หยุดจ่ายหนี้สองล้านกว่าขอกำลังใจด้วยค่ะ

รบกวนสอบถามค่ะ พอดีมีประนอมหนี้กับ ktc ไว้ค่ะ จ่ายขั้นบันได ปีแรก ไม่ต่ำกว่า 1,000 ปีที่สองไม่ต่ำกว่า 2,000 ปีที่สามไม่ต่ำกว่า 3,000 ตอนนี้จ่ายมาได้ปีกว่าแล้วค่ะ แต่จ่ายเดือนละ 1,000 บาท ทุกเดือนไม่เคยขาดเลยค่ะ แต่ลืมไปว่าต้องจ่ายแบบขั้นบันได พอดีมีของแบงค์อื่นด้วย ก็จะจำแต่แบงค์นั้นจ่ายเท่านี้ แบงค์นี้จ่ายเท่านั้น จัดสรรไว้เป็นเดือนๆไป เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าของ ktc ต้องจ่ายแบบขั้นบันได้ แต่ทาง ktc ก็ยังไม่มีติดต่อมาทักท้วงแต่อย่างใด แบบนี้จะมีปัญหาอะไรมั้ยค่ะ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

ถึงคุณ IndyGirl
ทำได้ค่ะ ยิ่ง FC ไม่เขี้ยวค่ะ ของ pfs ก็ไกล่เลี่ยกับ KTC หลังจากขอเลื่อนครั้งแรก

ถึงคุณ ap88
ต้องรีบติดต่ค่ะเพราะเขาจะอ้างว่าเราผิดเงื่อนไขและดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นเป็น 15% ตามกฏหมาย

มีเคสที่เพื่อนสมาชิกหยุดจ่ายบัตรซิตี้แบงค์แล้วได้รับหนังสือยกเลิกการใช้บัตรและทวงหนี้ที่ค้างอยู่ทั้งหมด
ก็ได้แนะนำให้คำตอบไปให้หยุดจ่ายไปเลยไม่ต้องสนใจคะเก็บเงินรอเวลา 4-5 เดือนก็เสนอส่วนลด 40-50% เพียงแต่หยุดแล้วต้องเก็บเงินให้ได้ค่ะ
(ถึงคุณจะจ่ายเข้าไปยอดน้อย หรือจ่ายครบหมดบัตก็จะถูกยกเลิกอยู่ดี) ที่พูดเพราะเ pfs คยมีประสบการณ์กับซิตี้ขนาดว่าตอนนั้นเรายังจ่ายขั้นต่ำตามปกติไม่เคยผิดนัด มีบัตรเครดิต และบัตรกดเงิน เหตุการณ์ตอนนั้น
ได้เงินโบนัสมาเลยคิดว่าเอาเงินไปโป๊ะบัตรกดเงินเพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่สูงลิ่ว แล้วคิดว่าจะกดถอนมาตามความจำเป็นเท่านั้น ที่ไหนได้พอจ่ายโป๊ะเข้าไปเขาระงับการใช้บัตรเราทันที แล้วกรณีคุณที่ผิดการชำระจะเจออะไร

สวัสดีคะคุณ pfs
ขอรบกวนปรึกษาคะ

หมายศาลมาแล้วคะ ของกรุงไทย แต่ยังไม่ไปขึ้นศาลคะ จะไปขึ้น 15 ธันวา
ยังไปทำผ่อนแบบขั้นบันได ได้รึเปล่าคะ
ตอนนี้ห้ามเปลี่ยนชื่อสกุลใดๆ ใช่มั๊ยคะ

ขอบพระคุณมากคะ

ไม่ต้องกังวลไปค่ะยังคงเจรจาผ่อนได้ที่ศาลตามปกติค่ะ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุลเขาอ้างอิงถึงได้หมด ตราบใดที่เรายังจ่ายหนี้ได้ตามเงื่อนไขก็ไม่มีปัญหา ยกเว้นแตคุณจะผิดเงื่อนไขไม่จ่ายหนี้เขาก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เช่นบังคับคดีอายัดเงินเดือน 30% หรืออายัดทรัพย์สินที่เราถือครองอยู่ ถ้าทรัพย์สินนั้นเป็นสินสมรสก็จะยึดได้แค่ครึ่งเดียวค่ะ

สวัสดีครับพี่ เป็นไงครับช่วงนี้ ผมยังเก็บตังไม่ได้เลยฮือๆ หมดไปกะท่าเทอมเด็กๆ

พี่ถามนิดนึงครับ เคยโทรปรึกษาท่านประธานไหมครับ เราต้องเตรียมตัวยังไงบ้างครับนอกจากโทรไปตามเวลาที่ท่านประธานระบุไว้

รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ

เรามีหนี้กับ UOB I Cash ค้างไว้ที่ 68,000 หยุดจ่ายมาแล้ว 5 งวดค่ะ
สิ้นปีเรามีนัดขายคอนโดให้น้องสาว โดยคอนโดนี้ผ่อนอยู่กับ UOB เหมือนกัน

เคสของเราควรจะประนอมหนี้ก่อนไหมคะ? เพราะเคยได้ยินมาว่าถ้าติดผ่อนธนาคารและเป็นหนี้บัตรอยู่ จะมีปัญหาที่ธนาคารไม่ยอมไปโอนให้น่ะค่ะ

พยายามอ่านหลายๆกระทู้ แต่ก็หาไม่เจอ

ขอบคุณค่ะ

pfs เขียน: ไม่ต้องกังวลไปค่ะยังคงเจรจาผ่อนได้ที่ศาลตามปกติค่ะ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุลเขาอ้างอิงถึงได้หมด ตราบใดที่เรายังจ่ายหนี้ได้ตามเงื่อนไขก็ไม่มีปัญหา ยกเว้นแตคุณจะผิดเงื่อนไขไม่จ่ายหนี้เขาก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เช่นบังคับคดีอายัดเงินเดือน 30% หรืออายัดทรัพย์สินที่เราถือครองอยู่ ถ้าทรัพย์สินนั้นเป็นสินสมรสก็จะยึดได้แค่ครึ่งเดียวค่ะ

คุณ pfs คะ
ขอบพระคุณมากคะสำหรับคำแนะนำคะ

myaochan เขียน: รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ

เรามีหนี้กับ UOB I Cash ค้างไว้ที่ 68,000 หยุดจ่ายมาแล้ว 5 งวดค่ะ
สิ้นปีเรามีนัดขายคอนโดให้น้องสาว โดยคอนโดนี้ผ่อนอยู่กับ UOB เหมือนกัน

เคสของเราควรจะประนอมหนี้ก่อนไหมคะ? เพราะเคยได้ยินมาว่าถ้าติดผ่อนธนาคารและเป็นหนี้บัตรอยู่ จะมีปัญหาที่ธนาคารไม่ยอมไปโอนให้น่ะค่ะ

พยายามอ่านหลายๆกระทู้ แต่ก็หาไม่เจอ

ผมขออนุญาตตอบคำถามแทนคุณ pfs นะครับ

ถ้าเป็นกรณีของคุณตามที่เล่ามานั้น มันจะมีปัญหาที่ UOB มันจะไม่ยอมทำเรื่องไถ่ถอนจำนองคอนโดให้น่ะสิครับ โดยมันจะอ้างว่า ถ้าจะไห้ไถ่ถอนจำนองคอนโดเพื่อการซื้อขายเปลี่ยนมือ ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้บัตรต่างๆของ UOB ให้หมดเสียก่อน เนื่องจากลูกหนี้ได้มีประวัติเสีย(เป็นหนี้ NPL)จากบัตรของมันไปแล้ว มันจึงไม่ไว้เนื้อเชื่อใจลูกหนี้อีกต่อไป
มันกลัวว่าหากยอมไถ่ถอนจำนองคอนโดให้กับลูกหนี้ไปแล้ว ลูกหนี้ก็จะไม่ยอมจ่ายหนี้บัตรต่างๆที่เป็นหนี้ NPL ของมันอยู่ดี ดังนั้น มันจึงต้องใช้ทรัพย์สินที่ติดจำนองของลูกหนี้เป็นตัวประกัน

ผมเคยอธิบายตัวอย่างแบบนี้ไปแล้วนะครับ อยู่ในกระทู้นี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43882&Itemid=64#78526


บทความดังกล่าว อ้างอิงข้อมูลจาก
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64#57746

ขอบพระคุณท่านนกกระจอกเทศที่เข้ามาตอบคำถามให้เพื่อนสมาชิกค่ะ ช่วงนี้งานเครียดๆ เลยไม่ได้เข้าเว็บเลย
วันนี้มีเรื่องขอปรึกษาท่านนกกระจอกเทศค่ะ กรณี pfs อยู่ระหว่างผ่อนจ่ายเฟริสช้อยตามที่เจรจาในศาล ผ่อนชำระ 36 เดือน
แต่ทางเฟริสช้อยยื่นข้อเสนอ H/C มาถ้าเราจะตกลง เอกสารที่ยืนยันส่วนลดต้องมีการระบุเรื่องถอนฟ้องหลังจากชำระหนี้แล้วไหมคะ

pfs เขียน: วันนี้มีเรื่องขอปรึกษาท่านนกกระจอกเทศค่ะ กรณี pfs อยู่ระหว่างผ่อนจ่ายเฟริสช้อยตามที่เจรจาในศาล ผ่อนชำระ 36 เดือน
แต่ทางเฟริสช้อยยื่นข้อเสนอ H/C มาถ้าเราจะตกลง เอกสารที่ยืนยันส่วนลดต้องมีการระบุเรื่องถอนฟ้องหลังจากชำระหนี้แล้วไหมคะ

เอกสาร Haircut ตามที่คุณว่ามานี้ ไม่จำเป็นต้องมีข้อความระบุว่าจะถอนฟ้องให้ก็ได้ครับ มันจะใช้เป็นฟอร์ม Haircut แบบมาตราฐาน ที่มันใช้ปิดบัญชีให้กับลูกหนี้ทั่วๆไปนั่นแหละครับ

ขอบพระคุุณท่านนกกระจอกเทศมากค่ะ
pfs จะได้เจรจาต่อรองปิดเฟริสช้อยให้จบอีก 1 บัตร

รบกวนสอบถามคุณ pfs ค่ะ


การที่จะอายัดเงินเดือนได้เนี้ย
จะต้องถูกฟ้องศาลก่อนแล้วลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล ใช่หรือไม่ค่ะ


ปล. พอดีเพื่อนน้องเค้าถูกอายัดเงินเดือน 30% ของ KTC นะค่ะ เราถามน้องว่าได้รับหมายศาลก่อนมัย เค้าบอกเราว่าไม่ได้ ถูกสั่งอายัดเงินเดือนเลย

เราคิดว่า 1. เค้าไม่รู้ว่าหมายศาลถูกส่งไปแล้ว หรือ 2. มีกรณีแบบนี้ด้วย หรือค่ะ เกิดความสงสัย ขอรบกวนถามคุณ pfs นะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

.
ผมขออนุญาตตอบคำถามแทนคุณ pfs นะครับ

AAEYAEY เขียน: รบกวนสอบถามคุณ pfs ค่ะ


การที่จะอายัดเงินเดือนได้เนี้ย
จะต้องถูกฟ้องศาลก่อนแล้วลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล ใช่หรือไม่ค่ะ

ใช่ครับ การที่เจ้าหนี้จะสามารถอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้นั้น จะต้องผ่านกระบวนการฟ้องศาลเสียก่อนครับ

AAEYAEY เขียน: ปล. พอดีเพื่อนน้องเค้าถูกอายัดเงินเดือน 30% ของ KTC นะค่ะ เราถามน้องว่าได้รับหมายศาลก่อนมัย เค้าบอกเราว่าไม่ได้ ถูกสั่งอายัดเงินเดือนเลย

เราคิดว่า 1. เค้าไม่รู้ว่าหมายศาลถูกส่งไปแล้ว หรือ 2. มีกรณีแบบนี้ด้วย หรือค่ะ เกิดความสงสัย ขอรบกวนถามคุณ pfs นะค่ะ

- การที่เจ้าหนี้จะสามารถอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้นั้น เจ้าหนี้ต้องฟ้องลูกหนี้ให้เข้าสู่ขั้นตอนของศาลเสียก่อน

- หากลูกหนี้ถูกฟ้องแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่ยอมไปขึ้นศาล(หนีศาล)
หรือลูกหนี้ไปที่ศาลแล้ว แต่ตกลงกันกับเจ้าหนี้ไม่ได้ โดยที่ลูกหนี้ก็ไม่ได้สู้คดีด้วย ลูกหนี้ก็จะถูกศาลพิพากษาให้ต้องชำระหนี้ตามที่ศาลสั่ง

- หากศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ต้องชำระหนี้ตามที่ศาลสั่งแล้ว แต่ลูกหนี้ก็ยังคงเพิกเฉย ไม่ทำอะไรเลย เจ้าหนี้ก็จะเอาคำพิพากษาฉบับนี้ ไปยื่นคำร้องต่อหน่วยงานราชการที่มีชื่อว่า"กรมบังคับคดี"...เพื่อให้"กรมบังคับคดี"ทำการอายัดเงินเดือนหรือยึดทรัพย์ของลูกหนี้ต่อไป


ดังนั้น ในกรณีที่คุณเล่าถามมานั้น ผมขอวิเคราะห์ดังนี้

คนที่อ้างว่า"ไม่เคยได้รับหมายศาลมาก่อนเลย แต่ถูกสั่งอายัดเงินเดือนเลย"นั้น...อาจเป็นไปได้ตามนี้

1. คนผู้นั้นพูดโกหก ไม่ได้พูดความจริง กล่าวคือเจ้าตัวรู้เรื่องหมายศาลแล้ว แต่กลับไม่ยอมไปศาล(หนีศาล) แล้วก็มาพูดโกหกว่า"ไม่เคยได้รับหมายศาลเลย แต่มาโดนอายัดเงินเดือนแบบนี้ มีวิธีช่วยเหลืออะไรได้บ้างไหม?"

2. คนผู้นั้นไม่รู้ว่า หมายศาลถูกบังคับให้ต้องจัดส่งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน โดยที่ตัวเองไปอาศัยอยู่ในที่อื่นที่ไม่ใช่ในทะเบียนบ้าน
เมื่อหมายศาลมาส่งตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านแล้ว ลูกหนี้ก็ไม่รู้ว่ามีหมายศาลมา เพราะว่าตัวเองก็ไม่ได้อาศัยพักอยู่ในทะเบียนบ้านหลังนั้น จึงไม่ได้ไปศาล...ศาลก็จะพิพากษาว่าลูกหนี้"หนีศาล"อยู่ดี

หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64


ส่วนในกรณีที่ถามว่า"เจ้าหนี้สามารถอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้เลย โดยที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการฟ้องร้องต่อศาลก่อน"นั้น...มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่อนุญาตให้สามารถทำได้เช่นนั้น ถ้าหากมีเจ้าหนี้รายใดกล้ากระทำการดังกล่าว เจ้าหนี้จะมีความผิดทางอาญาในฐานกรรโชกทรัพย์/ปล้นทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น เท่าที่ผ่านมา จึงไม่เคยมีกรณีแบบที่คุณว่ามานี้เกิดขึ้นเลยสักราย (แม้แต่รายเดียวก็ไม่เคยมีเลย)

ผมจึงขอสรุปว่า น้องคนที่เล่าเรื่องนี้ให้คุณฟ้งนั้น พูดโกหกหรือพูดความจริงไม่ทั้งหมด
หรืออาจพูดความจริง แต่ตัวเองไม่ได้รับหมายศาลเนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านตามทะเบียนบ้าน
มันจึงเป็นเหตุการณ์ตามที่คุณถามมาในครั้งนี้

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำตอบที่กระจ่าง

คิดไว้เหมือนกันค่ะว่าจะทำแบบนั้นได้อย่างไร แต่ไม่มีเหตุผลสนับสนุนความคิด(รู้ไม่จริงค่ะ แค่รู้เฉย ๆ)
ตอนนี้รู้แน่นอนแล้ว

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

ขอบคุณ คุณนกกระจอกเทศมากค่ะ

รบกวนขอคำแนะนำกรณีนี้ได้ไหมคะว่าควรทำอย่างไรดี? ตั้งใจจะโอนคอนโดวันที่ 24 ธันวาคม 58 ค่ะ

ที่ตั้งใจไว้ คือ ติดต่อขอเข้าโครงการประนอมหนี้ทำสัญญาประนอมหนี้กัน แล้วค่อยโปะทีหลัง หรือจะติดต่อไปขอทำ hair cut ให้เค้าออกจดหมายมาก่อนโดยให้ระบุในเอกสารว่าชำระ 30 ธันวาคม 58
ถ้าเป็นกรณีที่เค้าออกจดหมายยืนยันลดหนี้ให้แล้ว แบบนี้เค้าจะไปโอนให้หรือเปล่าคะ?

ขอบคุณมากค่ะ

myaochan เขียน: ขอบคุณ คุณนกกระจอกเทศมากค่ะ

รบกวนขอคำแนะนำกรณีนี้ได้ไหมคะว่าควรทำอย่างไรดี? ตั้งใจจะโอนคอนโดวันที่ 24 ธันวาคม 58 ค่ะ

ที่ตั้งใจไว้ คือ ติดต่อขอเข้าโครงการประนอมหนี้ทำสัญญาประนอมหนี้กัน แล้วค่อยโปะทีหลัง หรือจะติดต่อไปขอทำ hair cut ให้เค้าออกจดหมายมาก่อนโดยให้ระบุในเอกสารว่าชำระ 30 ธันวาคม 58
ถ้าเป็นกรณีที่เค้าออกจดหมายยืนยันลดหนี้ให้แล้ว แบบนี้เค้าจะไปโอนให้หรือเปล่าคะ?

ขอบคุณมากค่ะ

เฮ้ออออ...ผมว่าที่ผมตอบอธิบายไปในครั้งก่อนนั้น คุณยังไม่เข้าใจแน่ๆเลย งั้นผมขออธิบายให้ชัดๆอีกทีนะครับ

1. คุณหยุดจ่าย UOB I Cash มานานเกินกว่า 3เดือนแล้ว(เป็นลูกหนี้ NPL ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) ดังนั้น ในสายตาของ UOB...มันจึงไม่ไว้วางใจคุณอีกต่อไปแล้ว
ถ้าหากมีการทำธุรกรรมใดๆกับคุณ แล้วธุรกรรมนั้นๆ ตัวคุณได้เปรียบ แต่ตัวมันเสียเปรียบ...มันจะไม่ยอมเจรจาด้วยเลยไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมใดๆ

2. หากคุณไปติดต่อขอทำสัญญาประนอมหนี้(สัญญา_นรก) ที่เป็นของ UOB I Cash...มันจะรีบทำให้โดยทันที เพราะว่ามันได้เปรียบ แต่คุณเสียเปรียบ

3. หากคุณจะขอทำ Haircut มันก็จะเล่นตัว ไม่ยอมให้ส่วนลดเลยก็ได้ เพราะมันถือว่ามีคอนโดของคุณอยู่ในมือของมัน มันจะบีบบังคับยังไงกับคุณก็ได้

4. ถึงคุณจะเซ็น"สัญญาประนอมหนี้"กับมันไปแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังคงมองว่าคุณเป็นลูกหนี้ที่มีประวัติไม่ดีในสายตาของมัน มันจึงไม่ไว้วางใจคุณเหมือนเดิมนั่นแหละ
ดังนั้น ความคิดของคุณที่ว่า จะยอมไปทำสัญญาประนอมหนี้ของ UOB I Cash เพื่อให้ทาง UOB มันจะได้ยอมโอนคอนโดให้นั้น...คุณคิดผิดครับ...มันก็ไม่ยอมอยู่ดีครับ
คุณได้เปรียบ แต่มันเสียเปรียบ(เสียทรัพย์ที่เป็นตัวประกัน)...มันไม่ยอมอยู่แล้วครับ
คุณต้องจ่ายหนี้ตัวนี้ให้หมดก่อนครับ แต่ไม่ใช่ด้วยการผ่อนชำระหนี้ตามสัญญาประนอมหนี้ เพราะการผ่อนจ่ายแบบนี้ ถือว่าหนี้ยังไม่ได้ถูกชำระให้หมดครบถ้วน (ต้องหมดหนี้ตัวนี้เสียก่อน มันถึงจะยอม)

5. การที่จะบังคับให้เจ้าหนี้ออกเอกสาร Haircut โดยกำหนดวันที่จ่ายเงินให้เป็นวันในอนาคตล่วงหน้ากันเป็นเดือนนั้น ไม่เคยมีเจ้าหนี้ี่ที่ไหนมันยอมหรอกครับ มีแต่จะกำหนดวันที่ล่วงหน้ากันให้สั้นที่สุด เช่น นัดชำระหนี้กันในวันพรุ่งนี้ , อีกสองวันข้างหน้า , อีกสามวันข้างหน้า...เป็นต้น


ลูกหนี้ทุกรายที่มีปัญหาแบบคุณนี้ ไม่มีวิธีแก้ไขที่เป็นอื่นได้เลยครับ ยกเว้นแต่ยอมก้มหน้ารับกรรมไป

ดังนั้น คุณอาจต้องยอมจ่ายหนี้ของ UOB I Cash คืนให้มันไปประมาณ 68,000 บาท (อาจมีส่วนลดได้บ้างนิดๆหน่อยๆ) หากจ่ายปิดหนี้ตัวนี้ได้แล้ว มันถึงจะยอมให้คุณทำธุรกรรมโอนคอนโดต่อไปได้ ไม่เช่นนั้น มันก็ไม่มีทางโอนคอนโดให้หรอกครับ

มาให้กำลังใจ คุณ myaochan ครับผมก็เคสแบบเดียวกันเลย แต่คนละแบงค์

ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันครับ เฮ้ออออ สู้กันต่อไปครับผม

ขอบคุณมากค่ะ

ตอนนี้เข้าใจครบถ้วนแล้วค่ะ ทีแรกแค่คิดว่ายอมทำประนอมหนี้เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น

ตอนนี้ตกลงปิดกับ UOB แล้วค่ะ ปิดที่ยอด 43,500 บาท กำลังไปจ่ายให้เค้าวันนี้ค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

วันนี้ทางเฟริสช้อยยื่นข้อเสนอ H/C มา จากยอดหนี้ที่ผ่อนจ่ายจากการเจรจาที่ศาลปัจจุบันยอดหนี้ 35X,XXX บาท ได้ยอดสรุป H/C ที่ 210,000 บาท แบ่งจ่าย 6 งวด ลดไป 40% ถึงลดไม่เยอะแต่ไม่อยากยืดเยื้อก็เลยตอบรับข้อเสนอ รอเอกสารยืนยัน ทำไงได้เรื่องถึงศาลแล้ว และยังมีบ้านซึ่งมีชื่อกู้ร่วมเลยไม่อยากให้แฟนเดือดร้อน ถึงวันนี้ขอยืนยันว่า H/C ทำได้ตลอดชีพ
คงเหลือหนี้่เจ้าสุดท้าย KTC เจรจาไกล่เกลี่ยผ่อนจ่ายแบบขั้นบันไดไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีส่วนลดก็ผ่อนไปแล้วกัน แต่ pfs ก็ยังยินดีที่จะช่วยตอบคำถามเพื่อนสมาชิกที่หัวอกเดียวกันค่ะ อาจจะตอบช้าบ้างเพราะงานยุ่งมาก แต่ถ้ามีเวลาก็จะเข้ามาอ่านกระทู้เสมอ