freedom_life ชีวิตอิสระ...

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8483 โดย freedom_life
สวัสดีครับ _/l\_ (กลับ) มาใหม่น่ะครับแต่ว่าหน้าเก่า ^^
หลงทางเข้าบ้านไม่ได้ หายไปนานมว๊ากกกกก นานจนสาวแก่แม่หม้ายแถวนี้ออกเรือนลงคานกันไปเกือบหมดแล้ว หะหะ
หากระทู้ตัวเองไม่เจอจากเว็บเดิม ทำไงดีน๊อ จะได้กระทู้เดิมกลับคืนมา จะได้ไป copy มาวางไว้ครับ คงต้องหวังพึ่งพาคุณเว็บ-มาด-สะ-เตอร์ แล้วเด้อครับเด้อ :)

อ่ะใครจำกันได้บ้างส่งเสียงหน่อยเร้วววววว วันนี้หม่ามี๊ poopae โทรมาจิกเป็นรอบที่ห้าสิบสาม ให้กลับมาเข้าบ้านด่วนเพราะเปิดทางจนโล่งแล้ว หากไม่เข้ามาโดนคาดโทษไว้
เลยต้อง (แอบ) มาสมัครสมาชิกใหม่ให้ผ่าน จนสำเร็จ โย่ว โย่ว

กลับมาครานี้ มาจัดหนักบรรดาพวกเจ้าหนี้พวก IEห่านจิก ทั้งหลาย รวมถึงเดินตรวจแถวเขกหัวสมาชิกใหม่เล่น อิอิ อ้อ !! ปากจัดกว่าเดิมนะรอบนี้ เพราะว่าบรรดาลูกๆ ที่ฟูมฟักไว้ในปาก
เริ่มโตๆ กันหมดแล้วอยากออกกำลังกาย ^^

คืนนี้หากว่างไม่มีใครชวนทำการบ้านจะกลับมาต่อนะฮาฟฟฟฟท์

รักและคิดถึงทุกท่าน (จริงๆ)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8485 โดย Lyncns31
ไม่อยากเชื่อเลยนะ...ระดับนี้..กลับบ้านไม่ได้...ผมตะโกนหาคุณหลายทีแล้วนะ...

^^ ^^

นี่..กระทู้คุณ....จำชื่อได้ป่ะ???


สวัสดีครับเพื่อนๆ สมาชิก ปีใหม่นี้ผมเริ่มชีวิตใหม่ ด้วยการปิดหนี้บัตรเครดิต ให้กับตัวเอง ตัวสุดท้ายปิดไปวันที่ 29 ธ.ค. ด้วยวิธี H/C ที่ได้รับความรู้จากในชมรมนี้ทั้งหมด

ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า หากปิดหนี้ได้สำเร็จจะเขียนเพื่อเล่าประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆ ในชมรมได้ทราบ หากว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสมาชิก และวันนี้ผมก็ทำได้สำเร็จแล้วครับ !!!!

ขอแจ้งข้อมูลหนี้ไว้ก่อนว่าทั้งหมดมีอยู่เท่าไหร่

1. สแดนดาร์ดชาร์ตเตอร์-บัตรเครดิต SCBT - 35,154.54
2. สแดนดาร์ดชาร์ตเตอร์-บัตรกดเงินสด SCBT - 41,154.71
3. ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงค์-บัตรเครดิต HSBC- 31,130.11
4. ธนาคารกสิกรไทย -บัตรเครดิต Kbank - 88,263.80
5. บัตรกรุงไทย-บัตรเครดิต KTC 90,163.15

ทั้งหมดรวม 5 ใบ ผมใช้ยอดจากการตรวจสอบที่เครดิตบูโร ว่าเดินไปเท่าไหร่แล้ว ซึ่งต้องไปตรวจสอบครับจะได้รู้สถานะว่าตอนนี้เราอยู่ในขั้นตอนไหนของบัญชีบัตรเครดิต แต่วงเงินตอนหยุดจ่ายผมจะแจ้งอีกครั้งตอนเขียนเส้นทางปิดหนี้แต่ละใบครับ

ปัญหาหนี้ที่มีอยู่ ผมเจอมาหมดแล้วเกือบทุกอย่างที่ขาดไปคือ การขึ้นศาล ผมไม่เคยไปศาลเลยเนื่องจากไม่เคยทราบว่ามีการฟ้องร้อง ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นว่าเราหละหลวมมากในการติดตามเรื่องของตนเอง ทำให้เสียสิทธิ์ที่ควรจะได้รับหลายเรื่อง

ผมเคยถูกอายัดเงินเดือน แล้วหนี แล้วเคยถูกอายัดเงินเดือนอีกครั้งแต่ก็สามารถทำ H/C ได้จนวินาทีสุดท้าย เลยอยากจะยืนยันว่า วิธีการของชมรมเราใช้ได้ผลครับ สำคัญที่ต้องมี
- กำลังความรู้พร้อม
- กำลังใจพร้อม และ
- กำลังทรัพย์พร้อม

หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ก็คงจะทำไม่ได้ โดยเฉพาะ กำลังทรัพย์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีวิธีการตจัดการอย่างไร ส่วนตัวผมใช้วิธี เก็บ เก็บ และก็ เก็บ เท่านั้นครับ

และแล้ว...หนี้ข้าก็สิ้นสุด..อิสรภาพมาถึงแล้ว.
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: freedom_life

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8488 โดย freedom_life
กี๊สสสสสส !!! คุณพี่นางฟ้าซาตาม เอ๊ย ซาตาน :laughing: มาเจิมกระทู้ให้พ้มมมมแร้ววว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อหละครับว่าผมเข้ามาบ้านไม่ได้จริงๆ หลงไปนู่นนั่นนี่หลายรอบ จนทำใจแล้ว :pray:

แต่หม่ามี๊ poopae เค้าไม่ยอมอ่ะ หาทางลากมาจนเจอที่นี่ แต่ก็ดันสมัครสมาชิกไม่ได้เพราะว่าชื่อนี้มีคนใช้แล้ว :sweat: วันนี้ได้ทางคุณ Anakin เปิดทางให้เลยเข้ามาได้นี่หละครับ เข้ามาแล้วก็งงอยู่พักนึง จะเริ่มอะไรตรงไหนเนี่ย คงเป็นเพราะใช้งานจาก tablet ฮุ ฮุ เลยเอ๋อเหร๋อกันไปหมด

ขอบคุณมากครับที่มาทักทายพร้อมกับนำกระทู้แรกมาวางไว้ แต่เชื่อป่ะว่าผมยังหาไม่เจอ :wake:
เด๋วจะลองดูอีกทีครับ

แป่วววว ลองหาดูเกือบครึ่งชั่วโมงก็หาไม่เจออ่ะพี่เหนออออออ ช่วยพ้มมมด้วยอยู่ตรงไหนครับ ลากลิ้งค์มาเลยยยยยค๊าบบบ

โย่ว โย่ววววววววววววววว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8492 โดย june


ลูกชายสุดที่รักของหม่ามี๊เรียกคนช่วยผิดคนแล้วล่ะ ต้องให้น้องอนาคินขั้นเทพ

ช่วยแล้วนะคะ แต่เอ !!! บอกไปแบบนี้ไม่รู้ว่าพี่เหนอแกจะโกรธหม่ามี๊หรือเปล่า

ก็ไม่รู้สินะ... ^^ ^^ ^^



แต่ก่อนอื่นต้องขอต้อนรับการกลับมาบ้านของเราก่อน ขอบคุณนะคะที่ไม่ลืมกัน :love: :love: :love: [/color]


รักษาเกียรติของคุณไว้
เมื่อได้รับการปฏิบัติอย่างไม่สุภาพ...
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Lyncns31, freedom_life

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8501 โดย Lyncns31
คุณน้อง...

ไม่ต้องไปค้นหาหรอก..กระทู้คุณมันตกทะเลไปแล้ว..ตอนน้ำท่วม...บอร์ดล่ม..ข้อมูลหายไปสองปี

ผมเซฟไว้...ก่อนมันล่ม...ต้องถามอนาคินว่ามีรึเปล่า?ผมมีหน้าเดียว...ถ้าไงผมจะเมล์ให้....เป็นเพจ :) :) :)

แต่ต้องลงทีละกระทู้นะ...ไหวมั้ย...หรือไม่ก็ตัดต่อเอา....?ผมลงให้ก็ได้..เอาแต่เนื้อนะ...

เอาไงก็ขอให้บอก..... :cheer: :cheer: :cheer:

และแล้ว...หนี้ข้าก็สิ้นสุด..อิสรภาพมาถึงแล้ว.
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: freedom_life

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8503 โดย freedom_life

@หม่ามี๊ ขอบคุณมากมายครับ มาต้อนรับชุดใหญ่เลย ฮุ ฮุ ไม่รับปากนะว่าจะไม่หายไป เพราะช่วงนี้ก็ยังยุ่งๆ อยู่ครับ วันนี้รู้สึกว่าตัวเองแย่มากที่ละทิ้งเว็บไปนานเลย ทิ้งงานมาสมัครใหม่ครับ

@ท่านพี่นางฟ้าซาตาน จำได้เลือนลางว่าหน้าแรกยังไม่จบเรื่อง อิอิ เพราะผมเวิ่นเว้อหนักมาก กว่าจะครบทุกใบคนติดตามอ่านก็ปลดหนี้หมดแล้ว ^^ ^^ แต่หากจะกรุณาส่งมาทางอี เอ๊ย น้องเมว ก็ยินดีครับ เด๋วผมคัดลอกมาลงก่อน

@ ท่านเว็บมาสเตอร์ กรุณาผมด้วยนะฮาฟฟฟท์ ส่ง link มาทางเมล์ก็ได้ ผมอยากเก็บไว้ให้เพื่อนๆ มาใหม่ได้อ่านน่ะครับ เขียนใหม่ไม่ไหว :cry2: :cry2:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8515 โดย freedom_life
ด้วยความกรุณาของคุณ Anakin และพี่ devil angel รวมถึงหม่ามี๊ Poopae ที่เป็นธุระให้หลายอย่างผมเลยได้ข้อมูลที่อยู่บอร์ดเดิมมาครับ ต้องขอขอบคุณทุกท่านด้วย หากผมลงข้อมูลเดิมหมดแล้วจะเริ่มเขียนต่อครับ สำหรับสมาชิกใหม่ที่เพิ่งรู้จักกัน หรือ บางท่านที่ผมไปตอบกระทู้ด้วยความดุเดือด ลองเปิดใจอ่านดูเรื่องราวผมก่อน แล้วบางทีอาจจะเข้าใจผมได้บ้าง ในกระทู้ห้องเล่าชาวหนี้ ผมไม่โหดหรอกครับ แค่เหี้ยม ฮิ ฮิ
:love: :love:


ขอต่อจากที่ป๋านางฟ้าซาตานนำมาลง ณ บัดนาวววววววววว

มาเริ่มเดินทางย้อนอดีตกันสักนิดหนึ่งครับ กับเส้นทางสู่ freedom life ของผม
หนี้ที่เกิด นั้นมาพร้อมๆ กับการได้งานทำหลังจากเรียนจบ ก็เริ่มทำงานเลย กว่า 10 ปีมาแล้ว อิอิ จริงๆ เงินเดือนตอนนั้นยังไม่ถึงขึ้นที่จะทำบัตรได้ แต่พี่สาวที่ทำงานก็สุดแสนจะใจดีเห็นน้องชายอยากจะมีบัตร ก็หาทางซิกแซกจนได้มาครอบครองกับเค้าด้วยเช่นกัน จำได้แม่นว่าเป็นบัตรเครดิตใบแรกของชีวิต คือ KTC และต่อมาก็กลับกลายมาเป็นบัตรใบสุดท้ายที่ปิดได้

ได้บัตรมาก็ประเดิมด้วย พวกเสื้อผ้า น้ำหอม เหอๆ รูดเพลินสุดๆ แต่ที่หนักกว่าคือ เข้าร้านเหล้า เพื่อนไม่มีแต่กรูมี กรูร๊ากกกพวกมรึง รูดให้ แต่ตอนสร่าง เห็นแต่สลิป เหอะๆ หนักๆ เข้าใกล้สิ้นเดือนเงินไม่พอ ก็กดเงินสด

ชีวิตเป็นแบบนี้วนเวียนไปเรื่อยๆ จนได้บัตรเครดิตมาเพิ่มอีกหลายใบ และก็ไม่เคยมีความรู้เรื่องจ่ายขั้นต่ำ อย่าทำเพราะยิ่งจะเป็นดินพอกหางหมูไปอีก ตอนหลังๆ ที่เห็นหมายศาลฟ้องมา ก็ไล่ดูข้อมูลจากรายการที่ใช้จ่ายไป ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการกดเงินสดออกมาแทบทั้งสิ้น

หนักๆ เข้าก็จ่ายไม่ไหว เลยหยุดจ่าย ตอนนั้นที่หยุด ก็ไม่ได้มีความรู้หรอกนะครับว่าเราทำถูกแล้วที่หยุดจ่าย
พอช่วงหยุดจ่าย โอ้โห !!! ก็มีงานให้พวกห่านจิกสิครับ จิกกันใหญ่ เช้าสายบ่ายเย็น สารพัดกลวิธีที่จะทำได้ ผมก็ถอดสายโทรศัพท์ที่ทำงานออกเลย หรือไม่ก็ฟังเสียงเอาว่าสายไหนสายนอก สายไหนสายใน ค่อนข้างหวาดผวาเลยล่ะ ถามถึงชื่อ ก็จะบอกว่าไม่อยู่ ไม่มีชื่อนี้อยู่ ลาออกไปแล้ว ก็เรียกว่าใช้ทุกวิถีทางเลย

ต่อมาก็มีจดหมายเข้าที่ทำงาน สมัยนั้นยังประจานกันอยู่ ตราแดงที่ประทับ มีเป็นประจำทั้งที่หอและที่ทำงาน หนักๆ เข้าก็ส่งไปที่บ้านต่างจังหวัดจนพ่อแม่ร้อนใจ เราก็อธิบายให้เค้าฟัง แล้วก็บอกว่าอย่าไปเก็บไว้ เผาไปเลย

เรียกว่าหนีหนี้ทุกทางที่สามารถทำได้ แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจ มันค้างคาใจอย่างบอกไม่ถูก และก็เคยถูกอายัดเงินเดือนด้วยครับ อายัดได้ประมาณสามสี่เดือน ก็ได้งานใหม่ เลยตามอายัดต่อไม่ได้อีก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหนีหนี้ได้นะครับ เค้าก็ยังสืบเสาะหาเราจนเจอ ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องหนี้อีกเช่นเคย ก็ปล่อยปละละเลย ไม่ให้ความสนใจที่จะแก้ไขหนี้ ระหว่างนั้นก็มีเรื่องฟ้องแล้วมาแล้วแต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ จะฟ้องก็ฟ้องไป ที่เห็นก็มีสามใบเลยที่ฟ้อง และไม่เคยได้ไปศาลเลย เพราะหมายศาลมาที่บ้านต่างจังหวัด และที่บ้านก็ไม่ได้แจ้งอะไร ถึงแจ้ง เราก็ไม่สนใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่พลาดมากๆ

