เลยกำหนดการจ่ายกี่วันถึงถูกฟ้อง

powerfully เขียน: ขอบพระคุณมากคะพี่อังที่เตือนสติน้อง

เป็นจังหวัดน้องใหม่ อะไรก็ยังดูไม่ค่อยลงตัว ไปรษณีย์มาส่งเอกสารก็ช้า บางทีเอกสารก็หาย บางทีก็ได้ของคนอื่นมา ต้องเอาไปคืินไปรษณีย์หลายครั้ง แค่หนี้เรายังไม่ได้จ่ายเลย ยังเอาใบเรียกเก็บของคนอื่นมาให้อีก พึ่่งจะได้รับเอกสารเป็น
ใบกำำักับภาษี(TAX INVOICE) ลงวันที่ 16/11/2012
ออกโดยธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ลงรายละเอียดเป็นค่าบริการ 1,000 บาท
จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % = 70 บาท
จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 1,070 บาท

หมายเหตุ
ใบกำกับภาษีนี้มิใช่ใบเสร็จรับเงิน ออกให้ไว้เฉพาะค่าบริการที่มีภา๊ษีมูลค่าเพิ่ม ในส่วนที่ถูกเรียกเก็บโดยธนาคาร HSBC ในหรือก่อนวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ยอดค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มข้างต้นอาจประกอบด้วยค่าบริการที่ได้รับชำระแล้ว และ/หรือ ค่าบริการ ที่ยังไม่ได้รับชำระในหรือก่อนวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ท่านผู้ถึอบัตรจะได้รับใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการที่ท่านไ้ด้ชำระ จากบริษัทบัตรกรุงศรีอยุธยาตามรอบการออก Statement ของบริษัทบัตรกรุงศรีอยุธยาตามปกิต่อไป
งงเลยสรุปว่ามันเป็นค่าอะไร หรือเป็นการเรียกเก็บค่าติดตามทวงถาม

หยุดการชำระมาได้ 6 เดือน ช่วงนี้ในเครือกรุงศรี มีส่วนลดให้ทุกบัตร โทรมาเกือบทุกวัน ของเครือกรุงศรีมี 4 ตัว
1) HSBC เดิม ยอดหยุด 84,XXX ยอดปัจจุบัน 9 หมื่น ใบนี้สามีเป็นบัตรเสริม
2) กรุงศรีวีซ่า ยอดหยุด 66,XXX ยอดปัจจุบัน 74,XXX
3) กรุงศรีดรีมโลน ยอดหยุด 39,XXX ยอดปัจจุบัน 41,XXX
4) เทสโก้โลตัส ยอดหยุด 41,XXX ยอดปัจจุบัน 46,XXX

ของโลตัส เจ้าหน้าที่แจ้งส่วนลดปิดที่ 28,XXX ให้ผ่อน 6 เดือน เดือนละ 4700 เจ้าหน้าที่ก็พยายามจะอธิบายว่าตอนนี้ส่วนลดดีมาก ถ้าเลยจากนี้ไปจะลดได้แค่ 30 % ดิฉันก็บอกไปว่าเข้าใจคะ แต่ตอนนี้ไม่มีเงินอยู่ในมือเลย ค่าน้ำ ค่าไฟ ก็ยังไ่ม่ได้ชำระ ต้องเก็บเงินไว้กินก่อน
ตอนนี้ก็เริ่มมีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตแล้วคะ วันที่ 1 กพ. นี้จะได้ทำงานเป็นลูกจ้างที่ อบจ. เงินเดือนประมาณ 8 พันกว่าบาท ก็ยังดีอย่างน้อยได้มีเงินค่าอาหาร ส่วนค่าคอมของสามีที่ขายปุ๋ยรายได้ก็ไม่แน่นอน
้

วันนี้รู้สึกโล่งใจไปอีกเปราะหนึ่ง เพราะพึ่งได้งานทำเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นพนักงานจ้างตามภารกิจ ของหน่่วยราชการท้องถิ่น วันนี้หัวหน้างานซึ่งอายุน้อยกว่าตัวเอง ถามขึ้นมาว่า พี่ powerfully เหมือนมีอะไรอยู่ในใจนะคะ เราก็เลยได้โอกาสอยู่กัน 2 คน กับหัวหน้า ก็เล่าเรื่องให้ฟังว่ากลัวว่าจะมีผลกระทบกับงานเพราะต้องทดลองงาน 6 เดือน ตอนนี้ไม่สามารถลาพักร้อนได้ ถ้าต้องลากิจบ่อย ๆ เนื่องจากไปขึ้นศาล เพราะเป็นหนี้บัตรเครดิต ซึ่งหัวหน้างานรับฟังด้วยความเข้าใจ และบอกว่านายเป็นคนดีมาก ยิ่งเรื่องแบบนี้นายเข้าใจ และ เห็นใจพนักงาน ทำให้เราเหมือนยกภูเขาออกจากอก

พี่เป้แวะมาทักทาย และนำกำลังใจมาฝากค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ


สู้ๆ

powerfully เขียน: วันนี้รู้สึกโล่งใจไปอีกเปราะหนึ่ง เพราะพึ่งได้งานทำเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นพนักงานจ้างตามภารกิจ ของหน่่วยราชการท้องถิ่น วันนี้หัวหน้างานซึ่งอายุน้อยกว่าตัวเอง ถามขึ้นมาว่า พี่ powerfully เหมือนมีอะไรอยู่ในใจนะคะ เราก็เลยได้โอกาสอยู่กัน 2 คน กับหัวหน้า ก็เล่าเรื่องให้ฟังว่ากลัวว่าจะมีผลกระทบกับงานเพราะต้องทดลองงาน 6 เดือน ตอนนี้ไม่สามารถลาพักร้อนได้ ถ้าต้องลากิจบ่อย ๆ เนื่องจากไปขึ้นศาล เพราะเป็นหนี้บัตรเครดิต ซึ่งหัวหน้างานรับฟังด้วยความเข้าใจ และบอกว่านายเป็นคนดีมาก ยิ่งเรื่องแบบนี้นายเข้าใจ และ เห็นใจพนักงาน ทำให้เราเหมือนยกภูเขาออกจากอก

ยินดีด้วยครับ..ที่ได้งานใหม่ ทั้งได้เพื่อนร่วมงานที่เข้าใจเรา..ทำให้โล่งใจไปได้เปลาะนึง...

ส่วนเรื่องไปศาล..ก็คงไม่ได้ไปติดๆกันทุกรายหรอกครับ...

สรุปแล้ว..หนี้เรามีกี่ราย..แค่สาม-สี่ หรือมากกว่านั้น.?

มีแผนในใจหรือยัง..ว่าจะจัดการอย่างไร?

จะเก็บเงินปิดได้บ้างหรือเปล่า?..ฟังดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีเงินเก็บ

ได้ศึกษาหาข้อมูลมาดีแล้วหรือยัง?ลองเล่ามาให้ฟังซักนิดนึงก็ดีนะครับ..

ถ้ามีแผนแล้วก็ดีครับ ...ยังไงๆก็ระวังหน่อยเพราะอาจถูกบางรายฟ้องเร็วๆนี้นะครับ..

powerfully เขียน: วันนี้รู้สึกโล่งใจไปอีกเปราะหนึ่ง เพราะพึ่งได้งานทำเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นพนักงานจ้างตามภารกิจ ของหน่่วยราชการท้องถิ่น วันนี้หัวหน้างานซึ่งอายุน้อยกว่าตัวเอง ถามขึ้นมาว่า พี่ powerfully เหมือนมีอะไรอยู่ในใจนะคะ เราก็เลยได้โอกาสอยู่กัน 2 คน กับหัวหน้า ก็เล่าเรื่องให้ฟังว่ากลัวว่าจะมีผลกระทบกับงานเพราะต้องทดลองงาน 6 เดือน ตอนนี้ไม่สามารถลาพักร้อนได้ ถ้าต้องลากิจบ่อย ๆ เนื่องจากไปขึ้นศาล เพราะเป็นหนี้บัตรเครดิต ซึ่งหัวหน้างานรับฟังด้วยความเข้าใจ และบอกว่านายเป็นคนดีมาก ยิ่งเรื่องแบบนี้นายเข้าใจ และ เห็นใจพนักงาน ทำให้เราเหมือนยกภูเขาออกจากอก

เจอหัวหน้างานดีที่เข้าใจชีวิตลูกหนี้แบบเราๆ ถือว่าเป็นโชคดีครับ สบายใจไปได้อีกเรื่อง โชคดีครับ

ขอขอบพระคุณพี่ปูเป้ พี่ิิbalm คุณ devil angel คุณ jack hunter มากคะ
สำหรับหนี้ของตัวเองเฉพาะบัตรเครดิต และ สินเชื่อบุคคล มีทั้งหมด 15 รายการคะ มูลค่าโดยรวมก็ประมาณ 7 แสนกว่าบาทคะ ยังไม่รวมสินเชื่อบุคคลที่ใช้รถค้ำอีก 3 แสนบาทคะ ซึ่งรายหลังยังส่งทุกเดือนคะ เดือนละ 4,700 บาท ลดต้นไปได้แค่เดือนละ 1 พันบาท เพราะถ้าไม่ส่งมีผลกระทบกับการส่งงวดรถยนต์คะ ต้องบอกว่ารถยนต์ตอนนี้ยกให้พี่สาวสามีไปแ้ล้ว ให้เขาส่งเอง ให้เขาไปเลยเพราะส่งไม่ไหว และเราก็ยืมเงินเขามาก่อนหน้านี้แสนกับหกหมื่นบาทแล้วคะ แต่ยังเปลี่ยนชื่อคนเช่าซื้อไม่ได้เพราะยังไม่มีเงินไปปิดเงินกู้ บริษัทไฟแนนซ์ไม่ยอมทำให้ เพราะมันเป็นสัญญาตัวเดียวกัน นี่ก็ยังกังวลกลัวคนส่งรถแล้วเขาจะไม่ได้รถถ้าโดนกรมบังคับคดี สำหรับแนวทางในการใช้หนี้คือ ตอนนี้กำลังดำเนินการทำเรื่องบำเหน็จตกทอดของพ่อที่เสียนะคะ แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ดิฉันเป็นลูกคนเดียวแต่ะพ่อกับแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ต้องยื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลสั่งว่าเราเป็น่บุตรโดยชอบธรรม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนยื่นเรื่องต่อศาล เสียค่าเดินเรื่องกับทนายไป 5 พันบาท เงินก็ไม่ค่อยมีแต่ต้้องหามาคะ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องมีการสืบพยานบุคคลด้วยคะ วัีนขึ้นศาลดิฉันก็ต้องไปรับน้องสาวพ่อจากมหาสารคามคะ ก่อนหน้านี้ดิฉันไปกรุงเทพฯ ไปคัดสำเนาใบเกิดที่เขตสายไหม ทางต้นสังกัดพ่อบอกว่าใช้ไม่ได้ ดิฉันก็ไม่เข้าใจขนาดมีสำเนาใบเกิด ในทะเบียนบ้านก็บอกว่าบิดาของดิฉันเป็นใคร เลขประจำตัว 13 หลักก็มี แต่เจ้าหน้าที่ต้นสัีงกัดบอกใช้ไม่ได้ เขาไม่กล้ายื่่น กลัวว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้นเขาต้องเป็นคนรับผิดชอบ ขั้นตอนเดิืนศาลใช้เวลาประมาณ 45 วัน ต่อจากนั้นดิฉันก็จะได้นำคำสั่งศาลส่งไปต้นสังกัดอีกครั้ง ซึ่งเท่าทีติดตามของรายอื่น ๆ ถ้าเอกสารครบก็กว่าจะได้เงินอีกประมาณ 2 เดือน รวมแล้วจากนี้ไปก็ประมาณ 3 เดือน ดิฉันก็จะพอมีเงินมาชำระหนี้ได้บางส่วนคะ แต่คงไม่หมด เพราะพ่อเงินเดือนน้อย และ ได้นำออกมาใช้ตอนเกษียณแล้วบางส่วน ที่เหลือก็น่าจะประมาณ 2 แสนคะ ยังเหลือหนี้นอกระบบส่วนใหญ่เป็นของพี่น้องสามีคะ ซึ่งเขาก็เห็นสภาพก็เราไม่ได้เร่งรัดอะไร จำนวนก็เป็นแสนเช่นกันคะ ไม่รวมกับของพี่สาวที่ให้รถไปนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณ powerfully

น้ำมนต์เคยได้ยินเพื่อนเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อ โดยยังใช้สัญญาเช่าซื้อฉบับเดิม..

เพียงแต่ผู้เช่าซื้อคนใหม่ จะต้องยื่นหรือแสดงรายได้เพื่อพิจารณา การกู้ ว่าจะผ่านหรือเปล่า...

มีค่าใช้จ่ายที่ไม่แน่นอน...ของเพื่อนเขาเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อใหม่ พันกว่าบาทค่ะ

แต่ยอดเช่าซื้อ ประมาณ สองแสนกว่าค่ะ...โดยใช้สัญญาเช่าซื้อฉบับเดิม

เห็นเพื่อนบอกว่า...เขาเรียกว่าเปลี่ยนคู่สัญญาอะไรประมาณนี้นะค่ะ...เป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณมากคะคุณน้ำมนต์ สำหรับคำแนะนำ และกำลังใจ
powerfully และ พี่สาวสามี ต่างคนต่างโทรไปถามไฟแนนซ์แล้วคะ ยังไงก็ไฟแนนซ์ไม่ยอมถ้าไม่นำเงินมาปิดยอดเงินกู้ก่อน ยังไงดิฉันจะโทรคุยกับไฟแนนซ์อีกรอบ ถ้าไม่ได้ก็ต้องพยายามหาทางชำระหนี้บัตร ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละเปราะคะ

ช่วงนี้ได้งานทำ จึงมีเวลาอ่านกระทู้น้อยมาก ในเครือกรุงศรีโทรมาติด ๆ กัน เพราะมีี 4 บัญชี ตอนนี้เป็นเดือนที่ 7 แล้ว ทุกบัตรจะบอกเหมือนกันหมดว่าถ้าตกไปในฝ่ายกฏหมายจะอย่างต้องเสียค่าต่าง ๆ นา ๆ เยอะไปหมด เท่าที่อ่านเพื่อน ๆ ก็จะปิดยอดได้ส่วนลดกันหมด สำหรับตัวเองต้องรออีกประมาณ 3 เดือน ถึงจะมีเงินมาชำระ ใจอยากจะตอบว่าให้ฟ้อง ๆ ไปเลย เบื่อที่จะบอกปัด เพราะเจ้าหน้าที่เสนอให้ประนอมหนี้ แ้ล้วบอกว่าส่งไปสัก 3 เดือน พอมีเงินก้อนแล้วผมจะทำส่วนลดปิดบัีญชีให้

เมื่อวานรับสายเยอะมากคะ บัตรเครดิตกระหน่ำโทรกันเข้ามาเพราะผ่านไป 7 เดือน เข้าเดือนที่ 8 แล้ว ทุกบัตรพูดคล้ายกันหมดว่าดึงไม่ได้แล้ว เรืองจะต้องยื่นฟ้องต่อศาล กรุงไทย ก็ยังพูดจาดี ในเครืองกรุงศรีก็พูดจาดี แต่ยูโอบี พูดแย่ยังไงก็ยังแย่เหมือนเดิมไม่ว่าจะเปลี่ยนคนทวงกี่คน ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นเช่นนี้ พูดแดกดัน
u : ให้โอกาสมาตั้ง 8 เดือน จะมาบอกไม่มีนะคงไม่ได้นะ จะให้รอเป็นปีคงไม่ไหว จะรอให้มีเงินเมื่อไหร่ คุณต้องไปหาหยิบยืมใครก่อน
p: ดิฉันยืมพี่น้องมาหลายแสนแล้วไม่มีใครให้ยืมแล้ว
u: ยืมแล้วคุณเอาไปจ่ายอะไร ไม่เห็นมีมาจ่ายยูโอบี คุณไปจ่ายที่อื่นก่อนใช่ไหม
p:ดิฉันไม่ได้จ่ายที่อื่น ยืมมาก่อนหน้านี้ 8 เดือนแล้ว
u: คุณมีเงินแล้วไม่มาจ่ายยูโอบี คุณเอาไไปไหนหมด(ขึ้นเสียง)
p: พี่มีภาระเยอะ ลูกเกือบไม่ได้สอบปลายภาคเพราะพี่ไม่ได้จ่ายค่าเทอม
u: ดิฉันเข้าใจ แต่ยังไงคุณต้องหามาจ่ายก่อน
p: น้องไม่เข้าใจหรอก ถ้าน้องเข้าใจ น้องจะไม่พูดแบบนี้
U: เอาอย่างนี้ดิฉันให้โอกาสอีก 2 วัน จะโทรมาถามอีก แล้ววางหูไป
นึกในใจใครจะหาทัน สถาบันนี้จะฝั่งใจไปตลอดกาล

ตอนนี้เหนื่อยใจกับยูโอบีมากเลยคะ แต่ต้องทนรับโทรศัพท์ พยายามระงับอารมณ์ หลังจากถูกพูดกระแทกแดกดันมาหลายวัน วันนี้ประมาณสี่โมงเย็นโทรมาอีก
u : ตอนนี้ธนาคารอนุมัติฟ้องแล้ว คุณจะต้องจ่ายทั้งหมด 3 บัตร ยอดรวมแปดหมื่นกว่าบาท ไม่มีการลดอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าจ่ายเข้ามาภายในสิ้นเืดือนนี้บางบัตร จะทำการดึงเรื่องฟ้องให้ คุณว่าดีกว่าไหม(ขึ้นเสียงนิดๆ) แต่ัยังไม่รับปากนะว่าจะได้ต้องเสนอดูก่อน
P: ดิฉันยังไม่แน่ใจเลยคะ ต้องหาดูก่อน วันอังคารค่อยโทรมาอีกทีได้ไหมคะ
u: ดิฉันแปลกใจมากไม่เห็นคุณถามเลยว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ คุณมีเจตนาจะจ่ายจริงหรือเปล่า
P: คะ แล้วต้องชำระเท่าไหร่คะ
u: ต้องจ่ายใบที่มียอดสูงสุดสี่หมื่นแปด ลดให้สุด ๆ แล้ว สามหมื่นห้า แต่ยังไม่รับปากนะต้องเสนอก่อน
เหนื่อยใจกับเจ้าหน้าที่คนนี้มาก ถามชื่อบอกว่าชื่อภาวพัส ถามนามสกุล บอกไม่จำเป็นต้องรู้ ถามว่ามาจากสำนักกฏหมายอะไร บอกไม่ใช่เป็นพนักงานยูโอบี ดิฉันก็เลยบอกว่าพนักงานยูโอบีพูดจาแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ เจอตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้าย พูดจาประชดประชัน
ถ้าดิฉันไ่ม่มีเจตนาจ่ายดิฉันคงไม่รับโทรศัพท์ทุกสายหรอก แต่ว่ารอเงินอยู่
สองวันก่อนก็พูดว่ามันเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องหามาจ่าย คุณใช้ไปคุณก็ต้องรู้ว่าต้องทำยังไง นี่ไม่ใช่เดื่อนแรกนะที่ทวง นี่เข้าเดื่อนที่แปดแล้วที่ไม่มีการจ่ายเข้ามา จะมาบอกว่าไม่มีมันไม่ได้(ขึ้นเสียงสูง) ใจอยากจะตอบโต้กลับไปแรง ๆ แต่ก็พยายามข่มใจ เลี้ยงไว้ก่อนเผื่อมีทางออกที่ดี ถ้าใช้อารมณ์กลัวจะแก้สถานการณ์ไม่ได้ แต่คงจำสถาบันนี้ไปจนตาย บอกลูกบอกหลานไม่ต้องไปทำธุรกรรมกับธนาคารนี้อีก ไม่ว่าจะฝาก หรือ อะไรทั้งสิ้น

รบกวนขอถามหน่อยนะคะ
ตอนนี้ยูโอบีมาแบบดิฉันก็ตั้งตัวไม่ทัน ประกอบกับช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะ ไม่มีสมาธิในการคุยโทรศัพท์ ดิฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะชำระยอดที่เขาบอกในบัตรที่ยอดสูงคืิอสี่หมื่นแปด ให้ชำีระที่สามหมื่นห้า เพียงแต่บอกว่าให้โทรมาอีกทีเผื่อจะหาเงินได้ แต่ยูโอบีพูดเองเออเอง สอบถามว่าเป็นหนี้ที่ไหนบ้างจะทำเรื่องเสนอส่วนลดให้ บอกให้ดิฉันแฟกซ์เอกสารบัตรประชาชนยืืนยันต้องการขอปิดบัญชี ดิฉันก็ยังไม่มีเงินก้อนเลย ดิฉันตัดสินใจว่าจะไม่แฟกซ์ และจะไม่รับโทรศัพท์ ปล่อยให้ดำเนินการฟ้องศาลไปเลยดีไหมคะ คือไม่อยากคุยแล้วคะ มันจะยิ่งทำให้เขาฟ้องเร็วไหมคะ ใจจริงก็อยากจะจ่ายให้จบแต่เงินยังไม่พร้อม ตอนนี้ทำการจ่ายกับกรุงศรีที่เป็น HSBC เดิม ยอดปัจจุบันประมาณ 9 หมื่น แต่ลดให้ 6 หมื่นหกพัน โดยให้ผ่อน 4000 บาท 6 เดือน และผ่อน 7000 บาท อีก 6 เดือน ดิฉันอาจจะได้ส่วนลดไม่เยอะ แต่คิดว่าไหวในระยะเวลาคะ เพราะไม่มีเงินก้อนปิดครั้งเดียว เริ่มชำระสิ้นเดือนนี้เป็นเดือนแรกคะ

วันนี้ความอดทนถึงขีดสุด กับยูโอบี
โมเมเองว่าเราจะจ่ายทั้งที่เราไม่ได้พูด ตอนแรกโทรมาเป็นเบอร์ 02 จำเบอร์ได้เพราะโทรบ่อยมาก งานก็ยุ่งเลยไม่รับ ตอนบ่ายโทรมาใช้เบอร์มือถือ เราไม่รู้ก็รับไป มีการมาว่าเราหลบเลี่ยงไม่รับโทรศัพท์พอเปลี่ยนเบอร์ก็รับ แถมบอกให้แฟกซ์บัตรประชาชนเข้ามา เราก็เลยย้อนถามกับไปว่าไม่เห็นถามเราเลยว่าหาเงินได้หรือเปล่า มีการบอกเราอีกว่าก็ทำไมเราไม่บอก จนทำเรื่องผ่านแล้ว ถ้าคุณไม่จ่ายก็ต้องไปขึ้นศาล ซึ่งต้องชำระยอดเต็มและมีค่าอื่น ๆ อีก 5 พัน บาท เราก็บอกว่าถ้าฟ้องแล้วให้โทรแจ้งด้วยกลัวส่งผิดบ้าน เพราะเอกสารมักจะส่งผิดบ่อย ๆ กลัวไม่ได้หมายศาล หล่อนก็ขึ้นเสียงทันทีว่าไม่ต้องกลัวหลอกเขาส่งทุกที่ที่คุณให้ที่อยู่ไว้ เราก็บอกว่าเท่าที่ทราบเขาจะส่งตามทะเบียนบ้านที่เราอยู่ หล่อนก็ยังไปได้เรื่อย ๆ บอกว่าถ้าเราขึ้นศาลแล้วจะมาขอส่วนลดไม่ได้แล้วเพราะหล่อนจะลงรายละเอียดไว้ว่าเราเคยขอแล้วแต่ไม่จ่ายตามข้อตกลง เราก็บอกว่าไปถอดเทปมาเลยว่าเราพูดว่าจะชำระยอดนี้ตอนไหน เธอยังพล่ามอีกหลายเรื่องจนแบตที่เหลือ 2 ขีด ใกล้หมด ประกอบกับงานเยอะเลยพูดตัดบทไปหลายครั้งว่าเอาอย่างนี้แล้วกัน ดำเนินเรื่องไปตามขั้นตอนแล้วกัน หล่อนก็ยังขู่ไม่เลิก ดิฉันรำคาญมากไม่ได้กลัวแต่ว่ารำคาญ จะทำอะไรก็ทำไม่ต้องมาขู่แล้ว ตัดบททีีไรหล่อนก็ตอบกลับมาทันควันตลอด ไม่รู้จะ่ต่อล้อต่อเถียงให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาเสียสุขภาพจิตทั้งสองฝ่าย จนสุดท้ายทนไม่ไหวตัดบทได้ก็วางหูเลย ดันมีโทรกลับมาอีกรอบ 2 ดิฉันก็กดตัดสายทิ้งไม่รับเลย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไ่ม่ได้กลัวการไปศาล แต่บอกตรง ๆ ว่าเสียสุขภาพจิตกับพนักงานหญิงที่ทวงหนี้คนนี้มาก โชคดีนะหล่อนทางใครทางมัน

หลังจากปะทะคารมกันไปกับ uob เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันก็คิดว่าเขาคงยื่นเรื่องฟ้องศาลแล้วแน่นอน เมื่อวานมี sms ส่งมา แจ้งว่า หากไม่ชำระภายในวันนี้ ท่านต้องชำระเต็มจำนวน หรือ โทร 02-XXXXXXX
วันนี้เปลี่ยนเบอโทร โทรเข้ามา พนักงานหญิงคนเดิม ยังไม่วายพูดจาเหมือนเดิม ขู่สารพัด แล้วบอกจะทำเรื่องปิดบัญชีให้ แต่ต้องจ่ายทั้ง 3 บัตร ผ่อนได้แค่ 12 เดือน จากยอด แปดหมื่นหก ไม่อย่างนั้นจะฟ้องแล้ว คุณต้องเสียประวัติ และจะมาขอส่วนลดไม่ได้อีกแล้ว ดิฉันประเมินแล้วว่าจ่ายไม่ได้แน่นอน ก็เลยบอกไปว่า พี่เหนื่อยแล้วที่จะต่อล้อต่อเถี่ยงกับน้อง ดำเนินการฟ้องไปเลยคะ เธอยังมีทิ้งท้ายอีกว่า จะให้ดิฉันทำอย่างนั้นใช่ไหมคะ ทำเสียงสูง ได้คะ สวัสดีคะ

ศิษย์น้องก็บอกจอมมารยูไปสิว่า

GOKU เขียน: ศิษย์น้องก็บอกจอมมารยูไปสิว่า

ชอบอ่ะเดี๋ยวยืมไปใช้มั้งนะครับ 555

ได้รับหมายศาลใบแรกแล้วคะ เป็นของอีซี่บาย ตอนแรกเจ้าหน้าที่ของศาลหาบ้านไ่ม่เจอ มาถามคนแถวนี้ก็ไม่รู้จัก เพราะดิฉันพึ่งย้ายมาอยู่บ้านเลขที่นี้ไม่กี่เดือน โลกกลมเพราะเป็นตัวเมืองต่างจังหวัดน้องใหม่ ประชากรยังไม่หนาแน่นมาก เจ้าหน้าที่ศาลเห็นนามสกุล ก็เลยถามลูกสาวว่ารู้จักไหม ลูกก็เลยโทรมาถามลูกสาวของดิฉัน เพราะนามสกุลเดียวกันเป็นเพื่อนเรียนห้องเดียวกัน ขี่มอเตอร์ไซด์มาให้ถึงบ้าน
ในหมายศาลนัดให้ไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ 15 พฤษภาคม 56 เวลา 16.30 น.
รายละเอียดหยุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 55
คำขอท้ายฟ้องคดีผู้บริโภค
ให้จำเลยชำระเป็นเงิน แก่โจทย์จำนวน 115,647.12 พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของเงินต้นจำนวน 94,816.12 นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทย์เสร็จสิ้น และให้จำเลยชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายในอัตราสูงสุดแทนโจทก์ด้วย
เป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งคะ เพราะจังหวัดที่ดิฉันอยู่ศาลยังมีผู้พิพากษาน้อย จึงมีงานค้าง จำเป็นต้องพิจารณาคดี บางคดี เช่น คดีแพ่งเกี่ยวกับผิดนัดชำระบัตรเครดิต เป็นเวลา 16.30-20.30 ทำให้ดิฉันไม่ต้องลางาน เพราะที่ทำงานกับศาลใกล้ัักัน ก็แค่ขออนุญาตหัวหน้าเลิกงานก่อน 1 ชั่วโมง