รบกวนขอคำแนะนำ ยอดหนี้ 455,000 บาท กำลังตัดสินใจจะหยุดชำระค่ะ

สวัสดีเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านค่ะ

เพิ่งจะได้เข้ามาเป็นสมาชิกในชมรมค่ะ เนื่องจากกำลังตัดสินใจหยุดจ่ายบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลค่ะ
เป็นลูกหนี้ชั้นดี จ่ายปิดและเป็นหนี้ใหม่ ซ้ำๆแบบนี้ จนมาถึงเมื่อปีที่ผ่านมามีผลกระทบจากโควิด และลูกชายต้องเข้ารับการบำบัดเกี่ยวกับสมาธิสั้น ทำให้ต้องใช้เงินในการรักษาค่ะ
ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพยายามหาเงินมาชำระขั้นต่ำทุกบัตรมาโดยตลอด โดยมีรายละเอียดหนี้ดังนี้ค่ะ

1.สินเชื่อส่วนบุคคล กรุงศรี ยอดหนี้ 102,000 บาท ยอดชำระ 3,300 บาท( ชำระขั้นต่ำ ) ชำระครั้งล่าสุด 30 เมษายน 2564 
2.สินเชื่อส่วนบุคคลยูโอบี ยอดหนี้ 129,019.28 บาท ยอดชำระ 4,100 บาท ( ยอด ณ วันวันที่ 22 เมษายน 2564 ) ข้าพเจ้าได้ทำการโทรเข้าไปขอยื่นเรื่องเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จากสถานการณ์โควิด แต่ไม่มีพนักงานติดต่อกลับ จนครบกำหนดชำระ 7 พฤษภาคม 2564 ( กำลังตัดสินใจจะหยุดชำระ )
3.บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ยอดหนี้รวมประมาณ 70,000 บาท ชำระขั้นต่ำ 6,500 บาท
4.บัตรเฟิรส์ช้อย 80,000 บาท ชำระ 3,400 บาท
5.บัตรเครดิต The1 ยอดหนี้ 12,000 บาท ชำระขั้นต่ำ 500 บาท ( ตั้งใจจะปิดยอดเต็ม #1)
ุ6.บัตรเครดิตยูโอบี ยอดหนี้ 39,000 บาท ชำระขั้นต่ำ 2,000 บาท
7.บัตรเครดิตกสิกรไทย ยอดหนี้ 23,000 บาท ชำระขั้นต่ำ 1,200 บาท ( ตั้งใจจะปิดยอดเต็ม #2)
8.ผ่อนบ้านกับ ธอส เดือนละ 9,700 บาท ( บริษัทหักจากบัญชีเงินเดือน เนื่องจากทำ MOU) ผ่อนได้ 1 ปี  เป็นชื่อข้าพเจ้า
9.ผ่อนรถยนต์ กับ Honda Leasing เดือนละ 11,000 บาท ผ่อนได้ 1 ปี เป็นชื่อข้าพเจ้า
รวมยอดหนี้บัตรและสินเชื่อทั้งหมด 455,019.28 บาท รวมค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต ,สินเชื่อ , ค่าบ้าน และ รถ ต่อเดือน 41,700 บาท
โดยข้าพเจ้าต้องการหยุดชำระในลำดับที่ 1-7 เพื่อเก็บเงินรอ H/C กับทางธนาคาร   ส่วนรายการที่ 8และ 9 ข้าพเจ้าต้องการผ่อนชำระต่อค่ะ
ซึ่งหากข้าพเจ้าติด NPL แล้วนั้นข้าพเจ้าอยากขอปรึกษาเพื่อนสมาชิกดังนี้ค่ะ

1.อีก 2 ปี หากข้าพเจ้ามีแนวโน้มที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านกับสถาบันการเงินอื่นนอกจาก ธอส สามารถทำได้หรือไม่คะ ?
2.หยุดจ่ายระยะเวลาเท่าไร ถึงจะได้หมายศาลคะ แล้วหมายศาลจะถูกจัดส่งไปตามที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หรือที่อยู่ปัจจุบันคะ ( ใบแจ้งหนี้ทุกธนาคารส่งมาที่อยู่ปัจจุบันค่ะ)
3.ข้าพเจ้าจะรอเข้าร่วมโครงการคลินิคแก้หนี้ แต่ถ้าระหว่างที่รอเข้าร่วมแล้ว เรื่องถึงชั้นศาลนัดไกล่เกลี่ย ศาลมีสิทธิที่จะสั่งยึดทรัพย์บ้านและรถยนต์หรือไม่คะ

ขอขอบคุณสมาชิกที่เข้ามาให้คำแนะนำล่วงหน้าค่ะ

zomohxx เขียน: สวัสดีเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านค่ะ

เพิ่งจะได้เข้ามาเป็นสมาชิกในชมรมค่ะ เนื่องจากกำลังตัดสินใจหยุดจ่ายบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลค่ะ
เป็นลูกหนี้ชั้นดี จ่ายปิดและเป็นหนี้ใหม่ ซ้ำๆแบบนี้ จนมาถึงเมื่อปีที่ผ่านมามีผลกระทบจากโควิด และลูกชายต้องเข้ารับการบำบัดเกี่ยวกับสมาธิสั้น ทำให้ต้องใช้เงินในการรักษาค่ะ
ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพยายามหาเงินมาชำระขั้นต่ำทุกบัตรมาโดยตลอด โดยมีรายละเอียดหนี้ดังนี้ค่ะ

1.สินเชื่อส่วนบุคคล กรุงศรี ยอดหนี้ 102,000 บาท ยอดชำระ 3,300 บาท( ชำระขั้นต่ำ ) ชำระครั้งล่าสุด 30 เมษายน 2564 
2.สินเชื่อส่วนบุคคลยูโอบี ยอดหนี้ 129,019.28 บาท ยอดชำระ 4,100 บาท ( ยอด ณ วันวันที่ 22 เมษายน 2564 ) ข้าพเจ้าได้ทำการโทรเข้าไปขอยื่นเรื่องเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จากสถานการณ์โควิด แต่ไม่มีพนักงานติดต่อกลับ จนครบกำหนดชำระ 7 พฤษภาคม 2564 ( กำลังตัดสินใจจะหยุดชำระ )
3.บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ยอดหนี้รวมประมาณ 70,000 บาท ชำระขั้นต่ำ 6,500 บาท
4.บัตรเฟิรส์ช้อย 80,000 บาท ชำระ 3,400 บาท
5.บัตรเครดิต The1 ยอดหนี้ 12,000 บาท ชำระขั้นต่ำ 500 บาท ( ตั้งใจจะปิดยอดเต็ม #1)
ุ6.บัตรเครดิตยูโอบี ยอดหนี้ 39,000 บาท ชำระขั้นต่ำ 2,000 บาท
7.บัตรเครดิตกสิกรไทย ยอดหนี้ 23,000 บาท ชำระขั้นต่ำ 1,200 บาท ( ตั้งใจจะปิดยอดเต็ม #2)
8.ผ่อนบ้านกับ ธอส เดือนละ 9,700 บาท ( บริษัทหักจากบัญชีเงินเดือน เนื่องจากทำ MOU) ผ่อนได้ 1 ปี  เป็นชื่อข้าพเจ้า
9.ผ่อนรถยนต์ กับ Honda Leasing เดือนละ 11,000 บาท ผ่อนได้ 1 ปี เป็นชื่อข้าพเจ้า
รวมยอดหนี้บัตรและสินเชื่อทั้งหมด 455,019.28 บาท รวมค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต ,สินเชื่อ , ค่าบ้าน และ รถ ต่อเดือน 41,700 บาท
โดยข้าพเจ้าต้องการหยุดชำระในลำดับที่ 1-7 เพื่อเก็บเงินรอ H/C กับทางธนาคาร   ส่วนรายการที่ 8และ 9 ข้าพเจ้าต้องการผ่อนชำระต่อค่ะ
ซึ่งหากข้าพเจ้าติด NPL แล้วนั้นข้าพเจ้าอยากขอปรึกษาเพื่อนสมาชิกดังนี้ค่ะ

1.อีก 2 ปี หากข้าพเจ้ามีแนวโน้มที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านกับสถาบันการเงินอื่นนอกจาก ธอส สามารถทำได้หรือไม่คะ ?
2.หยุดจ่ายระยะเวลาเท่าไร ถึงจะได้หมายศาลคะ แล้วหมายศาลจะถูกจัดส่งไปตามที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน หรือที่อยู่ปัจจุบันคะ ( ใบแจ้งหนี้ทุกธนาคารส่งมาที่อยู่ปัจจุบันค่ะ)
3.ข้าพเจ้าจะรอเข้าร่วมโครงการคลินิคแก้หนี้ แต่ถ้าระหว่างที่รอเข้าร่วมแล้ว เรื่องถึงชั้นศาลนัดไกล่เกลี่ย ศาลมีสิทธิที่จะสั่งยึดทรัพย์บ้านและรถยนต์หรือไม่คะ

ขอขอบคุณสมาชิกที่เข้ามาให้คำแนะนำล่วงหน้าค่ะ

ตอบข้อที่ 1 ถ้าคำว่ารีไฟแนนซ์คือย้ายธนาคารครับอันนี้ไม่หน้าได้  และถ้าครบ 3 ปี รีเทนชั่น เพื่อลดดอกเบี้ยกับ ธอส. ซึ่งคือธนาคารเดิมคือได้ครับ เพราะเขาดูประวัติ
                เฉพาะที่ชำระผ่อนของเขา ซึ่งบริษัทฯ หักชำระ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ถ้าหยุดชำระบัตรเครดิตอื่นเพื่อรอแฮร์คัท
ตอบข้อที่ 2 แล้วแต่นโยบายการฟ้องของธนาคาร แต่ถ้าไม่ใช้ KTC ก็ประมาณ 1 ปีครับ หมายศาลจะส่งไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ในบัตรประชมชน หรือทะเบียนบัานที่อัพเดทเป็นปัจจุบัน
ตอบข้อที่ 3 ถ้าหยุดแล้วเงื่อนไขตรงแล้วโครงการไกล่เกลี่ยยังเปิดอยู่ก็สามารถทำได้ครับ ถ้าเรื่องถึงศาลแล้วถ้ารับเงื่อนไขทนายโจทย์ได้ยอมความหน้าศาลก็ชำระตามเงื่อนไข แต่บางราย
                ก็โหดร้าย ให้ผ่อนชำระแค่ปีเดียวเท่านั้น ซึ่งหากยอกความหน้าศาลแล้วหรือศาลตัดสินแล้ว ไม่ชำระ เขาก็จะไปยื่นเรื่องกรมบังคับคดี อายัดเงินเดือน บางรายก็อายัดบ้าน
                ที่เราผ่อนอยู่ด้วย อันนี้เหนื่อยหน่อยวางแผนเผื่อไว้ด้วยครับ  แต่รถไม่สามารถอายัดได้เพราะยังผ่อนไม่หมดสิทธิ์ยังเป็นของไฟแนนท์ ผิดกับบ้านเราเป็นเจ้าของเลยแต่เอาไป
               จำนองธนาคารครับ
ยอดหนี้บัตรเครดิตไม่เยอะเท่าไหร่ ปัญหาคือผ่อนบ้านและรถเยอะพอควร เงินเดือนเท่าไหร่หรือครับ หยุดแล้วสามารถเก็บเงินได้เดือนละเท่าไหร่นะครับ จะได้มาคาดการให้ว่าจะถึง
อายัดเงินเดือนหรือ อายัดบ้านไหม ในบันทัดฐานที่ไม่มีคนช่วยเหลือเรื่องเงินนะครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลและคำแนะนำค่ะ ขอเพิ่มรายละเอียดรายได้ดังนี้ค่ะ 
1.รายได้รวมอยู่ที่ 35,000 บาทค่ะ
2.ตอนนี้ส่วนของการผ่อนรถ แฟนจะรับไปผ่อนให้ค่ะ รายจ่ายจะลดไป 11,000 บาทค่ะ 
จึงวางแผนรายได้หลักหักค่าบ้าน , ค่ากองทุน ,ปกส และอื่นๆ กับทางบริษัทแล้ว จะเหลือเงินอยู่ที่ประมาณ22,000-23,000 บาท ค่ะ
ซึ่งจะหักเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว(รวมถึงลูก) 10,000 บาท และจะเก็บสะสมเพื่อ H/C เดือนละ 12,000 บาทค่ะ

หากมีข้อแนะนำเพิ่มเติม ขอความกรุณาด้วยนะคะ เพราะว่าคิดเยอะคิดไปคิดมา เพราะกลัวตัดใจสินผิด แล้วกลัวว่าสถานการณ์จะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ ส่วนตัวมีหนี้กับบัตรเฟิร์สช้อยส์ค่ะ ยอด 147,xxx หยุดจ่ายเข้างวดที่ 4 ได้รับการเสนอส่วนลดปิดบัญชี 49% ค่ะ

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ มีอะไรสามารถเเนะนำเพิ่มเติมได้เลยนะคะ

หยุดจ่ายแล้วต้องทำเรื่องอะไรหรือป่าวครับ หรือรอเค้าติดต่อมา

สู้ๆ ค่ะ ของกรุงศรี รอค่ะจะเข้ารอบบิลที่ 3 จะเสนอปรับโครงสร้าง ปฏิเสธไปเลยค่ะ เข้ารอบบิลที่ 4 จะเริ่มเสนอส่วนลด ต่อรองได้ค่ะว่าเรามีเงินเท่านี้ขอปิดจบได้ไหม ก็ตั้งธงไว้ที่ 50% ของยอดปัจจุบัน ที่ขอไปก็ได้นะคะ จาก 79000 เหลือ 40000

zomohxx เขียน: ขอบคุณสำหรับข้อมูลและคำแนะนำค่ะ ขอเพิ่มรายละเอียดรายได้ดังนี้ค่ะ 
1.รายได้รวมอยู่ที่ 35,000 บาทค่ะ
2.ตอนนี้ส่วนของการผ่อนรถ แฟนจะรับไปผ่อนให้ค่ะ รายจ่ายจะลดไป 11,000 บาทค่ะ 
จึงวางแผนรายได้หลักหักค่าบ้าน , ค่ากองทุน ,ปกส และอื่นๆ กับทางบริษัทแล้ว จะเหลือเงินอยู่ที่ประมาณ22,000-23,000 บาท ค่ะ
ซึ่งจะหักเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว(รวมถึงลูก) 10,000 บาท และจะเก็บสะสมเพื่อ H/C เดือนละ 12,000 บาทค่ะ

หากมีข้อแนะนำเพิ่มเติม ขอความกรุณาด้วยนะคะ เพราะว่าคิดเยอะคิดไปคิดมา เพราะกลัวตัดใจสินผิด แล้วกลัวว่าสถานการณ์จะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมค่ะ

ยอดหนี้ที่หยุดชำระรวม 455,000 บ.
หากคุณหยุดชำระทั้งหมดคุณเก็บเงินได้ 12,000 บ.
1 ปี เก็บได้ 144,000 บ.
2 ปี เก็บได้ 288,000 บ.
โดยเฉลี่ย ผมจะเป็นเขาฟ้องศาลกันประมาณ 1 ปี ขึ้นไป ถ้าดูจากยอดแล้วคุณหน้าจะแฮร์คัทได้บางส่วน เพราะขนาดลดให้ 50% ยังขาดนิดหน่อย ยังไม่รวมดอกเบี้ย
เดินหลังหยุดชำระนะครับ แต่อย่าไปคิดไรมากช่างมัน ถ้าคุณโชคดีบางตัวฟ้อช้า ก็จะเก็บเงินได้เพิ่มขึ้นครับ ค่อยไปยอมความหน้าศาลเอาถ้าได้ข้อเสนอผ่อนดีๆ
หรือหาโครงการไกล่เกลี่ยเข้าเอาครับ จะได้ไม่ไปถึงอายัดเงินเดือนครับ แต่การอายัดเงินเดือนก็ไม่ได้หน้ากลัวอยางที่คิดครับ

ของเราหยุดจ่ายไปเลยค่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะ กำลังใจสำคัญมากจริงๆค่ะช่วงนี้

kengza เขียน:

zomohxx เขียน: ขอบคุณสำหรับข้อมูลและคำแนะนำค่ะ ขอเพิ่มรายละเอียดรายได้ดังนี้ค่ะ 
1.รายได้รวมอยู่ที่ 35,000 บาทค่ะ
2.ตอนนี้ส่วนของการผ่อนรถ แฟนจะรับไปผ่อนให้ค่ะ รายจ่ายจะลดไป 11,000 บาทค่ะ 
จึงวางแผนรายได้หลักหักค่าบ้าน , ค่ากองทุน ,ปกส และอื่นๆ กับทางบริษัทแล้ว จะเหลือเงินอยู่ที่ประมาณ22,000-23,000 บาท ค่ะ
ซึ่งจะหักเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว(รวมถึงลูก) 10,000 บาท และจะเก็บสะสมเพื่อ H/C เดือนละ 12,000 บาทค่ะ

หากมีข้อแนะนำเพิ่มเติม ขอความกรุณาด้วยนะคะ เพราะว่าคิดเยอะคิดไปคิดมา เพราะกลัวตัดใจสินผิด แล้วกลัวว่าสถานการณ์จะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมค่ะ

ยอดหนี้ที่หยุดชำระรวม 455,000 บ.
หากคุณหยุดชำระทั้งหมดคุณเก็บเงินได้ 12,000 บ.
1 ปี เก็บได้ 144,000 บ.
2 ปี เก็บได้ 288,000 บ.
โดยเฉลี่ย ผมจะเป็นเขาฟ้องศาลกันประมาณ 1 ปี ขึ้นไป ถ้าดูจากยอดแล้วคุณหน้าจะแฮร์คัทได้บางส่วน เพราะขนาดลดให้ 50% ยังขาดนิดหน่อย ยังไม่รวมดอกเบี้ย
เดินหลังหยุดชำระนะครับ แต่อย่าไปคิดไรมากช่างมัน ถ้าคุณโชคดีบางตัวฟ้อช้า ก็จะเก็บเงินได้เพิ่มขึ้นครับ ค่อยไปยอมความหน้าศาลเอาถ้าได้ข้อเสนอผ่อนดีๆ
หรือหาโครงการไกล่เกลี่ยเข้าเอาครับ จะได้ไม่ไปถึงอายัดเงินเดือนครับ แต่การอายัดเงินเดือนก็ไม่ได้หน้ากลัวอยางที่คิดครับ

ตอนนี้ภาวนาขอให้เปิดโครงการ คลินิคแก้จน เฟส 6 อช้วขอให้เข่าเงื่อนไขของโครฃการค่ะ จะได้ยกภูเขาออกจากอกค่ะ ตอนนี้พยายามให้กำลังใจตัวเองในทุกๆวันค่ะ

ตอนนี้ก็เป็บแบบนี้อยู่ค่ะ กำลังตัดสินใจว่าจะหยุดเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้ชำระมา2-3งวดแล้ว จะเริ่มชำระงวดแรกหลังจากหยุดไป เจ้าหนี้โทรมาทุกวันช่วงแรก หลังๆบางเจ้า อาทิตย์ละครั้ง 2ครั้ง ตอบว่าไม่มีก็ไม่ยอมวาง ไม่รู้จะตอบยังงัยแล้วเหมือนกันค่ะ