- จำนวนโพสต์: 1073
- ขอบคุณที่รับ: 841
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
smilegirl เขียน: กลับมาอีกแล้วค่ะ จากที่ห่างหายไป 2 เดือน
สืบเนื่องมาจาก ได้ไปขึ้นศาลนัดแรกมาแล้วเมื่อเดือน กุมภาพันธ์
ยอดหนี้ที่ฟ้องอยู่ที่ 108,xxx บาท ตอนนั้นได้ตกลงขอเลื่อนการพิจารณาค่ะ
เนื่องจากว่ามีแนวโน้มได้เงินก้อนมา เรากะว่าจะทำการ H/C ปิดยอดเลย
เวลาผ่านไปรวดเร็ว ไวเหมือนโกหก
ตอนนี้ใกล้ถึงกำหนดขึ้นศาลนัดที่ 2 แล้ว
แนวโน้มเงินก้อนใหญ่ก็ดันมาเลื่อนมาเป็นเดือน มิ.ย. แทน (ซะงั้น)
ระหว่างที่เลื่อน ได้ติดต่อกับทาง KTC
จนท. แนะนำให้เราไปทำเรื่องยอมทำประนีประนอม
โดยจ่ายเดือนละ 1,500 x 36เดือน และก็จ่ายอีกต่อเนื่อง (เพราะยอดหนี้สูง) ดอกเบี้ย 15%
แต่ระหว่างนี้ถ้ามีเงินมาปิด ก็เจรจาขอส่วนลดได้ค่ะ
ทีนี้เนื่องจากว่าเราได้รับมอบอำนาจแทนคุณแม่
แม่เราไม่กล้าไปศาล เราก็เลยอยากสอบถามนะค่ะ
ว่าเราควรทำอย่างไร
1. ถ้าเราไม่ยอมอยากสู้คดีต่อ เผื่อจะทันเวลาตอนได้เงินก้อนมา (จะได้ปิด)
ไม่ทราบว่าจะทำได้ แล้วจะขอเลื่อนอีกได้หรือไม่ค่ะ
ต้องเขียนคำให้การสู้คดีค่ะ ติดต่อคุณอาค่ะ
2. ถ้าเราเกิดหมดหนทางการเลื่อนแล้ว เราต้องยอมทำประนีประนอม เราควรเจรจาอย่างไร ไม่ให้เสียเปรียบมากค่ะ
3. เราเองอยากเจรจาตกลงนอกรอบ แต่เหมือนทางฝ่ายโน้นอยากให้ขึ้นศาลอย่างเดียวเลย เป็นการให้ศาลสั่งพิพากษาใช่หรือไม่ค่ะ
เขารู้ว่า นโยบายแบงค์ไม่ลดต้นค่ะ เสนอให้แต่ผ่อน 36 งวด เขาก็อยากจบเร็วๆ
ที่นี่ เขาไม่ให้ทนาย หรือสำนักงานกฎหมายเสนออะไรอื่น นอกจากผ่อน 36 งวดค่ะ
4. เราควรเจรจาขอส่วนลดอย่างไรบ้างค่ะ
5. หากพิพากษาแล้ว เราต้องปฏิบัติตามทันที หรือว่าพอมีระยะเวลาพอให้เราก่อนชำระเงินหรือไม่ค่ะ
ภายใน 15 วัน ที่ได้รับหมายศาลค่ะ
ใจจริงอยาก H/C มากกว่าค่ะ ทางทนายเองก็บอกว่า
1. ประนอมหนี้ซะ แล้วมีเงินก้อนค่อยปิด
2. ถ้ามั่นใจว่าได้เงินแน่ ให้ทำเรื่องปิดในระยะเวลา 2 เดือน จะจ่ายแบบ 50-50 หรือจ่าย 10-90 ก็ได้
ซึ่งเราเองก็กลัวว่าเงินก้อนใหญ่ ถ้าเกิดเลื่อนไปอีกหล่ะ เราก็แย่แน่นอน เราก็เลยไม่รู้ว่าควรหาข้อคิดยังไงดี
เพราะวันนั้นเราได้รับมอบอำนาจแทนจากคุณแม่ ให้ขึ้นศาลแทน
หากมีการต้องเซ็นเอกสาร เราควรต้องระมัดระวังอะไรบ้างค่ะ
ขอบคุณมากๆ นะค่ะ สำหรับคำแนะนำทุกๆ ความเห็น
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
smilegirl เขียน: ขอบคุณค่ะพี่อัง
วันที่ 1 พ.ค. นี้แล้วค่ะ
ที่ต้องไปขึ้นศาล(รอบ2) แทนคุณแม่
ยังหาแนวทางไม่ได้เลยค่ะ
ว่าควรเจรจาให้ทางนั้น ควรต่อรองอย่างไรบ้างนะค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ไปอ่านในกระทู้นี้ก่อนนะครับsmilegirl เขียน: จะต้องขึ้นศาลนัดที่ 2 วันพรุ่งนี้แล้วค่ะ
ได้โทรคุยเจรจากับทางทนาย ได้ข้อสรุปดังนี้ค่ะ
1. หากปิดบัญชี จากยอดฟ้อง 108,000 บาท ลดให้เหลือ 75,000 บาท (ผ่อนได้ 2 งวด)
2. ประนีประนอม จากยอดฟ้อง 108,000 บาท ให้ผ่อนเดือนละ 1,500 x 36 งวด (+ดอกเบี้ย 10%ต่อปี)
จากเดิมเงินต้น 62,172 บาท ดอกเบี้ย 38,435 บาท (จะลดดอกเบี้ยให้ 30% เหลือ 26,904.5 บาท)
จริงๆ เราอยากเจรจา ขอส่วนลดจากยอดฟ้อง 30% แล้วผ่อนชำระเป็นรายเดือน จำนวน 36 เดือน จะบวกดอกเบี้ย 10% ก็บวกไป แต่ทางทนายไม่ยอม
เราก็คิดว่า 1.จะบอกกับศาลท่านได้หรือไม่ ในเหตุผลขอส่วนลดอันนี้
เพื่อขอให้ท่านตัดสินเลย เนื่องจากยังเจรจากันไม่ได้
2. เราจะต้องทำยอมประนอม ตามที่ทนายบอกแบบนี้
แล้วถ้ามีเงินก้อนเมื่อไหร่ก็ปิดบัญชี
รบกวนขอคำแนะนำในการเจรจาด้วยนะค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
smilegirl เขียน: จะต้องขึ้นศาลนัดที่ 2 วันพรุ่งนี้แล้วค่ะ
ได้โทรคุยเจรจากับทางทนาย ได้ข้อสรุปดังนี้ค่ะ
1. หากปิดบัญชี จากยอดฟ้อง 108,000 บาท ลดให้เหลือ 75,000 บาท (ผ่อนได้ 2 งวด)
2. ประนีประนอม จากยอดฟ้อง 108,000 บาท ให้ผ่อนเดือนละ 1,500 x 36 งวด (+ดอกเบี้ย 10%ต่อปี)
จากเดิมเงินต้น 62,172 บาท ดอกเบี้ย 38,435 บาท (จะลดดอกเบี้ยให้ 30% เหลือ 26,904.5 บาท)
จริงๆ เราอยากเจรจา ขอส่วนลดจากยอดฟ้อง 30% แล้วผ่อนชำระเป็นรายเดือน จำนวน 36 เดือน จะบวกดอกเบี้ย 10% ก็บวกไป แต่ทางทนายไม่ยอม
เราก็คิดว่า 1.จะบอกกับศาลท่านได้หรือไม่ ในเหตุผลขอส่วนลดอันนี้
เพื่อขอให้ท่านตัดสินเลย เนื่องจากยังเจรจากันไม่ได้
ศาลท่านไม่เกี่ยวข้องกับการต่อรองค่ะ ถ้าท่านมาช่วยต่อรอง
อาจถูกมองว่า ตราชั่งเอียงนะค่ะ
2. เราจะต้องทำยอมประนอม ตามที่ทนายบอกแบบนี้
แล้วถ้ามีเงินก้อนเมื่อไหร่ก็ปิดบัญชี
อยู่ที่กระเป๋าเงินค่ะ คุณไปต่อเขาลด 30 แล้วในกระเป๋าเงินมีพร้อมจ่าย
หรือยังค่ะ เช่น เวลาคุณไปตลาดต่อของกับแม่ค้า แล้วถ้าแม่ค้ายอม
ลดให้ตามขอ แต่คุณกลับมีเงินไม่พร้อม ไม่พอ คุณจะโดนแม่ค้ายำ
ใหญ่ไหมค่ะ
ดูความพร้อม ความเป็นไปได้เป็นหลักค่ะ แล้วที่พี่อังแนะว่า ให้ไป
พบคุณอา ไปหรือเปล่าค่ะ
ในนัด 2 คุณต้องตัดสินใจว่า
1 จะยอมความหน้าศาล ต้องทำให้ได้ตลอด 36 งวด ค่ะ แต่ขอปลอดดอกเบี้ยไม่ดีกว่าหรือ
2 จะสู้ด้วยการยื่นคำให้การ ต้องให้คุณอาจัดการค่ะ
3 ปล่อยให้ศาลตัดสินไป อาจได้ลดดอกเบี้ย และเงินต้น หรืออาจต้องจ่าย=ยอดฟ้อง
4 คุณสามารถโน้มน้าวให้ทนายฝ่ายโน้นยอมเลื่อนนัดครั้งที่ 2ได้ค่ะ
อาจด้วยเหตุผล คุณแม่กำลังพยายามหาเงินมาปิดอยู่ หรือขอเจรจาอีกครั้งกับแบงค์โดย
ตรงอีกรอบ หรือ ขอไปหาทนายเขียนคำให้การ ยื่นสู้ครั้งหน้า เพราะวันนี้ทนายไม่พร้อมค่ะ
เป็นต้น
อยู่ที่คุณจะเลือกจบแบบไหน และอาจมีหลายทาง ขึ้นกับเหตุการณ์วันพรุ่งนี้ค่ะ
ขอให้คุมสติให้อยู่เท่านั้นค่ะ อย่าทำหรือเซ็นในสิ่งที่ทำไม่ได้ค่ะ
รบกวนขอคำแนะนำในการเจรจาด้วยนะค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา