แชร์ประสบการณ์คนสู้หนี้ 1 ปีกับการอดทนแสนสาหัสจนวันนี้ที่แสงสว่างเริ่มทอแสง

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58966 โดย mytohn
ก่อนอื่นขอสรุปยอดหนี้ก่อนครับ
UOB 45000
Krungsri 35000
SCB Credit 60000
SCB Speedy 20000
Tesco Visa 22000
Tesco Premier 20000
Kasikorn 65000
Easybuy 60000
KTC 15000
Firstchoice 60000
TMB 100000
Krungsri Personal loan 100000
Aeon 35000
ประมาณ 630000 เยอะไม่แพ้เพื่อนๆพี่ๆ เลยใช่มั้ยล่ะครับ

จัดเริ่มต้นของผมเริ่มจากเมื่อก่อนใช้ชีวิตกรเงินค่อนข้างประมาท
เพราะว่ามีรายได้ตลอด จากการทำงาน และการหารายได้พิเศษในการทำเว็บไชท์
ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินพอสมควร นั่นเป็นเหตุให้ผมฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายเกินไม่รอบคอบ
เพราะคิดเสมอว่าตัวเองสามารถจ่ายได้อยู่แล้ว บวกกับเวลามีปัญหาก็ขอหยิบยืมจากที่บ้านได้
แต่มาถึงจุดเปลี่ยนที่เกิดปัญหา ย้ายงานต้องใช้เงินก้อนพอสมควรในเรื่องค่าที่พัก
ทำให้เงินมันช๊อตไปเกือบ 2 เดือน แล้วบวกกับตอนนั้นที่บ้านก็เกิดภาวะประสบปัญหาทางการเงิน
คราวนี้จึงอาศัยใครไม่ได้แล้ว จึงต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น
ช่วงเวลาดังกล่าวเมื่อมันช็อตไป ทำให้เงินที่เราต้องหมุ่นจ่ายต่อเดือนขาดไป เอาใบนู้นมาโปะใบนี้
โปะกันไปโปะกันมามันก็ไม่จบสักที จนเดือนที่สองเริ่มเข้าสู้สภาวะขาดดุลทางการเงิน เพราะมันช๊อตไปก่อนหน้าแล้ว

อ้อที่มามันเกิดจากกระเป๋าใบเดียวจริงๆ เนื่องจากมีการมาทำบัตรที่ทำงาน
เราเลยทำมันหมดทุกใบแล้วได้กระเป๋ามาใบนึง จากนั้นเมื่อมีบัตรอยู่ในมือก็ทำให้เริ่มใช้ครับ
เงินเดือนในตอนนั้นแค่ 29000 ครับ

ช่วงแรกๆก็หน้ามือจริงๆครับ ยังหมุนทุกใบ
แต่พอเข้าเดือนที่ 4 ก็หมดครับหมดทุกอย่าง
ไม่มีทางออกแล้ว ไม่รู้ทำไงได้แต่เครืียดๆๆๆ
เดือนที่ 5 เริ่มไม่รับสาย ผมใช้วิธีการแบบของผมคือไม่รับสาย
เปลี่ยนเบอร์ ยอมรับครับว่าใช้วิธีการที่ผิด โดยการเปลี่ยนเบอร์
แล้วก็ย้ายที่ทำงานพอดี เลยเงียบไปสักเดือน 2 เดือน
ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่เจอเว็บบอร์ดนี้ครับ
s]yจากที่ได้เข้ามาอ่าน ทำให้ผมพบว่ามีวิธีการ Haircut
และขอลดหนี้ได้
ประมาณเดือนที่ 7 ผมจึงเริ่มวิธีการหยุดจ่ายทุกอย่างทุกบัตรครับ
แต่มือถึงก็ยังใช้เบอร์ใหม่และก็เปลี่ยนที่ทำงาน ผมเข้าใจว่ายังเป็นวิธีการที่ผิด
เพราะทำเหมือนคนหนีหนี้ ถึงในใจเราจะรู้ว่าเราไม่ได้หนี แต่ขอเวลาตั้งตัว
ประมาณเดือนที่ 8 ครับ เหมือนเจ้าหนี้เริ่มได้ข้อมูลที่ทำงานใหม่
แล้วก็เริ่มมีจดหมายทวงมาทีละฉบับ ซึ่งผมเองก็ยังเงียบเฉย
ถามว่าใจมันทุกข์มั้ย มันทุกข์มาก ถ้าเกิดคิดสั้นขึ้นมาก็อาจจใช้วิธีผิดๆ
แต่คิดในใจอย่างเดียวคือ ไม่อยากให้คนที่อยู่เบื้องหลังเราต้องมารับทุกข์แทน
ถึงเราจะตัดปัญหา คิดสั้น แบบเอาช่องน้อยพอตัว แต่ตนที่เดือนร้อนคือคอรบครัวที่อยู่เบื้องหลัง
ผมจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด

ซึ่งภายหลังจดหมายทวงหนี้เริ่มส่งไปที่บ้าน ภายหลังแม่ผมรู้เรื่อง
แม่จึงโทรมาหา และสิ่งที่ทำให้ผมได้กำลังใจคือแม่ถามว่าลูกกินอยู่ยังไง
มันทำให้ผมร้องให้ และไม่คิดยอมแพ้ เมื่อแม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะนั่นคือสิ่งที่มกลัวที่สุดคือครอบครัวและที่ทำงานรู้

เข้าสู้เดือนที่ 8 ผมเริ่มเจรจาเจ้าแรกกับ UOB โดยประวิงเวลาออกไปประมาณ 2-3 เดือนเพื่อรอโบนัส
และก็คุยกับ SCB และ Tesco ด้วย

เข้าสู่เดือนที่ 10 ผมเริ่มเจรจาขอส่วนลดปิดกับทาง Tesco ซึ่งก็ลดได้ประมาณ 60 %
โดยขอปิดแบ่งจ่าย 3 งวด

เข้าสู่เดือนที่ 12 ครบ 1 ปีพอดี 0yหวะที่ผมได้โบนัสที่ทำงานใหม่แต่ได้ไม่เต็มปีเพราะเข้างานไม่ครบปี
แต่นั่นก็หมายถึงว่าผมพอจะมีบางส่วนที่จะปิด UOB ได้ ซึ่งผมขอปิดที่ 40000 ถ้วน
และเงินอีกส่วนก็ปิด Krungsri Credit ไปด้วย
ส่วนเดือนถัดมาก็ปิด SCB Credit อีก 45000
เงินเดือนตอนนี้มาอยู่ที่ 42000 แล้ว

จากนั้นผมก็ทยอยปิดให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้
รวมๆแล้วครบ1 ปีผมปิด UOB/Tesco/SCB/Krungsi ประมาณแสนต้นๆ

ซึ่งนั่นหมายถึง

ผมเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว เริ่มพอมองเห็นทางออกแล้ว
สิ่งที่ผมทำคือตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยทุกอย่าง ไม่เที่ยว ไปช๊อบ
จากปกติเสาร์อาทิตย์ต้องไปเดินสยาม ไปดูหนังกินข้าว
แต่ผมเปลี่ยนทุกอย่าง อยู่ห้อง รายจ่ายทุกอย่างที่ฟุ่มเฟือยตัดหมด
ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับระเบียบวินัยทั้งนั้น ในขณะที่ใช้หนี้ไป
ผมไม่พยายามสร้างหนี่เพิ่ม มันจึงค่อยๆลดลงไปอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้นผมก็เริ่มคุยกับทีล่ะเจ้าที่เหลือโดยขอจ่ายขั้นต่ำ
ซึ่งรวมๆแล้วก็ประมาณเดือนล่ะ 30000 หมื่นผมเลือกที่จะขอจ่ายแต่ละเจ้า
ที่เหลือให้เยอะที่สุดเท่าที่จะจ่ายได้ แล้วเหลือค่าห้องและค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 3000 เท่านั้น
แต่ก็อยู่ได้ครับ เมื่อเรารู้จักวางแผนและประหยัด จากที่กินน้ำขวดล่ะ 10 -15 ก้มานั่งคำนวณทุกบาททุกสตางค์ อย่างเช่นซื้อมาเป้นแพคก็จะถูกลงแค่ขวดล่ะ 5.5 บาทเท่านั้น

ตอนนี้จากที่จ่ายๆมาก็เกินครึ่งแล้ว
และก็อีก 5 เดือนข้างหน้าคาดว่าผมได้โบนัสเต็มปีก็คงจะพอจ่ายเกือบทั้งหมดพอดี
อาจจะเหลือแค่บางส่วนแต่ก็ถือว่าน้อยมาก แค่เดือนล่ะ 4-5 พันเท่านั้น

สิ่งที่ผมอยากแชร์คือขอให้ทุกคนอย่ายอมแพ้ครับ
มันมีทางออกเสมอ เพราะจุดที่ผมเคยอยู่ตรงนั้นก็หนักหนาสาหัส
จนเกินที่จะรับได้จริงๆ แต่ก็ผ่านมาได้แล้ว
ตอนนี้เริ่มดีขึ้นและประคองตัวได้ เริ่มมีเงินใช้จ่ายไปกินข้าวดูหนัง
ซื้อของที่อยากได้ด้วยเงินสดในกระเป๋า โดยที่ไม่ต้องพึ่งบัตรเครดิตอีกต่อไปแล้ว

วินัยและการไม่สร้างหนี้เพิ่มคือตัวแปรสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราผ่านพ้นวิกฤติได้ครับ
ผมเชื่อว่าทุกคนต้องผ่านพ้นไปได้
และเมื่อเราผ่านจุดนั้นมาได้ สิ่งที่เราได้จากมันคือประสบการณ์และการไม่ประมาทในชีวิต
ซึ่งทำให้เราพบความั่นคงในชีวิตได้

สู้สู้ครับ
ให้กำลังใจทุกคน อย่ายอมแพ้ครับ
ชีวิตที่ดีหลังพ้นหนี้ สวยงามเสมอครับ


กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #59760 โดย baki2525
สู้ๆครับ ผมเองเริ่มหยุดจ่ายงวดแรกแล้วเหมือนกัน ใจยังกล้าๆกลัวๆครับ แต่อาศัยอ่านข้อมูลในนี้เยอะๆ เลยมีกำลังใจ ยอดหนี้เก้าแสนกว่า

มีอะไรคืบหน้าอย่าลืมมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.428 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena