เรื่องราวของผมครับ อาจจะพอเป็นกำลังให้เพื่อนๆได้บ้าง

มา update Diners ครับ เมื่อเช้านี้โทรมาโดย สนง.ใหม่ เปลี่ยน จากรอบก่อน
แต่ยังคงให้ส่วนลดเท่าเดิม 30% ถึงตอนนี้ก็ประมาณ 8 เดือน กลับไปค้นๆ KTC เอ เค้าให้ 40% นี่ก็เยอะเหมือนกันนะ แต่ทำไงได้ ยังจ่ายไม่ไหว

มาเล่าสู่กันฟังกับพฤติกรรมถ่อยๆ ของการทวงหนี้ที่ยังมีอยู่ครับ
พอดีเมื่อวันอบรมได้ยินเพื่อนสมาชิกบางท่านเล่าเรื่องการไปประจานผ่านผู้ใหญ่บ้าน ผมเลยนึกได้ว่าของครอบครัวผมก็มีเมื่อเดือนที่แล้ว

เป็นกรณีของแบงค์โพธ์ม่วง บัตรเครดิตของแฟนผม สงสัยยอดเยอะครับมันเลยถ่อย (ขออณุญาตใช้คำนี้) ล้านกว่าบาท จริงๆแบงค์นี้แต่ก่อนผมรักมากและเป็นลูกหนี่ชั้นดีเลย เคยเป็นแบงค์ที่เงินเดือนเดินผ่านตลอด ให้ผมมีบ้านได้ครั้งแรก ให้เงินกู้ทางธุรกิจ OD และบริการดีมาก จนได้เครดิตมันเยอะมาก แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนจากลูกหนี้ชั้นดีมาเป็นลูกหนี้ชั้นเลว พฤติกรรมมันก็เปลี่ยนไปในทันใด
เรื่องเกิดเมื่อตอนต้นเดือน
แบงค์นี้ (ผมเข้าใจว่า มันส่งไม้ต่อให้ สนง.ข้างนอกแล้วครับ แล้ว สนง.ก็ส่งคนมาอีกที) ด้วยความที่เห็นว่ารายชื่อเป็นผู้หญิงรึเปล่าไม่แน่ใจ ก็เลยส่งคนมา กะมาขู่ ขี่มอเตอร์ไซด์มาที่หน้าบ้าน แล้วก็เอาเอกสารจะมาฝากให้ ถามหาแฟนผม พอดีไม่อยู่ ออกไปทำมาหากินแต่วันนั้นผมอยู่ทำบัญชีที่บ้าน ถามโน่น ถามนี่ ผมก็ไม่ตอบอะไร และไม่สนใจ (คือนั่งเล่นกับสุนัขอยู่ ไม่อยากสนใจ) มันก็ทำท่าหงุดหงิดๆนิดหน่อย จนมันคงโมโห ขึ้นมอเตอร์ไซด์ควบกลับไป แต่หันมาด่า ค....ว....ย..... เท่านั้นล่ะครับ สงสัยว่าพี่ท่าน คงขู่มาเยอะ กรรรรูก็ของขึ้นเป็นนะเว้ย ทวงหนี้ดีๆได้ แต่มาด่า ไอ้นั่นกันต่อหน้า มันขึ้นนะ พอดีบ้านผมเป็นหมู่บ้าน เข้าออก ต้องแลกบัตรและผ่าน รปภ. ผมก็เลยรีบโทรไปหา รปภ.ให้ดักไว้และรีบบึ่งมอเตอร์ไซด์ตามออกไป จริงๆใจอยากจะต่อยหน้ามันจริงๆแต่ก็พยายามตั้งสติ มันไม่ได้ทำร้ายเราก่อนกลัวพลาดไปทำมันก่อน ให้ รปภ.ที่หมู่บ้าน ดักมันไว้ไม่ยอมให้ออก มันรีบโทรไปหาลูกพี่มันใหญ่ว่าโดนกักตัวแต่ดูเหมือน ลูกพี่จะไม่มาช่วย มันก็เลยมาทำเป็นขอโทษผม (แต่ท่าทางมันก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรหรอก แต่คงกลัวโดนรุมบาทา) รปภ.ที่ได้บัตรมันไว้ก็จดรายละเอียดไว้ได้หมด แต่ผมก็ไม่ได้ไปแจ้งความครับ(คือเคยไปแจ้งความกรณีอื่นๆ มาแต่ก็ไม่ได้มีการตามสืบสวนสอบสวนอะไร ก็เลยเบื่อๆกับการพึ่งพาทางด้านนี่แล้ว) แต่แจ้งไปยัง ธปท.และโทรไปคุยกับ แบงค์โพธิ์
สิ่งที่ได้รับการตอบกลับ จากแบงค์โพธิ์ แน่นอนครับ เค้าก็จะบอกว่า
“ไม่มีนี่ค่ะ, ทางเราไม่มีนโยบายแบบนั้น, พฤติกรรมแบบนั้นไม่มีจากแบงค์เราแน่นอน” แต่ก็บอกว่าจะสอบสวนให้ แค่นั้นล่ะครับ คำตอบอย่าไปหวังไรมาก แต่ผมก็ขอชื่อคนรับเรื่องไว้
วันถัดมา แบงค์นี้โทรมาทวงหนี้ (น่าจะเป็น สนง.) เข้ามือถือแฟนตามปกติ พอรับ ผมก็ถามคำถามแรกก่อนเลย
ผม “ คุณโทรมาเรื่องรายงานความคืบหน้าเรื่องเมื่อวานใช่ไหม”
สนง. “เรื่องอะไร ค่ะ” (รู้อยู่แล้ว ว่าต้องตอบประมาณนี้)
ผม เล่าเรื่อง คร่าวๆให้ฟัง อีกรอบ “พฤติกรรมแบบนี้ไม่ดีนะ ออกแนวถ่อยด้วย”
สนง. “ ถ่อยแบบไหนค่ะ ขั้นไหนค่ะ”
ผม “พูดไม่ดีและด่าไง”
สนง. “ด่าเลยเหรอค่ะ คงไม่มีมั๊งค่ะ จนท.คงแค่บอกให้ทราบเฉยๆ”
เท่านั้นแหล่ะ ผมคิดว่าคงตระเตรียมกันมาแล้ว ไม่มีปัญหาผมก็เตรียมมาแล้ว
ผม “ถ้ามีคนไปด่าคุณ คุณก็ว่าไม่ถ่อยใช่ไหม” สนง. คงตั้งใจกวนกลับมาแต่เข้าทางซะ “แบบไหน ค่ะ ที่ว่าด่า”
ผม “โทษนะ ไม่ได้อยากหยาบคายกับผู้หญิง ค.....ว.....ย...... ค....ว......ย....... ค........ว........ย......”
สนง. “ คุณอย่ามาหยาบคายนะ “
ผม “อ้าว ก็คุณถามว่าด่าแบบไหน ผมก็เล่าให้ฟังไง แบบ ค.....ว.........ย..... ไง ผมไม่ได้ด่าคุณนะ เล่าให้คุณฟังว่าเค้าด่า ค.........ว.............ย........ ผม แล้วคุณว่ามันถ่อยไหม”
สนง. วางสายทิ้งครับ
เออ ทีงี้กลับรับไม่ได้ แล้วให้ผู้ชายมาเหมือนจะขู่ โดยเฉพาะเหยื่อผู้หญิง
คราวนี้ผมก็เลยติดต่อตรงไปหาคนที่ให้กู้เลย (จนท.ที่ดูแลเงินกู้ตรงสำนักงานธุรกิจ )และแจ้งเรื่องไป ก็เหมือนเดิมแหล่ะครับ เบื้องต้นก็ปฎิเสธ ไม่มี ผมก็เลยบอกไว้ว่าไม่มีไม่เป็นไร แต่คราวหน้ามาใหม่แบบนัดมาด้วยนะจะจัดเต็มไว้ต้อนรับ (เพราะโมโหจัด)
2 วันถัดมาไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะไปแจ้ง ธปท.ไว้ หรือว่า จากการที่โทรไปบอกให้มาใหม่ ผจก.ตรง สำนักงานธุรกิจก็โทรมา ขอโทษและบอกว่าหาตัวการเจอแล้วคนที่ไปกระทำพฤติกรรมดังกล่าว และจะสวบสวนต่อไป ผมก็ครับๆ ลองดู ถ้าอยากหาหลักฐาน ก็ลองมาถามหัวหน้า รปภ.ที่หมู่บ้านล่ะกันหรือลองถามหากล้องวงจรปิดดู ตรงป้อม รปภ.คงมีบันทึกเหตุการาณ์อยู่ (แต่ในใจผมก็ เอาเหอะ ไม่เชื่อลมปากพวกคุณอยู่แล้ว เพราะจริงๆคงอยากให้ผมเข้าโปรแกรมประนอมหนี้ใหญ่มากกว่า)

เล่าสู่กันฟังครับ ว่ามันยังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ก็ระมัดระวังกันด้วย โดยเฉพาะผู้หญิง ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจ้องขู่ผู้หญิงรึเปล่า
นี่ขนาดเป็นในระบบนะเนี่ยสงสัยถ้านอกระบบคงตามล้างตามแค้นกันน่าดู

ขอรายงานตัวครับ ผมเพิงเข้ามาครั้งแรก...ขอบคุณมากๆสำหรับเรื่องของคุณ scm ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคน ผมก็คนหนึ่งครับ ปัญหาของผมถือว่าเล็กน้อยมาก

เป็นกำลังใจให้นะครับ

ขอบคุณมากครับ

วันนี้ผมไปขึ้นศาลคดี KTC ตอน 16.30 มาแล้วครับ
ผมเหลือบดูวันนี้คดีบัตรเครดิตน่าจะประมาณ 30 กว่าคดี เป็น KTC เกือบๆ 80%
เดี๋ยวกลับมาเล่าสู่กันฟังครับ เจอทนายโจทย์ค่อนข้างนิสัยดีด้วยครับ

เป็นกำลังใจให้นะคะ ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ค่ะ

scm เขียน: มาอัพเดทให้กันครับ อาทิตย์ก่อน KTC โทรมาให้ส่วนลด 40% จากยอดล่าสุด แต่ของผมก็ไม่สามารถ ใครเก็บเงินไว้อดทนและรอคอยกันหน่อยนะครับ

พี่เป็นคนแรกที่ผมทราบเลยนะครับว่า KTC มีส่วนลดให้...

เป็นกำลังใจให้ครับ ผมเพิ่งเริ่มต้น

สวัสดีครับ ขอบคุณมากๆครับสำหรับกำลังใจ ให้กำลังใจคืนสู่ๆทุกๆคนเช่นกันครับ ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันต่อไปครับ

เพิ่งกลับมาจากเดินทางไป ตจว.มานาน ไม่มี net ใช้เลยไม่ได้กลับมา update สู่กันฟังครับ

เรื่องวันที่ผมไปศาลครั้งที่ 2 (แต่เป็น KTC นัดแรก) คดี KTC นั้น ผมไปเจอทนายค่อนข้างใจดี (จริงๆเข้าใจว่าน่าจะเป็นผู้ช่วยทนายเพราะเค้าบอกกับศาลว่าทนายอยู่อีกห้องนึง)
ผมก็ไปที่ห้องพิจารณาเลย เจอทนายและท่านๆอื่นๆที่เข้ามาคดีคล้ายๆกัน ทนายก็เข้ามาคุยกับทีละคน บางคนทำประนีประนอม บางคนก็รอคุยกับศาล
ส่วนของผมนั้น ทางทนายเปิดเอกสารดูแล้วปึ๊งใหญ่ (ฟ้อง 5 บัตร บัตรเครดิตหลัก 2 บัตร บัตรเสริม 2 บัตร บัตรกดเงินสด 1 บัตร ยอดประมาณ 4 แสนห้า) ก็เสนอให้ผมเลื่อนและไปเจรจากับทางธนาคารครับผมก็เลยตามนั้นไป รอเจอศาลท่านแล้วทำเรื่องเลื่อนออกไป ประมาณ 2 เดือน

โดยทั้งนี้ที่น่าสนใจ ตั้งใจเอามาแชร์ให้ฟังคือ ทางทนายได้ให้คำแนะนำหลังจากรับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ศาลว่าให้ผมไปเจรจาขอทีละบัตรโดยปิดบัตรใบไหนได้ก็ให้แจ้งธนาคารไปและขอปิดบัตรโดยให้ขอส่วนลดด้วย ซึ่งที่เค้าดูน่าจะลองเจรจาได้ที่ 40% แต่ห้ามไปบอกว่า ทนายแนะนำมา
ผมก็ตกลงไปตามนั้นครับ แต่เนื่องจากเก็บเงินยังไม่ได้เยอะมากมาย จนถึงตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้เจรจาอะไร และยังไม่มีธนาคารติดต่อมาครับ

หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้นั่งฟังคดีของท่านอื่น มีกรณีฟ้องลูกหนี้ที่เสียชีวิตไปแล้ว (เค้าทำค้าขายกันและปล่อยเครดิตการค้ากันเยอะ) โดยฟ้องต่อผู้จัดการมรดก แต่เนื่องจากมรดกตกทอดมาไม่พอจ่าย จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับช่วยบังคับให้ทางลูกของลูกหนี้ที่เป็นผู้จัดการมรดกช่วยทำการค้าต่อโดยรับผลไม้ไปขาย จนกว่าหนี้จะหมดไป (ผมก็ยังงๆว่าจะจบยังไงต่อ)

toob_pong เขียน:

scm เขียน: มาอัพเดทให้กันครับ อาทิตย์ก่อน KTC โทรมาให้ส่วนลด 40% จากยอดล่าสุด แต่ของผมก็ไม่สามารถ ใครเก็บเงินไว้อดทนและรอคอยกันหน่อยนะครับ

พี่เป็นคนแรกที่ผมทราบเลยนะครับว่า KTC มีส่วนลดให้...

สวัสดีครับ ครับผมก็ลองหาๆดูจากกระทู้เก่าๆ คร่าวๆก็เห็นน้อยจริงๆครับ

ตอนไปขึ้นศาล ทางทนายก็ยังบอกว่าให้กลับไปเจรจาและมีโอกาสได้ส่วนลด ถึง 40%(ตัวเลขที่เค้าพูดก็ตรงกันกับตอนที่เคยมีเจ้าหน้าที่โทรมาครับ)
ผมก็เลยมาแชร์ให้ฟังว่า ยังมีครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าของผมเองนั้นเป็นเพราะยอดสูง หรือว่ายังไงครับ

เรื่องที่หนักหนากว่านั้นกำลังจะเข้ามาก็คือ ช่วงที่ผมไปธุระนั้น น้องผมที่อยู่ที่บ้านได้บอกว่า ทางธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้บ้านได้ส่งเจ้าหน้าที่มาอีก 2 รอบ

รอบที่ 1 (เป็น ฝ่ายสินเชื่อและทนาย มา 3 คนเลย ผจก., เจ้าหน้าที่ และทนาย) มาขอพบ ขอโทษกรณีเจ้าหน้าที่ทวงหนี้ที่เคยมาทำกิริยาไม่ดีและเสนอเรื่องการประนอมหนี้ให้ แต่พอดีผมไม่อยู่ แต่ก็ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แล้วเพราะเราก็หาไม่ทันจริงๆ ข้อเสนอที่จะให้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยไปก่อน เราก็ไม่ไหวครับ

รอบที่ 2 เข้าใจว่าคงต่อเนื่องจากรอบที่ 1 จากการที่ผมไม่สามารถทำตามข้อเสนอได้ เป็นเจ้าหน้าที่ มอเตอร์ไซด์ มาถ่ายรูปบ้านครับ ถ่ายรอบบ้านด้านนอก (แต่น้องผมไม่ให้เข้าด้านใน) คงเก็บรูปเพื่อไปประเมินแล้วรอทำเรื่องฟ้องครับ ผมก็รับสภาพ คงต้องทำใจเพราะเราก็หมดหนทางยื้อแล้วครับ

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเพราก่อนหน้านี้พยายามสู้โดยการเจรจาต่อรองกับเจ้าอื่นๆและได้จ่ายมาบ้างบางส่วน แต่สุดท้ายก็เข้าตาจนแล้วเพราะรายได้ตอนนี้มันไม่ทันจริงๆ
ตอนนี้ก็คงต้องรอฟ้องเพื่อยึดทรัพย์และว่ากันต่อไป

สู้ๆกันต่อไปครับ ตอนนี้ก็พยายามตั้งสติเรื่อยๆ ทำมาหากิน เก็บเงิน และสวดมนต์แผ่เมตตาให้ทั้งตัวเอง เจ้ากรรม นายเวรเพื่อหวังว่า วันนึงจะได้ชดใช้ให้หมดไม่ต้องรอไปใช้ชาติถัดไปครับ

ขอบคุณ คุณscm ที่มาเล่าประสพการณ์ให้ฟังครับเจอของพี่แล้วปัญหาของผมดูเล็กไปเลย อย่างว่าครับ
ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป ของผมพึ่งหยุดส่งเดือนแรก ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไรเหมือนกัน แต่จะสู้ครับ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ คุณ SCM เห็นหนี้ของคุณแล้ว และแนวทางของคุณ ทำให้ดิฉัน มีกำลังมากขึ้น ขอบคุณมากนะค่ะ ที่เอาประสพการณ์ใาเล่าให้ฟังค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ SCM ท้อแท้ไม่ได้เขามาในนี้นานเหมือนกัน จนเข้ามาอ่านในหน้านี้ ดีใจที่ได้รู้ความเคลื่อนไหวค่ะ ยังคิดอยู่ว่าจะได้รับรู้ เรืองของคุณอย่างไง ท้อแท้ตอนนี้ก็พยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ตอนนี้ท้อแท้ก็โดนหมายศาล 3 หมายแล้ว ของ สแตน สองหมาย คุณยูโอ หนึ่งหมาย (สองสัญญา) อะไรไม่ว่าขึ้นศาลวันเดียวกัน แต่ คนละที่ ไม่รู้จะแยกร่างอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ไม่มีเงินเก็บเลย ค่าเทอมลูกเพิ่งจ่ายเก่าไป ใหม่ก็ใกล้มาอีก เครียดจนหายเครียดแล้วค่ะ สงสัยเราจะเหมือนกัน รอให้เวลาเป็นผู้ตัดสินค่ะ ต้องสละเรือแล้วค่ะ แต่จริงๆ สละมานานแล้ว รอเวลาอย่างเดียวแล้วค่ะ ตอนนี้ท้อแท้ไม่ได้รับโทรศัพท์เลยค่ะ เพราะเริ่มไม่ไหวค่ะจะเป็นบ้าค่ะ ไม่ไหวค่ะ ไม่ไหวที่จะตอบคำถามแล้ว ท้อแท้ต้องเอาประสบการณ์ของคุณเป็นต้นแบบแล้วค่ะ

ขอบคุณทุกท่านครับ สู้ๆกันทุกคนเช่นกันนะครับ
ใช้เวลาและความอดทนครับ จริงๆตอนนี้ผมก็ Happy ครับถ้าเทียบกับช่วงของเมื่อหลายๆเดือนก่อน อาจจะมีบางช่วงเวลาที่ยังเครียดๆเหมือนกันเพราะเรายังยึดติดของเราอยู่บ้าง แต่มันก็ผ่านจุดเครียดสูงสุดไปแล้วอย่างน้อยเราพอจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหา แม้ต้องใช้เวลาหน่อย แต่เราเอาเวลามาหาทางทำมาหากินกันดีกว่าครับ

ผมเองก็ทำหมดนะครับ ตอนที่ต้องปิดกิจการเกือบหมด มันมีสต๊อกเหลือเยอะมาก ก็นำออกไปขายตลาดนัดกับน้องที่สนิทกัน เลยทำให้นึกถึงตอนเริ่มทำแรกๆที่ได้เริ่มขายกับแฟนก็สนุกไปอีกแบบ มีคนรู้จักมาถามเหมือนกันว่าไม่อายเหรอ เราเคยทำจนกลายเป็นเจ้าของบริษัทเล็กๆ ก็บอกว่าไม่อายหรอกครับ เราทำอาชีพสุจริตก็เริ่มจากตลาดแบกะดิน จะย้อนกลับมาขายอีกไม่เห็นเป็นไร

ช่วงแรกๆ ผมตระเวนขายอยู่แถว เซียร์กับ ตลาดสะพานใหม่ (แต่ไม่ได้ขายหลายปีนี่ก็เหนื่อยเหมือนกันแฮะ ) แต่ตอนนี้ก็ทยอยปล่อยสต๊อกออกไปได้แล้ว

เป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยครับ

ท้อแท้ เขียน: สวัสดีค่ะ คุณ SCM......

สวัสดีครับ สู้ๆนะครับพี่ ยังไงผมจะพยายามมา update ความเป็นไปเรื่อยๆครับ เผื่อจะได้แชร์ๆกันและได้คำแนะนำจากท่านอื่นๆบ้าง

เรื่องขึ้นศาลของผมนัดรอบ 2 อีกทีปลายเดือน กย.นี้ คิดว่าคงปล่อยให้ศาลท่านตัดสินแล้วเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ครับ ก็พยายามเตรียมๆการไว้ตามที่ได้รับคำแนะนำในการอบรมมาด้วยครับ แต่บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ก็ปล่อยไปครับ

คือที่ผมคิดไว้เนี่ย เนื่องจากภาระหนี้มันสูงมาก ตอนนี้สู้ไปมันก็ไม่ทันกับรายได้จริงๆครับ ก็เลยคิดว่าคงต้องปล่อยไป และกลับมาคิดหาทางเรื่องทำมาหากินเพื่อให้มีรายได้กลับมาให้ได้มากที่สุด ตั้งใจว่าถ้าภายในระยะเวลา 10 ปีถ้ายังไม่ถูกฟ้องล้มละลายและพอหาเงินได้ก็จะกลับไปเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อปิดทีละเจ้าครับ หากโชคดีก็อาจจะปิดได้หมด แต่หากโชคไม่ดีก็คงไม่ทัน

สำหรับเรื่องรับโทรศัพท์ ตอนนี้ผมก็ให้แฟนผมหยุดรับในส่วนแฟนหมดเลยครับ เพราะว่าเค้าก็รับความเครียดไม่ไหว หากของพี่รับไม่ไหว ผมว่าก็หยุดๆไปเถอะครับ บางทีมันรบกวนเราจนไม่ต้องทำมาหากิน ผมก็เคยบอกคนโทรมาจากธนาคารว่า คุณเล่นโทรเช้า สาย บ่าย เย็น ผมก็ไม่ต้องทำมาหากิน มานั่งรอแต่รับโทรศัพท์ ปล่อยให้ผมทำหากิน หาเงิน แล้วคุณค่อยโทรมาซัก อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็ได้ เผื่อได้เงินมาเยอะๆมาจ่ายหนี้คุณไม่ดีกว่าเหรอ 55 แต่ไม่ได้ผลครับ เหมือนเดิม

แต่ผมเข้าใจว่าบางทีอาจจะมีความกดดันเรื่องของการไปที่ทำงาน/บ้านอยู่บ้างนะครับ อันนี้เราคงทำใจ และพยายามเผชิญความเป็นจริง ยกเว้นโชคดีมาวันที่เราไม่อยู่ก็ให้คนอื่นรับหน้าไปได้

แต่ผมก็รับบ้างไม่รับบ้างแล้วแต่สะดวก แต่ช่วงนี้ส่วนใหญ่จะคุยดีแล้วครับ อาจเพราะเห็นว่าเราเจ๊งหมดแล้วมั๊ง 55 แต่ยังไม่เจอเคสที่ทาง บสย.ค้ำก็เลยยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง

ช่วงที่มีเวลาว่างๆ ผมพยายามหาข้อมูลจากประสบการณ์ ท่านอื่นๆที่มีปัญหามาเพื่อเป็นแนวทางและประยุกต์ใช้บ้าง เช่นของคุณศิริวัฒน์ ที่ขายแซนวิชอยู่ริมถนนหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง, คุณวสันต์ เบนซ์ทองหล่อ เป็นต้นครับ (แม้ว่าของแต่ละท่าน ยอดหนี้เค้าจะเยอะมากมายเป็นร้อยล้าน พันล้าน แต่ผมพยายามดูว่าเค้าผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร แล้วก็พยายามเอามาเป็นแรงบันดาลใจ ให้เราผ่านไปให้ได้ครับ) อีกท่านนึงที่ผมชอบดู clip บ่อยๆ ช่วงแรกคือ ของครูอ้อย ฐิตินาถ แต่จะเน้นเรื่องธรรมะกับหนี้ครับ อันนี้ก็ทำให้มีแรงฮึดและเรียกสติได้ดีในช่วงแรกๆครับ เป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้เริ่มลองไปบวชใจและสวดมนต์ครับ เหมือนที่เค้าว่า หากเราไม่เห็นทุกข์ก็ไม่เข้าหาพระธรรมจริงๆครับ