หนี้มากค่ะ ผ่อนขั้นต่ำไม่ไหวแล้ว

tomyumkung เขียน: ขอบคุณครับ กรณีกสิกรของพี่ ยอดใกล้เคียงกับ ไถพานิด ของผมเลย สองรายการเกือบเจ็ดหมื่น ครบปีนึงที่หยุดเดือนนี้พอดี ผมก็เล็งอยู่ว่ามันจะเอาไงกับผม(ในใจถ้ามันฟ้องรวมก็ดีจะไปทำยอมต่อหน้าศาลซธเลย) แต่ก็ยังโทรทวงมาให้ส่วนลดผมเป็นระยะ (ตังค์ยังไม่มี) ของพี่นี่ หยุดได้กี่เดือนอะครับ รบกวนพี่อีกนึงคำถาม

เกือบปีเหมือนกันค่ะ ไม่พูดพร่ำอะไร
อยู่ดี ๆ หมายศาลก็มาเลยค่ะ !!!!!!
ขอโทษนะคะรบถวนถามกลับหน่อยทีว่าทำยอมหน้าศาลต้องทำยังไงอ่ะคะ
ยังไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ

ลองศึกษาตามกระทู้นี้ดูครับ

กระบวนการและระยะเวลาในการพิจารณาคดีในศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=31333&Itemid=52#31566

เวลาตอบกระทู้แล้วกดส่ง ต้องรอนิดนึงครับ ถ้ากดซ้ำมันจะออกมาหลายอันครับ

พ่อยอด เขียน: ลองศึกษาตามกระทู้นี้ดูครับ

กระบวนการและระยะเวลาในการพิจารณาคดีในศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=31333&Itemid=52#31566

เวลาตอบกระทู้แล้วกดส่ง ต้องรอนิดนึงครับ ถ้ากดซ้ำมันจะออกมาหลายอันครับ

ขอบคุณนะคะ

กลุ้มใจจัง จะขึ้นศาลแล้วอีกไม่กี่วัน

aromto เขียน: กลุ้มใจจัง จะขึ้นศาลแล้วอีกไม่กี่วัน

สวัสดีครับคุณ aromto อย่าไปกลุ้มใจกับการไปศาลเลยครับ เตรียมแนวทางสำหรับการไปศาลไว้ดีกว่าครับ ลองฟังข้อเสนอของทาง ทนายโจทก์ดูครับ แล้วตัดสินใจ
1.ทำยอมหน้าศาลในกรณีข้อเสนอ ยอมรับได้ไม่เอาเปรียบเกินไป และคุณ aromto ไม่เดือดร้อนในการที่จะชำระจ่ายในแต่ละเดือน
2.ให้ศาลตัดสิน เพื่อขอความเห็นเป็นธรรมในเรื่องดอกเบี้ย(ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจ ของศาลแต่ละท่าน)
3.เลื่อนนัดไปก่อน 1นัด ซึ่งสามารถเลื่อนได้ด้วยวาจาครับ โดยจะเลื่อนได้ 1-2 เดือน แล้วกลับมาเจรจาส่วนลดกับเจ้าหนี้ หากยังตกลงกันไม่ได้ หรือเจ้าหนี้เอาเปรียบเกินไปก็ยื่นคำให้การเพื่อสู้คดีในนัดที่สองครับ โดยคำให้การต้องเขียนโดยผู้รู้ด้านกฎหมายครับ

ผมจะขึ้นศาลนัดที่2 ปลายเดือนนี้เช่นกันครับ ได้ไปสวนลุมเพื่อปรึกษาคุณอาประพัฒน์ และขอความกรุณาจากท่าน ในการให้ท่านช่วยเขียนคำให้การครับ

ทำใจให้สบายดำรงชีวิตให้เป็นสุขเหมือนปกติครับ ไปศาลไม่ต่างจากเราไปติดต่อราชการปกติครับ

Rider V1 เขียน:

aromto เขียน: กลุ้มใจจัง จะขึ้นศาลแล้วอีกไม่กี่วัน

สวัสดีครับคุณ aromto อย่าไปกลุ้มใจกับการไปศาลเลยครับ เตรียมแนวทางสำหรับการไปศาลไว้ดีกว่าครับ ลองฟังข้อเสนอของทาง ทนายโจทก์ดูครับ แล้วตัดสินใจ
1.ทำยอมหน้าศาลในกรณีข้อเสนอ ยอมรับได้ไม่เอาเปรียบเกินไป และคุณ aromto ไม่เดือดร้อนในการที่จะชำระจ่ายในแต่ละเดือน
2.ให้ศาลตัดสิน เพื่อขอความเห็นเป็นธรรมในเรื่องดอกเบี้ย(ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจ ของศาลแต่ละท่าน)
3.เลื่อนนัดไปก่อน 1นัด ซึ่งสามารถเลื่อนได้ด้วยวาจาครับ โดยจะเลื่อนได้ 1-2 เดือน แล้วกลับมาเจรจาส่วนลดกับเจ้าหนี้ หากยังตกลงกันไม่ได้ หรือเจ้าหนี้เอาเปรียบเกินไปก็ยื่นคำให้การเพื่อสู้คดีในนัดที่สองครับ โดยคำให้การต้องเขียนโดยผู้รู้ด้านกฎหมายครับ

ผมจะขึ้นศาลนัดที่2 ปลายเดือนนี้เช่นกันครับ ได้ไปสวนลุมเพื่อปรึกษาคุณอาประพัฒน์ และขอความกรุณาจากท่าน ในการให้ท่านช่วยเขียนคำให้การครับ

ทำใจให้สบายดำรงชีวิตให้เป็นสุขเหมือนปกติครับ ไปศาลไม่ต่างจากเราไปติดต่อราชการปกติครับ

ขอบคุณมากนะคะ
แต่ตอนนี้ก็ยังกังวลเพิ่มอีกค่ะ
ทั้ง ยูโอบี ธนชาติ เฟริสช้อย ทยอยโทรกันมา
บอกว่ายอดเยอะให้จ่ายไปก่อน .....

เวลาจะไม่มีก็หายกันไปหมด
แต่พอโทรมาก็กระหน่ำโทรกันมามากมายค่ะ

...........

กังวลว่าจะเหมือนกสิกร ไม่โทร ไม่บอก ไม่อ้อยอิ่ง
อะไร
ส่งหมายศาลมาให้เล๊ย

aromto เขียน:
ขอบคุณมากนะคะ
แต่ตอนนี้ก็ยังกังวลเพิ่มอีกค่ะ
ทั้ง ยูโอบี ธนชาติ เฟริสช้อย ทยอยโทรกันมา
บอกว่ายอดเยอะให้จ่ายไปก่อน .....

เวลาจะไม่มีก็หายกันไปหมด
แต่พอโทรมาก็กระหน่ำโทรกันมามากมายค่ะ

...........

กังวลว่าจะเหมือนกสิกร ไม่โทร ไม่บอก ไม่อ้อยอิ่ง
อะไร
ส่งหมายศาลมาให้เล๊ย

สวัสดีครับ ผมขออนุญาติคุณแก้วจ๋า นำข้อความที่โพสในกระทู้ของผมเมื่อ 6เดือนที่แล้วมาโพสซ้ำนะครับ

"เรื่องฟ้องเป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อคุณตัดสินใจ หยุด นี้คือสิ่งที่อาจจะ
เจอ หรือ ไม่เจอ แล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าหนี้ เราเพียงแต่รู้เท่าทัน
เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ อย่าประมาท ทำงานให้เต็ม 100 เก็บ
เงินให้เข้าเป้า ลดค่าใช้จ่ายให้เต็มที่ แค่นี้ ชีวิตก็มีความสุขแล้วค่ะ"

เรื่องฟ้องเป็นดุลยพินิจ ของเจ้าหนี้จริงๆครับ ผมน่าจะหยุดจ่าย UOB พร้อมๆกับคุณ aromto แต่ผมโดนฟ้องตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาแล้วครับ ตั้งสติเตรียมรับมือ ทำทุกวันให้มีความสุขครับ

Rider V1 เขียน:

aromto เขียน:
ขอบคุณมากนะคะ
แต่ตอนนี้ก็ยังกังวลเพิ่มอีกค่ะ
ทั้ง ยูโอบี ธนชาติ เฟริสช้อย ทยอยโทรกันมา
บอกว่ายอดเยอะให้จ่ายไปก่อน .....

เวลาจะไม่มีก็หายกันไปหมด
แต่พอโทรมาก็กระหน่ำโทรกันมามากมายค่ะ

...........

กังวลว่าจะเหมือนกสิกร ไม่โทร ไม่บอก ไม่อ้อยอิ่ง
อะไร
ส่งหมายศาลมาให้เล๊ย

สวัสดีครับ ผมขออนุญาติคุณแก้วจ๋า นำข้อความที่โพสในกระทู้ของผมเมื่อ 6เดือนที่แล้วมาโพสซ้ำนะครับ

"เรื่องฟ้องเป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อคุณตัดสินใจ หยุด นี้คือสิ่งที่อาจจะ
เจอ หรือ ไม่เจอ แล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าหนี้ เราเพียงแต่รู้เท่าทัน
เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ อย่าประมาท ทำงานให้เต็ม 100 เก็บ
เงินให้เข้าเป้า ลดค่าใช้จ่ายให้เต็มที่ แค่นี้ ชีวิตก็มีความสุขแล้วค่ะ"

เรื่องฟ้องเป็นดุลยพินิจ ของเจ้าหนี้จริงๆครับ ผมน่าจะหยุดจ่าย UOB พร้อมๆกับคุณ aromto แต่ผมโดนฟ้องตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาแล้วครับ ตั้งสติเตรียมรับมือ ทำทุกวันให้มีความสุขครับ

ขอบคุณนะคะ

ได้ไปศาลตามวันนัด (ของกสิกรค่ะ)
แต่เมื่อไปแล้วทนายโจทก์บอกว่า
หากต้องการยืดเวลา เพราะเนื่องจากพึ่งได้งานใหม่
และต้องการให้ผ่านโปรก่อนแล้วค่อยมีการเจรจากันเรื่อง
อายัดเงินเดือน ...
ให้เราไม่ต้องลงลายมือชื่อ หรือแสดงตัวตนว่าเรามาศาล
และวันนั้้นผู้พิพากษาก็ไม่มาขึ้นบัลลังค์ ก็เลยไม่แน่ใจว่าอย่างนี้
จะโดนหลอกหรือไม่อ่ะ
เฮ้อ...

ขอบคุณนะคะ
คุณ Rider V1

นี่มันเบอร์ Uob นี่นา

กลุ้มใจจังค่ะ
ไทยพาณิชย์บอกว่าจะฟ้องอีกค่ะ
กสิกรยังลุ่มๆดอนๆอยู่เลยค่ะ
เงินก็ยังเก็บไม่ได้
เฮ้อๆ

แร้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ถึงไหนแล้ว อยากทราบความคืบหน้าน่ะครับ เพื่อเป็นแนวทาง

เอาใจช่วยนะครับ ผมเป็นหนี้ ของอิออ้อน เจ้าเดียว จำนวน หนี้ คือ 69000 บาท จ่ายตรงมาตลอด แต่ติดว่าเดือนนี้ ตกงาน มารับจ้างเป็นยามเงินออก ช้า ทำให้จ่ายช้า เลยตัดสินใจ หยุดจ่ายแล้ว ตั้งหน้าเก็บเงิน เพื่อ ทำ H/C จะใด้หมดๆไปซะที แต่ตอนนี้ ก็เริ่มมีโทรมา ทวงแล้วครับ บอกเหตุผล มันไปแล้ว มันก็โทรมาหลอกล่อ อยู่นั่นว่า จะ ยกเลิกค่านั่นๆๆนี่ๆโน่น บลาๆๆๆๆๆ แล้วไปจ่ายสะักหน่อยเทอะ ไรงี้ เงินเดือน ยาม (ขอเรียกว่ายาม ละกันครับผมว่ามันเท่ กว่า เรียก รปภ. เยอะ อิอิอิ ) ตกวิกละ ประมาณ 5200 (ยังไม่ผ่านโปร ได้วันละ 400) ผมไม่กินเหล้า ไม่ชอบคุยกับมะเร็ง (ไม่สูบบุหรี่) ก็พอจะมีเงินเก็บได้ บ้าง ตอนนี้ก็เตรียมทำใจรับการกระหน่ำทวงหนี้ ครับ เอาใจช่วยจ้าาา แต่ ที่โทรมา นี่ มันเอาเบอร์มือถือ โทรมา น่ะครับ เหอะๆๆๆๆ

ยังไม่มีแนวทางอะไรลยค่ะได้แต่รอ ไม่รู้ว่าการตัดสินใจเชื่อทนายโจทก์ครั้งนี้จะถูกต้องหรือไม่

เพื่อนๆคนไหนมีแนวทางแนะนำได้นะคะ

aromto เขียน: ได้ไปศาลตามวันนัด (ของกสิกรค่ะ)
แต่เมื่อไปแล้วทนายโจทก์บอกว่า
หากต้องการยืดเวลา เพราะเนื่องจากพึ่งได้งานใหม่
และต้องการให้ผ่านโปรก่อนแล้วค่อยมีการเจรจากันเรื่อง
อายัดเงินเดือน ...
ให้เราไม่ต้องลงลายมือชื่อ หรือแสดงตัวตนว่าเรามาศาล
และวันนั้้นผู้พิพากษาก็ไม่มาขึ้นบัลลังค์ ก็เลยไม่แน่ใจว่าอย่างนี้
จะโดนหลอกหรือไม่อ่ะ
เฮ้อ...

ถ้าถามผมผมว่าพลาดแล้วหล่ะครับ ต้องการยืดเวลาก็ต้องขอเลื่อนหรือสู้คดีซึ่งต้องเซ็นต์เอกสารของทางศาล ถ้าให้ศาลตัดสินเลย ก็มีเอกสารให้เซ็นต์เช่นกัน ถ้าไม่แสดงตัวคือหนีศาล ศาลอาจพิจารณาตามโจทย์ฟ้องทั้งหมดรวมถึงอัตราดอกเบี้ยด้วย แต่ก็ต้องรอดูคำตัดสินอีกครั้งเผื่อท่านพิจารณาลดเรื่องดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมให้ครับ

อันที่ 2 ถ้าทนายดีจริงเข้าอาจเลื่อนศาลให้ซึ่งการเลื่อนโดยฝ่ายโจทก์สามารถทำกี่ครั้งก็ได้

ถ้าให้แน่ใจก็เช็คไปที่ศาลอีกทีครับ

ตอนนี้ก็ได้แต่รอค่ะ

อย่ารอค่ะ.....หาเวลาไปเช็คที่ศาลซิว่าคดีของคุณถึงไหนแล้ว

จะได้เตรียมรับมือทัน...

เท่าที่ดู...คุณไม่มีเงินเก็บ (มีไม่มาก)..

ถ้าเป็นแบบที่คุณบอกมา จะกลายเป็นว่าปล่อยให้ศาลตัดสิน..

แล้วไปเจรจากับเจ้าหนี้หลังจากได้รับคำพิพากษาแล้ว....

หรือถ้ายังเจรจากันไม่ได้..คือแบบว่ายังไงก็จ่ายไม่ได้...

ก็คงต้องปล่อยให้อายัดเงินเดือน...อายัดทรัพย์....เป็นไปตามขั้นตอน

แต่เจ้าหนี้มักจะมองที่เงินมากกว่า...ยังไงก็ค่อยๆ เจรจากันนะคะ...

ลองประเมินตัวเองดู..ว่าพร้อมตรงไหน...ขอให้โชคดีค่ะ

ปล..ถ้าไปเช็คคดีที่ศาลแล้ว...คำพิพากษาออกแล้ว..ก็ไม่ต้องขอคัดเองนะคะ

รอให้ทางฝ่ายเจ้าหนี้คัดส่งมาให้เราคะ..ยืดเวลาออกไปอีกหน่อย

ยืดเวลาได้ประมาณเท่าไหร่คะ และตอนนี้มีคำพิพากษามาที่บ้านแล้วค่ะ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่กสิกร(โทรมาตอนสองทุ่มค่ะ)บอกให้จ่ายหยอดเข้าไปก่อนตอนนี้เครียดมากค่ะไม่ทราบว่าที่ทำไป (เชื่อทนายโจทก์นี่ทำถูกต้องหรือไม่ค่ะ) อีกอย่างไม่เข้าใจการทำงานของศาลน่ะค่ะ วันที่ไปผู้พิพากษาไม่ลงบัลลัชค์แล้วแบบนี้จะพิจารณาคดีโดยให้ความเป็นธรรมได้อย่างไร กลี้มใจจริงๆมากๆค่ะ