- จำนวนโพสต์: 1
- ขอบคุณที่รับ: 5
Sidebar
หนี้ 3 ล้านกว่า อยากแบ่งปันประสบการณ์แก้หนี้ครับ
4 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #112833
โดย runrunrun
หนี้ 3 ล้านกว่า อยากแบ่งปันประสบการณ์แก้หนี้ครับ was created by runrunrun
สวัสดีครับ
ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาอย่างหนักกับหนี้ที่สะสมมาร่วมๆ 10 ปี จากการใช้จ่ายที่เกินตัวกับของที่เค้าเรียกกันว่า "ของมันต้องมี" นานาชนิด ได้เวปบอร์ดนี้ที่ช่วยชี้นำแนวทางในการแก้ไขปัญหา (ที่ได้ผลจริง) เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองบ้างครับ เผื่อเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน
เริ่มจาก background ก่อนนะครับ สรุปความสั้นๆจาก 15 ปีที่ผ่านมา หลังก้าวเข้าสู่วัยทำงานและหารายได้เลี้ยงตัวเอง ได้ว่า:
1. จากวัยเรียนสู่วัยทำงาน เริ่มจากคนไม่มีหนี้ ครอบครัวปลูกฝังมาตลอดว่าอย่ามีหนี้ ทุกอย่างสดใส ไม่ยึดติดสิ่งของใดๆ mindset ตัวเองกล้าบอกได้ว่ากลัวการเป็นหนี้ และไม่เคยคิดจะหยิบยืมหรือใช้งเินเกินตัวเลย
2. เริ่มมีบัตรเครดิตใบแรก วงเงินน้อยนิด ใช้อย่างระมัดระวัง ใช้ซื้อของที่ส่วนใหญ่ก้อไม่จำเป็นแต่เป็นความอยากได้วัยเด็กต่างๆนานา ที่ไม่เคยได้เติมเต็มสมัยเรียน จ่ายก่อนหรือตรงเวลาตลอดๆ ผ่านไป 3 ปี เริ่มใช้วงเงินมากขึ้น ยังจ่ายตรงเวลา เงินสดเหลือใช้จ่ายรายเดือนลดลง เพราะต้องไปจ่ายบัตร
3. เข้าปีที่ 4 หน้าที่การงานก้าวหน้า รายได้มากขึ้น เริ่มมีบัตรใบที่สอง สาม สี่ เริ่มมีเครดิตดี ไม่ต้องสมัครบัตร ธนาคารก็เสนอบัตรต่างๆมามากมาย (รวมถึงบัตรกดเงินสด)
4. เข้าปีที่ 5-6 ยังมีวินัยดี ถึงจะถือบัตรมากขึ้น วงเงินมากขึ้น รวมถึงมีบัตรกดเงินสด แต่ไม่เคยแม้แต่คิดจะใช้ พกไว้โก้ๆงั้นๆ จ่ายตรงสม่ำเสมอ
5. เข้าปีที่ 7.... จุดเริ่มต้นของวิกฤติ.... รายได้เริ่มเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดกว่ารายได้!!! แต่ละยอดใหญ่ขึ้น เริ่มมีแบงค์โทรหา เสนอเข้ามาให้เราผ่อนจ่ายได้ หกงวดบ้าง สิบงวดบ้าง ... พอเงินหมุนเวียนรายเดือนน้อย เราก้อรับข้อเสนอ โดยคิดว่ายอด เช่น 5,000 - 10,000 แตกเป็นรายเดือนก็แค่เดือนละ 500-600 สบายๆ เดี๋ยวก้อจ่ายหมด
ุ6. ช่วงปีที่ 7-10 ...ราชาเงินผ่อน.....เป็นช่วงที่ยอดผ่อนจ่ายในใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตยาวเป็นหางว่าว อะไรๆก้อผ่อน รูดเสร็จก้อโทรเข้าไปขอปรับเป็นยอดผ่อนรายเดือนเรื่อยมา ช่วงนี้คือช่วงที่เปิดบัตรเพิ่มหลายใบ แล้วก้อเปิดวงเงินกู้บุคคลหลายตัว วงเงินใหญ่ๆทั้งสิ้น (200,000 - 900,000) ยังคงเป็ช่วงเวลาที่รู้สึกสบายตัวอยู่ ถึงแม้ยอดหนี้จะเยอะขึ้นเรื่อยๆก็ตาม แต่เหมือนมีอะไรบังตาว่าช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็ผ่อนหมด ขอเปิดบัตร ขอวงเงินกู้ ขอที่ไหนก็ผ่าน เพราะรายได้กับเครดิตมันดี เป็นช่วงที่รู้สึกคล่องตัวมาก แล้วก็ใช้จ่ายแบบไม่คิดอะไรทั้งสิ้นนอกจากความอยากได้
7. ช่วงปีที่ 11-14 .....เริ่มหมุนเงินไม่ทัน เริ่มจ่ายไม่ตรงดีล เครดิตเริ่มตก สิ้นเดือนที่นี่อลวนมากกับการกดใบโน้นไปโปะใบนี้ เป็นอย่างนี้ทุกเดือนตลอดระยะเวลา 4 ปี แต่ยังใช้จ่ายเหมือนเดิม ยังมีขอวงเงินเพิ่มเหมือนเดิม หนี้ก้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ปรับการใช้จ่าย เงินที่จ่ายแบงค์ไปก็ไปโปะดอกซะเยอะ
8. ช่วงปีที่ 15.....วิกฤติ......จากพฤติกรรมหารใช้เงิน บวกกับการจ่ายไม่ตรงดีล เครดิตตก ขอวงเงินเพิ่มไม่ได้ กู้เพิ่มไม่ได้ มืดแปดด้าน มันกระทบเป็นลูกโซ่ พอกดเงินจากบัตรไม่ได้ ก้อไปปิดยอดอีกบัตรไม่ได้ บัตรก็ถูกระงับชั่วคราว เงินรายเดือนที่มีไม่สามารถจ่ายขึ้นต่ำได้ครบทุกบัญชี แบงค์โทรทวงตลอด ประสาทเสียมาก ทำงานก็ไม่มีสมาธิ ความเครียดก็มีผลกระทบกับครอบครัว
9. ตัดสินใจสารภาพกับภรรยา...ภรรยาน่ารักมาก...(ด่ายับ)....แต่ในขณะเดียวกันไม่เคยทอดทิ้ง ช่วยหาทางออก และ ให้กำลังใจมาโดยตลอด....ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นของการเริ่มแก้ปัญหาโดยใช้แนวทางของชมรม ซึ่งเดี๋ยวผมจะกลับมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ
ปล..จะเห็นว่ามันมีวิวัฒนาการของมันนะครับ พฤติกรรมแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่มันค่อยๆสะสม ค่อยๆกัดกร่อนเสถียรภาพทางการเงินเราเรื่อยๆ พอมารู้ตัวอีกทีก็สายเสียแล้ว หวังว่า background ของผมด้านบนจะให้ข้อคิดกับใครได้บ้างนะครับ
ปล2..วันนี้ผมปรับพฤติกรรมการใช้เงินแล้ว ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกกก อะไรไม่จำเป็นก้อปล่อยให้มันผ่านไป ชีวิตไม่เดือดร้อนอะไร แถมมีความสุขกว่าวันที่มี "ของมันต้องมี" เต็มไปหมด อีกครับ
เดี๋ยวตอนหน้าจะมาต่อเรื่อง หนี้ หนี้ หนี้ และ วิธีการจัดการกับมันครับ ยอดหนี้ทั้งหมดประมาณ 3.2ล้าน ตอนนี้เคลียส์กับแบงค์หมดแล้ว 100% แต่ยังติดหนี้บุพการีอยู่อีกประมาณ 1 ล้านครับ (ปลอดดอก ) (โชคดีที่ท่านช่วยได้เพื่อให้จบปัญหากับแบงค์ครับ)
ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาอย่างหนักกับหนี้ที่สะสมมาร่วมๆ 10 ปี จากการใช้จ่ายที่เกินตัวกับของที่เค้าเรียกกันว่า "ของมันต้องมี" นานาชนิด ได้เวปบอร์ดนี้ที่ช่วยชี้นำแนวทางในการแก้ไขปัญหา (ที่ได้ผลจริง) เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองบ้างครับ เผื่อเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน
เริ่มจาก background ก่อนนะครับ สรุปความสั้นๆจาก 15 ปีที่ผ่านมา หลังก้าวเข้าสู่วัยทำงานและหารายได้เลี้ยงตัวเอง ได้ว่า:
1. จากวัยเรียนสู่วัยทำงาน เริ่มจากคนไม่มีหนี้ ครอบครัวปลูกฝังมาตลอดว่าอย่ามีหนี้ ทุกอย่างสดใส ไม่ยึดติดสิ่งของใดๆ mindset ตัวเองกล้าบอกได้ว่ากลัวการเป็นหนี้ และไม่เคยคิดจะหยิบยืมหรือใช้งเินเกินตัวเลย
2. เริ่มมีบัตรเครดิตใบแรก วงเงินน้อยนิด ใช้อย่างระมัดระวัง ใช้ซื้อของที่ส่วนใหญ่ก้อไม่จำเป็นแต่เป็นความอยากได้วัยเด็กต่างๆนานา ที่ไม่เคยได้เติมเต็มสมัยเรียน จ่ายก่อนหรือตรงเวลาตลอดๆ ผ่านไป 3 ปี เริ่มใช้วงเงินมากขึ้น ยังจ่ายตรงเวลา เงินสดเหลือใช้จ่ายรายเดือนลดลง เพราะต้องไปจ่ายบัตร
3. เข้าปีที่ 4 หน้าที่การงานก้าวหน้า รายได้มากขึ้น เริ่มมีบัตรใบที่สอง สาม สี่ เริ่มมีเครดิตดี ไม่ต้องสมัครบัตร ธนาคารก็เสนอบัตรต่างๆมามากมาย (รวมถึงบัตรกดเงินสด)
4. เข้าปีที่ 5-6 ยังมีวินัยดี ถึงจะถือบัตรมากขึ้น วงเงินมากขึ้น รวมถึงมีบัตรกดเงินสด แต่ไม่เคยแม้แต่คิดจะใช้ พกไว้โก้ๆงั้นๆ จ่ายตรงสม่ำเสมอ
5. เข้าปีที่ 7.... จุดเริ่มต้นของวิกฤติ.... รายได้เริ่มเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดกว่ารายได้!!! แต่ละยอดใหญ่ขึ้น เริ่มมีแบงค์โทรหา เสนอเข้ามาให้เราผ่อนจ่ายได้ หกงวดบ้าง สิบงวดบ้าง ... พอเงินหมุนเวียนรายเดือนน้อย เราก้อรับข้อเสนอ โดยคิดว่ายอด เช่น 5,000 - 10,000 แตกเป็นรายเดือนก็แค่เดือนละ 500-600 สบายๆ เดี๋ยวก้อจ่ายหมด
ุ6. ช่วงปีที่ 7-10 ...ราชาเงินผ่อน.....เป็นช่วงที่ยอดผ่อนจ่ายในใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตยาวเป็นหางว่าว อะไรๆก้อผ่อน รูดเสร็จก้อโทรเข้าไปขอปรับเป็นยอดผ่อนรายเดือนเรื่อยมา ช่วงนี้คือช่วงที่เปิดบัตรเพิ่มหลายใบ แล้วก้อเปิดวงเงินกู้บุคคลหลายตัว วงเงินใหญ่ๆทั้งสิ้น (200,000 - 900,000) ยังคงเป็ช่วงเวลาที่รู้สึกสบายตัวอยู่ ถึงแม้ยอดหนี้จะเยอะขึ้นเรื่อยๆก็ตาม แต่เหมือนมีอะไรบังตาว่าช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็ผ่อนหมด ขอเปิดบัตร ขอวงเงินกู้ ขอที่ไหนก็ผ่าน เพราะรายได้กับเครดิตมันดี เป็นช่วงที่รู้สึกคล่องตัวมาก แล้วก็ใช้จ่ายแบบไม่คิดอะไรทั้งสิ้นนอกจากความอยากได้
7. ช่วงปีที่ 11-14 .....เริ่มหมุนเงินไม่ทัน เริ่มจ่ายไม่ตรงดีล เครดิตเริ่มตก สิ้นเดือนที่นี่อลวนมากกับการกดใบโน้นไปโปะใบนี้ เป็นอย่างนี้ทุกเดือนตลอดระยะเวลา 4 ปี แต่ยังใช้จ่ายเหมือนเดิม ยังมีขอวงเงินเพิ่มเหมือนเดิม หนี้ก้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ปรับการใช้จ่าย เงินที่จ่ายแบงค์ไปก็ไปโปะดอกซะเยอะ
8. ช่วงปีที่ 15.....วิกฤติ......จากพฤติกรรมหารใช้เงิน บวกกับการจ่ายไม่ตรงดีล เครดิตตก ขอวงเงินเพิ่มไม่ได้ กู้เพิ่มไม่ได้ มืดแปดด้าน มันกระทบเป็นลูกโซ่ พอกดเงินจากบัตรไม่ได้ ก้อไปปิดยอดอีกบัตรไม่ได้ บัตรก็ถูกระงับชั่วคราว เงินรายเดือนที่มีไม่สามารถจ่ายขึ้นต่ำได้ครบทุกบัญชี แบงค์โทรทวงตลอด ประสาทเสียมาก ทำงานก็ไม่มีสมาธิ ความเครียดก็มีผลกระทบกับครอบครัว
9. ตัดสินใจสารภาพกับภรรยา...ภรรยาน่ารักมาก...(ด่ายับ)....แต่ในขณะเดียวกันไม่เคยทอดทิ้ง ช่วยหาทางออก และ ให้กำลังใจมาโดยตลอด....ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นของการเริ่มแก้ปัญหาโดยใช้แนวทางของชมรม ซึ่งเดี๋ยวผมจะกลับมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ
ปล..จะเห็นว่ามันมีวิวัฒนาการของมันนะครับ พฤติกรรมแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่มันค่อยๆสะสม ค่อยๆกัดกร่อนเสถียรภาพทางการเงินเราเรื่อยๆ พอมารู้ตัวอีกทีก็สายเสียแล้ว หวังว่า background ของผมด้านบนจะให้ข้อคิดกับใครได้บ้างนะครับ
ปล2..วันนี้ผมปรับพฤติกรรมการใช้เงินแล้ว ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกกก อะไรไม่จำเป็นก้อปล่อยให้มันผ่านไป ชีวิตไม่เดือดร้อนอะไร แถมมีความสุขกว่าวันที่มี "ของมันต้องมี" เต็มไปหมด อีกครับ
เดี๋ยวตอนหน้าจะมาต่อเรื่อง หนี้ หนี้ หนี้ และ วิธีการจัดการกับมันครับ ยอดหนี้ทั้งหมดประมาณ 3.2ล้าน ตอนนี้เคลียส์กับแบงค์หมดแล้ว 100% แต่ยังติดหนี้บุพการีอยู่อีกประมาณ 1 ล้านครับ (ปลอดดอก
) (โชคดีที่ท่านช่วยได้เพื่อให้จบปัญหากับแบงค์ครับ) กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ผู้ดูแล: Mommyangel, Badman, konsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.657 วินาที