ช่วงที่หยุดจ่ายมา ก็ใช่ว่าจะมีเงินเหลือนะครับ ก็ใช้ชีวิตแบบฟุ้งเฟ้อต่อไปเรื่อยๆ ไม่เก็บเงินเอาเลย ไม่เคยมีเงินเก็บ โบนัสอะไรออกมา ก็เล่นแร่แปรธาตุไปเป็นข้าวของเครื่องใช้ซะหมด จนวันหนึ่งครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้ ลอง serch ใน internet หาวิธีการแก้ไขหนี้ ก็มาเจอชมรมหนี้บัตรเครดิตนี้เข้า ตั้งแต่สมัยยังเป็นบอร์ดสีส้มๆ อยู่ ก็ตื่นเต้น ตะลุยอ่านไปเรื่อยๆ ได้ข้อมูลและเทคนิคเยอะแยะ

เลยเริ่มรวบรวมเอกสารต่างๆ ไว้และเริ่มจดรายละเอียดหนี้ต่างๆ ที่มีและให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้มากขึ้น เพราะว่าทำงานมาหลายปีแล้วยังแก้ไขหนี้ต่างๆ ของตัวเองไม่ได้เลย ตอนนั้นทำงานธนาคารด้วยแต่กลับกลายมาเป็นหนี้ซะเอง แนะนำคนอื่นได้ แต่กับตัวเองไม่สามารถแก้ไขชีวิตได้เลยรู้สึกไม่ดี เหมือนเราโกหกลูกค้าด้วย

และโชคดีได้งานที่ใหม่ เงินเดือนเพิ่มขึ้นด้วยเลยคิดว่าจะแก้ไขหนี้อย่างจริงจัง แต่ช่วงนั้นพวกห่านจิก ก็มีความพยายามสูงส่ง หาจนเจออีก โทรกระหน่ำทั้งที่ทำงาน โชคดีที่โทรศัพท์ประจำโต๊ะสามารถโชว์เบอร์ได้ ก็เลยรู้ ก็กดปิดเสียงซะ อิอิ แม้จะมีความรู้ว่าควรจะรับสายและตอบกลับด้วยวิธีไหน ก็ไม่ได้ทำ เพราะอายน้องๆ ที่นั่งๆ อยู่ด้วยกัน ก็ยังวนเวียนเจอจดหมายทวงหนี้และโทรศัพท์จิกอยู่เช่นเดิม....

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8516 โดย freedom_life
เหนื่อยกันหรือยังครับ......เขียนซะยืดยาว ยังปิดไม่ได้ซักใบ 555 จะเริ่มปิดแล้วล่ะครับใบแรก

ใบแรกเป็นของบัตรเครดิตสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ เป็นเจ้าแรกที่รู้ว่าเปลี่ยนงานมาใหม่ Eน้องห่านจิกคนนี้ก็จิกได้จิกดี จิกมันทั้งวัน จนไม่เป็นอันทำงาน ช่วงนั้นเริ่มจะแสดงอิทธิฤทธิ์ได้แล้วเพราะมีวิชาจากชมรม อิอิ รู้เลยว่า Eน้องห่านคนนี้คนเดิม จำเสียงได้เพราะว่าจะเป็นเสียงคนใต้พูดติดสำเนียงทองแดง โทรมาก็จะโดนผมด่าตลอด บอกว่าหากโทรมามากๆ แล้วนายรู้ ตกงานจะเอาเงินที่ไหนมาให้ มือถือมีทำไมไม่โทร โทรเข้าที่ทำงานอีกจะโดนดีนะ.... ก็ได้ผล ไม่มีโทรเข้าที่ทำงานอีกแร่ะ

แต่....นางก็ไม่หยุดกระหน่ำโทรมาที่เบอร์โทรศัพท์มือถือ ทั้งโทรทั้งฝากข้อความเสียงน่าคำราญมาก เจรจาให้ลดหนี้ลง ก็ไม่ได้ต้องจ่าย จะฟ้อง จะอายัดเงินเดือน ก็เลยสั่งสอนไปชุดใหญ่ หนักเข้าๆ นางไม่ยอมหยุด เลยโทรไปที่สำนักงานตามหนี้ซะเลย ชื่อว่า สำนักงานกฏหมายกอบัว เอ๊ย กอเงิ.... แจ้งว่าถูกรบกวนจากการทวงหนี้แบบไร้มารยาทจากพนักงานชื่อ......นามสกุล..................... โทรมาใช้น้ำเสียงและคำพูดไม่ดี จะให้ใช้หนี้อย่างเดียว อยากจะใช้หนี้ปิดบัญชีเหมือนกัน แต่หากเป็น Eน้องห่านจิกคนนี้โทรมาจะไม่ตกลงใดๆ ทั้งสิ้นให้เปลี่ยนคนตาม แล้วค่อยเจรจา และขอเป็นระดับหัวหน้างานเท่านั้น

ได้ผลครับ เปลี่ยนคน แต่หนักกว่าเดิม ครั้งนี้เป็นไอ้ห่านจิกบ้าง 555 น้ำเสียงเหมือนเดิมมาแนวทองแดงอีกแร่ะ พูดและฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง จับได้ว่าเป็นเด็กใหม่ พูดได้ประโยคเดียวว่า "ไม่ได้ครับ ต้องจ่ายเต็ม" วนเวียนอยู่แบบนี้ เสนออะไรไปก็ไม่เคยได้ ขยันจิกไม่แพ้พี่มันเหมือนกัน จนรำคาญ ของขึ้นโทรเข้าไปสำนักงานขอสายหัวหน้าของ E และ ไอ้ ห่านจิก บอกว่าจะจ่ายหนี้ปิดบัญชีแต่ลูกน้องที่โทรตาม "โง่" คุยไม่รู้เรื่อง พูดเป็นประโยคเดียวแบบนี้จะจ่ายหนี้ได้อย่างไร ขอสายหัวหน้า หากไม่ได้ก็ไม่ต้องเอาโทรมาอีกจะปิดเครื่องหนีล่ะนะ

ได้เรื่อง นังหัวหน้าก็ยอมรับสาย ผมก็สั่งสอนและด่าลูกน้องให้นังคนนี้ฟัง อืมม....นังนี่ก็ใช่ย่อย มิน่าลูกน้องถึงได้เป็นแบบนี้ (หากมาแอบอ่านอยู่จะรู้ตัวหรือเปล่าเนี่ย 555) ยื่นคำขาดไปด้วยว่า บัตรใบนี้เปิดใช้ตั้งแต่ปี 2003 หยุดจ่ายหลังจากนั้นไม่เกินปี หนี้ทั้งหมดเท่าที่จำได้ใช้ไป 32,000 (เต็มวงเงิน) ก่อนหน้านี้ก็จ่ายให้ตลอด แต่ก็ไม่ได้ลดเงินต้นอะไรเลย จะเอายังไงตอนนี้

ก็เสนอให้จ่ายมาที่ 30,000 บาทถ้วนพร้อมปิดบัญชี เลยบอกไปว่า "ไม่รู้ว่าใครกินหญ้ากันนะ หากผมไปจ่ายยอดนี้เนี่ย เป็นถึงหัวหน้าทวงหนี้มีอำนาจลดได้แค่นี้เองเหรอ ? "

ไปทำข้อเสนอมาใหม่ หากจะให้ปิด นางก็กลับไปแล้วกลับมาด้วยยอดที่ลดลงอีกเป็น 25,000 ก็เลยถามว่า "เหนื่อยหรือเปล่าตามหนี้จากผม" นางก็หัวเราะ เลยบอกไปว่า "รู้หรือเปล่าว่าทำไมต้องติดต่อเข้าไปที่สำนักงานแล้วอยากจะคุยกับคุณ เพราะผมอยากจะจ่ายหนี้ให้ไง แต่คุณก็คุยไม่รู้เรื่องเหมือนลูกน้องคุณ จะบอกให้ว่า บัตรใบนี้ผมหยุดจ่ายปี 2003 แล้ววันนี้มันปี 2009 กี่ปีมาแล้ว คุณไปถามข้อมูลใน สนง. คุณนะว่าคุณสามารถและไม่สามารถทำอะไรผมได้ แล้วค่อยคุยกัน"

หายไปอีกนานเลยกว่าจะโทรมา บอกว่า เต็มที่สองหมื่นนะคะคุณ feedom life ดิชั้นช่วยได้เท่านี้เอง ก็บอกไปว่า "โอเค จบ คุณไม่ต้องติดต่อมาหาอีกแล้วล่ะ เพราะว่าคุณไม่เคยรู้รายละเอียดลูกหนี้เลย และคุณน่าจะเปลี่ยนอาชีพด้วย ทำต่อไปก็ไม่รุ่งแน่ๆ แค่นี้นะครับ " แล้ววางสาย ต่อให้โทรมาอีกกี่รอบก็กดรับแล้วบอกว่า ไม่คุย

เลยเป็นฝ่ายค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของคนที่เป็นผู้จัดการจริงๆ ซึ่งเทคนิคนี้ไม่ยากหรอก เส้นผมบังภูเขา อิอิ แต่ไม่บอก ณ ที่นี้ครับ พวกเจ้าหนี้มาอ่านเยอะ เด๋วรู้ทัน เหอๆ ก็จนได้คุย คนนี้คุยรู้เรื่อง เลยบอกไปว่า " จริงๆ แล้วอยากจะจ่ายปิดให้เลยไม่อยากให้มานั่งโทรตามกัน หนี้ก็กว่า 6 ปีมาแล้วคุณฟ้องไป ผมก็ยื่นคำร้องหมดอายุความเท่านั้นเอง (อายุความฟ้องกี่ปี ลองค้นหาเองนะครับ บอกไปก็จะลืมกัน หากหาคำตอบเองจะจำได้แม่นครับ) ผมไม่สนใจเรื่องเครดิตบูโรอะไรนั่นด้วย (แต่จริงๆ สนนะ ) ฟ้องไปผมก็มีข้อมูลจากคุณที่ยื่นฟ้องนี่แหละ แก้ไป ยังไงศาลก็ยกฟ้อง คุณก็รู้ ผมก็รู้ "

คนนี้ก็เลยบอกว่า ทางผมปิดได้ที่เท่าไหร่ ผมบอกไปว่า เจอกันครึ่งทางละกันนะ จากยอดเดิมที่เคยให้มา ผมขอจ่ายที่ 10,000 บาทและขอจ่ายสองงวด หากคุณทำได้ ก็ส่งหนังสือยืนยันส่วนลดนี้มา ผมพร้อมไปจ่ายให้ทันทีวันนี้แหละห้าพันเลย

ก็ไม่เห็นจะยากครับ คุยถูกคนและคุยกันด้วยเหตุและผลดีๆ ผมก็ได้หนังสือยืนยันส่วนลดในอีกหนึ่งสัปดาห์ วันนั้นได้เป็น fax ผมตรวจดูรายละเอียดแล้วก็ระบุข้อความสำคัญถูกต้อง (ถูกต้องยังไง ใช้ปุ่มค้นหา หรือ ไปสืบเสาะเอาที่ห้องนิทรรศการเอกสาร เอาเองนะครับ มีเยอะ) ก็ไปจ่ายให้เค้า อีกเดือนถัดมาก็ไปจ่าย จำได้ว่า เดือนแรกที่ไปจ่ายคือ พฤศจิกายน 2009 และเดือนต่อมาคือ ธันวาคม จริงๆ แล้วก็จ่ายงวดเดียวได้แหละ แต่อยากจะลองว่า ทั่วๆ ไปยอดหนี้ที่ลดมันผ่อนจ่ายได้หรือเปล่า ก็ได้ครับ อยู่ที่ว่าเราใช้ความรู้จากเพื่อนๆ ในชมรมได้มากแค่ไหน

เดือนถัดมา ผมก็ได้หนังสือแจ้งปิดภาระหนี้อย่างถูกต้องส่งทางไปรษณีย์อีกครั้ง ก็ถือว่า จบได้อย่างสวยงามเหมือนกันครับ ปิดได้ใบแรก หัวใจพองโตเลยทีเดียว เข้าใจความรู้สึกของการยกภูเขาออกจากอกได้เลย แม้ว่าจะเป็นภูแรก ก็ตาม

ได้หนังสือปิดมา ผมก็ถ่ายสำเนา จัดเก็บเข้าแฟ้ม พร้อมกับหนังสือยืนยันส่วนลดและสลิปใบจ่ายเงิน เย้ๆๆๆๆๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8517 โดย Lyncns31
หน้าเดียวก็จบแล้ว....

ถึงอีตอ...เคทีซี..ใบสุดท้าย...ผมมีหน้าสองด้วย...หยอกๆเย้าๆกันซะละมาก..

เดี๋ยวส่งให้นะ...รอแป๊บนึง...ลิงก์เก่า(ไฟร์บอร์ด)มันเจ๊งไปแล้ว...ได้แต่ข้อความกับภาพบางส่วน

จะลองดูนะ...

What you say? Anakin,any available help?

เห็นแว๊บเข้าแว๊บออก...ไม่ได้รีเฟรข....โพสไม่ทัน..ยกเลิกนะ..(ลบไม่ได้)

และแล้ว...หนี้ข้าก็สิ้นสุด..อิสรภาพมาถึงแล้ว.
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: freedom_life

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8518 โดย freedom_life
หลังจากปิดใบแรกได้แล้ว ก็มีความมั่นใจขึ้นมาเรื่องการรับมือกับเจ้าหนี้ทั้งหลาย และทำให้รู้ว่าหากเรามีข้อมูลและความรู้ ยิ่งมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งจะได้เปรียบมากยิ่งขึ้น ผมเลยเข้ามาศึกษาและเรียนรู้วิธีต่างๆ จากในชมรม หลักๆ เลยคือ ตะลุยอ่านกระทู้ปักหมุด ที่ควรจะรู้ อย่าคิดว่าอ่านรอบเดียวแล้วจะทำได้ พอถึงเวลาจริงๆ แล้วทำไม่ค่อยได้หรอกครับจะตะกุกตะกัก ทำอะไรไม่ค่อยถูก และก็จะหลงกลพวกทวงหนี้ไปซะ

ผมจะไม่ใช้วิธีตั้งกระทู้ถาม เพราะเคยตั้งไปแล้วปรากฏว่าไม่มีคนมาตอบ คงจะเหมือนกันกับที่เราเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ คือ คำตอบมันมีอยู่แล้วแต่เราไม่พยายามหาเอง ไม่มีใครมานั่งป้อนให้ เป็นความรับผิดชอบส่วนตัวหากเราอยากแก้ไขเรื่องหนี้ เราก็ต้องขวนขวายแก้ให้ได้ด้วยตัวเอง โดยอาศัยความรู้ที่มีอยู่ในเว็บด้วยการอ่านและอ่าน ไม่ใช่ ถาม และ ตั้งกระทู้ ไปวันๆ

ผมเริ่มแยกหนี้เป็นบัตรเครดิตและวงเงินสินเชื่อ ออกจากกัน และพยายามรวมรวมเอกสารที่พวกมันขยันส่งกันเหลือเกินมาให้ จนเริ่มจับได้ว่า ถึงระยะเวลาหนึ่งจะเปลี่ยนบริษัททวงหนี้ไปเรื่อยๆ เพราะเคยโทรไปถามตามจดหมายปรากฏว่าให้ติดต่อไปอีกที่หนึ่ง แต่เค้าจะไม่บอกเราว่าเป็นบริษัททวงหนี้

พอเริ่มแยกข้อมูล ก็จะเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่เราละเลยไปเกี่ยวกับปัญหาหนี้บัตรเครดิตร อาทิ ยอดหนี้ที่ไม่รู้ว่าเป็นเท่าไหร่ สำนักงานกฏหมายไหนที่รับผิดชอบเรื่องของเราอยู่ในปัจจุบัน สถานะของหนี้เป็นอย่างไร ณ ตอนนี้ มืดแปดด้านเลย วิธีลัดก็คือ ต้องโทรไปสอบถามที่ ธนาคาร หรือสถาบันที่เป็นเจ้าของบัตร แล้วได้ข้อมูลมาก็ต้องจดไว้ทุกครั้ง

ที่ทำให้ต้องหันมาตั้งเป้าหมายปิดบัตรเครดิตอีก 4 ใบให้ได้ในปี 2010 คือ ผมอยากกู้บ้าน (หลายคนคงอยากจะด่า หนี้บัตรยังมีอยู่ยังจะหาหนี้เงินกู้มาเพิ่มอีก ) จริงๆ แล้วก็ถามตัวเองอยู่หลายรอบละครับว่าตกลงอยากจะได้บ้าน หรืออยากจะเคลียร์หนี้กันแน่ คำตอบที่ได้คือ ทั้งสองอย่าง และก็เป็นแรงฮึดให้เราอย่างดีเลยทีเดียว เหมือนเราตั้งจุดมุ่งหมายไว้แล้ว และก็จะแน่วแน่ในการหาทางไปสู่จุดหมายนั้น

บ้านที่ผมไปดูจะเสร็จประมาณเดือน ก.พ. หรือ มี.ค. ปี2011 โดยประมาณครับ ตอนที่ผมไปดูคือเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว คุยกับทางธนาคารแล้ว ยื่นกู้ผ่านที่เดียวคือ ธนาคารไทยเครดิต ซึ่งจะต้องจัดการเคลียร์บัญชีที่ติดค้างให้หมด ซึ่งหากทำได้หมดมีหนังสือปิด ก็กู้ผ่าน แต่ว่ามีข้อเสียคือ อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคารอื่นๆ ก็ต้องยอมรับเงื่อนไขตรงนี้ นี่แหละคือ เงื่อนไขที่บีบบังคับผมจะต้องเคลียร์หนี้ให้ได้ภายในเวลาครึ่งปีหลัง

ผมไปตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรก่อนครับ ว่าปัจจุบันนี้เราติดหนี้อะไรบ้าง ไปตรวจมาแล้วก็มีทั้งหมด 5 รายการและปิดไปแล้ว 1 รายการ คือ SCBT บัตรเครดิตใบแรกที่ปิดได้ มีรายงานออกมาแล้วว่า ปิดบัญชี ที่เหลือก็มีแต่บัตรเครดิตอีก 4 ใบ

ในข้อมูลรายงานของเครดิตบูโร จะทำให้เราทราบว่า ณ ตอนนี้เรามีหนี้ที่ไหนบ้าง สถานะเป็นอย่างไร ยอดหนี้ที่มี ณ วันที่ออกรายงานเป็นเท่าไหร่ รวมถึงข้อมูลสำคัญๆ เช่น
วันที่เปิดบัญชี (วันที่เปิดบัตร)
วันที่ชำระหนี้ครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญเรื่อง อายุความ เรานับได้จากข้อมูลส่วนนี้ แต่บางบัตรจะไม่ระบุ
วงเงินที่ได้รับอนุมัติ
ยอดวงเงินที่ใช้ไป ส่วนตัวผมสังเกตได้ว่า จะรวมพวกดอกเบี้ยไว้หมดแล้ว ยอดจะสูงกว่าวงเงินอนุมัติ
วันที่เริ่มต้นผิดนัดชำระ (ถ้ามี ) ของผม 5 ใบไม่ใส่ข้อมูลนี้เลย
สถานะปัญชี จะมีรหัส เช่น 30-อยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย หรือ 40-อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเราเองในการคุยกับพวกทวงหนี้ครับ เพราะมันจะมาหลอกเราไม่ได้ว่า ฟ้องแล้ว มีคำตัดสินศาลแล้ว หรือ ส่งเรื่องไปแล้ว ตอนนี้ระงับเรื่องไว้ มุขควาย ๆ พวกนี้จะใช้ไม่ได้ และส่วนใหญ่ ก็จะไม่ค่อยฟ้องหากไม่ถึงที่สุดเพราะจะมีค่าใช้จ่ายที่ทางโจทก์ หรือผู้ฟ้องต้องออกไปก่อน และบางทีคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ก็จะต้องเสียเงินอีกต่อให้กับสนง. กฏหมายในจังหวัดหรือพื้นที่นั้นๆ อีกที เรียกว่าเงินจะถูกแบ่งออกไปอีก

แต่ของผม พวกนี้ก็แน่เหมือนกัน เพราะกล้ามาก 555 กล้ามาฟ้องผมถึง 3 ใบใน 5 ใบ และเป็นเจ้าที่ขึ้นชื่อลืมชาด้านความเชี่...... ทั้งนั้น สู้กันมันส์เลยล่ะครับ


สรุปครับ ย่อหน้านี้อยากบอกแค่ว่า
1. หาความรู้ใส่หัวและตัวเยอะๆ โดยการใช้ปุ่มค้นหาในสิ่งที่อยากจะรู้ และอ่านกระทู้ปักหมุดหลายๆ รอบ
2. สำรวจข้อมูลหนี้ของตัวเองให้ครบ เรียงลำดับ แยกประเภทของหนี้ให้เป็นระบบ
3. หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไปตรวจสอบเครดิตบูโรซะ เพื่อให้รู้ข้อมูลหนี้ของตัวเอง

ทำได้ 1-3 ก็พร้อมจะปิดหนี้แล้วล่ะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8520 โดย freedom_life
ปิดใบที่ 2 แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด SCBT - บัตรสินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี ปิดง่ายซะยิ่งกว่าไปเข้าคิวโอนเงิน 555

บัตรใบนี้ นึกเท่าไหร่ ก็นึกไม่ออกว่าไปเป็นหนี้มันตั้งแต่เมื่อไหร่ เหมือนเค้าบอกหละครับว่า คนเป็นหนี้มักจะไม่ค่อยจำ แต่ไอ้คนที่ให้ยืมเนี่ย จำได้จำดี อาจจะเป็นที่ผมไม่ได้ใส่ใจกับภาระหนี้ของตัวเองมาตั้งแต่เริ่มด้วยก็ได้ เลยลืมไปหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเอาอย่างเลยครับ ก็คงจะกดเงินออกมาใช้นั่นหละ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว ใช้ไปเมื่อไหร่ น่ะเหรอ ตรวจจากรายงานเครดิตบูโร ที่ไปขอมา ก็โน่นแน่ะ ปี 2003 เช่นกัน สงสัยว่าจะได้มาพร้อมๆ กับบัตรเครดิตที่ปิดไปนั่นแล

ยอดเงิน แม่เจ้า ทำอะไรลงไป กรู สี่หมื่นกว่าบาท หายไปไหนหมดฟะ ????? คงจะใช้ไม่ถึงหรอก แต่ยอดในเครดิตบูโรแจ้งมาคือ ยอดนี้และเป็นยอดที่เค้าบอกว่าได้รับอนุมัติด้วยสิ ช่างหัวแม่คุณมันปะไร ก็จะปิดให้ได้ ทึกทักเอาเองอีกแล้วว่า ยอดใช้คงไม่เกินจากบัตรเครดิตหรอก (วะ) ตอนนี้มันโผล่เป็นสี่หมื่นกว่าก็คงจะบวกดอกเบี้ยไปแล้ว กี่ปีมาแล้วล่ะ อิอิ แต่ในรายงานยอดนี้ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น แสดงว่ามันหยุดเดินเหมือนกันแฮะ

ชักจะไม่ได้ความ เลยพยายามติดต่อไปจากจดหมายทวงหนี้ที่รวมรวมได้ เอาล่าสุดเลย ก่อนโทรก็ต้องตั้งสติ และเตรียมข้อมูลหนี้ไว้ให้พร้อม

"สนง. กฏหมาย......เหรอครับ คือผมจะสอบถามเรื่องปิดหนี้บัตรของแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ดน่ะครับ"
"ค่า...ขอทราบเลขที่บัตรด้วยค่า...." ก็ตรวจสอบไปตามระเบียบ

"อ๋อ....ของคุณ freedom life ตอนนี้เป็นยอด 41,xxx ค่ะ"
"คืองี้ครับ ผมเคยปิดของแสตนดาร์ดที่เป็นบัตรเครดิตกับเจ้าหน้าที่คนนึงของที่น่ะครับ เค้าให้คำแนะนำดีมากและให้ความช่วยเหลือผมอย่างดีเลย ก็เลยอยากจะมาปิดกับเค้าอีกนะครับ" (ใครว่าผู้ชายหน้าตาดีอย่าง freedom life สะตอไม่เป็น )

"เหรอคะ ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ชื่ออะไรคะ ?"

"เอ... จำไม่ได้น่ะครับ ปิดไปเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาไม่ได้จดไว้ด้วยสิครับ แต่จำได้ว่าปิดกับที่นี่แหละครับ"

"อืมมค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ แล้วจะปิดเท่าไหร่คะ"

"ตอนนั้นยอดหนี้พอกันน่ะแหละครับ ผมปิดไป 10,000 บาท จ่ายสองงวด แต่สำหรับใบนี้ผมมีอยู่ตอนนี้หนึ่งหมื่นครับ พร้อมปิดวันนี้เลย เพราะเจ้าหน้าที่คนนั้นเคยแจ้งว่าหากมีเงินพร้อมก็โทรมาได้จะช่วยทำเรื่องให้" นี่เป็นเทคนิคปิดการเจรจาขั้นเทพที่ได้จากชมรมนี้แหละ คุ้นๆ จากพี่กอบัว อิอิ

"โอ้โห ได้เยอะขนาดนั้นเลยนะคะ" แหง..สิ หลักฐานมีอยู่ในมือแล้วนี่เคอะ....555

"เอางี้คุณลองเขียนคำร้องมานะคะพร้อมแนบหลักฐานที่ปิดไปใบก่อนแล้วจะรีบดำเนินการให้"

"ได้ครับจะรีบทำให้ ไม่ทราบว่าส่งทาง fax ได้ป่าวครับ"

"ได้ค่า.....เบอร์.......ดิชั้นพรหล้านะเคอะ"

อ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านอาจจะคิดว่า เอ เคยอ่านเจอว่าไม่ต้อง fax ไม่ต้องส่งเอกสารใดๆ ไปทั้งสิ้นแล้วอีตา freedom เนี่ยมันมาไม้ไหนหว่า แหกกฏเค้าซะกระจุย ขอไรก็ให้

อิอิ .....ต้องนอกกรอบบ้างครับ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ แล้วจะบอกว่าการส่งเอกสารไปให้พวก สนง. พวกนี้มันก็ช่วยเราได้หลายเรื่องนะครับ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็ส่งไปเถอะครับ แต่คุณจะต้องขีด ฆ่าข้อมูลสำคัญๆ ของคุณไว้ หรือของบุคคลที่สามด้วย ผมก็เอาหมึกดำน่ะแหละขีดทับไป พร้อมกับเขียนคำร้องขอลดหนี้ ด้วยลายมือตัวเอง ไม่ได้พิมพ์แต่อย่างใด พร้อมกับเพิ่มเอกสารภาระหนี้อื่นๆไปอีกที่มี (ตรงนี้มีที่มาที่ไปครับ แต่เปิดเผยไม่ได้ เจ้าหนี้มาอ่านจะรู้ทัน 555 เจอผมที่งานชมรมถามได้ครับ พร้อมเอาเอกสารไปให้ดูด้วย)

แล้วผมก็ fax ไปให้คุณพรหล้าตามที่ต้องการ ประมาณสองวัน แอ่น แอ่น แอ๊นนนน ก็โทรมาบอกว่า
"คุณ freedom life คะ ยอดที่ขอไม่ได้นะคะ " อิอิ

"คือส่งไปแล้วเค้าไม่อนุมัติน่ะคะ บอกว่ายอดค้างสูงเกินไป"

"เหรอครับ บอกให้เค้าคนนั้นมาคุยสายได้หรือเปล่าล่ะครับ"

"เงียบ..............สักพัก ได้ค่ะๆ"

"สวัสดีค่า คุณ freedom life นะเคอะ ดิชั้นพรป้าค่าเป็นหัวหน้าพรหล้า" อ้อ ....นึกว่าใคร

"คืองี้ครับ ผมปิดบัตรเครดิตกับที่นี่ได้" จริงๆ แล้วไม่ใช่นะครับแต่อีกที แต่แกล้งทำมึนตาใส ผู้ชายก็แอ๊บแบ๊วได้นะครับหากจำเป็น 555 " แล้วเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำว่าหากรวบรวมเงินได้อีก บัตรกดเงินที่ยังค้างอยู่ก็จะช่วยปิดให้เหมือนกัน วันนี้ผมรวบรวมเงินได้แล้วและก็ส่งเอกสารที่เคยปิดได้มาให้เลยอยากจะปิดครับ"

"แต่ยอดมันต่างกันมากค่ะ ใบนั้นสามหมื่นห้า แต่ใบนี้สี่หมื่นหนึ่งนะคะ"

"มันต่างกันเพราะคุณบวกดอกเบี้ยไปเองน่ะสิครับ จริงๆ แล้วยอดค้างก็พอๆ กันผมเช็คจากเครดิตบูโรมาหมดแล้ว วันนี้ผมมีเงินพร้อมก็เลยอยากจะปิด หากคุณไม่เอาก็ไม่เป็นไร ผมเอาไปปิดใบอื่นๆ ก่อนก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจครับ หนี้ผมเยอะ 555 คุณไม่เอาคงมีสักที่อยากได้หละครับ"

"เอาอย่างนี้นะคะ ยังไงจะลองคุยกับผู้ใหญ่ (ใครวะ)ให้อีกครั้งนะคะ สรุปได้ยังไงจะแจ้งค่ะ"

ผ่านไปอีกสักสามวันได้มั๊งครับ ไม่ได้จดไว้ อิอิ คุณพรหล้า ก็โทรมา "คุณ feedom life คะ ข่าวดีค่ะ คือคุณพรป้า คุยกับผู้ใหญ่แล้วได้มาที่ยอด 11,500 ค่ะ"

"อ้าว คุยกันยังไงได้เงินมาเพิ่มอีกล่ะครับเนี่ย นึกว่าจะลดเหลือแปดพัน"

"(หัวเราะ)...คือยอดค้างสูงน่ะคะ ช่วยได้เท่านี้จริงๆ ยังไงหากวันนี้พร้อมจะออกหนังสือส่งไปให้เลยค่ะ"

"เฮ้อ .....พวกคุณนี่เหลือเกินจริงนะๆ พันห้าก็จะเอา คุยกับผู้ใหญ่หรือคุยกันสองคนกันแน่ครับเนี่ย อะไรจะปุปปับได้ไวขนาดนี้ "

คุณพรหล้าก็หัวเราะ เอิ๊กอ๊าก ชอบใจใหญ่ (หรือเมากัญชาหว่า)

"อ่ะ กล้าขอก็กล้าให้ครับ fax จดหมายมาด่วนเลยนะ พร้อมตัวจริงด้วย ได้มาเมื่อไหร่ก็จะไปจ่ายให้ทันที ยอดนี้นะครับ หากเป็นยอดอื่นผมไปจ่ายที่อื่นก่อนแน่ๆ"

และแล้ว ก็ได้มายอดที่ตกลงกันไว้ หลายท่านอาจจะบอกว่าทำไมยอมไปจ่ายเพิ่มล่ะอีก 1,500 จริงๆ ก็ไม่มีอะไรครับ คือ ทำแฮร์คัทเนี่ยมันก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเราเองและความพร้อมตอนนั้นด้วย สำหรับบัตรใบนี้ ผมคิดแล้วว่าได้ยอดมาขนาดนี้ผมก็โอเคมากแล้วล่ะ อีกอย่างเจ้าหน้าที่เค้าก็คุยกับผมแบบดีมาก ไม่กวน และรู้สึกว่าเค้าช่วยเหลือผมจริงๆ สัญญาวันไหนก็เป็นวันนั้น และหลังจากปิดบัตรไปนี้ไปผมยังโทรไปปรึกษาเค้าอีกหลายเรื่องเลยละครับ เกี่ยวกับการปิดบัตรเครดิต รวมถึงขอให้เค้าช่วยดึงเรื่องบัตรใบอื่นๆ มาที่สำนักงานกฏหมายเค้า หากทำได้

ผมเป็นประเภทคุยแบบสุภาพครับ ไม่ว่าจะมารูปแบบไหน ขอให้คุยแล้วรู้เรื่องพอ แต่หากไม่รู้เรื่องผมก็จัดหนักให้ได้เช่นกัน แล้วหากขู่ผม ผมก็ขู่กลับแบบวิชามาร ได้เช่นกัน จริงๆ แล้วงานที่ผมทำอยู่ผมก็เอามาใช้ได้เยอะในเรื่องการเจรจาครับ น้ำเสียงเป็นเรื่องที่สำคัญ อีกฝ่ายจะรู้ความต้องการเราได้หมด จากน้ำเสียง หรือวิธีการพูด คำพูดที่ใช้ ดังนั้นก่อนจะโทรผมจึงต้องตั้ง สติ ทุกครั้งและเตรียมข้อมูลไว้เสมอครับ และผมก็รู้จังหวะในการปิดเจรจาให้ได้ยอดเหมือนกัน บางทีถ่ายทอดตรงนี้จะลำบาก ต้องฝึกและหมั่นสังเกตครับ

จริงๆ แล้วเขียนมาถึงตรงนี้ ฝากบอกเจ้าหนี้-เจ้าที่ชอบทวงหนี้ทั้งหลายที่มา (แอบ) อ่าน ว่าเวลาคุณโทรมาก็คุยกันแบบที่ คน เค้าคุย กันไม่ใช่เอะอะก็ "เห่า" หรือ "กรรโชก" ใส่พวกเราทันทีที่รับสาย เราไม่รู้หรอกว่าวันหนึ่งๆ คุณไปทำแบบนี้กับลูกหนี้กี่รายและถูกเค้าทำกลับมากี่ราย แต่ส่วนใหญ่แล้วหากคุย กันแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา สักนิด ผมว่าเราคุยและตกลงกันได้แน่นอนครับ หนี้ที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เงินของพวกคุณ คุณเพียงแค่ รับจ้าง ทวง หากทวงได้ คุณก็ได้ เงิน จากก้อนนั้นด้วย

ทวงหนี้มีอยู่แค่สองคำครับ

"จ่าย" กับ "ไม่จ่าย" อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกแบบไหนให้เราเท่านั้นเอง ลองสังเกตดูก็ได้ครับ กลุ่มทวงหนี้ด้วยกัน ในสำนักงานของคุณ คนที่ทวงหนี้แบบให้คำปรึกษาและคุยกับลูกหนี้แบบเข้าใจ ช่วยเหลือ ไม่เอาเปรียบมากเกินไป กับทวงแบบที่ต้องการให้มีแต่ปัญหา แต่ละเดือนยอดทวงใครได้มากกว่ากัน ในชมรมนี้เราไม่หนีกันแล้วล่ะครับ แต่พวกเราพร้อมที่จะจ่าย แต่เราก็ "เลือก" ที่จะจ่ายกับคนไหนด้วยเช่นกัน
....นอกเรื่องไปซะไกล กลับมาที่บัตรใบที่สองครับ สุดท้ายผมก็ปิดได้และไปจ่ายรอบเดียวจบ ใช้เวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ตั้งแต่โทรครั้งแรก จนถึงจ่ายและได้รับหนังสือปิดภาระหนี้ ก็เก็บเอกสารทุกอย่างไว้อย่างดี ถ่ายเอกสารไว้กันเหนียวหนึ่งชุด เก็บเข้าแฟ้ม

มาถึงตอนนี้ กำลังใจผมพุ่งสูงปรี๊ดดดดดดดด เลยล่ะครับ 555 ก่อนที่จะแห้งแล้งในใบที่สาม......

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8522 โดย freedom_life
ใบที่สาม HSBC เข็ดขยาดกับห้องกรงแบงค์

ใบนี้ยืดเยิ้อมาก มีหมดทุกรูปแบบ ฟ้องศาล อายัดเงินเดือน สุดท้ายจ่ายไปจ่ายมามากกว่าเงินที่เอาของมันมาให้ซะอีก ทุกวันนี้หากมีเวลาก็จะเผาพริกเผาเกลือแช่งตลอด

บัตรใบนี้หลังจากหยุดจ่าย ก็ถูกทวงถามตลอด มีทั้งส่งจดหมายและโทรศัพท์ และโทรเข้ามารบกวนมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเลย แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมันไปฟ้องและรีบบังคับคดี จนมีหนังสืออายัดเงินเดือนมาที่ทำงาน ตอนนั้นก็อายัดเต็ม 30% ก็ปล่อยให้มันอายัดไป อายัดยอดรวมได้ประมาณ 23,000 กว่าบาท พอดีได้งานที่ใหม่ ก็เลยตามต่อไม่ได้

หลังจากนั้นจำได้ว่าเคยได้รับโทรศัพท์ทวงถามจาก สนง. กฏหมาย JMT ที่โค-ตะ-ระ here มากๆ เรื่อยมา แต่ก็ไม่อยากจะจ่ายให้มัน บอกว่าไหนๆ ก็ฟ้องจนอายัดแล้วก็ตามมาอายัดต่อก็แล้วกัน ขี้เกียจคุย มันก็ไม่ตาม ทำงานที่ใหม่ได้เกือบ 3 ปี ก็ย้ายมาทำที่ทำงาน ณ ปัจจุบัน มันก็ไม่ได้ตามเช่นกัน

แต่ที่ตัดสินใจจะปิดเพราะต้องการกู้บ้านอย่างที่เคยเขียนไว้ เลยติดต่อเข้าไปที่ สนง. กฏหมาย ซึ่งปัจจุบันได้ดิบได้ดีเป็นบริษัท เห็นว่าทวงหนี้ได้เป็นอันดับหนึ่ง แต่เบื้องหลังมาจากคราบเลือดและคราบน้ำตาของลูกหนี้ที่ถูกบังคับและทวงหนี้ด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ ถือว่า เป็นธุรกิจที่ทำนาบนหลังคนแล้วได้ผลดี อีกธุรกิจหนึ่งเพียงแต่ว่าถูกกฏหมาย จริงๆ แล้วธุรกิจประเภทนี้ควรจะเสียภาษีให้หนักๆ เพราะถือว่าไม่ได้ลงทุนอะไรมากมายในด้านของธุรกิจ เป็นการรับซื้อหนี้จากสถาบันการเงิน แล้วนำหนี้นั้นมาติดตามทวงต่อ ซึ่งจริงๆ แล้วทำให้ลูกหนี้เสี่ยเปรียบมาก

หากสถาบันการเงินให้ส่วนลด เท่าๆ กันกับที่ขายหนี้ให้กับบริษัทพวกนี้ ทำไม ลูกหนี้ที่อยากจะแก้ไขหนี้จะไม่สนใจ รู้สึกสะท้อนใจมาก กับระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ของบ้านเราที่เปิดช่องให้เจ้าหนี้เอาเปรียบลูกหนี้ได้มากมายเหลือเกิน

ติดต่อไปที่ JMT แล้วเจอกับพนักงานงี่เง่า ที่พูดจาภาษาคนไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ถูกบันทึกข้อมูลเข้าทางสมองที่มีอยู่น้อยนิด และพูดได้ไม่กี่ประโยค คือ "ไม่ได้" "ขึ้นอยู่กับธนาคาร" "ต้องจ่ายเต็ม" โทรไปกี่รอบๆ ก็เจอแต่แบบนี้ เลยโทรเข้า สนญ. ของพวกมันขอเบอร์ผู้จัดการที่ดูแลพวกทวงหนี้ บอกว่าจะจ่ายปิดบัญชีแต่ไม่อยากจะคุยกับพวกนี้ เพราะมันโง่ บอกไปแบบนี้จริงๆ ผมบอกว่า "ผมอยากจะจ่ายหนี้ที่มีอยู่ให้หมด แต่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ สนง. ของพี่ไม่รู้เรื่อง ตกลงกันไม่ได้สักที เค้าเองก็ไม่มีอำนาจ บอกได้แต่ไม่ได้ๆ วันนี้โทรมาเพื่อขอสายกับหัวหน้าเค้าโดยตรง อยากจะให้คุณช่วยเหลือหน่อย เพราะไม่อย่างนั้นผมก็คงจะโทรเข้ามาเรื่อยๆ เพื่อคุยกับหัวหน้าให้ได้" โชคดีที่เจอ operator ที่ฉลาดและคงจะรับสายเรื่องร้องเรียนพวกนี้มาเยอะ เลยส่งต่อไปให้หัวหน้า

....มิน่าหัวเป็นอย่างไร หางมันก็เป็นแบบนั้น ร้องเรียนเรื่องลูกน้องมันแล้ว นางคนนี้ก็พลอยผสมโรงด่าลูกน้องมันให้เราฟังอีก ทั้งๆ ที่ทุกอย่างที่มันด่าก็เข้าตัวนางเองเช่นกัน คุยไม่รู้เรื่อง บอกให้ไปทำส่วนลดมา เพราะที่จะให้จ่ายนั้นไม่ใช่เลย ผมบอกให้ตรวจสอบรายละเอียด ยอดที่ฟ้องทั้งหมด ยอดที่อายัดไว้แล้ว
นางก็บอกมา แต่มิวายบวกดอกเบี้ยไว้อีก เลยด่ากลับบอกว่า นี่ไง ที่คุยกันไม่ได้ คุยกันคนละเรื่อง ดอกเบี้ยที่มันเกิดขึ้นผมไม่จ่าย เพราะคุณทำเรื่องอายัดไว้แล้ว ยอดที่ศาลตัดสินมาเท่าไหร่ อายัดไว้เท่าไหร่ เหลืออีกเท่าไหร่ นั่นคือยอดที่จะจ่าย ส่วนดอกเบี้ย มรึงคิดเองก็จ่ายเองก็แล้วกัน

นางก็ไม่ยอมๆ อย่างเดียว E-ห่า..นลาก อ้างโน่นนั่นนี่สาระพัดเหตุผลที่สมองมันจะคิดได้ บอกว่าถ้างั้นก็จะดำเนินการขั้นต่อไป เลยบอกว่า รีบเลยนะ รีบอายัดเข้าเร็วๆ เพราะรอให้มรึงมาอายัดต่อจวนจะห้าปีแล้ว ก็ยังไม่อายัดซะที แล้วก็วางสายมันซะ !!!

จำได้ว่าอ่านกระทู้พี่กอบัวเรื่อง ห้องกรงแบงค์ ก็กลับไปอ่านอีกรอบ เลยสืบเสาะเอาจนได้เบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าแผนกติดตามสินเชื่อ ก็ไปเล่าให้ฟังว่า ผมมีเจตนาจะจ่ายหนี้ที่ยังคงค้างกับธนาคาร แต่ไม่อยากจะคุยกับพนักงานตามหนี้ของบริษัท JMT ที่ชื่อ.E และ ไอ้ ห่า..นจิกและห่า...น ลาก รวมถึงหัวหน้ามันด้วย เพราะโง่ และ พูดจาไม่รู้เรื่อง เลยติดต่อมาที่ธนาคารโดยตรง อยากจะจ่ายหนี้ให้ทั้งหมด ยังไงให้ช่วยติดตามเรื่องให้ด้วย

พนักงานคนนี้มาทราบทีหลังว่าเป็นหัวหน้าฝ่ายติดตามแก้ไขหนี้ ก็รับเรื่องและพูดจาดี ให้ข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลจากผมจนได้ข้อมูลที่ตรงกัน ผมก็แจ้งความประสงค์ไปว่าต้องการจ่ายหนี้จริงๆ แต่ว่าจะต้องเป็นยอดที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่ยอดที่บวกดอกเบี้ยอะไรต่างๆเข้าไปอีก แบบนั้นก็ไม่จบแน่ๆ

พนักงานคนนี้ก็คงจะประสานงานไปยังพนักงานอีกคน เพราะหลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามา แต่ว่า เป็นเบอร์โทรศัพท์ของ E-ห่า..นจิกรายเดิม ก็กดรับสายแต่ไม่พูด ปล่อยให้มันพูดกับลมกับฟ้าและทีวีไป 555 จนมันวางสายไปเอง โทรมากี่รอบๆ ก็กดรับสายแต่ผมไม่พูด ให้มันพูดกับ สายลม และ อากาศ ไปเรื่อยๆ บางวันก็เอาไปวางบนชักโครกแล้วกดน้ำให้มันฟัง เหอๆ มันต้องอย่างนี้นะครับ แสบมา กรูยิ่งแสบกว่าพวกมรึงอีกเยอะ ก็บอกไว้แล้วไงว่า กรู...ไม่...คุย...กะ...มรึง


สงสัยกระทู้จะยาว ขอต่ออีกหนึ่งกระทู้นะครับ อิอิ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8523 โดย freedom_life

คำเตือน !!!! มีถ้อยคำรุนแรงเยอะ โปรดเข้าใจอารมณ์เจ้าของกระทู้ ณ เวลานั้นด้วยนะครับ


....จนผ่านมาสักระยะ ผมก็โทรไปที่ ห้องกรงแบงค์ บอกว่าทำไมยังให้เจ้าหน้าที่คนเดิมๆ โทรมาอีก เพราะไม่อยากจะคุยกับมันแล้ว เค้าก็บอกว่าได้แจ้งเรื่องไปทั้งหมดแล้วให้เจ้าหน้าที่ที่ประสานงานเป็นคนดำเนินการ

อ้อ !!! ก่อนหน้านี้โทรมาแล้วมีเจ้าหน้าที่อีกคนเป็นผู้หญิงรับสาย แล้วบอกว่า จนท.ผู้ชายที่เราจะคุยไม่อยู่ติดประชุม ไงขอรับเรื่อง ผมก็ต้องเล่าซ้ำอีกรอบ สุดท้ายนางคนนี้ก็บอกว่า แล้วจะตามเรื่องให้

และแล้ว อีพวก ห่า...นจิกและห่า...นลาก ก็ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมรู้สึกไม่ดีกับพวกนี้เอาซะเลย ก็เรียนให้ทราบเลยว่า คำพูดและน้ำเสียง ของพวกนี้ผมไม่อยากจะพิมพ์ให้เป็นเสนียดมือ ครับ !!!!

จนที่สุดก็มารู้ว่า เจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่รับสาย เป็นลูกน้องของผู้ชายอีกที และคงจะถูกตำหนิเรื่องการทำงานด้วย เพราะเธอคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ที่ทำหน้าที่ประสานงานกับ JMT แต่หันมาประสาน "งา" กับลูกค้าธนาคารและคนในแผนกกันเอง

ได้เรื่องสิครับ ดรามา แบบนี้ผมชอบบบบบบบบบบบบบ เลยโทรไปใส่ไฟ ให้กับ จนท. ผู้ชาย ว่าเคยโทรมาแล้วติดสายลูกน้องคุณ เค้าบอกผมว่ามีอะไรไม่ต้องคุยกับคุณเพราะคุณไม่มีอำนาจหน้าที่และงานไม่เกี่ยวข้องกัน มีอะไรให้ติดต่อโดยตรง หุหุ ผลออกมาเป็นอย่างไรไม่รู้ครับ รู้แต่ว่า สนง. กฏหมายโทรมาอีกที มีส่วนลดให้แล้ว

จริงๆ ส่วนลดที่ให้ผมก็ยังไม่พอใจนะครับ เพราะให้จ่ายที่ 25,000 จากหนี้ที่ค้าง 31,000 กว่าๆ แล้วผมตรวจสอบข้อมูลจากเครดิตบูโร ก็เห็นยอดหนี้ตัวเองที่ใช้ไป และที่จ่ายตอนอายัดเงินเดือนไปอีก แต่เนื่องจากจะประวิงเวลาไว้มากไม่ได้ เพราะบ้านที่ทำเรื่องกู้ไว้ก็ใกล้จะเสร็จแล้ว ไม่อย่างนั้นแผนที่วางไว้จะเสียหมด

ผมเห็นว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะยื้อ เลยติดต่อเข้าไปขอหนังสือยืนยันส่วนลด มันก็ขอเอกสารโน่นนั่นนี่ ผมก็บอกว่า มรึงฟ้องกรูจนอายัดเงินเดือนไปแล้วรอบหนึ่ง เอกสารทุกอย่างที่ขอ มรึงก็มีอยู่แล้วซีรอกเอาเองสิ ทำไมจะต้องให้กรูมาเดือดร้อนด้วย

ในที่สุดก็ได้หนังสือปิดมาครับ ผมขอจ่ายสองงวด จริงๆ ก็งวดเดียวก็ได้แหละ แต่อยากทำเรื่องมันนิดนึง แบบไม่ต้องให้ยอดมันเยอะๆ ไงครับ จ่ายคนละเดือน ยอดที่มันทวงก็จะกระจัดกระจาย อิอิ เล่นกะใครไม่เล่นมาเล่นกะ "เสรีภาพ" อิอิ

วันที่ได้ยอดมานั้น อีห่า..น จิก ก็บอกให้ผมโทรไปหาเจ้าหน้าที่หญิงของห้องกรงแบงค์ ผมก็เลย ดรามา ใส่นาง 555 เพื่อดูว่าจะมีฤทธิ์เดชอะไรอีกหรือเปล่า ก็ยังคงเส้นคงวา ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมลูกหนี้ของ ห้องกรงแบงค์ที่ถูกตามหนี้โดย JMT จะมีปัญหากันเยอะ สาเหตุก็อยู่ที่เจ้าหน้าที่คนนี้นี่หละ ที่คอยจะประสาน "งา" กับลูกหนี้ที่ถือว่าเป็นลูกค้าของธนาคารและ คงจะทำงานโดยการ สั่ง และ สั่ง ไปที่ JMT อย่างเดียว สังเกตได้จากที่พวกทวงหนี้จะกลัวเวลาอ้างชื่อนางคนนี้

ตอนแรกผมจะทำหนังสือร้องเรียนเรื่องพนักงานห้องกรงแบงค์ เหมือนๆ กับของ หม่ามี๊ poopae จ้าวแห่งกระทู้ร้องเรียนตามหนี้โหดฯ 555 แต่ได้แค่คิดไม่ได้ลงมือ ทั้งที่โกรธแสนโกรธเหมือนกัน ผมมีหลักฐานคือเสียงพูดคุยที่บันทึกไว้ แต่ก็ช่างเหอะ ผ่านมาแล้ว ......กรวดน้ำให้แล้ว ก็จงเป็นสุข เป็นสุขไปละกัน

วันที่ผมไปจ่ายปิดงวดที่สอง ของ ห้องกรงแบงค์ ก็ต้องไปที่ สนญ. นะครับไปตรวจสอบยอด ก่อน แล้วค่อยไปจ่าย เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะแบงค์นี้แปลก หากทำธุรกรรมที่เค้าเตอร์ธนาคารจะมีค่าธรรมเนียมต่างๆ มากมาย เสร็จแล้วก็นำ slip จ่ายเงินรอรับหนังสือปิดได้เลยที่ชั้นสอง

ตอนนี้แหละที่ผมรอคอย ไม่ใช่หนี้หมดนะครับ รอคอยที่จะได้เจอหน้าของ พนักงานหญิงของห้องกรงแบงค์คนนี้ อยากจะดูครับว่าเป็นคนอย่างไร ผมรออยู่สักพัก ก็เห็น เจ้าหน้าที่หญิงคนที่ว่าถือซองขาวมาด้วย เหอๆ คงไม่ใช่ซองผ้าป่าหรอกนะ อิอิ มองหาคนบริเวณนั้น แต่จะเจอใครล่ะ ก็มีแต่ผมคนเดียว สุดท้ายแล้วก็ถามว่าผมชื่อ เสรีภาพ ใช่ป่าว ผมก็บอกว่าใช่ เท่านั้นหละ หน้าตาเจ้าหล่อนก็ถอดสีเลยทีเดียว รีบเอาซองให้แล้วบอกว่าตรวจสอบว่าถูกต้องหรือปล่าวด้วยนะคะ ไม่ทันได้บอกว่าถูกต้อง นางก็รีบกลับเข้าห้องไปเลยทันที

สงสัยจะกลัวผมด่าละมั้ง เพราะผมตั้งใจมองไล่ไปตั้งแต่ เท้า แล้วค่อยๆ ไล่ไปที่หัว ของเจ้าหล่อนตั้งแต่ตอนเดินเข้ามาแล้ว พร้อมสีหน้าแบบเอาเรื่อง เป็นผู้หญิงผอมๆ หัวฟูๆ หยิกๆ ดูแว๊บแรกก็รู้แล้วล่ะว่าเป็นคนไม่มีมนุษยสัมพันธ์เอาซะเลย จริงๆ ก็กะจะเข้าไปร้องเรียนด้วยนะครับวันนั้น ร้องเรียนด้วยปากเปล่าและหลักฐานที่มีนี่แหละ เจอเทปบันทึกเสียงที่เธอเคยคุยกับผม ดีไม่ดีอาจจะได้งานใหม่ไปเลยก็เป็นได้ แต่ผมคิดๆ ดูแล้ว ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์และกลับไปทำร้ายกันเปล่า ๆ ก็เลยล้มเลิก



สรุปแล้ว ผมก็ปิดหนี้ได้อีกหนึ่งใบครับ แต่ว่ายอดหนี้ที่ปิดนั้นไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าผมยื้อมาจนที่สุดแล้ว อีกอย่างขั้นตอนของผมสำหรับใบนี้คือ อยู่ในระหว่างการสืบอายัดเงินเดือนต่อ หากผมไม่รีบจบก็มีแต่จะเสียเปรียบมากขึ้นเลยตัดสินใจปิดด้วยยอดนี้ดีกว่าครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8524 โดย freedom_life
ใบที่ห้า..... กล้าสู้เสือ

จั่วหัวแบบนี้มาแว้วววว ปิดใบที่ห้าครับ ใบนี้เป็นของยักษ์เขียว ได้มาจากการอนุมัติอัตโนมัติให้กับพนักงานทั้งบริษัทช่วงนั้น แหม....ได้มาก็ใช้เลยสิ ไม่ใช่เงินกรู หารู้ไม่ว่ามันจะนำมาซึ่งความวิบัติทางการเงินของเสรีภาพ 555 บัตรใบนี้วงเงินเริ่มต้นเยอะที่สุด 40,000 freedom_life ก็จัดเต็ม อิอิ

ผ่านมาเรื่อยๆ ก็จ่ายไม่ไหวหยุดจ่ายไปตั้งแต่ปี 2003 แล้วล่ะมั๊ง ทิ้งไว้จนเจอฟ้องแต่อย่างที่บอกว่าไม่เคยใส่ใจที่จะไปศาล ทีนี้ศาลก็มีคำพิพากษามาเราเองก็ไม่ได้สนใจตั้งแต่แรกเลยทิ้งไว้เรื่อยๆ แปลกที่หนี้ใบนี้เจ้าหนี้เค้าก็ไม่ได้ตามอะไรมาด้วย

จนกลางๆ ปีที่ผ่านมาหลังจากที่ปิดหนี้ได้สองใบแล้ว ก็มีแรงฮึดที่จะปิดใบต่อไปเรื่อยๆ เลยเป็นคนที่เล่นเกมส์รุกกลับบ้าง โดยการโทรเข้าไปติดต่อกับทางธนาคารสีเขียวเอง เรื่องก็ผ่านไปที่เจ้าหน้าที่หลายคน ขอต่อรองยังไง ก็ยังยืนยันที่จะให้จ่ายยอดที่ 50,000 เพราะตอนนั้นที่โทรเขาเข้าไปยอดหนี้รวมอยู่ที่ 88,xxx แล้วเค้าบอกว่าลดให้เยอะ อีกอย่างคดีก็ไปถึงศาลและมีคำพิพากษาให้จ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ยอดอยู่ที่ 44,xxx ดอกเบี้ย 15%

แต่เราเป็นศิษย์มีครู มีหรือจะยอม ใช้มารยาร้อยแปดเล่มเกวียนที่แม่ให้มา เอ๊ย !!! ไม่ใช่ วิทยายุทธ์จากในเว็บ ก็งัดทุกกระบวนท่ามาใช้ หักคอขอจ่ายยอดเดียวจบที่ 20,000 หะหะ หากได้จะจุดพลุฉลองรอไว้ก่อน ก็แห้วตามระเบียบ ไม่ยอมหรอกครับ

ก็ไม่ยอมจ่ายเช่นกัน ไม่ให้ก็ไม่จ่าย อิอิ เหมือนจะเป็นต่อเลยนะครับ แต่ไม่ใช่จนเรื่องไปตกอยู่ที่น้องผู้หญิงคนหนึ่ง เค้าก็พูดคุยดีหาวิธีการต่างๆ นานามาให้ เรียกว่าพูดจาดีเลยทีเดียวและคอยโทรมาถามเป็นระยะๆ ว่าพร้อมจ่ายหรือยัง ผมก็บอกว่าเก็บไว้แล้วสองหมื่นไง หากจ่ายได้ก็จะไปจ่าย เค้าบอกว่าจ่ายมาก่อนสองหมื่นก่อนก็ได้ แล้วที่เหลือค่อยมาผ่อนเอา ต่อไปค่อยมาขอลดยอดใหม่ เหมือนทำเดินเครดิตไว้ก่อน หากไม่ได้เข้ามาที่เว็บนี้ก็คงจะทำไปแล้วล่ะ

แต่ผมก็ยังบอกว่าไม่เอาดีกว่า บอกไปว่าเคยมีประวัติจ่ายแบบนี้แหละ ไปๆ มาๆ ก็จ่ายได้ไม่หมดเพราะตกงานซะก่อนแล้วพอจะกลับไปจ่ายอีกทียอดไม่เห็นจะลดลง เค้าก็บอกว่าของที่นี่ไม่เป็นแบบนั้นมีหนังสือรับรองให้แน่นอน ตอนนี้พอจะมีโอกาสแล้ว ส่วนลดก็ให้เยอะเลยอยากจะให้จ่ายแล้วค่อยมาคุยกันหลังจากนี้อีกสักสามสี่เดือนรับรองได้ว่าจะได้ลดอีก

ก็ไม่ตกหลุมเงื่อนไขแบบนี้แน่ๆ ใช้วิธีต่อรองแบบใจเย็นมากแบบไม่เคยเป็นมาก่อนจนในที่สุดยอดจ่ายมาอยู่ที่ 30,000 ก็ยังไม่จ่าย น้องที่ดูแลบัญชีคงจะอิดหนาระอาใจเช่นกัน เพราะยืนยันที่จะจ่ายสองหมื่นให้ได้ น้องเค้าก็หว่านล้อมต่างๆ นาๆ แต่เราก็ยืนยันไม่จ่ายอยู่นั่นแหละ

หารู้ไม่ว่าความยุ่งยากจะคืบคลานเข้ามาใกล้ เพราะในช่วงวันที่ 20 เดือนกันยายนปี 53 จะออกไปทำงาน มีกระดาษปึกหนึ่งห้อยอยู่ที่หน้าห้องเลย ผูกเชือกมัดไว้กับลูกบิดประตูอย่างดี เห็นตราครุฑลอยเด่นสง่า แม่จ้าววววววววววววววววว !!!! หนังสือบังคับคดีจากกรมบังคับคดี ของคดีบัตรเครดิตยักษ์เขียวนี่แหละ ที่แจ้งว่าตอนนี้กำลังบังคับโดยการอายัดเงินเดือนเรียบร้อยแล้ว โดยให้ชำระตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป งานเข้าแต่เช้าล่ะสิกรู เพราะเงินเดือนออกวันที่ 25 โดนจัดเต็มแน่ ๆ 30%

ระหว่างทางที่เดินทางไปทำงาน ก็รับโทรศัพท์จาก อีห่านจิก สนง. ของห้องกรง อารมณ์ตอนนั้นสับสนคงจะเพราะตื่นเต้นที่เห็นหนังสือบังคับ อิอิ จริงๆ แล้วก็ครั้งที่สองเพราะอีห้องกรงมันก็เคยบังคับคดีมาแล้วครั้งหนึ่งแต่หนีไปได้ อย่างที่เล่าไป ทีนี้ก็เกรงว่าจะซวยซ้ำซวยซ้อนเพราะยักษ์เขียวก็บังคับคดีเห็นแล้วจะจะ E ห้องกรงก็คงจะไม่แคล้วแน่ๆ เลยรีบโทรไปถามว่าตกลงจ่ายได้ที่เท่าไหร่ เลยถูกมัดมือชกจ่ายของ ห้องกรง ไปเต็มๆ 25,000 จ่ายสองงวด รวมกับที่เคยโดนอายัดไปแล้วครั้งหนึ่งสองหมื่นสามกว่าๆ รวมกับครั้งนี้ก็ 48,000 ล่ะ ห่านลากพวกมรึง ทำนาบนหลังคนจริงๆ สมชื่อห้องกรง เลยจำหน้าพนักงานนางนั้นได้อย่างชัดเจน แต่เราต่อรองมากไม่ได้แล้ว ได้สองงวดก็ยืดเวลาได้อีกหน่อย วันนี้เลยให้มันรีบ fax หนังสือยืนยันส่วนลดให้ อ่านดูแล้วก็ชัดเจนดีจาก เจเอ็มเจ๊งเน็ตเวิร์คนั่นแหละ วันนั้นเลยไปจ่ายมันก่อนตามเรื่องที่เขียนไว้ด้านบนปิดใบที่สามแบบมันส์หยด

เข้าไปที่ทำงานเปิดเมล์ มีอีเมล์จากฝ่ายบุคคลมาทันที แจ้งเรื่องอายัดเงินเดือนเริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป โอ้โห !!! สงสัยจะว่างจัดรีบทำเลยนะอายัดเงินเดือน (กรู) เนี่ย ได้รับหนังสือปั๊ป ก็รีบขยันทันที แต่ก็เข้าใจแหละว่าหากเค้าไม่ปฏิบัติตามบริษัทก็โดนเล่นเหมือนกัน เรื่องอะไรจะเอาตัวเองไปเสี่ยง เจ้าหน้าที่ก็ทำถูกแล้วล่ะ โวยไปแบบนั้นเอง 555 แต่ผมก็ไม่ได้โวยกับเจ้าหน้าที่นะ แค่แซวเล่นๆ ว่าแหม....เรื่องตัดเงินเนี่ยทำแบบรวดเร็วกว่าจ่ายเงินเลยนะครับ เค้าก็หัวเราะ

เรื่องอะไรจะให้เสียยี่ห้อศิษย์มีครู ก็รีบติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีที่ภูมิลำเนาเดิมทันที เจ้าหน้าที่ก็สุดแสนจะใจดี ให้คำแนะนำว่า หากเราจะปิดอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา ทางสำนักงานบังคับฯ แค่ต้องทำตามที่เจ้าหนี้เค้ามีหนังสือแจ้งมาเพราะศาลพิพากษานานแล้ว และเค้าก็สืบจนทราบว่าผมมีรายได้ แต่จริงๆ บริษัทจะรอก่อนก็ได้หากว่าผมไปเคลียร์หนี้จริง แล้วแนบหนังสือมา ก็กลับไปที่ฝ่ายบุคคลบริษัทอีก เค้าก็แจ้งว่าคงไม่ทันแล้วเพราะทำเรื่องตัดเช็คไปแล้วล่ะ กรรมของเวง จิงๆ กรู

ก็ใจเย็นอยู่ครับ คือตั้งสติค่อยๆ จัดการทีละอย่าง อย่างแรกสุดโทรไปที่ยักษ์เขียวบอกว่าวันนี้อยากจะตกลงให้เรียบร้อย ตกลงจ่ายได้ที่เท่าไหร่เค้าก็ยืนยันคำเดิมว่าสามหมื่น เหอะๆ ดีนะที่ยังยืนยันยอดนี้เลยรีบบอกไปว่า งั้น fax มาให้วันนี้ได้หรือปล่าวหนังสือยืนยัน จะได้ไปจ่ายเลย

เจ้าหน้าที่ที่ติดต่อด้วยก็รีบดำเนินการให้คงจะเป็นเพราะใกล้สิ้นเดือนเค้าก็อยากจะได้ยอดเช่นกัน ขอปุ๊ปมีหนังสือ fax มาให้เลยเช่นกัน รีบไปจ่ายที่ธนาคาร แล้วติดต่อเจ้าหน้าที่สนง. บังคับคดีอีกครั้ง เค้าก็แนะนำให้รีบติดต่อธนาคารเพื่อมาถอนเรื่องเพราะชำระหนี้หมดแล้ว แต่เดือนแรกหากบริษัทส่งเช็คมาแล้วคงจะไม่ทัน ก็ต้องทำใจแล้วล่ะ

ทิ้งเรื่องไว้สองวันก็รีบโทรไปที่ยักษ์เขียว บอกว่าจ่ายหนี้ให้หมดแล้วนะ แต่ทำไมมีหนังสือจากกรมบังคับคดีมาอายัดเงินเดือนอีก หุหุ นี่หละวิชามารของจริง อิอิ ที่ต้องทิ้งเรื่องไว้ก็เพื่อความสมจริงไงครับ หากโทรไปเลยก็จะไม่เนียน ยังไงเราจ่ายหนี้หมดและมีหนังสือยืนยันเงื่อนไขชำระหนี้แล้ว ก็ถือว่าตัวเองมีภูมิป้องกันเลยไม่กลัว ทางเจ้าหน้าที่เค้าก็เลยบอกว่าจะรีบตรวจสอบเรื่องให้แล้วให้ทนายไปถอนที่สนง. บังคับคดี

ก็ใช้เวลาประมาณสามสัปดาห์นะครับ ระหว่างนั้นก็ติดตามเป็นระยะๆ จนทนายเค้าไปถอนเรื่องและทาง สนง. บังคับคดีแจ้งว่าให้มารับเงินที่ถูกอายัดไว้ได้ ก็ให้ป่ะป๊านั่นแหละไปรับแทน ทำหนังสือมอบอำนาจส่งไปให้ หักค่าธรรมเนียมไปสามร้อยกว่าบาทได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ก็ได้เช็คคืนมา

และทาง สนง. บังคับคดี ก็ส่งหนังสือเรื่องยกเลิกการอายัดเงินเดือนมาที่บริษัท แต่กว่าจะส่งมาได้ก็ลุ้นจนจะนาทีสุดท้ายแล้วเช่นกัน เพราะเกือบจะถูกหักเงินเดือนที่สอง

ยืนยันได้ครับว่า HC ทำได้แม้กระทั่งโดนอายัดเงินเดือน !!!!

สุดท้ายแล้วผมก็ปิดยักษ์เขียวได้นะครับ และทำแฮร์คัทได้เยอะซะด้วยสิ หากเทียบกับระยะเวลาที่ผมปล่อยเรื่องนี้ทิ้งไว้แล้ว ถือว่าบัตรใบนี้อยู่ลำดับที่สามเลยล่ะสำหรับยอดที่ได้ส่วนลดสูงสุด แม้ว่าจะถูกอายัดเงินเดือนแต่ก็ได้เงินคืนมา เรียกว่าบัตรใบนี้ เส้นยาแดงผ่าแปด ครับ

ใบนี้เรื่อยๆ มาเรียงๆ แต่มาหวือหวาช่วงท้ายๆ จากประสบการณ์ปิดบัตรใบนี้ต้องบอกว่า
- ตั้งสติให้ได้ ห้ามรน ศึกษาข้อมูลในเว็บว่าต้องทำอย่างไรกรณีถูกอายัดเงินเดือน
- หากต่อรองได้ยอดแล้ว เปรียบเทียบกับการถูกอายัดเงินเดือน ให้ยอมรับส่วนลดนั้นๆ เพราะยังไงยอดที่ได้ ส่วนลดจะน้อยกว่าการถูกอายัดเงินเดือนเสมอ
- รีบดำเนินการให้รวดเร็วที่สุดในการขอหนังสือยืนยันเงื่อนไขส่วนลดปิดบัญชี ต้องได้หนังสือปิดมาก่อนและอ่านข้อความให้ชัดเจน ก่อนที่จะรีบไปจ่ายและเก็บเอกสารไว้ให้ดี
- ติดต่อกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนต่างๆ ทั้ง ฝ่ายสำนักงานบังคับคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่พร้อมให้คำแนะนำ และเจ้าหน้าที่บุคคล สมควรอย่างยิ่งที่เราจะไปทำความรู้จักกับเค้า เผื่อจะช่วยเหลือกันได้ และไม่ต้องอาย ยังไงเค้าก็มีจรรยาบรรณรักษาความลับพนักงานแน่นอน หรือ หากโชคดีก็ปรึกษาฝ่ายกฏหมายบริษัทได้ ขอแค่มีความกล้า


ใบต่อไป สุดท้ายแล้ว KTC ยอดหนี้มากที่สุด ติดนานที่สุด ต่อรองยากที่สุด เรื่องเยอะมากที่สุด วีนแตก แหกกระเจิงทั้งสำนักงานกฏหมาย ตั้งแต่ปิดยอดจนกระทั่งกว่าจะได้หนังสือยืนยันหมดภาระหนี้ ที่เพิ่งจะได้มาเมื่อวันนี้เองตอนเช้า (17 ก.พ. 53)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8525 โดย freedom_life
...มาแล้วครับ ปิดได้ซะที KTC ใบแรกที่เปิดใบสุดท้ายที่ปิด


หลังจากที่ผมเริ่มคิดที่จะเคลียร์บัตรเครดิตทั้งหมด KTC เป็นบัตรใบแรกที่ผมค้นหาเบอร์โทรเพื่อติดต่อจ่ายหนี้ รู้สึกจะเปลี่ยนสนง. กฏหมายไปหลายที่มาก และเป็นบัตรใบเดียวจริงๆ ที่หยุดจ่ายมาแล้วหลายปี ก็ยังส่ง statement มาให้เป็นประจำทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ และคิดดอกเบี้ยทุกเดือน จนยอดหนี้เริ่มต้นไม่ถึงสี่หมื่นกลายเป็นเกือบเก้าหมื่นในตอนนั้น (แล้วไงล่ะ ใส่ดอกเบี้ยแบบคิดเอาเอง ตอนนี้ก็ลบออกเอาเองก็แล้วกัน เหอๆ)

เจ้าหน้าที่คนแรกที่ผมโทรไปเจอ เป็นผู้ชาย บอกว่า จ่ายครั้งเดียว 44,000 โอเคปล่าว ?....ผมบอกไม่โอเคครับ แล้วก็วางสาย

หลังจากนั้นก็ติดต่อเข้ามาอีกเรื่อยๆ ยืนยันยอดเดิม บอกจ่ายไม่ไหว มีอยู่ 20,000 เตรียมจ่ายตอนนี้สดๆ หากรับได้ขอหนังสือยืนยัน เค้าก็ไม่ยอม (มันก็แหงล่ะ)

เรื่อยไป แต่ผมก็ยังติดต่อไปเรื่อยๆ จนกลุ้มใจว่าจะปิดใบนี้ไม่ทันในสิ้นปี 53 แต่ก็เป็นบัตรที่ทำให้ผมโทรไปหาพี่กอบัว และได้รู้จักกับพี่สาวที่ใจดี ให้คำแนะนำเยอะแยะ และได้ยินเสียงท่านประธานชมรม พี่นกกระจอกเทศ ที่ช่วย coach แนวทางรับมือได้แบบหาจากตำราที่ไหนไม่ได้ เรียกว่า เส้นผมบังภูเขาเลยจริงๆ !!!

ระหว่างนั้นผมก็ติดต่อไปที่ส่วนของติดตามหนี้บัตร KTC เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเรื่องผมนั้นศาลพิพากษาแล้วอยู่ในช่วงบังคับคดีอยู่ !!!! (ยุ่งเข้าไปอีก) คงจะปิดตามยอดที่ขอไม่ได้ นอกจากจ่ายตามคำพิพากษาเลย

แต่ไม่เคยท้อ ปิดมาสี่ใบแล้ว จะมาตกม้าตายก็เสียชื่อเสรีภาพหมดน่ะสิ เลยใช้เทคนิคเจรจา หลอกถาม แกล้งโง่ และแอ๊บแบ๊ว อิอิ กับเจ้าหน้าที่จนรู้มาว่า ตอนนี้เรื่องไปอยู่ที่ไหน ขั้นตอนไหน สนง. อะไรรับผิดชอบ อย่างน้อยก็มีข้อมูลแล้ววุ๊ยยยย.... มีแสงสว่างปลายอุโมงค์แล้ว

เจ้าหน้าที่ของ สนง. กฏหมายคนถัดมาเป็นผู้หญิง ต่อรองยังไงคุณเธอก็บอกว่าไม่ได้นะ ปิดสองหมื่น เพิ่มให้เป็นสองหมื่นห้า ในเดือนถัดมาก็ไม่ได้ เธอก็จะโทรมาเรื่อยๆ สังเกตได้ว่าช่วงใกล้ๆ สัปดาห์สุดท้ายของเดือนจะโทรมา เลยถึงบางอ้อ !!! ขอลดยอดอะไรยังไง เธอก็แผ่นเสียงตกร่อง ไม่ได้ต้องจ่ายสี่หมื่นห้า ๆๆๆๆๆๆๆๆ

สงสัยจะรู้เยอะเกินไปมั๊ง จับน้ำเสียงได้ว่าเอ๊ะ น้ำเสียงและสำเนียงน้องคนนี้น่าจะไม่ใช่ สนง. ในกทม. เบอร์ที่โทรมาทุกครั้งเป็นมือถือ หรือไม่ก็ไม่โชว์เบอร์ ผมเลยแกล้งจะส่งเอกสารเพื่อขอปิดหนี้ไปให้ เผื่อว่าจะช่วยอีกแรงในการขอยอดปิด ขอเบอร์ fax ปรากฏว่าเป็นไปตามคาด อยู่ต่างจังหวัดที่ภูมิลำเนาเดิมจริงๆ โห !!! มิน่ามันเลยกล้าฟ้องและบังคับคดีผม อยู่ในพื้นที่นี่เอง

เหอๆ แผนนี้ไม่สำเร็จ คิดหรือว่าเสรีภาพจะไม่มีแผนต่อ ก็จัดการค้นหาเบอร์หาสำนักงานใหญ่ของเจ้านี้ในกทม. สิ โทรไปเจอเลย แสดงตัวอย่างชัดเจนว่า "พอดีเลยค่ะ คุณเสรีภาพ ดิชั้นเป็นผู้จัดการของที่นี่ ยังไงจะดูแลบัญชีให้คุณแทนเลยนะคะ" แม่นี่ชอบเบ่ง !!!!

"แล้วท่านผู้จัดการจะดึงบัญชีผมมาที่กทม. ได้เหรอครับ เพราะที่.....เค้าดูแลผมอยู่นี่"
"ได้สิคะ ดิชั้นจะขอดูแลบัญชีให้เองกับตัวเลย" เหอๆ

แล้วผมก็ยื่นข้อเสนอไป เอกสารขออะไรก็ให้หมดแหละ ยอดที่ได้มาก็ลดลงนิดหน่อยอยู่ที่สี่หมื่น แต่คุณผู้จัดการนี่ ก็แรกๆ คุยดี หลังๆ พอเรายืนกราน คุณเธอก็เริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์และปาฏิหาริย์ต่างๆ นานา ผมก็เล่นของกลับ อิอิ (ตรงนี้ความลับแพร่งพรายไม่ได้ครับ )

ดึงกันไป ยื้อกันมา จนเข้าเดือนสุดท้ายของปี เอาล่ะสิตรู ปิดใบอื่นได้หมดแล้ว เหลือใบนี้ที่ยังคาราคาซังอยู่ อย่างที่บอกน่ะครับว่า ผมจะกู้บ้านดังนั้นมีเรื่องเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องในการปิดบัตรครับ หากไม่เช่นนั้นผมก็จะมีลูกเล่นอีกเยอะ เรียกว่าใบนี้ใบเดียวผมใช้เทคนิคจากเว็บนี้และจากปรมาจารย์เบื้องหลังอีกหลายกระบวนท่าเลยล่ะ

และสุดท้ายคงจะเป็นช่วงสิ้นปี ใกล้ปิดยอดกันเต็มแก่ ผมก็ได้ส่วนลดมาที่ สามหมื่นกว่าปลายๆ อิอิ ก็จ่ายได้แหละครับ เพราะตั้งแต่ช่วงเวลาที่ผมตั้งใจจะปิดหนี้ก็เก็บเงินไว้ในกองทุนเปิดตลอด ส่วนต่างที่ผมขอไปแล้วไม่ได้ ก็ถือซะว่ากองทุนเปิดนั้นจ่ายแทนผมไปแล้ว เพราะมีกำไรจากการขายหน่วยลงทุนเยอะพอสมควร อาจจะโชคดีที่ตลาดหุ้นช่วงนั้นดัชนี พุ่งทะยานกันสุดๆ ผมได้ทั้งเงินปันผลและกำไรส่วนต่าง เลยไม่คิดมาก ก็เลยตกลง

แต่ขอโทษนะ หากง่ายๆ คงจะไม่ใช่ KTC สิ อีกอย่างนังคนที่ผมติดต่อด้วย (กรุณาสังเกตว่าสรรพนามเรียกจะเปลี่ยนไปแล้ว ) ก็เป็นถึง ท่านผู้จัดการ จะให้ง่ายดายได้อย่างไร ยังไม่ได้ใช้ความรู้ระดับตัวแม่...ง เอ๊ย แม่ของพวก ห่า...นจิกและห่า....นลาก เลย นังคนนี้ก็ตั้งแง่ทันทีว่า คุณเสรีภาพจะต้องจ่ายเงินค่าถอนบังคับคดีที่กรมบังคับด้วยนะคะ ยอดปิดที่แจ้งไปนั้นไม่ได้รวมส่วนนี้ เอาละสิ เล่นกะกรูแล้วไง
เลยบอกว่า งั้นขอหนังสือปิด ได้เรื่องเลยทันที

"ไม่มีค่ะ ทาง KTC ไม่มีนโยบายออกหนังสือยืนยันให้ คุณไปชำระได้เลยที่เค้าท์เตอร์ แจ้งเจ้าหน้าที่ไปเลย บรา...บรา...บรา..."

"อ้าว ทำไมเค้าได้กันมาล่ะ เห็นเพื่อนที่ปิดกับ KTC ยังได้เลย"

"....เหรอคะ แต่กรณีของคุณเรื่องอยู่ที่ฟ้องร้องบังคับคดีแล้วนะคะ หนังสือออกให้ไม่ได้" (E-ห่านจิก มันเกี่ยวข้องกันตรงไหนเนี่ย กรูโยงความสัมพันธ์และตรรกะข้อนี้ไม่ออกจริงๆ)

"' KTC ออกไม่ได้ คุณก็ออกให้เองสิ บริษัทกฏหมายคุณนะ ออกรับรองมาก็ได้ว่าตกลงอะไรกันยังไง"

"ไม่ได้ค่ะ"

"อ้าวแล้วผมจ่ายเงินไปแล้วคุณไม่ปิดบัตรให้ผมจริงๆ ล่ะจะเอาหลักฐานจากที่ไหน ?"

"ขอให้เชื่อใจดิชั้นค่ะ" เอ่อ มรึง เป็นเมียกรูตั้งแต่เมื่อไหร่มิซาบบบบบบบ จะได้ไว้ใจขนาดนั้น

"แล้วเรื่องค่าธรรมเนียมนั่นอีก ผมต้องจ่ายด้วยเหรอ ปรกติก็ไม่เห็นมีใครจ่ายกัน คุณฟ้องผม คุณไปบังคับคดีเอง คุณก็ต้องไปปิดเองสิ ผมจ่ายเงินปิดให้คุณไปแล้วนี่"

"ไม่ได้ค่ะ ยังไงเราจะจ่ายเงินให้ก่อนแล้วคุณโอนกลับมาให้เราภายหลังก็ได้ค่ะ"

"โห !!! ได้เงินผมไปตั้งเยอะแล้วยังจะต้องมาเก็บแบบนี้กับผมอีกเหรอ ผมว่าแปลกๆ ไหนคุณส่งเอกสารที่ทาง KTC เค้าแจ้งอนุมัติผลมาหน่อยสิครับ ผมจะได้สบายใจ"

"เราไม่มีนโยบายส่งเอกสารให้ค่ะ เพราะเป็นเอกสารภายในเป็นข้อตกลงระหว่างเรากับทาง KTC ค่ะ"

"อืมมมม... งั้นคุณส่งข้อตกลงนั้นมาให้ผมแทนก็ได้ อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าคุณได้เอกสารอนุมัติจาก KTC แต่ว่าคุณให้ลูกค้าไม่ได้เพราะมีข้อตกลงนั้นอยู่"

"ไม่ได้ค่ะ เป็นเอกสารภายใน" ค่ะ..E-ห่า..นลาก กรูรู้แล้วล่ะว่ามรึงน่ะตอ ไม่ใช่สิ ระดับนี้ต้องซุงแหล !!! ตอมันท่อนเล็กไป แค่อยากจะให้รู้เท่านั้นแหละว่านี่ลูกหนี้ระดับเทพนะมรึง ไม่ใช่ไก่กาจะได้ไม่รู้ว่าที่พยายามพล่ามมาทั้งหมดนั้นไม่จริงหรอก !!!!

ผมก็วางสายไป....

เอาใหม่ๆ โทรไปที่หลายๆ เบอร์ดูซิ ทั้งเบอร์กลางของ KTC และเบอร์สนง. กฏหมายนังคนนี้ ถามยอดที่จะต้องจ่าย และย้อนกลับไปถามที่ศูนย์ต่างจังหวัดที่แรกด้วย ว่าตกลงต้องจ่ายที่เท่าไหร่ และต้องจ่ายเรื่องถอนถอนคดีด้วยจริงหรือเปล่า

ปรากฏว่า ทุกที่บอกว่า มีแค่ยอดปิดจริงๆ และได้อนุมัติเป็นหนังสือมาที่ สนง. กฏหมายแล้ว แต่เรื่องค่าธรรมเนียมถอนนั้นไม่ต้องจ่าย เค้าจะไปจ่ายให้เองหลังจากเราจ่ายยอดปิดมาแล้ว

อ้อ !!!! เสียดายจังพลาดไปนิดเดียว ตอนนั้นน่าจะขอเบอร์บัญชีด้วย เผื่อว่านังคนนั้นให้บัญชีที่เป็นส่วนตัวจะได้หลักฐานชิ้นเด็ด ฟ้องร้องมันซะเลย เพื่อนๆ ที่กำลังอ่านอยู่ จดไว้เลยนะครับตรงนี้ จริงๆ ไม่อยากจะเขียนเผยแพร่เรื่องนี้ แต่ว่า หากไม่เขียนจะยิ่งแย่กว่า เพราะหาโอกาสอธิบายได้ยาก

สรุปแล้วผมก็ไปจ่ายนะครับแต่เฉพาะยอดที่ตรวจสอบจาก KTC แต่ขอโทษนะ นังคนนั้นคงจะได้ยอดจากผมลำบากสักนิด เหอๆ !!!! เขี้ยวมา ก็เขี้ยวไปครับ

ไปจ่ายที่ KTC ครับแล้ว fax ให้มันด่วน ก็ให้สาขาที่เราจ่ายนั่นแหละ fax ไปให้มันเรื่องอะไรจะต้องไปเสียเงินค่าส่ง fax อีก โห !!! โทรมาขอบคุณยกใหญ่ แหงสิ..... แต่ขอโทษนะ ที่บอกว่าจะรีบส่งหนังสือปิดมาให้น่ะ มรึงลืมง่ายจังนะ !!!!
มีภาคต่อนะครับ หนี้หมดแต่หนังสือปิดไม่มา.....

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8526 โดย freedom_life
....เหมือนเป็นละครที่ถูกยืดออกยังไงก็ไม่รู้ หนี้ใบนี้ของผมเนี่ย 555 ปิดได้ก็ยังไม่หมดเรื่อง เหมือนอยากจะทดสอบว่า ผมแกร่งพอหรือยัง ยังไงก็ไม่รู้สิครับ

ก่อนหน้าที่จะไปจ่ายปิดนั้น จนท. ที่ดูแลบัญชีผมอยู่ที่ต่างจังหวัด เค้าโทรมาบอกว่า
"คุณเสรีภาพทราบยังคะว่าทาง KTC เค้าอนุมัติยอดปิดมาให้แล้ว"

เสรีภาพคนนี้เลยถือโอกาสสอนหนังสือสังฆราช ดังต่อไปนี้

"ทราบแล้วล่ะ แต่เสียดายเหมือนกันนะครับที่ไม่ได้จ่ายในบัญชีที่คุณดูแล เพราะตอนนั้นผมเสนอที่จะปิดกับคุณและช่วยทำเอกสารให้ทุกอย่าง ส่งเอกสารทุกอย่างที่ต้องการ แต่คุณยืนยันยอดเดิมตลอดสี่เดือน พอย้ายสาขา เค้ากลับทำให้ผมได้แม้จะไม่ใช่ยอดที่ต้องการ แต่ว่าเค้าก็ใช้ความพยายามที่จะทำให้ผม วันหน้าหากมีลูกค้าแบบนี้มาขอให้คุณช่วยเหลือ คุณพยายามมากกว่านี้หน่อยนะครับ งานของคุณผมเข้าใจว่าต้องอาศัยยอดที่เรียกเก็บจากลูกหนี้ ได้น้อยๆ คุณไม่อยากเอา คุณจะเก็บให้ได้มากๆ แต่ลืมคิดไปนิดว่า ได้น้อย ดีกว่า ไม่ได้เลย และที่น้อยๆ สะสมกันหลายๆ รายเข้าก็เป็นยอดที่ใหญ่ ได้ตามเป้า ตามผลงานที่เค้ากำหนดให้คุณไป

ลูกหนี้อย่างพวกผม จ่ายเงินได้ครับ ถึงเป็นคนติดต่อมาหาพวกคุณแต่เราจะจ่ายไปในยอดที่มันสมเหตุสมผลเท่านั้น คุณลองนั่งนึกดูว่าหากคุณเป็นผม คุณจะคิดยังไง คุณอยากจะจ่ายยังไง แต่คุณเพิกเฉย และหวังลมๆ แล้งๆ ไปว่า ยังไงผมก็คงจะจ่ายแน่ๆ เพราะมีเรื่องบังคับคดี คิดได้แต่ไม่ถูกทั้งหมดครับ

ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่โทรมาแจ้ง"

แล้วผมก็วางสาย เหอๆ ตอนที่พูดผมก็รัวใส่ชุดใหญ่นะครับ น้องเค้าก็ฟังแล้วคงงงและอึ้ง 555 ไม่ได้ถือตัวว่าเก่งและยกตนข่มท่านนะครับ เพียงแค่อยากส่งเสียงให้บรรดาคนที่ติดตามทวงหนี้ได้ "ฉุกคิด" และ "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" บ้างก็จะเป็นประโยชน์ อย่างน้อยที่สุด ผมว่าน้องคนนี้ต่อไปเจอลูกหนี้คล้ายๆ ผม หากเค้าคิดได้จริงๆ ผมว่าเปลี่ยนแปลงได้นะครับ เราต้องช่วยกันเรื่องนี้

......ผ่านมาเริ่มสัปดาห์แรกของการทำงาน โทรไปที่นังผู้จัดการใหญ่ ว่าหนังสือปิดได้แล้วหรือยัง เค้าบอกว่าส่งเรื่องไปแล้วค่า เด๋วยังไงได้แล้วจะรีบโทรแจ้งนะค๊า....

เพราะตอนนั้นผมต้องใช้หนังสือปิดในการยื่นกู้บ้านครับ เหลือของที่นี่ที่เดียว แม้จะใช้ใบเสร็จรับเงินแสดงแต่เค้าก็ยังรอเอกสารใบปิด และ หนังสือยืนยันผมก็ไม่มีตั้งแต่แรก ยังไงเค้าก็ต้องรอดูเอกสารก่อน ผมเลยต้องสู้เพื่อใบปิดให้ได้ !!!

และแล้วผมก็กลายร่างเป็นคนจิกพวกตามหนี้บ้าง เหอๆ ผมไล่จิกจนนังผู้จัดการไม่ยอมรับสาย ผมจิกไปที่พนักงานทุกคน เพราะผมมีเบอร์ที่บันทึกไว้ตลอด เล่นกะกรูสิ จะได้รู้รสซะบ้างว่าการโดนโทรตามวันละสิบรอบเนี่ยจะรู้สึกอย่างไร

ไม่แค่โทรอย่างเดียวนะครับผมส่ง SMS วาทะเด็ดๆ ไปให้ด้วย ไม่หยาบคาย ไม่ต่ำ แต่ว่าอ่านแล้วเจ็บจี๊ดเลยล่ะ

ผ่านมาจนเข้าสัปดาห์แรกของเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผมเคยแจ้งไว้ว่า ผมมีงานใหญ่จะต้องจัดการ อิอิ แล้วนางผู้จัดการหญ่ายยย ก็รับสายจนได้ บอกว่ายังไม่ได้รับอีกเหรอ เห็นมีเอกสารส่งไปให้แล้วนะคะ ผมก็ถามว่า ส่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่
เธอก็บอกว่า "เราส่งเรื่องไปที่ KTC แล้วตั้งแต่ได้ fax จากคุณและทาง KTC ได้ส่งใบปิดให้แล้วนะคะหลังจากนั้น ""

"ส่งมาก็ได้แล้วน่ะสิ จะมาตามที่คุณอีกทำไม หากได้แล้ว นี่ไม่ได้เลยต้องตาม แล้วรู้หรือปล่าวว่าส่งไปที่ไหน"

"ก็ส่งตามทีอยู่ที่คุณแจ้งไว้น่ะสิคะ"

"งั้นบอกมาซิว่าผมแจ้งไว้ว่าส่งไปที่ไหน"

"......ก็ตามที่คุณแจ้งมาน่ะสิ" เอ๊ะ....วอนหัวกุดแล้วมั๊ยล่ะ

"งั้นส่งสำเนามาให้หน่อยซิ fax มาก็ได้คุณบอกว่าเค้าส่งมาแล้วคุณก็ต้องได้สำเนาด้วยเช่นกัน"

"เด๋วยังไงเราจะตรวจสอบให้อีกทีนะคะว่าส่งไปที่ไหน"

หลังจากนั้นก็รออีกหนึ่งสัปดาห์ ยังไม่มีเอกสารส่งมา โทรไปที่บ้านต่างจังหวัดก็บอกว่าไม่เคยมีเอกสารใดๆ เลยส่งมา มีคนอยู่บ้านตลอด

โทรกลับไปอีกรอบ เทอบอกว่า สงสัยจะส่งผิด แต่ยืนยันค่ะว่าออกหนังสือไปแล้วจริงๆ ไม่เป็นไรจะทำเรื่องให้ส่งใหม่อีกรอบ โอ้โห !!! ดูวิธีทำงานตอนนี้สิ เปลี่ยนได้ง่ายแท้ๆ

รออีกเช่นกัน และเธอก็แจ้งว่า ตอนนี้หนังสือไม่มีคนเซ็นค่ะ คนที่มีอำนาจลาพักช่วงวันหยุดยาวเลย (ตรุษจีน) เลยบอกว่า แล้วไม่มีใครเซ็นให้เลยเหรอ บริษัทมหาชนนะคุณ ลาพักเนี่ย ต้องมีคนรักษาการแทนหรือคนที่มีหน้าที่ลงนามแทนกันได้

"ไม่มีค่ะ มีคนเดียวต้องรอท่าน"

"อ้าว แล้วหากท่านคนนั้นของคุณเนี่ย ไปตายล่ะ ใครจะมาเซ็นแทน คุณเซ็นแทนได้งั้นเหรอ "

"คงไม่ถึงขนาดนั้นมังคะ ยังไงรออีกหน่อยนะคะจะรีบตามให้"

"รอ... คุณนับสิว่าตั้งแต่วันที่ไปจ่ายเงินมาจนถึงวันนี้กี่วันแล้ว ผมรอกี่วันแล้ว ปรกติ สองสัปดาห์ไม่ใช่เหรอที่คุณบอกว่าจะได้หนังสือปิดน่ะ"

"ค่ะ แต่เราก็ตามให้ตลอดนะคะ ติดที่คนเซ็นนี่แหละ "

อ๋อ !!! เล่นง่ายๆ แบบนี้ใช่หรือเปล่า เหนื่อยที่คุยกับมันเลยวางสาย พักก่อน

วันนั้นทั้งวันเลยโทรเข้าไปที่สนง. อีกรอบ นางคนนี้คงจะบอกคนในสนง. ไว้ เพราะทุกคนที่รับสายเวลาขอสายเธอ จะบอกว่าติดประชุม ทั้งหมด ตั้งแต่เช้ายันบ่าย

กะเล่นแบบนี้เลยใช่หรือเปล่า ได้ !!!!

โทรไปที่ KTC ตามเรื่อง เค้าบอกว่าทาง สนง. ยังไม่ได้ส่งเรื่องให้เลย !!!!!

และแล้ว ก็องค์ลง น้องๆ ที่ทำงานตกใจกันใหญ่ เหอๆ ผมโทรไล่ไปจน ได้คุยกับคนที่เป็นหัวหน้าสนง. กฏหมาย ผมเล่าข้อมูลให้ฟังใหม่หมด และบอกว่า ตามหนังสือฉบับเดียวมาเป็นเดือนครึ่งแล้ว เรื่องแค่นี้ถึงกับให้คุณมารับเรื่องเลยเหรอ ?

เค้าก็พูดจาดีนะครับ ถามข้อมูลทุกอย่าง และแล้ว ก็จับผิดนัง "ผู้จัดเกิน" คนนั้นได้ว่า "ซุงแหล" หนังสือปิดไม่เคยออกจาก KTC สักฉบับ ที่มันอ้างว่าออกมาแล้วส่งผิดที่นั่น มั่วทั้งเพ เพื่อผลัดวันไปเรื่อยๆ

แต่ทางคนที่คุยกับผมตอนนี้ก็ยังรักษาภาพพจน์ว่า ยังไงจะรีบจัดการให้ด่วนที่สุด ผมเลยบอกว่า ตอนนี้จำเป็นต้องใช้เอกสารยืนยันว่าผมได้จ่ายหนี้คุณจริง เพราะผมต้องใช้ยื่นธนาคาร ผมรอไม่ได้แล้ว คุณช่วยออกหนังสืออะไรได้บ้าง

เค้าบอกว่า ออกไม่ได้ แต่ยืนยันด้วยวาจาได้ว่า บัญชีมีรายการชำระและปรับปรุงให้แล้ว และเรื่องที่กรมบังคับคดี ก็ถอนเรียบร้อยแล้ว

ผมเลยบอกว่า งั้นเอาแบบนี้ คุณ ส่งหนังสือยืนยันยอดปิดที่ตกลงย้อนหลังให้ผมได้หรือเปล่า ผมขอแค่ fax มาไม่เอาตัวจริง

เค้าก็คิดอยู่สักครู่ แล้วบอกว่า ได้ แต่วันที่จะลงเป็นวันนี้นะ ลงย้อนหลังไม่ได้ ผมก็บอกว่า ยังไงก็ได้ให้ระบุว่าทาง KTC ตกลงให้ผมจ่ายที่ยอดเท่าไหร่ และภายในวันที่เท่าไหร่ ก็พอแล้ว

และแล้ว ผมก็ได้รับ fax ใบยืนยันยอดปิดหนี้มาหลังจากคุยกับหัวหน้า สนง. ในเวลาไม่ถึง 10นาที !!!!

นี่หละลูกหนี้อย่างพวกเราต้องรู้จักแปลงวิกฤติให้เป็นโอกาส ไม่ได้อย่างหนึ่งไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางเลือกอื่นๆ เลย

ดังนั้นอะไรที่เคยบอกมาว่า ไม่มีนโยบาย เรื่องอยู่บังคับคดีบ้าง เอกสารภายในส่งให้ไม่ได้มั่งล่ะ ทั้งหมดทั้งมวลมันคือสิ่งที่ สนง. กฏหมายมันโกหกพวกเราคำโต !!! แล้วที่ผมได้มาคือ อะไรล่ะ มันลบล้างสิ่งที่เค้าอ้างกันมาตลอด

ผมก็มีมารยาทพอที่จะโทรไปขอบคุณเค้าเช่นกันนะครับ และตลกมากที่เค้าก็งงๆ ผมเหมือนกันกลัวจะด่าอีกตอนที่ผมบอกชื่อผมไปเมื่อเค้ารับสาบ ผมก็บอกว่าผมชื่นชม คนที่รับเรื่องผมนะที่ช่วยดึงเรื่องจากต่างจังหวัดมาที่ส่วนกลางได้ และช่วยเจรจาลดยอดหนี้ให้ผม แต่เมื่อรับปากกับผมเรื่องเอกสารปิดแล้ว ก็ควรจะได้ตามที่สัญญาเช่นกัน เพราะผมจำเป็นต้องใช้จริงๆ

แต่นี่เค้ามาโกหกผมว่า มีเอกสารส่งมาแล้วทั้งๆ ที่พอคุณและผมตรวจสอบก็กลับเป็นว่าไม่มีออกมาตั้งแต่แรก และยังจะหาเหตุผลอื่นๆ มาอ้างอีก ซึ่งหากผมร้องเรียนไปพวกคุณก็เดือดร้อนเหมือนกันกับผม แต่ยังไงก็ขอบคุณมากที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้ก่อน

และนังผู้จัดเกิน ก็โทรมาหาบอกว่า ยังไงจะรีบตามหนังสือปิดจาก KTC ให้ด่วนนะคะ
ผมบอกว่าขอให้มันจริงเหอะ หากไม่ได้อีกทีในภายในวันที่ 15 ผมจะร้องเรียนคุณเลยล่ะ ตอนนี้ผมก็บันทึกเสียงคุณอยู่ทุกครั้งเวลาคุยกับคุณรู้หรือเปล่า

เธอ ก็หัวเราะแค่นๆ บอกว่ารับรองค่า หากไม่ได้คุณเสรีภาพเชิญร้องเรียนดิช้านนนได้เลยนะคะ

แล้วหนังสือปิดก็มาจนได้ในวันที่ 15 ตอนเย็นๆ เกือบเลยกำหนด แต่ขอโทษเป็น fax ครับ ดูจากหัวหนังสือแล้ว ก็รู้เลยว่าเพิ่งทำกันมาหลังจากผมได้เอกสารใบเงื่อนไขปิดหนี้ เฮ้อ !!!!

และก็เพิ่งจะได้รับเอกสารตัวจริงเมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมานี้เอง !!!!!


เหนื่อยจริงๆ ครับกับการปิดบัตรใบนี้ แต่ก็สอนผมได้หลายๆ เรื่องเลยล่ะ เอาไว้ผมจะสรุปอีกรอบนะครับว่าได้อะไรบ้างจากการปิดบัตรเครดิตใบนี้

ตอนนี้เท่ากับว่า ผมปิดบัตรทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แล้ว และไปตรวจสอบเครดิตบูโรเรียบร้อยแล้ว รายงานแจ้งว่า "ปิดบัญชี" ทุกรายการ


เหนื่อยกับผมหรือเปล่าครับ กับการติดตามเรื่องที่แสนจะยืดยาวแบบนี้ จริงๆ แล้วมีเบื้องหลังเยอะกว่านี้มากแต่บางอย่างเล่าในนี้ไม่ได้ครับ อย่างที่ทราบๆ กัน ขอขอบคุณผู้ก่อตั้งชมรมแห่งนี้ พี่นกกระจอกเทศ พี่กอบัว กรรมการชมรมทุกท่าน ประสบการณ์ของเพื่อนๆ ที่ได้เขียนเล่าเรื่องราวถ่ายทอดให้ได้ความรู้ หม่ามี๊ปูเป้ที่ให้กำลังใจตลอดมา เพื่อนๆ ขาประจำกระทู้นี้ที่มาพูดคุยกัน เอ่ยชื่อไม่หมดแต่ขอบคุณจริงๆ ครับสำหรับกำลังใจที่ให้มา

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8528 โดย meawpung
ไม่เหนื่อยหรอกครับ

ขอบคุณนะครับที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8530 โดย Nok2865
ฉันนึกว่าแกลอยคอออกไปอ่าวตั๋งเกี๋ยเสียแล้ว ไอ้เด็กเวลล์....
คิดถึงนะ แต่ทั้งงานของพี่บัว และงานของน้อง มันยุ่งขิงโคตรๆ
แวะมาบอกว่าคิดถึง แล้วก็ต้องจรลีไปข้างนอกทั้งวัน
ถ้าเย็นๆ มืดๆ เข้ามาได้ จะแวะมาคุยกันใหม่
จริงๆเขาบอกให้มาเจิม...แต่ฉันอยากจะ "ทิ่ม" หน้าแกมากกว่า โทษฐานแซวผู้อาวุโส แบบที่แสนดีบอก...
ไปแล้วจ๊ะ...

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8545 โดย sakusungza
คุณ ฟรีดอม หาเบอร์ คุณไม่เจอ จะโทรถามเรือ่งห้องกรงแบงค์อยู่ ถามพี่เป้ บอก ลืมเบอร์ เด๋วไปค้นก่อน ยังไงดี พี่เป้คงมีเบอร์แล้วใหมค่ะ โทรถามพี่เป้ก็ได้ เด๋วโทรไปปรึกษานะค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #8561 โดย Mommyangel
หือ...นึกว่าแก ลอยออกนอกทะเลไปแล้ว...ยังอยู่หรือเนี่ย...

หายไปจนพี่นึกว่า...หลงทาง...นะ..ก็หลงทางจริงๆ นะแหละ....

เวลาพวกเราส่งเมล์หานะ..แกได้รับบ้างหรือเปล่า...ยังใช้เมล์ตัวเดิมหรือเปล่า...

สบายดีนะ....พี่ลี

ขอเป็นเก้าอี้พักใจ....
ให้เธอได้พักพิง...

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.120 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena