่หลังจากนั้นไม่นานทุกๆที่ที่เรามีก็ต้องค่อยๆทยอยปิดไปด้วย จนหมด เพราะน้ำได้มาถึงเราทุกๆพื้นที่ รายรับไม่มีรายจ่ายเท่าเดิม
จำได้ว่าตอนนั้น ธนาคารเริ่มมีประกาศช่วยเหลือพักหนี้, สถาบันของรัฐออกมาตรการช่วยเหลือ แต่มาตรการก็แตกต่างกันไป บางที่พักหนี้แต่ดอกเบี้ยยังคิดต่อไป บางที่พักหนี้คิดดอกเบี้ยครึ่งนึง ค่าเช่าที่ มีบางที่ลดให้แต่ลดให้ในเดือนหลังจากน้ำท่วม เดือนน้ำท่วมขอคิดเต็ม T_T สถาบันรัฐ มีบางที่ที่ผมติดต่อเข้าไปขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากผมเป็นกิจการเล็กๆ สินค้าผมไม่มีเครื่องจักร จึงไม่ได้อยู่ในข่ายการช่วยเหลือช่วงต้นๆ มาตรการที่ผมได้รับช่วยเหลือจากสถาบันรัฐหลังจากน้ำท่วมผ่านไปก็คือ เงินสนับสนุนการทำความสะอาดมูลค่าประมาณ 2 พันบาท
ณ ช่วงของไตรมาส 3 ปี 2554 เรามีการสั่งสินค้ามาตุนไว้เพราะปกติช่วงของไตรมาสสุดท้ายของปีจากสถิติปีก่อนหน้านี้ กิจการเราจะมียอดขายสูงสุด และสินค้าจะขาดช่วงนานมาก โดยสินค้าทั้งหมดผมได้เป็นเครดิตทางการค้า ณ ตอนน้ำท่วมผมมีน้องๆที่ทำงานร่วมกันเกือบ 40 ชีวิต รายรับเริ่มหดจนหมดกลายเป็น 0 รายจ่ายมีตลอด ผมได้นั่งพูดคุยกันกับแฟนและน้องๆหลักๆ ทุกคนก็มีรายจ่าย เราจะหยุดจ่ายเค้าก็ไม่ได้ สิ่งที่ผมทำ ณ วันนั้นก็คือต้องกู้ใหม่ ซึ่งธนาคารหลายๆที่ก็ใจดีให้กู้เป็นล้านๆโดยไม่มีหลักทรัพย์เพราะ statement เราเดินดี แต่ก็แลกมาด้วยดอกเบี้ยมหาโหด ทั้ง 19%, 20++% จนถึง 28% เพราะผมเองก็มีเพียงแค่บ้านที่เป็นหลักทรัพย์ โดยยังผ่อนชำระอยู่ซึ่งได้กู้มาตั้งแต่ทำงานประจำ จึงจำเป็นต้องกู้โดยไม่มีหลักทรัพย์ ผมจำได้ว่าวันที่ยื่นกู้ ผมเดินฝ่าน้ำเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ก่อนเรื่องขอหยุดชำระบ้าน เพราะ ณ ตอนนั้น call center โทรไม่ได้เลย เลยได้แนวทางเรื่อกู้สินเชื่อบุคคลต่อและธนาคารก็ได้ช่วยส่งคนมาช่วยรับเอกสารถึงที่แถวๆบ้านบริเวณรอบนอกไกลๆที่น้ำท่วมไม่ถึง ส่วนตัวผมก็ต้องกลับเข้าไปเอาเอกสารที่บ้าน เพราะผมไม่ได้เก็บอะไรมาเลย นั่งรถ ต่อเรือ นั่งเรือ ต่อเดิน เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ได้มาอีกอย่าง เข้าไปถึงบ้านครั้งแรกเลยก็คงเหมือนๆกับท่านอื่นๆ เห็นสภาพบ้าน น้ำตาไหลออกมาเลยครับ สิ่งที่เราสร้างมาจากน้ำพักน้ำแรง แต่ก็มีเวลาเศร้าไม่มากเพราะต้องไปเอาเงินกู้มาก่อน จำเป็นต้องหมุน หลังจากนั้นก็ลุยเอาเอกสารไปให้ อบต.เซ็น เพื่อยืนยันการตกเป็นผู้ประสบภัยจากน้ำท่วม
(นอกเรื่องนิดนึงครับ:ใบนี้ก็มีประโยชน์มากนะครับ เพราะหลังจากผมกู้ครั้งนี้ มันก็ยังไม่พอครับ รายจ่ายเรามหาศาลจริงๆ และยิ่งไปเจอสถานการณ์สุดท้ายคือเรื่องค่าแรงที่เป็นจุดเปลี่ยน ผมก็ใช้ใบนี้เป็นการขอลดค่าธรรมเนียมการในการจดจำนองเพื่อยื่นขอสินเชื่อธุรกิจ จาก 5 หมื่นกว่าบ้านเหลือเพียง 5 ร้อยกว่าบาท ถ้าจำไม่ผิด โดยนำหลักทรัพย์บ้านหลังเดิมไป re-finance)
หลังจากยื่นเรื่องเรียบร้อย เราก็ไม่ได้นั่งรอเงินกู้อยู่เฉยๆ จำเป็นต้องหารายได้ ผม แฟน และน้องที่เป็นหลัก ก็คิดกันนำสินค้าออกไปขายตาม ตจว. เราลุยน้ำกลับเข้าไปเอาสินค้าออกไปขายตั้งแต่ ชลบุรี บางแสน กลับมาลงไปทางใต้ ได้รายได้กลับมาบางส่วนและได้จุดการขายเพิ่มอีก (ตรงนี้เราก็ได้โอกาสจากวิกฤตเพิ่มมาด้วย)

- ค่าแรง 300 2555 – ต้นปี 2556 สถานการณ์สุดท้ายที่ทำให้กิจการเราต้องเลิกและล้มลง
จริงๆเรื่องของค่าแรงผมเองก็คิดว่ามีทั้งดีและเสีย คงไม่วิจารณ์นะครับ แต่ขอเล่าถึงในส่วนของเราที่เป็นผลกระทบ หลังจากสถานการณ์ น้ำท่วมได้ผ่านไป ยอดขายเราสามารถกลับมาเป็นปกติได้อยู่ช่วงนึง ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรหรืออาจะเป็นเพราะคนส่วนใหญ่อัดอั้นกับการ shopping หรือจำเป็นต้องซื้อชดเชยที่เสียหายไปจากน้ำท่วมโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพื่อนผมทำกิจการ เรียกได้ว่ายอดขายสูงสุดเลยก็ได้ ผมเองกับแฟนก็เลยปันเงินส่วนนึงไปให้กับน้องๆในกิจการเรา เพราะรู้ว่าคงได้ผลกระทบจากน้ำท่วมอยู่ไม่น้อย เท่าที่เราจะช่วยได้ บางคนก็รับ แต่น้องคนสนิทของเราจะไม่ค่อยรับ เพราะเค้ารู้สถานการณ์ทางการเงินผมกับแฟน และก็เป็นคนกลุ่มสุดท้ายจริงๆที่ช่วยเรามาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากผ่าน ไตรมาส 1 2555 ไป ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตลาดในสินค้าที่ผมทำอยู่ 1 เมษายน 2555 เราก็ขึ้นค่าแรงให้พนักงานของเราตามที่เราควรจะต้องขึ้น แต่ยอดขายเราเริ่มตกลงเรื่อยๆ เรียกว่าเกือบๆ ตกลง 30% จนถึง 50% แต่ต้นทุนเรากลับขึ้นไปแล้ว รวมถึงต้นทุนดอกเบี้ยที่เราต้องรับภาระมากขึ้น
สุดท้าย ยอดขายที่ตกจนเรารับไม่ไหว เราจำเป็นต้องลด โอที โดยอธิบายให้ทุกคนเข้าใจเพื่อรักษาทุกคนไว้และไม่อยากให้ตกงาน ตอนนั้นก็เริ่มมีน้องๆหลายๆคนเริ่มทยอยลาออก เพราะรายได้เค้าลดลง เราก็เข้าใจเพราะเราเคยเป็นลูกจ้างมาก่อน ก็แยกจากกันไปบ้าง ณ ตอนนี้ ผมเริ่มมองหาข้อมูลและได้มาพบเว็บนี้และที่อื่นๆ ก็เริ่มศึกษาบ้างแล้วครับ

มาหนักที่สุดก็ตอนต้นปี 2556 ที่เป็น 300 ทั่วประเทศ น้องๆหลายๆคนก็เลยอยากกลับไปทำงานที่บ้าน ตจว.เพราะได้ค่าแรงเท่ากัน กลับบ้านค่าใช้จ่ายลด เราก็เข้าใจ ตัวกิจการเราเอง ณ ขณะนั้น ก็ไม่สามารถเพิ่มรายได้ได้ จนผมตัดสินใจเรื่องกู้เงินอีกครั้งเพื่อต้องการนำเงินมาทำตลาดใหม่โดยหวังว่าจะดึงยอดขายกลับมาให้ได้ ประจวบกับ มีธนาคารนึง(ที่เคยให้เรากู้ตอนน้ำท่วม)ติดต่อเข้ามาว่า เค้าไปช่วยตรวจสอบและดูแนวทางในการขอกู้เพิ่มเพื่อนำเงินไปใช้ในกิจการ โดยใช้หลักทรัพย์เดิม (ซึ่งก็คือบ้านที่ยังคงผ่อนชำระอยู่) มาขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อทางธุรกิจได้ สุดท้ายเราก็เลยโอเค กู้ไปครับ 200% จากราคาประเมินบ้าน ^^ เก่งไหมครับ เรื่องกู้เงิน
แต่แล้วมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยครับ ได้เงินมาแล้ว สถานการณ์กิจการก็กลับแย่ลงๆกว่าเดิมอีก เงินก็หมุนไม่ได้แล้ว บัตรทุกใบก็เต็มหมด ก็เริ่มชำระไม่ได้
เครียดมากครับ ไม่รู้จะทำยังไง สติแทบไม่อยู่กับตัว นอนไม่หลับ น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว คนรอบข้างเราบางคนก็เริ่มเปลี่ยนไป สิ่งต่างๆที่เราไม่เคยคิดจะได้เจอก็เริ่มได้เจอ แม้แต่ญาติตัวเอง คนที่เราคิดจะพึ่งพาก็เริ่มเปลี่ยน พนักงานก็เริ่มออกไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายจำได้ว่าเหลือเพียงพนักงานไม่กี่คน ครอบครัวก็เริ่มมีปัญหา ตื่นเช้ามาตัวผมเองก็หงุดหงิด หาเรื่องคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ทะเลาะกับแฟน ทะเลาะกับคนอื่นๆ นั่นเป็นสถานการณ์ที่ผมจำได้ว่า คำว่าท้อแท้ มันเป็นยังไง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37467 โดย scm
จนมาวันนึง ผมฉุกคิดได้ว่า ผมคงต้องเปลี่ยนอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน แต่อย่างแรกที่เราต้องเปลี่ยนก็คงเป็นตัวเอง
ผมเริ่มค้นหาข้อมูล ทั้งจากใน Internet, YouTube, หนังสือ (มีหนังสืออยู่เล่มนึงผมได้รับมาเป็นของขวัญจากน้องในแผนกสมัยผมทำงานบริษัทเมื่อหลายปีก่อน เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่มีปัญหาแบบนี้และสู้ชีวิตมาแต่เค้าหนักกว่าหลายเท่า เพราะมีหนี้สินเป็นร้อยๆล้าน แต่ผมก็แค่อ่านๆผ่านๆ เพราะมันเป็นเรื่องของ “เค้า” ไม่ใช่เรื่องของ “เรา” แต่วันนี้กลับมานั่งอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างละเอียดเพราะมันกลายเป็นเรื่องของ “เรา” ซะแล้ว) และข้อคิดจากหนังสือเล่มนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเริ่มเรียกสติและความศรัทธากลับมาสู่ตนเองและครอบครัว
ผมนั่งลงคุยกับแฟนดีๆ ถึงปัญหาที่มีทั้งหมดเพื่อปรับความเข้าใจกัน ผมเป็นคนที่แทบไม่ค่อยได้เข้าวัด ไม่สวดมนต์ เพราะชีวิตมัวแต่มุ่งมั่นกับการทำงานและทุ่มเททุกๆอย่างเพราะฝันอยากประสบความสำเร็จเหมือนนักธุรกิจดังๆ ผมจำได้ว่า วันนั้น เรา 2 คนตัดสินใจทิ้งทุกอย่าง นำเงินติดตัวไปคนละ 200 บาท ทิ้งแม้กระทั่งบัตรประจำตัวประชาชน (ซึ่งจริงๆคิดผิด เพราะมันจำเป็น ไม่งั้นโดนจับได้นะครับ) และออกเดินทางโดยรถไฟฟรีจากสถานีธนบุรีไปกาญจนบุรี เพราะต้องการหาสถานที่ ที่ไหนก็ได้เพื่อนำชีวิตออกจากความวุ่นวายและต้องการเรียกสติกลับมา ผมกับแฟนตัดสินใจไปปฏิบัติธรรม โดยเลือกที่ที่ไกลๆ ไม่ต้องติดต่อภายนอก ห้ามทุกคนนำโทรศัพท์เข้าไป และที่นอนผมก็เป็นกระต๊อบไม่มีไฟซะด้วย (ตอนแรกก็แอบกลัวๆเหมือนกัน ) และด้วยความที่ไม่มีบัตรประชาชนไป สถานที่นั้นก็ไม่อนุญาตให้เข้าเพราะไม่มีอะไรที่พิสูจน์ได้เลยว่าเราเป็นใครมาจากไหน ชีวิตก็เหมือนเศร้าๆอีกแล้วครับ แต่ก็โชคดี ตอนที่นั่งรถไฟมา มีผู้หญิง(มีอายุหน่อย)คนนึงที่มาปฎิบัติอยู่บ่อยๆ และได้พูดคุยกันนิดหน่อยๆตอนรอรถไฟ แกช่วยพูดให้และขอให้เราได้อยู่บวชใจกันสักนิดนึงก็ยังดี เพราะอุตส่าห์นั่งรถไฟมาไกลเกือบ 5 ชม. ทั้งๆที่ไม่เคยมาและที่สำคัญ ผมไม่เคยปฏิบัติธรรมมาก่อนเลย
จริงๆวันนั้น ผมก็ไม่ได้ลึกซึ้งกับธรรมะหรอกครับ แต่ด้วยความที่เราต้องทำตามขั้นตอนตามที่สถานที่กำหนดไว้ ต้องสวดมนต์ ห้ามพูดมาก ให้พูดน้อย ทำเยอะ ผมแทบไม่มีเวลาคิดอะไรอื่นเลยเรียกว่าใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ ถูกตำหนิบ้าง ถูกสอนบ้าง พอตกค่ำก็ได้พบได้คุยกับท่านอื่นๆ ที่มาปฏิบัติ เชื่อไหมครับ หลังจากที่ได้พูดคุยกัน ผมพบว่าสถานที่แบบนี้คือที่ๆรวบรวมคนมีปัญหาจริงๆ ก็เหมือนกับที่ผมได้อ่านข้อมูลของชมรมที่นี่ เป็นที่รวบรวมคนมีปัญหาและขณะเดียวกันเป็นที่ๆมีทางสว่างให้เราด้วย ผมได้เจอคนที่มีปัญหามากกว่าเราหลายเท่า ได้เจอคนที่เคยมีปัญหาทั้งทางธุรกิจและครอบครัว บางคนคิดแค้นอยากจะไปทำร้ายคนที่ทำให้เค้าต้องเป็นอย่างนั้น บางคนเคยอยากจะฆ่าตัวตาย แต่เค้าก็ผ่านตรงนั้นมาได้
และนั่นก็เป็นจุดที่ได้สติและความศรัทธาในตัวเองและครอบครัวกลับมา ปล่อยวางในหลายๆอย่างเท่าที่จะทำได้ ผมเองก็ยังไม่สามารถทำใจได้ 100% หรอกครับ และผมก็รู้สึกได้ว่า วันนี้ปัญหาหนี้สินของผมมันเล็กน้อยไปเลย มีอีกหลายๆคน มากมายที่มีปัญหามากว่าเราเยอะ บางคนปัญหาหนี้สินใช้กันหมดทั้งชีวิตเกิดมาอีกชาติ ไม่รู้จะหมดหรือเปล่า และผมกับแฟนก็รู้สึกได้ว่าครอบครัวของเรามีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม้ปัญหาทุกอย่างยังอยู่รอบตัวเราเหมือนเดิม (วันที่เขียนนี้ เราก็ได้รับหมายศาลจาก KTC มาอีก 2 ฉบับ ของผม 1 ของแฟน 1 แต่แฟนผมก็ออกไปขายของปกติ ตอนเย็นผมก็จะไปออกกำลังกายเตะบอลกับเพื่อนปกติ วันนี้ผมหยุดอยู่บ้านทำบัญชีครับ ไม่ได้ไปช่วยแฟน ^^)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37469 โดย scm
ของผมกับแฟนยอดหนี้เป็นดังนี้ครับ
ยอดหนี้ เดือนที่ผิดนัด สภาวะการณ์หนี้ หมายเหตุ
Citibank 3xx,xxx ต.ค.55 ขึ้นศาล 1 ครั้งเจรจาลดหนี้ 30% ผ่อน 3 งวด จบแล้ว
1st choice 1xx,xxx ต.ค.55 เจรจาลดนี้ 45% ผ่อน 3 งวด จบแล้ว
บัตรกรุงศรี 3x,xxx พ.ย.55 เจรจาลดนี้ 43% ผ่อน 3 งวด กำลังจะจบ
สินเชื่อกรุงศรี 1xx,xxx ต.ค.55 รอฟ้อง
Tesco 1xx,xxx พ.ย.55 เจรจาลดนี้ 43% ผ่อน 3 งวด กำลังจะจบ
KTC 1 1xx,xxx ต.ค.55 ฟ้องแล้ว,ได้รับหมายศาลวันนี้
KTC 2 6,xxx ต.ค.55 ฟ้องแล้ว,ได้รับหมายศาลวันนี้
KTC 3 6x,xxx ต.ค.55 ฟ้องแล้ว,ได้รับหมายศาลวันนี้
KTC 4 3x,xxx ต.ค.55 กำลังเช็คว่าทำไมยังไม่ฟ้อง
KTC 2xx,xxx ม.ค.56 ฟ้องแล้ว,ได้รับหมายศาลวันนี้
บัตรกดเงินสด
Std 2xx,xxx ต.ค.55 รอฟ้อง
Diners 1xx,xxx พ.ย.55 รอฟ้อง
SCB1 1xx,xxx พ.ย.55 รอฟ้อง
SCB2 2xx,xxx พ.ย.55 รอฟ้อง
SCB3 5xx,xxx พ.ย.55 รอฟ้อง
SCB สินเชื่อ 9xx,xxx - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา
บ้าน+สินเชื่อธุรกิจ เกือบๆ 10 ล้าน - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา
ไทยเครดิต 1xx,xxx - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา
K-Bank1 8x,xxx - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา
K-Bank2 1xx,xxx - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา
K-Bank3 1xx,xxx - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา
สินเชื่อ K-Bank 1,xxx,xxx - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา
TMB 4xx,xxx ม.ค.56 รอฟ้อง
UOB 2xx,xxx - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา
UOB-เงินสด 3xx,xxx - กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา

รถ อีก 1 คันที่ผ่อนอยู่ (จริงๆก็อยากขาย แต่อาชีพอย่างเราก็ยังต้องใช้ครับ)

รวมไปรวมมาก็น่าจะ ประมาณ 15-16 ล้าน (วันนั้น บอกคุณท้อแท้ไปผิด ต้องขอโทษด้วยครับ)

ณ ตอนนี้ ก็ Happy ครับ เพราะคนที่ทุกข์กว่าคงเป็นเจ้าหนี้ ^^ ถ้าเจ้าหนี้มาเห็นคงเป็นลมตาย แต่ผมก็มีจุดมุ่งหมายในการปลดหนี้นะครับ เพราะผมเชื่อเรื่องการชดใช้กรรม กลัวต้องตามไปใช้ชาติหน้า ล้มละลายไม่ใช่แนวทางแต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องเผชิญ

ปัจจุบันนี้ ผมและแฟนหยุดทุกอย่าง กลับมาทำกิจการเล็กๆ มีคนแค่ 4-5 คน จัดสรรเงินใหม่หมด ไม่ใช้บัตรเครดิต หมุนเงินทุกอย่างเป็นเงินสดและที่สำคัญเหมือนจะเริ่มออมได้ด้วย พฤติกรรมการใช้จ่ายเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือครับ แล้วคงได้เจอกันบ้างครับที่ สวนลุม

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37473 โดย namphon
ขอบขอคุณนะคะกับเรื่องราวดีๆ ทำภาระของตัวเองเล็กลงไปเลย เป็นกำลังใจให้นะคะสู้ๆ :love:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37474 โดย น้ำมนต์
สวัสดีค่ะ คุณ scm :P

อ่านเรื่องราวของคุณแล้ว...ทำให้ย้อนนึกถึงตัวเอง...ด้วยเรื่องราวที่ส่วนใหญ่จะคล้ายๆกัน

แต่ที่มองเห็น...คุณเป็นคนจิตใจดีนะคะ แม้ว่านาที่ช่วงวิกฤต คุณก็ยังมีจิตใจเมตตาอารีย์

ต่อเพื่อนมนุษย์ที่เดือดร้อน...กุศลผลบุญจะนำทางสว่างทีถูกต้องให้ค่ะ...

น้ำมนต์เอง...ณ ตอนที่วิกฤตมากๆ...ก็ได้ธรรมมะของพระพุทธองค์ และ คำสอนของ

ครูบาอาจารย์ เป็นเครืองยึดเหนี่ยวให้มีสติในการดำรงชีวืตอย่างเป็นปกติสุขบนความทุกข์

ที่เผชิญอยู่....

ครอบครัวเข้าใจกัน ญาติพี่น้องเข้าใจเรา เพื่อนแม้ไม่มากที่เข้าใจถึงปัญหาของเรา....

เราก็มีความสุขแล้วค่ะ...ตราบใด ที่เรายังต้องดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้...ปัจจัยยังคงเป็นส่วนสำคัญ

แต่ว่า ความพอเพียง และ เพียงพอ นั้น สำคัญยิ่งกว่า....

ณ ปัจจุบันนี้ น้ำมนต์ก็ทำงานตามปกติ...ไม่ดิ้นรนมากมาย มีทุนเท่าไร ก็ทำเท่านั้น

กำไร พอเลี้ยงครอบครัวได้...กินจ่ายพอประมาณ ทำบุญบางโอกาส...

ไม่คิดจะหยิบยืมใครมาหมุนอีกแล้ว...เหนื่อยจริงๆในอดีตที่ผ่านมา...

การไหว้พระ สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม อยู่เนืองๆ..ด้วยความเห็นถูก

จะทำให้เรามีสติ รู้ตัว ทั่วพร้อม ค่ะ...

ใช่ว่าปฏิบัติแล้ว จะไม่มีทุกข์....หากเพียงแต่ว่า เรารู้เท่าทันทุกข์ต่างหาก...แม้ไม่ทุกครั้ง

แต่ก็บ่อยครั้งค่ะ...

เป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ...ขอให้โชคดีค่ะ... :pray: :pray: :pray:






ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37477 โดย debtman
ขอบคุณที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ครับ ช่วงนี้อ่าน web ผ่านมือถือเลยตอบเยอะไม่ได้ น่าชื่นชมมากครับที่คุณ scb มีคู่ชีวิตที่เข้าใจและช่วยกันสู้กับวิกฤติครั้งนี้ ขอให้คุณผ่านวิกฤตินี้โดยเร็วน่ะครับ และสู้ไปพร้อมๆกันกับเพื่อนๆในชมรมนี้ครับ :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37487 โดย scm
ขอบคุณทุกๆท่านสำหรับกำลังใจครับ ขอมอบกำลังใจและสติคืนให้ทุกท่านเช่นกันครับ
ผมก็ได้ทยอยอ่านหลายๆกระทู้ มาสักพัก หลายๆคน

ผมเชื่อว่า ไม่ว่าหนี้มากหรือหนี้น้อย ทุกคนก็คงทุกข์ไม่ต่างกัน เพราะทุกข์นั้นมันเป็นของ "เรา"
อย่างที่ผมเคยอ่านในหนังสือ "เค้า"มีหนี้เป็นร้อยล้าน เราก็สงสาร "เค้า" แต่เราไม่ทุกข์เหมือนเค้าเพราะหนี้นั้นไม่ใช่ของ "เรา" หนังสือเค้าแนะนำให้เราถอยออกมาสักก้าว สองก้าว ลองคิดดูว่าถ้าหนี้นั้นไม่ใช่ของเรา เราจะแนะนำคนเป็นหนี้ให้แก้ไขยังไง แล้วเราก็ทำตามนั้น ทำยากหน่อยแต่ก็ลองดูครับ

ขอให้ทุกๆคนผ่านปัญหาหนี้สิน และมีสติในการครองชีวิตกันทุกๆคนครับ เมื่อมีสติเราก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ จากเล็กๆสู่ใหญ่ๆ จริงๆผมยังมีหนี้อื่นๆที่อยู่ในรูปนิติบุคลลอีกบางส่วน ไม่ว่าจะเป็น สรรพากร ประกันสังคม ค่าโทรศัพท์บริษัท ซึ่งก็ทยอยจ่ายและต่อรองกันไปตามอัตภาพและรายได้ที่เข้ามาครับ พร้อมค่าปรับอีกมากมาย ก็พยายามอธิบายให้ทั้งเจ้าหนี้ในรูป Bank/Non-Bank/องค์กรภาครัฐฟัง เค้าก็พอเข้าใจ แต่ก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ก็ต้องทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายกันไป

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37573 โดย ท้อแท้
คิดเหมือนกันค่ะ ถ้ามีเงินอยากใช้หนี้ให้หมดชาตินี้เลยค่ะ ไม่อยากให้ถึงชาติหน้าค่ะ ไม่มีใครอยากล้มละลายค่ะ
แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องยอมรับค่ะ ท้อแท้ก็พยายามค่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำได้ไหม ตอนนี้ท้อแท้ก็สวดมนต์ให้กำลังใจตัวเอง ตื่นนอนตอนเช้าก็กลัวไปหมดว่าวันนี้จะเจออะไร พอใครมาทวงก็อยากคืนให้หมดค่ะ แต่ไม่มี ยิ่งพอเห็นลูกแต่ตัวไปเรียน ก้คิดว่ายังไงลูกต้องเรียนให้จบ ถ้ามันจะต้องถูกฟ้องล้มก็ยอม แต่อนาคตของลูกสำคัญกว่า งดทุกอย่างค่ะ ซึ่งต้องทำน่ะเวลานี้ หวังว่าคงได้พบกันค่ะ จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ เพราะล้มจากการทำธุรกิจเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ก้พยามยามเก็บเงินเผื่อว่าจะได้ใช้หนี้บ้างค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37682 โดย Z1111XZ3333X
*** เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆๆๆๆๆ ค่ะ อย่างน้อยเรายังมีแรง มีกำลังใจ มีเพื่อน มีความรู้ และมีประสบการณ์อยู่กับตัว ที่สำคัญ คุณมีคู่ชีวิตที่ยืนเคียงข้างกัน *** ล้มแล้วลุกไปด้วยกัน อะไรจะมีค่าไปกว่านี้ :wo:

:bye: :bye: :bye:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37693 โดย Ploylyly
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37699 โดย piggy
เป็นกำลังใจให้นะค่ะอย่างน้อยๆคุนก็ไม่ได้สู้คนเดียว ยังมีภรรยาอยู่ข้างๆเป็นกำลังใจให้คุน
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ o_) :psy:
ขอให้หมดหนี้ไวๆ ดิฉันเ อง บัตรแรกจะไปศาลวันที่ 20 มิย ไกล้จะถึงแล้วค่ะ
แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะค่ะ :pray:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37701 โดย yimwamwam
ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนนะค่ะ อ่านเรื่องราวของคุณแล้วนับถือในความมีน้ำใจจริงๆ ค่ะ สู้ ๆ นะค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37806 โดย scm
ขอบคุณมากครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยเช่นกันครับ

เดี๋ยวผมจะหาเวลาวันอาทิตย์ไปรบกวนปรึกษาที่สวนลุมเรื่องหมายศาลอยู่ครับ คงมีโอกาสได้เจอคนอื่นๆบ้าง
ของผมตอนนี้ มีนัดแรกของ KTC เดือนสิงหาคม ช่วงเย็น ฟ้องรวมรวดเดียว
(แต่แอบงงนิดๆว่า ทำไมนัดไกลจังหรือว่าสงสัยคดีจะเยอะ ก็เลยกะจะลองโทรไปสอบถามวันที่ศาลเพื่อยืนยันอีกที :) )

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37849 โดย tomyumkung
เป็นกำลังใจให้อีกคนครับ


สู้ ๆ ครับ พี่


:cheer:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #37872 โดย jang2013
เห็นแบบนี้ เราดูเล็กน้อยไปเลยค่ะ เราก็กำลังจะเริ่มชะตากรรมกับเจ้าหนี้ กำลังจะหยุดทุกอย่างเพื่อเริ่มใหม่ แต่ต้องพยายามประครองให้ธุุรกิจเดินได้ ก็ไม่รู้จะเจออะไรอีก เครียดมากๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #38013 โดย scm
ขอบคุณมากๆครับ ขอให้ทุกๆคน ใช้สติแก้ปัญหาและผ่านกันไปอย่างมีสติครับ

วันนี้ช่วงบ่าย ได้มีโอกาสนำหมาย ไปให้คุณอาที่สวนลุมช่วยดูและแนะนำ
ต้องขอขอบคุณมากๆเลยครับ รวมถึงพี่ผู้หญิงและผู้ชายที่อยู่ด้วยกัน ใจดีให้กำลังใจผมอีกด้วย :)
(มัวแต่ฟังแนวทางลืมถามชื่อไปเลยครับ)

ไว้ไปศาลแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังครับ :P

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #38022 โดย scm

ท้อแท้ เขียน: คิดเหมือนกันค่ะ ถ้ามีเงินอยากใช้หนี้ให้หมดชาตินี้เลยค่ะ ไม่อยากให้ถึงชาติหน้าค่ะ ไม่มีใครอยากล้มละลายค่ะ
แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องยอมรับค่ะ ท้อแท้ก็พยายามค่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำได้ไหม ตอนนี้ท้อแท้ก็สวดมนต์ให้กำลังใจตัวเอง ตื่นนอนตอนเช้าก็กลัวไปหมดว่าวันนี้จะเจออะไร พอใครมาทวงก็อยากคืนให้หมดค่ะ แต่ไม่มี ยิ่งพอเห็นลูกแต่ตัวไปเรียน ก้คิดว่ายังไงลูกต้องเรียนให้จบ ถ้ามันจะต้องถูกฟ้องล้มก็ยอม แต่อนาคตของลูกสำคัญกว่า งดทุกอย่างค่ะ ซึ่งต้องทำน่ะเวลานี้ หวังว่าคงได้พบกันค่ะ จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ เพราะล้มจากการทำธุรกิจเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ก้พยามยามเก็บเงินเผื่อว่าจะได้ใช้หนี้บ้างค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


สวัสดีครับ
ถ้าล้มก็ต้องล้มครับ แต่ล้มแล้วก็ต้องลุกใหม่ให้ได้ กว่าเราจะปั่นจักรยานเป็นยังล้มตั้งหลายครั้ง ทั้งร้องไห้ ทั้งเจ็บ จำได้ไหมครับ :) เพราะฉะนั้นเจ็บนี้ก็ต้องผ่านให้ได้นะครับ

"ตื่นนอนตอนเช้าก็กลัวไปหมดว่าวันนี้จะเจออะไร" แรกๆผมเจอแทบทุกวันเลยครับ 8.30 ปั๊บ โทรมาปลุกทันใด แต่ผมเป็นพวกทำงานสาย เลิกดึก ก็ลยบอกเค้าให้โทรหาแค่ช่วงบ่าย เช้าจะนอน ลองมุขนี้ดูครับ

บางครั้ง (โทษ นะครับ) ไม่รู้จะตอบอะไร เพราะถามเยอะเลยตอบไปว่า โทษนะครับ กำลังเข้าส่วม ไว้โทรมาใหม่ (คือ มุขนี้คิดได้ตอนเข้าห้องน้ำจริงๆนะครับ) เพื่อขอเวลามาตั้งสติก่อน :P

สู้ๆนะครับ มีอะไรตรงไหน ที่ผมเดินหน้าต่อไปจะมา update ให้เป็นช่วงๆครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #38637 โดย scm
มาอัพเดทให้กันครับ อาทิตย์ก่อน KTC โทรมาให้ส่วนลด 40% จากยอดล่าสุด แต่ของผมก็ไม่สามารถ ใครเก็บเงินไว้อดทนและรอคอยกันหน่อยนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.803 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena