หลังจากที่ต่อสู้เพียงลำพังมาระยะหนึ่ง

สวัสดีทุกท่านค่ะ มีข้อความมาแบ่งปันไม่กับการฟันฝ่าทุกอย่างเพียงลำพังมาระยะหนึ่ง ตอนนี้เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เลยเข้ามาเป็นสมาชิก และ อยากจะแบ่งปันค่ะ
เริ่มจากที่จริงใจ เรียนจบ ก็ได้ทำงานแห่งหนึ่ง เริ่มทำงานได้เพียงสองเดือน เพื่อนสนิท(ตั้งแต่อนุบาล ยัน ปริญญา ยันทำงานที่เดียวกันอีก) ที่บ้านก็ประสบปัญหา คุณพ่อเสียชีวิตทิ้งหนี้ไว้ และ พร้อมถูกอายัดที่ทำกิน ครอบครัวคนจีนพี่น้องทั้งหมด 5 คนรวมแม่ เป็น6 กับภาระหนี้ 4 ล้าน คุณพ่อของเราช่วยเหลือไป 1 ล้าน เพราะพ่อแม่ของเราทั้งสองก็เป็นเพื่อนกัน แต่ด้วยความที่เรา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ ไปทำบัตร ทำเงินกู้ ทุกอย่างทุกที่ที่จะกู้ได้ เขาเอาอะไรมาให้กรอก ทำให้หมด ทำทุกอย่างที่จะทำให้ได้ แต่รวมแล้วที่ไหนบ้าง มูลหนี้เท่าไร ตอนนั้นบอกได้คำเดียวว่าไม่รู้เลย คิดเพียงให้เพื่อนสนิทเพื่อนรัก ได้มีที่อาศัย มีที่ทำมาหากินต่อไปให้แม่ที่ยังอยู่และเลี้ยงน้อง ๆ ได้ ทุกอย่างก็ผ่านไปบัตรทุกบัตรที่ทำมา อยู่ในความดูแลของเพื่อน และแม่ของเพื่อนตลอดมา ไม่เคยรับรู้ เพราะว่า ที่อยู่จัดส่งเอกสารก็ส่งไปที่บ้านเพื่อนเลยไม่ได้ส่งมาที่เราเลย ผ่านไป สี่ปี จดหมายก็มาที่บ้าน ทวงว่า ไม่ได้ชำระ และ ยอดหนี้ ก็เท่าเดิมไม่มีลดลงเลย ก็เลยไถ่ถามไปเพื่อนตอบว่า จ่ายแล้วก็กดออกมาใหม่ จ่ายแล้วก็กดออกมาใหม่ ค่ะ และแล้ว เขาก็หายไปจากชีวิตเรา ทิ้งหนี้ก้อนนั้นให้ก้อนโต หายไปทั้งครอบครัว

หายใจเข้าลึก ๆ เด็กอายุ 26 ในวันที่ต้องรู้ว่า ด้วยสัญญา หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ภาระหนี้ทุกอย่างตกอยู่ที่เรา แล้ว ตอนนั้นเงินเดือน 17,500 คิดแล้วคิดอีกว่าจะทำอย่างไรดี
รวบรวมหนี้ทั้งหมด ตามใบแจ้งหนี้ที่แจ้งมา เรียงลำดับ ยอดหนี้ จากน้อยไปมาก
แล้วแยก ว่า Bank กับ non bank ออกจากกัน ตอนนั้นไม่รู้ว่าคิดอะไร ว่า จะจ่าย Bank ก่อน non bank ทีหลัง ไม่ได้ปรึกษาใคร คิดเอาเอง ทำเอาเอง

และแล้ว บัตร เงินกู้ จากธนาคาร ก็ถูกเคลียร์ ไปก่อน ภายในระยะเวลา สี่ปีหลังจากนั้น เคลียร์จากก้อนน้อยไปก้อนมาก แต่ก็อยู่ที่เจ้าหน้าที่ที่พูดยากพูดง่ายด้วย บางทีอาจจะหนี้น้อยกว่า แต่พูดกันง่ายกว่าก็นำมาเริ่มจ่ายหนี้ก่อน เลือกที่จะโทรไปหาเขา ก่อนที่เขาจะติดตาม จะฟ้อง หรือ จะอะไรก็ตาม บอกเหตุผลที่แท้จริง แต่จำใจต้องชำระ ให้ เพราะว่า เป็นชื่อเรา แต่ด้วยรายรับมีเท่านี้ ต้องขอให้อยู่รอดก่อน ที่จะชำระหนี้ให้ได้ เป็นความโชคดี ที่ เจ้าหนี้เห็นใจ และ ให้เราชี้แจงว่า ท่านจะเป็นลำดับที่เท่าไร ในการรับชำระหนี้จากเรา บัตรธนาคาร ทั้งหมด 7 บัตร สำเร็จภายใน 4 ปี (ปล. เรียนจบปุ๊บ ทำงานก็ซื้อบ้านเลย ผ่อนเดือนละ 2,700 บาทต่อเดือน หนี้อย่างอื่นไม่มี กินน้ำไฟน้ำมัน จิปาถะ เดือนละ 3,000 ก็จะเหลือเงินต่อเดือน เดือนละ 10,000 ส่วนที่เหลืออีกนิดหน่อย ออมแบบห้ามถอน)
ดังนั้นมีเงินที่จะชำระหนี้ต่าง ๆ ให้เพื่อนรักคนนี้ได้ต่อเดือนคือ 10,000 บาท
1. ธนาคารกสิกรบัตรแรก 80,000 ปิดยอดเพื่อเคลียร์ ที่ 56,000 ผ่อนเดือนละ 7,000 =8 เดือน
2. ธนาคารกสิกรบัตรที่สอง (โรบินสัน) 65,000 เจรจาปิดได้ที่ 39,800 ผ่อนเดือนละ 3,000= 8 เดือน พอเหลือ 15,800 ก็โทรไปขอส่วนลด ปิดเลยที่ 10,000 บาทในเดือนที่ 9
แล้วก็เริ่ม หนี้ใบที่ 3
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ 102,000 เจรจาขอปิดได้ที่ 84,000 ผ่อนเดือนละ 8,400 10 เดือน
4. ธนาคารกรุงเทพบัตรแรก 97,000 เจรจาขอปิดได้ที่ 58,200 ผ่อนเดือนละ 1,600 = 10 เดือน พอเหลือ 42,200 ก็เจรจาอีกรอบ ได้ที่ 35,000 จ่ายเดือนละ 10,000 = 3 เดือน และ สุดท้ายที่ 5,000 ปิดบัญชี
ระหว่างเข้าสู่เดือนที่ 23 ของการผ่อนชำระหนี้บัตรต่าง ๆ เดือนที่ 23 มีเงินเหลือ 5,000 จึงติดต่อไปยังบัตรต่อไป
5. ธนาคารกรุงเทพ บัตรที่สอง 64,500 เจรจาขอปิดได้ที่ 50,000 จ่าย เดือนแรก 5,000 และเดือนละ 10,000=4 และ 5,000 = 1 ปิดบัญชีไป สำหรับการเดินหน้าชำระหนี้ ผ่านไป 27 เดือน แล้ว
6. ธนาคารกรุงไทย บัตรแรก (ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการเจรจากับธนาคารนี้และตกลงอะไรไม่ค่อยได้เลย แต่ก็พยายาม) ยอดหนี้ 189,000 ลดและเจรจาขอปิดได้ที่ 180,000 ผ่อนเดือนละ 10,000 = 18 เดือน
7. ธนาคารกรุงไทย บัตรที่สอง 52,000 เจรจาขอปิดได้ที่ 35,000 ก็ผ่อนเดือนละ 10,000 ไป สองเดือน ยอดเหลือ 15,000 สอบถามปิด ขอส่วนลด บอกว่าจะปิดทันที มีเงินเหลือ แค่ 10,000 ขอให้ลดให้ ห้าพัน เพราะว่า กำลังตกงาน (ซึ่งจริง ๆ แล้วคือย้ายที่ทำงาน) อาจจะไม่มีเงินมาจ่ายให้อีก เขาก็ลดให้ เท่ากับ จบปิด ที่ 4 ปี 7 บัญชีหนี้

ระยะเวลานั้นคือ ทำบัตรต่าง ๆ กู้ต่าง ๆ นั้นอายุ 22 แต่มีชื่อเป็นเจ้าของกิจการ โรงงานน้ำแข็ง กิจการของคุณพ่ออยู่ บัญชีกระแสรายวัน หรือ อะไรต่าง ๆ หลักฐานที่มี ทำให้ความน่าเชื่อถือ และ สามารถกู้ได้เยอะมากในตอนนั้น เพื่อนยังคงจ่ายให้ไม่ทราบปัญหาเลย ตลอดระยะเวลา 4 ปี (อายุ 26) หลังจากทราบเรื่องและใช้เวลาชำระหนี้ ของธนาคารก่อนนั้น ใช้เวลาอีก 4 ปี ตอนจบหนี้ อายุ 30

แล้วก็ เริ่มไล่รายการของ Non Bank มาเป็นสิ่งที่ต้องจัดการต่อไปค่ะ

สู้ สู้ ครับ เป็นกำลังใจให้ครับสักวันจะเป็นวันของเราครับ ผมก็ได้แต่ค่อยให้กำลังใจคนอื่นแๆต่พอถึงเวลาตัวเองจะไหวไหมแต่ถ้าไม่เริ่มหยุดจ่ายคงไม่มีทางพบทางที่สว่างแน่นอนได้แต่คิดแบบนั่นแต่ในใจก็หวาดหวั่น สู้ สู้ ครับ สิ้นเดือนเจ้าแรกกรุงจะต้องโทรมาแน่ๆผมรู้ว่าผมจะสู้เพื่อใครไม่ใช่ตัวผมเลยแต่เป็นทุกๆคนทางบ้านที่ผมต้องดูแลพวกเขา ขอบคุณครับ

p.namdech เขียน: สู้ สู้ ครับ เป็นกำลังใจให้ครับสักวันจะเป็นวันของเราครับ ผมก็ได้แต่ค่อยให้กำลังใจคนอื่นแๆต่พอถึงเวลาตัวเองจะไหวไหมแต่ถ้าไม่เริ่มหยุดจ่ายคงไม่มีทางพบทางที่สว่างแน่นอนได้แต่คิดแบบนั่นแต่ในใจก็หวาดหวั่น สู้ สู้ ครับ สิ้นเดือนเจ้าแรกกรุงจะต้องโทรมาแน่ๆผมรู้ว่าผมจะสู้เพื่อใครไม่ใช่ตัวผมเลยแต่เป็นทุกๆคนทางบ้านที่ผมต้องดูแลพวกเขา ขอบคุณครับ

สู้ไปด้วยกันค่ะ ตอนเช้าพิมพ์ เริ่มการจัดการ กับ Non bank แต่ก็หายไปหมด เลยยังไม่อยากพิมพ์ใหม่ นะคะ ไว้ว่าง ๆ จะเข้ามาบอกค่ะ จากทั้งหมด ตอนนี้เหลือเพียง 153,000 ค่ะ ก็จะสู้ต่อไป อาจจะใช้เวลา พอสมควรค่ะ เพราะตอนนี้ มีภาระไม่เหมือน ตอนก่อนนั้น

ธนาคารกรุงเทพนี่ติดต่อเข้าไปหาธนาคารเองหรือค่ะ ตัวเองก็หยุดจ่ายกรุงเทพมาสักระยะเเล้ว จะปี นึงเเล้วค่ะ แต่ก็ไม่มีติดต่อมา