หนี้สินรวมราว 1.3 ล้านบาทกับเงินเดือนเก็บต่อเดือน 5000

ตอบคุณ Fay
หมดความกังวลใจไประดับนึงแล้ว เมื่อเรามีความรู้และเข้มแข็ง
คนที่เป็นหนี้และพยายามหาทางแก้ไขหนี้ของตัวเองได้นี่ถือว่ามีความรับผิดชอบ ไม่ได้หมายความว่าเราจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดีจากสังคม

ฉันเป็นหนี้แล้วทำไม ฉันไม่มีสิทธิ์ขี่เบ็นซ์ ใส่นาฬิกาปาเต๊ะ ไปนอนอาบแดดกับครอบครัว หรือยังไง
เรามีสิทธิ์ทุอย่างและมาจากการดำรงวค์ชีวิตให้เป็นเหมือนเดิมแต่มีคุณภาพมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น

เป็นหนี้ก็ต้อง เริ่ดๆ เชิ่ดๆ ครับ

ขอขอบคุณ คุณaim สำหรับคำแนะนำค่ะ
ตัวตุ๊กเองเคยได้อ่านกระทู้ "มวยคู่ยูเมะกับผม" ตั้งแต่สมัยตัวเองยังไม่มีปัญหาเรื่องหนี้เลย
จำได้ว่าค้นหาอะไรซักอย่างทาง google (ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับอีซี่บาย) แล้วเจอกระทู้ของคุณ
ก็นั่งอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนั้นยังคิดเลยว่า สมัยนี้เค้าทวงหนี้โหดอย่างงี้เลยรึ?
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะตอนนั้นถือว่าตัวเอง "เครดิตดี" ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดถนัด
คิดว่าหนี้ต่างๆ เราสามารถแก้ไขและชำระคืนได้ เลยไม่ได้ทำความรู้จักชมรมแห่งนี้

มาวันนี้วันที่ใช้หนี้ไม่ไหวแล้ว ความคิดว่า "เครดิตดี" มันก็เหมือนล้อเลียนตัวเอง
เรายอมเป็นลูกหนี้ชั้นเลวของสถาบันการเงิน เพื่อสร้างครอบครัวที่ดีในอีก 2-4 ปีข้างหน้าให้ได้
ตอนนี้เพิ่งหยุดได้ 2 เดือนเข้าเดือนที่ 3 ต้องปลดหนี้ให้ได้ ใจยังสู้ค่

ตอบกลับคุณ pointpaint ครับ
ขอบคุณมากครับ
ผมจะเล่าเรื่องนึงซึ่งเหมือนคุณมากเลยทีเดียวแต่ต่างกันตรงที่ว่า ในตอนนั้นเรื่องหนี้ของผมก็เริ่มจะมีปัญหาในการหมุมหาเงินมาชำระคืนแล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีประวัติการชำระคืนยังดีอยู่
วันนึงได้เข้าร้านเน็ต เนื่องจากเน็ตที่ห้องผมช้ามาก เหลือบไปเห็นโต๊ะข้างกำลังดูเวปชมรมหนี้บัตรเครดิตอยู่ เราก็ลองเสริชดูบ้าง (สมัยบอร์ดส้ม) เจอแต่เรื่อง H/C ยังไม่เข้าใจ พออ่านแบบผ่านๆไม่จริงจัง ดูว่ามันยาก เลยปล่อยไป

เพราะว่ายังไม่เจ็บไงครับ

พอเจ็บตัวขึ้นมาก็ต้องหาทางออก ทิศทางในตอนนั้นใครมันจะช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง ที่พึ่งทางใจ ญาติสนิท มิตรสหา ไม่เคยได้รับรู้ เพราะใครๆก็อายตอนนั้นผมก็เป็น แต่เมื่อถึงเวลาแล้วผมกลับไม่มียางอายอีกเลย เพราะว่า ด้านได้อาย อด มันเป็นเวลาที่เราต้องพูดคุยกับทุกคน

ไม่เหลือใครให้พึ่งพิง
จึงเดินทางกลับเข้ามาที่เวปนี้อีกครั้ง
เมื่อศึกษาอย่างจริงจัง ก็วนเวียนอยู่ที่บอร์ดนี่แหละ สมัยก่อนเราจะหาข้อมูลก็จัดว่าเป็นการช่วยตัวเองล้วนๆ ปรึกษาหนี้กันในนี้ แรงศรัทธาจึงเกิดขึ้นอย่างแรงกล้า

สนุกที่มีเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเฝ้าบอร์ด ดักจับกระทู้ที่คาดว่าน่าจะมาตั้งกระทูล่อเป้าจากเจ้าหนี้ โทรคุยปรึกษากัน ไม่ว่าจะเป็นพี่บัว พี่ Arshavin พี่นกกระจอกเทศ และหลายๆคน สนุกมาก
จนมาเป็นกรรมการชมรมหนี้ ซึ่งเรารู้ว่างานต่างๆมันยาก เรารู้ว่าใครหนีร้อนมาพึ่งเย็น ตัวเราก็เป็นมาก่อน
ไปโรดโชว์ให้คำปรึกษากับชมรม เปิดอบรมนอกสถานที่ ผมเห็นว่ากรรมการทุกคนงานเยอะมาก ไม่ได้นอน โดยสมัยนั้นจะทำการปักหลักที่บ้านพี่บัว
ขอเตือนว่า อาหารที่พี่บัวทำอร่อยมากครับลองไปตามอ่านในกระทู้แกสิ

ผ่านขั้นตอนต่างๆมาพอสมควร
ผมจะบอกเลยว่าเกือบทุกวิธีการแก้หนี้ผมทำครบ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ในเขตอำนาจศาลที่คดีล้นเหลือเกิน โดยมีจุดมุ่งหวังว่า ถ้ากรณีเราขอเลื่อนคดี โดยมีจุดประสงค์เพื่อขอเวลาเก็บเงินก็ทำครับ

และบางทีที่เราแก้หนี้ให้อยู่มือได้ในระดับนึงแล้ว ผมต้องขอจากลามาทำภารกิจที่ต้องเลือกและต้องทำ
ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่บ้างจึงมีโอกาสเข้ามาช่วยบอร์ด

และถ้ามีเวลาผมจะมาตั้งกระทู้ใหม่อัพเดทเรื่องหนี้ให้ฟังว่า เริ่มยังไง ปิดจบอะไรไปบ้างปีไหน ไปขึ้นศาลและต่อรองยังไงครับ

จริงอย่างคุณ aim ว่าค่ะ จริงทุกคำพูดเลย ฝ้ายพึ่งเข้ามาในนี้ได้ไม่นาน เลยไม่ค่อยได้รู้จักสมาชิกท่านเก่าๆ ยกเว้น ท่านที่เป็นกรรมการอ่ะค่ะ ที่พอจะได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามบ้าง รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่มีสมาชิกเก่าๆ กลับมาโพสแนะนำในหัวข้อตัวเองแบบนี้ ดีใจมากๆ คะ ยังไงถ้าสะดวกก็แวะเวียนมาแบ่งปันประสบการณ์เพิ่มเติมนะค่ะ เหล่าสมาชิกใหม่ๆ อย่างฝ้าย จะคอยติดตามประสบการณ์อันยากลำบากของทุกท่านไว้นำมาประยุกต์ปรับใช้กับของตัวเองค่ะ ขอบพระคุณจากใจเลยค่ะ

ขออนุญาตถามคุณ aim หน่อยครับ

เรื่องย้ายทะเบียนบ้านครับ ต้องย้ายไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านใหม่กี่วันหรือเดือนครับ หมายศาลถึงจะส่งไปตามที่อยู่ใหม่ของเราครับ

ขออนุญาตถามคุณ aim หน่อยครับ

เรื่องย้ายทะเบียนบ้านครับ ต้องย้ายไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านใหม่กี่วันหรือเดือนครับ หมายศาลถึงจะส่งไปตามที่อยู่ใหม่ของเราครับ

เข็ดแล้วหนี้ เขียน: ขออนุญาตถามคุณ aim หน่อยครับ

เรื่องย้ายทะเบียนบ้านครับ ต้องย้ายไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านใหม่กี่วันหรือเดือนครับ หมายศาลถึงจะส่งไปตามที่อยู่ใหม่ของเราครับ

เหมือนจะ90วันนะครับ เพราะผมก็เพิ่งจะย้ายมาอยู่บ้านเพื่อนที่ กทม. ตามคำแนะนำของอาทนาย ผิดถูกยังไงช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ

ส่วนคุณฝ้าย สุดยอดมากเลย ผมจะพยายามหาเวลาว่างๆมาอ่านครับ มาเจอ เคส ของคนที่เป็นหนี้เยอะกว่าผม แล้วอ่านประสบการณืเค้าทำให้ผมยิ่งมีกำลังใจเพิ่มขึ้น และผมขอเป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจคุณฝ้ายด้วยครับ สู้ๆครับ

เข็ดแล้วหนี้ เขียน: ขออนุญาตถามคุณ aim หน่อยครับ

เรื่องย้ายทะเบียนบ้านครับ ต้องย้ายไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านใหม่กี่วันหรือเดือนครับ หมายศาลถึงจะส่งไปตามที่อยู่ใหม่ของเราครับ

เรื่องการย้ายทะเบียนบ้านนี้ เดิมทีผมมีจุดประสงค์ตั้งแต่แรกแล้วในเมื่อเริ่มทำตารางหนี้ประกอบกับดูช้อมูลต่างๆมา เรียกว่าเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆเลยครับ โดยการย้ายทะเบียนบ้านของผมในสมัยนั้นไปลงอยู่ที่เขตอำนาจศาลแขวงรัชดา เนื่องจากสมัยนั้นหรือปัจจุบันมีคดีเยอะมาก เรียกได้ว่าล้นศาลและขณะเดียวกันยังมีเขตอำนาจศาลมีนบุรีก็ใช่ย่อยงานล้นเหมือนกัน
โดยมีจุดประสงค์คือ กรณี H/C ไม่ทันหรือรวบรวมเงินไม่เพียงพอ ผมก็จะให้เหตุผลที่ฟังขึ้นและเหมาะสมในการขอเลื่อนคดีออกไปก่อน โดยที่ต้องรอลุ้นว่าจะได้นานกว่าที่อื่น ที่คดีน้อย ทั้งนี้ต้องอาศัยจังหวะการต่อรองโดยอาศัยตารางนัดของทนายฝ่ายโจทก์ด้วย เราต้องพยายามชิงเลื่อนนัดออกไปอีกให้มากเท่าที่จะทำได้(ในเวลานั้น)
สมมุติว่า ผมขึ้นศาลเดือน พฤศจิกายน ถ้ามีการขอเลื่อนออกไปโดยวิธีการปรกติ คือ ขอกลับไปเจรจากับทางฝ่ายเจ้าหนี้ ทนายส่วนใหญ่จะไล่บีบประมาณ เดือนเดียวซึ่งก็หมายถึงว่า( น่าจะเป็นเดือน ธค ประมาณไม่เกินวันที่ 15 ของเดือนนี้) แต่ผมก็จะมีเหตุผลโดยขอเลื่อนออกไปเป็นเดือน มค ปีถัดไป เพราะรู่อยู่แก่ใจว่าถ้าทางทนายจะให้มาจบกันที่เดือน ธค นั้นซึ่งเป็นปลายเดือน คดีที่มีอยู่ในศาลก็เยอะอยู่แล้ว และประมาณกลางเดือน ธค ของทุกปีทางศาลก็จะต้องปืดรับส่งฟ้องในคดีอื่นๆด้วย จะเปิดรับอีกทีก็หลังปีใหม่เนื่องจากคดีเต็ม ดังนั้น 90 % ผมจะได้ปีหน้าทันที แต่ถ้าเป็นการเลื่อนโดยวิธีอื่นๆที่ไม่ปรกติ เช่นสู้คดี นัดสืบพยานเราก็ต้องลุ้นกันว่าจะได้มากน้อยเท่าไหร่แต่ก็อาจจะอยู่ 2-4 เดือนก็ว่ากันไปตามที่ทางคุณได้ทำการตกลงกัน (เพราะแต่ละคดีไม่แน่นอน) แต่ก็ยังดีกว่าขึ้นศาลที่มีงานน้อย เพราะปิดจบไวมากครับ ในฐานะคดีผู้บริโภค ผบ. ซึ่งตรงนี้ไปหาอ่านเพิ่มเติมเอาดูว่า มันได้ช่วยให้ลูกหนี้ได้ดีกว่าเดิมหรือ ไม่ แต่ในส่วนตัวผมว่าคดีวิผู้บริโภค จะเอนเอียงไปทางฝั่งเจ้่าหนี้มากกว่า เพราะฟ้องไว เดี๋ยวนี้ 1 ปีก็ฟ้องแล้ว กระบวนการเร็วมาก
ดังนั้นวิธีนี้เป็นวิธีที่ผมจะเอาไว้ใช้แบบปลายเหตุ เพราะในใจผมคิดว่าการบริหารหนี้ของผม ประมาณ 30 % เท่านั้นที่ต้องใช้วิธีนี้
ถามว่าต้องย้ายก่อนเท่าไหร่ถึงจะดี ผมจะตอบว่าควรย้ายแต่เนิ่นๆครับ อย่าไปทำเรื่องย้ายในเวลากระชั้นชิดหรือ การคาดเดาว่าหยุดจ่ายมาเกือบปีแล้วค่อยย้าย เราต้องให้เวลากับทางระบบด้วย เพราะเราจะได้ไม่พลาดหมายศาล ให้ไปอ่านต่อเอง กรณีที่ส่งฟ้องผิดศาลเป็นยังไง เพราะพี่นกอธิบายได้อย่างละเอียด เพราะคดีผบ ต้องฟ้องตามภูมิลำเนาของหนี้หนี้เท่านั้น บางกรณีก็มีฟ้องในภูมิลำเนาของเจ้าหนี้ แต่ก็มีวิธีการแก้ไขอย่างไร เราถึงได้ถามสมาชิกเรื่อยๆว่าไปศาลไปเพื่ออะไร ก็จะมีคำตอบอยู่ 3 ข้อทั้งสิ้นครับ ก่อนเซ็นเอกสารอะไรต้องดูให้ดี ว่าใบเลื่อนศาลต้องมีหน้าตายังไง เขียนอะไรบ้าง เพราะลูกหนี้หลายคนเจอ ทนายความที่จัดว่าเลวมาก สอดแทรกใบยินยอมความมาให้ โดยบอกว่าเซ็นต์ไปเถอะ ปรากฎว่าเป็นใบยอมรับสภาพหนี้ ทริคเลวๆเหล่านี้มีให้เห็นเรื่อยๆ ถ้าเจอกรณีนี้ก็อ่านก่อน แล้วลองถามทางผู้พิพากษาพร้อมหยิบใบไปให้ท่านดู ถามว่าใบนี้หมายความว่าอะไรครับ/คะ ท่าน เพราะหฯุไม่เข้าใจ ทางทนายเขาบอกให้เซ็นต์เลย เป็นใบเลื่อนคดี

รับรองมีเฮจ้ะ

ก็ยังมาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้และทุกคนอยู่นะครับว่า อย่าท้อต้องหนักแน่น
" อย่ามัวแต่รีบเก็บเงิน จนทำให้ตัวคุณและคนอื่นต้องลำบาก เพราะเจอมาเยอะแนะนำมาหลายคนแล้วว่า ถ้าคุณมัวแต่ประหยัดขั้นมาก คุณจะทำได้ดีมั้ย ทำได้นานเท่าไหร่ มันจะท้อนะ ผมว่าควรลองประหยัด อดออม ในแบบที่เราสามารถใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพดีมั้ย สนุกไปกับมัน เพราะที่ผ่านมาให้เริ่มนับดูว่าตั้งแต่มีหนี้หมุนเงินปวดหัวมานานเท่าไหร่ และกว่าจะรู้ตัวก็ค่อยมาแก้หนี้ หนทางยังมีอีกยาวไกล ให้พาครอบครัวกลับมา พาเพื่อนที่จากไกลกลับมา เพราะชีวิตเราได้พบคำตอบของตัวเองและยอมรับแล้ว เราจะไม่ทุกข์อีกแล้ว เริ่ดๆ เชิ่ดๆ "

aim เขียน: ก็ยังมาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้และทุกคนอยู่นะครับว่า อย่าท้อต้องหนักแน่น
" อย่ามัวแต่รีบเก็บเงิน จนทำให้ตัวคุณและคนอื่นต้องลำบาก เพราะเจอมาเยอะแนะนำมาหลายคนแล้วว่า ถ้าคุณมัวแต่ประหยัดขั้นมาก คุณจะทำได้ดีมั้ย ทำได้นานเท่าไหร่ มันจะท้อนะ ผมว่าควรลองประหยัด อดออม ในแบบที่เราสามารถใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพดีมั้ย สนุกไปกับมัน เพราะที่ผ่านมาให้เริ่มนับดูว่าตั้งแต่มีหนี้หมุนเงินปวดหัวมานานเท่าไหร่ และกว่าจะรู้ตัวก็ค่อยมาแก้หนี้ หนทางยังมีอีกยาวไกล ให้พาครอบครัวกลับมา พาเพื่อนที่จากไกลกลับมา เพราะชีวิตเราได้พบคำตอบของตัวเองและยอมรับแล้ว เราจะไม่ทุกข์อีกแล้ว เริ่ดๆ เชิ่ดๆ "

ชอบเม้นต์ข้างบนอ่ะค่ะ "เราจะไม่ทุกข์อีกแล้ว เริ่ดๆ เชิ่ดๆ"

กลับมาแล้วค๊าาา กลับมาพร้อมข้อมูลอัพเดต ฮ่าา ก่อนอื่นเลย ฝ้ายต้องขอบคุณคุณ aim คุณ jackfat คุณ เข็ดแล้วหนี้ และทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาให้กำลังใจ ทำให้กระทู้นี้ไม่เงียบเหงา แถมมีความรู้สอดแทรกด้วยนะค๊าาา
--> คุณ jackfat ค่ะ ฝ้ายไม่ได้สุดยอดเลย เป็นหนี้ขนาดนี้ บอกตรงๆ แทบล้มทั้งยืน นอนร้องไห้ หมดอาลัยตายอยากไปหลายวัน โทรไปปรีกษาคุณนกกระจอกเทศก็ร้องไห้ไป พูดไป เพราะตอนแรกคุณนกกระจอกเทศนึกว่าฝ้ายเป็นพวกเจ้าหนี้ปลอมตัวมาสอบถาม ฮ่าาา แต่ก็ถ้าไม่ได้คุยกับคุณนกกระจอกเทศวันนั้น และได้เข้ามาเจอ มาได้รับกำลังใจจากท่านกรรมการ สมาชิกทุกท่านไม่ว่าจะเป็นคุณ kaewja คุณกอบัว คุณ Anakin ฯลฯ ในเว็ปนี้ ไม่รู้วันนี้จะยังมีฝ้ายคนนี้อยู่บนโลกกลมๆ ใบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้อ่ะค่ะ ทำให้ฝ้ายกล้าไปสารภาพกับคุณพ่อ คุณแม่ คราวนี้เลยได้กำลังใจที่มีค่าที่สุดสำหรับลูกที่ก้าวพลาดไปแล้วในชีวิตอย่างฝ้าย ท่านทั้งสองให้อภัย พร้อมช่วยเหลือ เป็นกำลังใจให้ นี่หล่ะค่ะ ความรักของพ่อแม่ ฝ้ายรู้ซึ้งก็วันที่ตัวเองตกอับที่สุดในชีวิตนี่แหล่ะ
-->พล่ามซะยาวเกือบลืมแชร์ประสบการณ์เลยค่ะ คืองี้ค่ะ เมื่อกี้ก่อนมาพิมพ์ในนี้มีที่หนึ่งของบัตรกรุงศรี จีอี ค่ะ เป็นเจ้าแรกเลยที่เสนอส่วนลดมาให้ คิดแล้วประมาณ 36% จากยอดหนี้ปัจจุบันค่ะ แต่ยังไงจะลองใช้กลยุทธ์ของคุณกอบัวที่ไปฟังตอนงานสัมมนาดูก่อนนะค่ะ ได้ความปิดจบออกเอกสารใบปิดมาแล้วยังไง จะมาอัพเดตให้อย่างละเอียดเลยค่ะ แบบฝ้ายดีใจมากตัวแรกเลยที่เสนอมานอกนั้นเสนอให้ประนอมหนี้ทั้งนั้นเลย ดีใจประหนึ่งปลดหนี้ล้านกว่าหมด ฮ่าาาาา เพราะตอนแรกที่เล่าเรื่องแนวทางนี้ให้แม่ฟัง แม่ยังแบบมันจะลดกันได้จริงเหรอ ปล่อยไว้นานดอกไม่เพิ่ม บานเหรอไง เอาเงินแม่ไปปิดบ้าง บางเจ้าไหม ตอนนั้นฝ้ายใจหนึ่งก็อยากปิด อยากหมดหนี้แต่ก็ยังยืนกรานว่ารอหน่อยนะแม่ ขอหนูลองใช้แนวทางของหนูก่อน เมื่อกี้นี่พอได้มีส่วนลดฝ้ายเลยรีบโทรไปบอกแม่เลยค่ะ ให้ท่านมั่นใจในแนวทางของชมรมว่าทำได้จริง แต่เราต้องอดทนอ่ะค่ะ ตัวนี้ฝ้ายหยุดจ่ายเมื่อปลายเดือนสิงหาที่ผ่านมาค่ะ ตัวนี้ยอดหนี้ไม่สูงมากค่ะประมาณ 30000 บาทค่ะ เงินก็พอมีอยู่หมื่นกว่าบาทอ่ะค่ะ ตั้งแต่หยุดจ่ายแล้วเก็บอดออมไว้อ่ะค่ะ เลยจะลองคุยกันดูอีกที ก่อนจะจบความคิดเห็นนี้ฝ้ายไปเจอรูปหนึ่งมาอ่านแล้วดีมากเลยอยากมาแชร์อ่ะค่ะ เพราะฝ้ายเองก็ได้กำลังใจ ได้แนวคิดดีๆ จากหลายๆ รูปในแต่ละกระทู้ที่ทุกท่านแชร์กันไว้ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณฝ้าย ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนนะค่ะ แต่ยกย่องเลยค่ะว่า ทำได้อย่างไร หนี้มากมายขนาดนั้น
(เป็นเรื่องดีหรือเปล่าเนี้ย) จะคอยติดตามเรื่องต่อไปนีค่ะ

ดีใจด้วยครับคุณฝ้ายที่จะปิดแล้วใบหนึ่ง ของผมจะเข้ารอบบิลที่สี่แล้วยังเงียบอยู่เลยครับ แต่ที่เงียบกว่าคือเสียงโทรศัพท์ครับ สงสัยอยู่ในช่วงเปลี่ยนมือทวงแน่ๆเลย 555+

ดีใจด้วยครับคุณฝ้ายที่จะปิดแล้วใบหนึ่ง ของผมจะเข้ารอบบิลที่สี่แล้วยังเงียบอยู่เลยครับ แต่ที่เงียบกว่าคือเสียงโทรศัพท์ครับ สงสัยอยู่ในช่วงเปลี่ยนมือทวงแน่ๆเลย 555+

ผมกดส่งที่เดี่ยวทำไมถึงตอบไปสองครั้งละ

ขอโทษคุณฝ้ายด้วยนะครับ

เข็ดแล้วหนี้ เขียน: ดีใจด้วยครับคุณฝ้ายที่จะปิดแล้วใบหนึ่ง ของผมจะเข้ารอบบิลที่สี่แล้วยังเงียบอยู่เลยครับ แต่ที่เงียบกว่าคือเสียงโทรศัพท์ครับ สงสัยอยู่ในช่วงเปลี่ยนมือทวงแน่ๆเลย 555+

สงสัยจะเป็นอย่างที่คุณเข็ดแล้วหนี้ว่าค่ะ
ตุ๊กเองก็กำลังจะเข้ารอบบิลที่ 4
โทรศัพท์มันเงียบไปแปลกๆ

ดีใจกับคุณฝ้ายด้วยนะคะ จะพิฆาตศัตรู 1 รายแล้ว

---> คุณ calf ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆ เลยนะค่ะ ฮ่าาาา ถ้าขอได้ เรื่องสร้างหนี้สินนี่ไม่อยากเก่งเลยหล่ะค่ะ ขอเก่งในการบริหาร จัดการเงินของเราให้มีประโยชน์ดีกว่าอ่ะค่ะ

--->คุณ เข็ดแล้วหนี้ ค๊าาาา ฝ้ายเองก็ดีใจที่จะปิดแล้วนึ่งรายและก็เดือนนี้อาจจะปิดได้อีกเจ้าอ่ะค่ะ อ่านกระทู้อัพเดตของฝ้ายได้อีนอันเลยค่ะ เดี๋ยวเอาเดตให้นะค่ะ จะได้รู้ทันกันว่าช่วงนี้เริ่มมีส่วนลดแล้ว... ส่วนเจ้าหนักๆ ของฝ้ายก็เงียบๆ ไปเหมือนกันค่ะ สงสัยอย่างที่คุณว่ากะลังอยู่ในช่วงเปลี่ยน ถ่ายโอนเข้าสำนักงานกฎหมายอ่ะค่ะ

---> คุณตุ๊ก ขอบคุณนะค๊า...

มาอัพเดตกันเลยค่ะ
Krungsri Credit Card
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: พ.ย. 55
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 30,xxx บาท
เสนอให้จ่ายที่: 19,000 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 18,000 บาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 40%
สถานะ: รอพนักงานเสนอหัวหน้าอีกทีในยอดที่ขอต่อรองและถ้าอนุมัติก็รอเอกสารยืนยันการปิดจบภายในวันจันทร์นี้ค่ัะ
ปล. พนักงานทวงหนี้ท่านนี้มารยาทดีมากค่ะ คือพูดจาดีและแนะนำเราว่าควรจะต้องมีเอกสารยืนยันการปิดจบหนี้กับทางเขาก่อนแล้วค่อยไปจ่ายนะ คุณอย่าพึ่งไปจ่าย หลังจากได้เอกสารและคุณไปชำระแล้วให้เก็บใบเสร็จไว้ หลังจากนั้นประมาณ 15 วันจะมีเอกสารยืนยันการสิ้นสุดภาระหนี้ส่งไปยืนยันอีกตัว คือที่ฝ้ายว่าดีเพราะไม่ล่อ ลวง โกหก เราให้ไปจ่ายก่อนมีการแนะนำฝ้ายด้วยอ่ะค่ะ แล้วแบบแนะนำอย่างที่ชมรมแนะนำเลย ฝ้ายเลยว่าคนนี้ก็คงพอจะมีสำนึกของความเป็นคนอยู่บ้าง ไอ้เรื่องส่วนลดฝ้ายเข้าใจว่าเขาก็ต้องให้ตามนโยบายของบริษัทเขาอยู่แล้ว เขาไม่ได้มีสิทธิ์ลดให้เราได้ว่าจะเอาเท่านั้น เท่านี้อ่ะค่ะ เลยถือว่าดีในระดับหนึ่งเลย

Simple Card
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: พ.ย. 55
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 43,xxx บาท
เสนอให้จ่ายที่: 26,000 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 25,000 บาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 42%
สถานะ: รอพนักงานเสนอหัวหน้าอีกทีในยอดที่ขอต่อรองและถ้าอนุมัติก็รอเอกสารยืนยันการปิดจบค่ะ
*เรื่องส่วนลดทั้งหมดอันนี้แล้วแต่ตัวบุคคลนะค่ะ บางท่านอาจจะได้เยอะกว่านี้ก็ได้ค่ะ แต่ฝ้ายพยายามแล้วและพอจะมีเงินปิดได้ เลยอยากจบๆ กันไปค่ะ ฝ้ายมีหนี้เยอะเลยอยากกำจัดศัตรูตัวเล็กๆ ไปก่อนค่ะ*

--->จากเท่าที่สังเกตนะค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มมีส่วนลดให้มาบ้างแล้วค่ะสำหรับคนหยุดจ่ายมา 3-4 เดือน 30 เกือบ 40% หรือ 40% กว่าๆ กันเลยทีเดียวค่ะ แต่จะเป็นพวกยอดหนี้ไม่เกิน 50,000 อันนี้ของฝ้ายนะค่ะ แล้วต่อรองจากยอดที่เขาเสนอกันมาก็ได้ลดลงอีกไม่เกิน 1,000 บาท อันนี้เหมือนเป็นมาตรฐานของช่วงนี้เลยอ่ะค่ะ โดยส่วนตัวมีเงินพอปิดและคุณแม่พอจะช่วยเหลือได้ก็ปรึกษากันท่านเห็นว่าสมควรเลยอยากให้ปิดจบกันไปค่ะ ส่วนของรายใหญ่ๆ หนี้เยอะๆ ที่เกือบแสนยังเงียบอยู่ค่ะ ก็โทรมาแต่ยังไม่มีเสนอส่วนลดอ่ะค่ะ
คิดว่าต่อแต่นี้คงมีมาเรื่อยๆ แต่จะว่าไปฝ้ายยังโชคดีอยู่อย่างค่ะ ฝ้ายยังไม่เคยเจอพวกทวงหนี้ที่ใช้คำพูดไม่ดีกับฝ้ายนะค่ะ มีแต่ที่เดียวคือบัตรโลตัสที่พูดจา ขอใช้คำว่ากวนตรีน.... ดีกว่า ฝ้ายก็เลยกวนมันกลับไป โลตัสนี่ยอดหนี้ตอนหยุดประมาณ 40,xxx ได้ค่ะ ชวนประนอมหนี้บอกว่าจะช่วยเราจะได้ลดดอกเบี้ย ฝ้ายบอกไม่ทำ มันก็ขึ้นเสียงใส่ฝ้ายเลยค่ะ ก็เลยเถียงกันไปมา ฝ้ายเลยบอก ไม่มี ไม่จ่าย ไม่ทำไอ้สัญญานรกนี่ด้วย มันบอกเราจะดำเนินการฟ้องศาล ฝ้ายเลย เออ....มาเลย รอหมายศาลอยู่ ส่งมาเลย สะใจชะมัดเลยค่ะ 555

--->ฝ้ายตามอ่านประสบการณ์ของทุกคนอยู่นะค่ะ ใครมีความคืบหน้าอะไร ยังไง เราจะได้มาบอกๆ กันอ่ะค่ะ จะได้รู้กลเกมว่าตอนนี้มันมีอะไร ให้ส่วนลดอะไรยังไงบ้าง เราจะได้เอามาประยุกต์ใช้กันหน่ะค่ะ จะได้ไม่พลาด ไม่พลั้งกันค่ะ โดยส่วนตัวฝ้ายไม่ได้หวังส่วนลดเยอะมากมายอะไร ขอแค่สมเหตุ สมผล และถ้าตอนนั้นฝ้ายมี ก็อยากจะขอปิดจบกันไปค่ะ

ขอให้ทุกคนโชคดีปิดหนี้กันได้ไวๆ นะค่ะ ของฝ้ายยังอีกยาวไกลเลยค่ะ แต่ใจสู้ และกำลังใจดีค่ะ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น สักวันต้องเป็นวันของเราค่ะ

ยินดีด้วยครับ ส่วนลดมากน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่เราพอใจและพอมี

โชคดีครับ

ยินดีด้วยครับ
เมื่อเริ่มเดินทาง ย่อมถึงที่หมายสักวัน
สำคัญที่เราตั้งหัวเรือให้ตรงหรือเปล่าเท่านั้นครับ

เป็นกำลังใจให้ซำเหมอ
จากคนมีหนี้ล้านอัพเช่นกัน

ดีใจด้วยค่ะ น้องฝ้าย จะคืบบ้าง คลานบ้าง ขอแค่อย่าหยุดเดิน

สักวัน น้องจะไปถึงเส้นชัย แน่นอน...

---> ขอบคุณ คุณ GOKU คุณ Narasingh และคุณ กอบัว มากเลยนะค่ะ สำหรับกำลังใจ สิ่งนี้หล่ะค่ะ สำคัญที่สุด ตอนนี้บัตรในเครือกรุงศรีเริ่มมีส่วนลดทะยอยกันมาแล้วค่ะ แหม่ะ ถ้ามีเงินนะจะปิดให้หมดเลย ฮ่าาา ก็เลยได้แต่กำเงินที่พอมีคิดว่าจะวางไว้ตรงไหนดีให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนที่เหลือก็คงต้องปล่อยไปก่อน ก็ตอนนี้ไม่มีจริงๆ อ่ะค่ะ งั้นฝ้ายจะมาสรุปความคืบหน้าก่อนเลยค่ะ
Krungsri Credit Card
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: พ.ย. 55 โดยสำนักงานกฎหมายกรัณฑ์
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 29,xxx บาท
เสนอให้จ่ายที่: 19,000 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 18,000 บาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 39.60%
สถานะ: ได้เอกสารยืนยันการชำระหนี้มาแล้วค่ะ เหลือไปจ่ายเงิน เฮ้อ...หมดศัตรูไปหนึ่ง
ฝ้ายแนบเอกสารยืนยันการชำระหนี้มาด้วยนะค่ะ ดูเทียบกับในห้องนิทรรศการเอกสารหนี้ที่คุณ Anakin โพสไว้ก็เหมือนกันเลย ยอดเงินทุกอย่างเป็นไปตามที่ตกลงกันก็เป็นอันปิดจบไม่มีปัญหาเรื่องเอกสารค่ะ

ส่วนตัวนี้ ยังไม่จบค่ะ เพราะฝ้ายขอต่อรองเป็น 24,000 บาทค่ะ เขาเลยให้แฟกซ์ตัวภาระหนี้สินไปเพิ่ม 3-4 บัตรเพื่อเป็นเอกสารประกอบการขอส่วนลด ก็เลย Fax ไปให้เมื่อเช้าไม่รู้จะได้หรือเปล่าค่ะ

Simple Card
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: พ.ย. 55 โดยสำนักงานกฎหมายลีดเดอร์
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 43,xxx บาท
เสนอให้จ่ายที่: 26,000 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 24,000 บาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 44%
สถานะ: รอพนักงานเสนอหัวหน้าอีกทีในยอดที่ขอต่อรองและถ้าอนุมัติก็รอเอกสารยืนยันการปิดจบค่ะ

แล้ววันนี้ก็ยังมีอีกสามที่เสนอส่วนลดมาค่ะมีทั้ง Central Card, Lotus และ Citibank Advance ค่ะซึ่งยอดที่ทางเขาเสนอมายังสูงอยู่ตอนนี้ฝ้ายมีเงินไม่ถึงเลยกะว่าจะรอขอต่อรองอีกหน่อย คืบหน้ายังไงจะมาอัพเดตเรื่อยๆ นะค่ะ

ยินดีด้วยค่ะ และดีใจที่เห็นสมาชิกบอกเราว่า

หมดศัตรูไปหนึ่ง

ขอบคุณมากเลยค่ะคุณ kaewja เจ้าศัตรูตัวนี้ระดับพลทหาร เลยปิดไปก่อน เพราะเงินที่เก็บมาตั้งแต่หยุดจ่ายยังรับไหวค่ะ แต่ระดับนายพลนี่ยังมีอีกหลายตัวเหลือเกินค่ะ พอนึกถึงตัวเกือบแสนแล้วก็ท้อนะค่ะ แต่ไม่ได้ก้มหน้าท้อได้ แต่เราต้องรีบเงยหน้าสู้ใหม่ค่ะ ยังไงก็จะสู้สุดแรงเลยค่ะ

fay เขียน: ขอบคุณมากเลยค่ะคุณ kaewja เจ้าศัตรูตัวนี้ระดับพลทหาร เลยปิดไปก่อน เพราะเงินที่เก็บมาตั้งแต่หยุดจ่ายยังรับไหวค่ะ แต่ระดับนายพลนี่ยังมีอีกหลายตัวเหลือเกินค่ะ พอนึกถึงตัวเกือบแสนแล้วก็ท้อนะค่ะ แต่ไม่ได้ก้มหน้าท้อได้ แต่เราต้องรีบเงยหน้าสู้ใหม่ค่ะ ยังไงก็จะสู้สุดแรงเลยค่ะ

เขียนได้น่ารักมาก ลูกหนี้สมัยนี้น่ารักมากครับมีคำพูดสนุกๆออกมา กำลังใจดีมากครับ

ผมไปอ่านเรื่องของคุณ GOKU มานะก็ชอบมาก ตลกดีมีขุนศึกอะไรมากมายเลย เดี๋ยววันไหนมีเวลาหน่อยจะมาอ่านให้หมดเลยทั้งคู่แหละ ถือว่าชอบและต้องขอเชียร์เลยละกัน

สุดท้ายนี้แวะมาปรบมือให้ครับ จีดการนายพลเก่งมาก (เทียบเท่าระดับขุนหมื่น) ในสมัยอดีต เดี๋ยวต่อไปก็เหลือแค่จัดการเปิดศึกกับขุนแสนแล้วล่ะครับ ...

ราตรีสวัสดิ์ครับ

นั่งอ่านตั้งแต่กระทู้แรก จนถึงกระทู้สุดท้าย ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยคะ
ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น ตอนนี้คิดว่าเจ้าหนี้บางบัตรคงกำลังส่งเรื่องให้สำนักงานกฎหมาย
ติดตามทวงหนี้แล้ว วันนี้มีโทรมาบอกว่าเรื่องถึงศาลแล้ว นัดวันที่ 20 พ.ย. นี้ แต่ยังไม่เห็น
จดหมายคะ บอกตรงๆ ว่าเศร้า และกลัว ไม่อยากให้ที่ทำงานรู้เพราะกลัว แต่พอได้อ่านเรื่อง
ที่คุณฝ้ายเจอ และเพื่อนๆ อีกหลายท่านประสบ เรื่องเราดูเล็กไปเลยคะ

สู้ สู้ นะคะ

คุณฝ้าย ขอปรบมือให้จริงๆ ต่อรองได้เก่งมาก ไว้ต้องขอคำแนะนำบ้างแล้ว

---> ขอบคุณนะค่ะ คุณ aim ขุนแสนสมชื่อเลยค่ะ แสนสาหัส เลยทีเดียว ฮ่า....... ขอบคุณที่แวะเวียนมาอ่านมาให้กำลังใจกันนะค่ะ

---> คุณ calf ฝ้ายยังอ่อนด้อยประสบการณ์นักค่ะ เจ้าแรกต่อรองไปปากสั่นไป ใจคิดว่าจะได้ไหมน๊าา เลยได้มาติ๊ดเดียวเองคะ โดยส่วยตัวฝ้ายว่าเขาตั้งใจลดให้เราเท่านี้อยู่แล้ว(หรืออาจจะได้มากกว่านี้) เผื่อเราต่อรอง แต่ถ้าเราไม่ต่อรองเลย เราก็เสียผลประโยชน์ค่ะ เลยได้เรียนรู้ประสบการณ์มาแล้วค่ะ เจ้าต่อไปเลยกล้ามากขึ้นนี่หล่ะค่ะ ตอนนี้ก็กะลังต่อรองอยู่ค่ะ คุณ calf ก็สู้นะค่ะ สู้ไปพร้อมๆ กันนะค่ะ

---> คุณ ammymyam อันที่บอกว่าเรื่องถึงศาลแล้วนี่ของแบงค์ไหนค่ะ หยุดมากี่เดือนแล้ว เพราะเท่าที่ฝ้ายอ่านเจ้าที่ฟ้องศาลเร็วสุดก็มี Citibank ตัวบัตรเครดิตกับ UOB อ่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างเร็วก็ต้องหยุดไปแล้ว ประมาณ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ เอ.... มีการบอกว่านัดศาลวันที่ 20 นี้แล้วด้วย มีหมายศาลมาหรือยังค่ะ ตรวจสอบดูที่บ้านที่เรามีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านอ่ะค่ะ หรือลองไปตรวจดูรายชื่อเราที่ศาล เอิ่ม.....อันนี้ถ้าโดนฟ้องจริงแล้วเราไม่ไปศาล เราเสียเปรียบนะค่ะ คือฝ้ายก็ยังไม่ได้รับหมายศาลและเคยไปศาลหรอกค่ะ อ่านจากในนี้มาค่ะ ยังไงฝ้ายว่าโทรปรึกษาท่านกรรมการดีกว่าค่ะ กรณีนี้ อย่างนิ่งนอนใจเลยค่ะ เป็นห่วงๆ ค่ะ
ปล. ฝ้ายดีใจนะค่ะ ที่อย่างน้อยกระทู้ของฝ้ายก็มีประโยชน์และช่วยให้กำลังใจ สมาชิกท่านอื่นๆ ได้ค่ะ ส่วนเรื่องที่ทำงานมันก็มีโทรมาที่ทำงานบ้างและบางท่านก็โดนมาหาที่ทำงานค่ะ แต่อย่าไปกลัวค่ะ อย่างเขาว่าดีมาเราก็ดีไป ร้ายมาก็ร้ายไปค่ะ ของฝ้ายเคยแค่โดนขู่ค่ะ โดยส่วนตัวนะค่ะ อย่าแสดงให้เขารู้ว่าเรากลัวอะไร เพราะถ้าเขารู้เขาจะจี้เราจุดที่เรากลัวนั่นแหล่ะค่ะ ระบบในบริษัทและการทำงานของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน เรื่องจะบอกหรือไม่บอกนั้นแล้วแต่ดุลยพินิจของคุณค่ะ แต่แนะนำว่าบอกผู้ที่เกี่ยวข้องที่อาจจะโดนโทรทวงและรบกวนการทำงานของเขาอ่ะค่ะ เช่น หัวหน้างานเรา ฝ่ายบุคคล ฯลฯ ก็ลองๆ ดูนะค่ะ อย่ารีบร้อน ค่อยๆ คิดหาทางแก้ปัญหาไปทีละขั้น ทีละตอนค่ะ การทวงหนี้จนกระทั่งฟ้องศาล ยึดทรัพย์ มันมีขั้น มีตอนค่ะ ไม่ใช่คิดจะฟ้องกันก็ฟ้อง คิดจะยึดทรัพย์ก็ทำได้ตามอำเภอใจ นะค่ะ สุ้ๆ ค่ะ

มาอัพเดตเพิ่มเติมที่เจรจาจบไปอีกบัญชีค่ะ ตัวนี้ก็ตอนแรกเจรจาลดได้ 25,000 บาท แต่ฝ้ายไม่ไหวเลยขอลดอีกเหลือ 24,000 บาท ก็เป็นได้ปิดจบกันไปแต่ทางนั้นขอเอกสารภาระหนี้สินเพิ่มเติมสัก 3-4 ใบแจ้งหนี้ค่ะ

Simple Card
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: พ.ย. 55 โดยสำนักงานกฎหมายลีดเดอร์
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 43,xxx บาท
เสนอให้จ่ายที่: 26,000 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 24,000 บาท โดย Fax เอกสารภาระหนี้สินไปเพิ่ม
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 44.11%
สถานะ: จ่ายเงินแล้วรอเอกสารใบปลดหนี้

หมดไปอีกตัวแล้วนะครับเก่งมากเลย
พอเราเริ่มปิดได้จากตัวแรก ถือว่าเป็นกำลังใจ และต่อที่ 2 ,3,4,5 และอื่นๆจะตามมาอีก จนหมดครับ

aim เขียน: หมดไปอีกตัวแล้วนะครับเก่งมากเลย
พอเราเริ่มปิดได้จากตัวแรก ถือว่าเป็นกำลังใจ และต่อที่ 2 ,3,4,5 และอื่นๆจะตามมาอีก จนหมดครับ

ขอบคุณมากค่ะคุณ aim เริ่มมีกำลังใจเพิ่มขึ้นจริงๆ ค่ะ แสงสว่าง ณ ปลายทาง เริ่มสว่างขึ้นอีกนิด

ยินดีด้วยนะ..แป๊บเดียว ปิดไปได้ตั้งสองราย...

.........เงินเก็บเดือนละห้าพันเนี่ยนะ...

.........อย่างนี้ไม่เกินสองปี..จบชัวร์...555

...........................

devil angel เขียน: ยินดีด้วยนะ..แป๊บเดียว ปิดไปได้ตั้งสองราย...

.........เงินเก็บเดือนละห้าพันเนี่ยนะ...

.........อย่างนี้ไม่เกินสองปี..จบชัวร์...555

...........................

ฮ่าาา ขอบคุณค่ะคุณ devil angel เดือนละ 5,000 บาท ขั้นต่ำอย่างที่ตั้งใจอ่ะค่ะ พยายามอุดรอยรั่วของตัวเองแบบสุดๆ เมื่อก่อนสุรุ่ย สุร่ายมาก เครื่องสำอางค์เสื้อผ้า จ่ายครั้งหล่ะเกือบหมื่น อยากกินอะไร แพงก็กิน รูดบัตรปรู๊ดดดเดียวไม่สะทกสะท้าน หนี้เลยบานปลายมาได้ขนาดนี้เลยอ่ะค่ะ ก็ได้เงินเก็บซื้อฉลากออมสินไว้ด้วยพอดีครบอายุเบิกได้พอดีและเงินคุณแม่ช่วยเหลือบ้าง รวมๆ กันค่ะ ก็อยากให้จบภายในสองปีเหมือนกันค่ะ ตั้งเป้าหมายในใจตัวเองว่าจะต้องจบหนี้ให้ได้ อย่างเร็วภายใน 2 ปี อย่างช้าสุดต้องไม่เกิน 4 ปีค่ะ เพราะสร้างหนี้มาทั้งหมด 4-5 ปีเลยค่ะ

ไม่มีสิ่งใด นอกจากขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจ
ขอให้หนี้หมดไวๆนะคะ

[/color]

pointpaint เขียน: ไม่มีสิ่งใด นอกจากขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจ
ขอให้หนี้หมดไวๆนะคะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ เพียงแค่นี้ก็มีค่าอย่างที่สุดแล้วค๊าาาา

เป็นน้องใหม่ค่ะที่แอบศึกษาการทำตารางหนี้ของคุณฝ้ายมาเป็นตัวอย่างในการทำตารางของตัวเอง..ขอบคุณมากนะคะ..ที่แชร์ประสบการ์ณให้เป็นครู...ขอเป็นกำลังใจให้คุณฝ้าย..ปิดหนี้ได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจนะคะ...

Tuktuk เขียน: เป็นน้องใหม่ค่ะที่แอบศึกษาการทำตารางหนี้ของคุณฝ้ายมาเป็นตัวอย่างในการทำตารางของตัวเอง..ขอบคุณมากนะคะ..ที่แชร์ประสบการ์ณให้เป็นครู...ขอเป็นกำลังใจให้คุณฝ้าย..ปิดหนี้ได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจนะคะ...

ยินดีและขอบคุณสำหรับกำลังใจมากค่ะ คุณ Tuktuk เองก็พยายามสู้ๆ ไปด้วยกันนะค่ะ ตอนนี้หลายๆ เจ้าเงียบหายไปฝ้ายเองก็เลยยังไม่มีอะไรอัพเดตเพิ่มเติมเลยหล่ะะค่ะ

ยินดีด้วยครับ

เข้าสู่ช่วงเงียบเหงา ยังไงก็ระวังเจ้าหนี้ที่ฟ้องเร็วด้วยนะครับ

Narasingh เขียน: ยินดีด้วยครับ

เข้าสู่ช่วงเงียบเหงา ยังไงก็ระวังเจ้าหนี้ที่ฟ้องเร็วด้วยนะครับ

ขอบคุณค๊าาา คุณ Narasingh กลัวอยู่เหมือนกันค่ะ ตอนนี้หยุดจ่ายมาน่าจะเข้าเดือนที่ 4 แล้วค่ะ กะลังหวาดระแวงสุดๆ เหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่ประมาทค่ะ โทรไปถามแม่เรื่องหมายศาลที่จะส่งไปที่บ้านประจำและคิดว่าหลังปีใหม่จะต้องกลับไปเช็คที่ศาลดูว่ามีหมายเลขคดีดำของเราหรือยัง เพราะถ้าหลังปีใหม่ก็จะเข้าเดือนที่ 6 กันแล้วหล่ะค่ะ ของฝ้ายมีทั้ง Citibank 3 บัญชีกันไปเลย ฮ่าา จะเยอะไปไหน หนักๆ ทั้งนั้นด้วยค่ะ และ UOB ก็หนักพอกันค่ะ ไม่มีใครกินใครลงเลย 2 เจ้าหนี้นี้ ก็ตั้งรับไปทีละรายไปค่ะ

สวัสดีครับคุณFay
ยินดีด้วยนะครับปิดไป2ใบแล้ว
ส่วนเรื่องหนี้ผมมี จอมมารยู(ขอยืมพี่ GOKU มาใช้) คุยยากมาก เขี้ยวตอนคุยกับฝ่ายเร่งรัดหนี้สินลดให้เฉพาะเงินต้น จบกันไม่ลง
ตอนนี้เรื่องออกมาที่ฝ่ายกฎหมายแล้วครับ ยังเจรจากันอยู่ ถ้าจบกันไม่ได้อีกคงเตรียมตัวไปศาลครับ
คุยกับ UOB ต้องมีสตินะครับ มันจะออกแนวขู่ๆ ไม่ยอมท่าเดียว ถ้าเราพอมีเงินคุยเรื่องยอดที่จะจ่าย ถึงแม้ว่าจะยังไม่ใช่ยอดที่ทางจอมมารต้องการ จะคุยได้ง่ายขึ้นนิดนึง เพราะว่าดูเหมือนว่าเรามีเจตนาจะจ่าย(แต่เงินไม่พอ) เป็นความรู้สึกของผมนะครับ จากการที่คุยกับจอมมารยูมาตลอด2-3อาทิตย์ที่แล้ว

ส่วน CITI ผมไม่มีบัญชีนี้ เลยไม่มีประสบการณ์ ยังไงก็สู้ๆปลดหนี้ไปด้วยกันนะครับผม

jackhunter เขียน: สวัสดีครับคุณFay
ยินดีด้วยนะครับปิดไป2ใบแล้ว
ส่วนเรื่องหนี้ผมมี จอมมารยู(ขอยืมพี่ GOKU มาใช้) คุยยากมาก เขี้ยวตอนคุยกับฝ่ายเร่งรัดหนี้สินลดให้เฉพาะเงินต้น จบกันไม่ลง
ตอนนี้เรื่องออกมาที่ฝ่ายกฎหมายแล้วครับ ยังเจรจากันอยู่ ถ้าจบกันไม่ได้อีกคงเตรียมตัวไปศาลครับ
คุยกับ UOB ต้องมีสตินะครับ มันจะออกแนวขู่ๆ ไม่ยอมท่าเดียว ถ้าเราพอมีเงินคุยเรื่องยอดที่จะจ่าย ถึงแม้ว่าจะยังไม่ใช่ยอดที่ทางจอมมารต้องการ จะคุยได้ง่ายขึ้นนิดนึง เพราะว่าดูเหมือนว่าเรามีเจตนาจะจ่าย(แต่เงินไม่พอ) เป็นความรู้สึกของผมนะครับ จากการที่คุยกับจอมมารยูมาตลอด2-3อาทิตย์ที่แล้ว

ส่วน CITI ผมไม่มีบัญชีนี้ เลยไม่มีประสบการณ์ ยังไงก็สู้ๆปลดหนี้ไปด้วยกันนะครับผม

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะคุณ jackhunter ไว้ฝ้ายจะนำไปประยุกต์ใช้กับของตัวเองนะค๊าาาา

สวัสดีวันลอยกระทงค๊าา สมาชิกทุกท่าน วันนี้ฝ้ายมาอัพเดตรายการตัวเองนิดหนึ่งค่ะ หลังจากที่ได้เงินเดือนก็รีบเอาไปปิดจบเลยบัตรหนึ่งค่ะ โชคดีเดือนนี้ย้ายไปอยู่กับญาติเลยเงินเดือนเหลือเต็มๆ เลยค่ะ ค่ากินก็แค่ข้าวกลางวันอย่างเดียวสบายใจไป อดทนๆ ค่ะ เพื่อเก็บเงินปิดจบหนี้ คราวนี้เป็นคิวของบัตรเซ็นทรัลการ์ดหล่ะค่ะ รายละเอียดตามนี้เลยค่ะ ส่วนเจ้าที่กำลังเจรจาอยู่ก็มีของโลตัสอ่ะค่ะ ยังไม่ลงตัวสักที ถ้าลงตัวคืบหน้ายังไงจะมารายงานเพิ่มนะค่ะ โลตัสนี้คงต้องขอยาวๆ ปิดจบหลังวันที่ 25 เดือนธันวาหล่ะค่ะ

Central Card
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: พ.ย. 55 โดยสำนักงานกฎหมายดิอิวิเด็นซ
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 36,xxx บาท
เสนอให้จ่ายที่: 27,000 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 22,000 บาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 44.57%
สถานะ: จ่ายเงินแล้วรอเอกสารใบปลดหนี้

ยินดีด้วยนะครับ

เวลาเจรจาต่อรอง พยายามแจ้งไปว่าเงินไม่พอ แต่จะพยายามไปยืมญาติ เอาทองไปจำนำ
อะไรประมาณนี้

ดราม่าไปเลยครับ เพราะมันก็ดราม่ามาเหมือนกัน

ถ้างี่เง่า ก็ด่าอาม่ามันไปเลย

ยินดีด้วยจ๊ะ คุณฝ้าย หมดหรือยังเนี๊ย สงสัยจะเร็วกว่า 2 ปีแน่เลย สู้ๆ ค่ะ

สู้ๆ ครับ เดี๋ยวขอคำปรึกษาบ้างนะครับ

สวัสดีปีใหม่ปีงูเล็กนะค่ะ มาสวัสดีปีใหม่ช้าไปนิด ฮ่า..เป็นอาทิตย์เลยเพราะช่วงต้นเดือนที่ผ่านมายุ่งนิดหน่อยค่ะเนื่องจากลาออกจากที่ทำงานกลับมาทำงานที่บ้านต่างจังหวัดแล้วค่ะ ยังไงก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข หนี้ลดน้อยลง ถ้าใครสามารถใช้ได้หมดภายในปีนี้ก็ขอให้หมดตั้งใจหวังนะค่ะ มาวันนี้เลยมาขออัพเดตหนทางการปิดบัญชีของยูโอบีค่ะ แต่แบบว่าลดยากและลดได้น้อยจริงๆ ค่ะ ฝ้ายพยายามงัดมาทุกมุกที่ฝ้ายนึกออกแล้วอ่ะค่ะ ได้ลดจากยอดตอนหยุดจ่ายแค่ประมาณ 2,000 บาท เองค่ะ เขี้ยวลากมาก...จริงๆ

การเจรจา
24 ธ.ค. 55 --> ฝ้ายเริ่มเจรจาขอปิดบัญชีทุกบัญชี(มี 2 บัตรเครดิต, 1 บัตรกดเงินสด, 1 สินเชื่อ) เพราะได้เงินโบนัสมาจำนวนหนึ่ง โดยทางธนาคารให้ส่วนลดจ่ายปิดงวดเดียวเฉพาะเงินต้นตอนที่หยุดบอกมาที่ 169,500 บาท แต่ฝ้ายขอต่อรองที่ 150,000 บาท หลังจากนั้นช่วงเย็นมีเจ้าหน้าที่อีกคนโทรมาเป็นผู้ชาย บอกว่าไม่สามารถลดให้ได้ ลดได้เท่าจำนวนที่บอก แล้วแบบพูดจาไม่ดีค่ะ ฝ้ายกับเขาเลยเถียงกันไปพักหนึ่งจนฝ้ายหมดความอดทนบอกว่าไม่อยากคุยแล้วมีเท่านี้เต็มที่ ไม่ได้ก็ไปคุยกันที่ศาล(ทำเสียงแข็งไปงั้นอ่ะค่ะ รู้จากที่อ่านหลายๆท่านบอกว่าถ้าขึ้นศาลแล้วเจ้านี้ลดยากมากแต่แบบไม่พอใจเจ้าหน้าที่ท่านนี้มาก) เขาเลยบอกก่อนวางสายว่าถ้างั้นให้ฝ้ายส่งเอกสารภาระหนี้สินไปเพิ่มสัก 4-5 บัญชี เดี๋ยวเขาจะลองเอาไปเสนอผู้ใหญ่ให้อีกทีค่ะ

4 ม.ค. 56 --> คราวนี้มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายอีกคนโทรมาค่ะ บอกว่าที่ฝ้ายขอไปไม่ผ่านค่ะ เจ้าหน้าที่ท่านนี้พูดจาดีค่ะ เหมือนเห็นใจและพยายามวิ่งเต้นเรื่องขอส่วนลดให้ฝ้ายค่ะ ฝ้ายก็เลยแบบใจอยากปิดอยู่แล้วเลยแบบอ่ะ ฝ้ายขอไปที่ 160,000 บาท หายไปพักกลับมาบอกไม่ได้ค่ะ เขาบอกว่าทางผู้ใหญ่ให้ได้เต็มที่ 165,500 บาท ฝ้ายก็ขออีกขอ 165,000 บาท เขาก็บอกว่าไม่ได้จริงๆ อธิบายการคิดว่าทางธนาคารลดไม่เก็บดอก ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการทวงหนี้ บล๊า บล๊า บล๊า ฝ้ายฟังไม่ทันค่่ะ บอกตรงๆ ฝ้ายกับคนนี้โทรกันไปมาตลอดช่วงเย็นวันศุกร์เป็น 10 เที่ยวได้ค่ะ ฝ้ายเลยแบบเอาว่ะ เหนื่อยแล้ว เอาก็เอาที่ยอดนี้ก็ได้ 165,500 บาท แบบพูดกันจนเมื่อยปากกับ 500 บาท ไม่ได้สักที แต่ก็ตลอดเวลาเจ้าหน้าที่ก็พูดด้วยน้ำเสียงดีนะค่ะไม่มีหงุดหงิด ไม่มีขึ้นเสียง ท่าทางฝ้ายจะแพ้คนพูดจาดีแฮะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เพราะอย่างน้อยถ้าลดไม่ได้กันจริงๆ เราก็ไม่อารมณ์เสียเพราะคำพูดคนพวกนี้อ่ะค่ะ ตอนเย็นเขาเลยส่งเมล์มาให้สรุปยอดที่ต้องปิด แต่มันไม่ได้เป็นเอกสารที่มีลายเซ็นต์จากเจ้าหน้าที่ทางธนาคารค่ะ ฝ้ายเลยบอกว่าวันจันทร์ให้แฟกซ์มาใหม่ฝ้ายจะนั่งรอเลยแล้วจะขับรถเข้าตัวเมืองเอาไปจ่ายให้(เขาบอกว่าต้องจ่ายภายในวันที่ 7 ม.ค. ค่ะไม่งั้นยอดนี้จะไม่ได้เพราะบัตรเครดิตฝ้ายจะตัดรอบแล้วพอขึ้นรอบใหม่ยอดก็จะเพิ่ม) เอาให้มันเป็นเอกสารที่บอกถึงการชำระ เป็นจำนวนเท่านี้ จากยอดเดิมเท่าไหร่ แล้วต้องชำระวันไหน บอกว่าถ้าชำระต้องถือเป็นการปิดจบบัญชีหมดหนี้สินกันไป และสำคัญต้องมีลายเซ็นต์หัวหน้าของเจ้าหน้าที่ท่านนั้นด้วย

7 ม.ค. 56 --> ได้รับแฟ็กซ์เอกสารปิดจบหนี้ เทียบกับห้องนิทรรศการเอกสารหนี้แล้วโอเค เลยไปจ่ายแต่ก็มีเรื่องหงุดหงิดนิดหน่อยค่ะ เพราะในเอกสารปิดจบหนี้จากที่คุยกันไว้ว่าจบกันที่ 165,500 บาท จู่ๆ ยอดมาที่ 166,300 บาท เพิ่มมา 800 ฝ้ายเลยแบบอาวมันเพิ่มมาได้ไง เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่ามันเป็นค่าดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด ยอดวันนี้มันถูกปรับขึ้นมา ฝ้ายก็แบบเออนะ ออกมาเตรียมตัวจะไปจ่ายแหล่ะ เลยแบบเอางี้แล้วกันคุณไปคุยกับทางหัวหน้าคุณนะว่าลดมาเลย 300 บาท เอาถ้วนๆ คุณทำแบบนี้ถ้าพูดกันตรงๆนะ คุณรู้ไหมว่าอย่างหัวหน้าคุณอ่ะ เขาเรียกว่าเป็นคนคำพูดไม่เป็นคำพูด ไม่มีสัจจะ ไปคุยแล้วส่งมาใหม่(คือแบบมันชอบอ้างหัวหน้ามันนักว่าลดไม่ได้ และแบบฝ้ายจะเอายอดเดิมมันก็ไม่ได้ อีกอย่างฝ้ายก็ตั้งใจออกมาแล้ว ยื้อไว้ 800 บาทกับเวลาที่ฝ้ายต้องเสียเริ่มคุยกันใหม่อีกและยังมีเจ้าหนี้อื่นอีกเยอะเลยค่ะ ของฝ้ายที่โทรมากวนใจอยู่เนืองๆ เลยอยากตัดๆ ให้มันหมดๆ ไปค่ะ) สรุปปิดจบกันที่ยอด 166,000 บาท จากที่ตอนแรกทางธนาคารเสนอมาที่ 169,500 บาท

---

UOB บัตรเครดิต
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: ม.ค. 56
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 94,591.88 บาท
ยอดตอนหยุด: 86,644.93 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 85,010 บาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 10.13%

UOB บัตรกดเงินสด
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: ม.ค. 56
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 56,714.85 บาท
ยอดตอนหยุด: 51,104.29 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 50,800 บาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 10.43%

UOB สินเชื่อ
หยุดจ่าย: ส.ค. 55
เสนอส่วนลด และปิดจบภายใน: ม.ค. 56
ยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 35,124.38 บาท
ยอดตอนหยุด: 30,159.91 บาท
ต่อรองได้เหลือ: 30,190 บาท
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของยอดหนี้ ณ ปัจจุบัน: 14.05%

รวมยอดหนี้ปัจจุบัน 186,431.11
รวมยอดหนี้ ณ ตอนที่หยุดจ่าย 167,909.13
รวมยอดหนี้ที่ใช้ปิดบัญชี 166,000.00

กระทู้ที่แล้วพูดถึงการปิดจบบัญชีนะค่ะ กระทู้นี้ขอมาระบายบอกกล่าวเจ้าหนี้ที่นิสัยเสีย ทำอะไรไม่เหมือนเจ้าหนี้อื่นของฝ้ายกันบ้างนะค่ะ เจ้าหนี้ที่ว่านี่คือ ซิตี้แอดวานซ์ค่ะ ฝ้ายเป็นหนี้ปัจจุบันน่าจะหนึ่งแสนต้นๆ ได้ค่ะ จากหยุดจ่ายเมื่อเดือนกันยายน 2555 ยอดตอนหยุดประมาณ 95,000 บาทค่ะ ที่มันน่าโมโห คืองู่ๆ วันนั้นเข้ามาหาฝ้ายที่ทำงานแต่วันทั้งวันไม่มีใครโทรมาบอกล่วงหน้าเลย ซึ่งฝ้ายก็รอรับโทรศัพท์ รับทุกสาย ไม่มีสายที่ไม่ได้รับ ฝ้ายก็เลยออกไปเจอค่ะ

วันที่ 27 ธ.ค. 55
ฝ้าย: มาทำไมค่ะคุณ(ฝ้ายพูดจาดี ใบหน้ายิ้มแย้มนะค่ะ) ขอดูบัตรประชาชนด้วย
พนักงานที่มา: อ้ำอึ้ง...นิดหนึ่งแล้วบอกว่าผมไม่ได้เอาบัตรประชาชนมาครับพี่ แล้วคือผมมาเก็บเงินค่างวดอ่ะครับพี่ คือเราไม่สามารถติดต่อพี่ได้ครับ
ฝ้าย: เอ๊ะ.. ทำไมติดต่อไม่ได้หล่ะค่ะ วันนี้ตั้งแต่เช้าดิฉันก็รอรับโทรศัพท์นะไม่มีใครโทรมาเลย ใครใช้ให้น้องมา ขอเบอร์และชื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นหน่อย พนักงานคนนั้นทำท่าทางจะกดโทรออกให้ฝ้ายคุยเลยกับเจ้าหน้าที่ท่านนั้น แต่ฝ้ายบอก ไม่เป็นไรเดี๋ยวช่วงบ่ายพี่โทรไปเอง ขอชื่อและเบอร์เจ้าหน้าที่คนนั้นให้พี่ ส่วนน้องกลับไปเถอะพี่ไม่มีเงินหรอก เดี๋ยวพี่คุยกับเขาอีกทีนะ อ่ะก่อนกลับขอถ่ายรูปหน่อย เอ้ายิ้ม.....(มุกจากพี่กอบัวค่ะ ฮิ ฮิ ขอยืมมาใช้หน่อยนะค่ะพี่กอบัวคนสวย)
พนักงานที่มา: พูดว่าจะถ่ายทำไมครับพี่แล้วแบบรีบใส่หมวกกันน็อคเลยค่ะ
ฝ้าย: ก็เผื่อขึ้นสงขึ้นศาล ได้มีหลักฐานว่ามีคนมาทวงเงินที่ทำงาน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเอาโทษกันได้(ขู่มันๆ ค่ะ แต่ฝ้ายก็ถ่ายรูปมันได้ทันนะ แล้วคิดในใจมึงโดนแน่ เธอคนนั้น)

หลังจากนี้จะเป็นการสนทนากับพนักงานที่ส่งคนมาแล้วไม่โทรมาล่วงหน้านะค่ะ พอเด็กมาเก็บค่างวดกลับไปฝ้ายก็เอาเบอร์ที่จดกับชื่อ โทรไปค่ะ

ฝ้าย: สวัสดีค่ะ คุณ.... ใช่ไหมค่ะ
ปลายสาย: ใช่ค่ะ คุณมีธุระอะไรเหรอค่ะ
ฝ้าย: ดิฉันชื่อ........ ที่วันนี้คุณส่งคนมาทวงค่างวดของซิตตี้แอดวานซ์อ่ะค่ะ วันนี้คุณได้โทรมาหาดิฉันยังค่ะ
ปลายสาย: เออ.......ทำไมเหรอค่ะ
ฝ้าย: (เริ่มขึ้นเสียงแล้วพูดเสียงดังใส่) วันนี้คุณไม่โทรมาเลยใช่ไหม ทำไมจะส่งใครเข้ามาถึงไม่โทรมาบอกก่อน วันนี้ดิฉันรอรับโทรศัพท์ทั้งวันไม่มีใครโทรมาเลยคุณทำแบบนี้ได้ยังไง จะให้ใครต้องโทรมาบอกล่วงหน้าก่อนสิ ทำแบบนี้มันไร้มารยาท คุณนี้ไม่มีมารยาทเลยนะ จะมาพบดิฉันก็ให้พบไม่เคยไม่ให้พบนะ ธนาคารอื่นจะเข้ามาพบเขายังมีมารยาทโทรมาบอกล่วงหน้าเลย นี่อะไรทำไมทางซิตตี้แอดวานซ์ไร้มารยาทขนาดนี้
ปลายสาย: ย้อนกลับมาว่ามันเป็นนโยบายของทางธนาคารที่ถ้าติดต่อลูกค้าไม่ได้จะต้องส่งพนักงานออกมาติดตามเ็ก็บเงิน
ฝ้าย: ติดต่อไม่ได้อะไร ดิฉันก็รับทุกสาย ที่ไม่ได้รับบ้างก็เพราะติดธุระ แต่กรณีนี้วันี้ตั้งแต่เช้าคุณไม่โทรมาบอกล่วงหน้าเลย ทั้งๆ ที่วันนี้ถ้าโทรมาดิฉันก็รับ แต่คุณไม่โทรมา คุณตั้งใจจะเสียมารยาทกับดิฉันมากกว่านะ
ปลายสาย: แล้วครั้งล่าสุดคุณรับโทรศัพท์จากทางเราวันไหนคะ
ฝ้าย: โอ๊ย...... ใครมันจะไปจำได้คุณ บอกไว้เลยนะ ว่ายังไงคุณก็ควรโทรมาบอกล่วงหน้าก่อนอย่างน้อยเมื่อเช้านี้คุณก็ควรโทรมานะ ดิฉันเป็นหนี้ธนาคารไม่ใช่ไปฆ่าพ่อ ฆ่าแม่คุณ คุณจะมาไร้มารยาทกับฉันแบบนี้ไม่ได้(เอิ่ม...ยอมรับว่าตัวเองพูดแรงไปค่ะ พูดถึงพ่อ-แม่ คนอื่น แต่มันโมโหจริงๆ ค่ะ เพราะพอฝ้ายขึ้นเสียงไป ทางนั้นก็น้ำเสียงสะบัดกลับมาเลยฝ้ายยิ่งโมโหไปกันใหญ่)
ปลายสาย: ก็ลองดูสิค่ะ.......
ฝ้าย: งั้นบอกไว้เลยนะ อัดเสียงไว้ใช่ไหม ดิฉันขอบอกไว้ตรงนี้นะกับทางซิตตี้แอดวานซ์ว่าดิฉันถูกไล่ออกก็เพราะคุณ(พูดให้รุนแรงเข้าไว้ จริงๆ ตั้งใจจะลาออกปลายปีอยู่แล้วค่ะ) ตราบใดที่ยังเป็นคุณที่ติดตามหนี้ฉันอยู่ ฉันจะไม่คุยอะไรด้วยทั้งนั้น และบอกไว้เลยว่าถึงแม้ฉันมีเงินที่จะได้ปลายปีนี้ฉันก็จะไม่จ่าย เพราะคุณ เพราะคุณไม่มีมารยาท จำเอาไว้เลย

วันที่ 28 ธ.ค. 55
ขึ้นเบอร์คนเมื่อวานโทรเข้ามาหลายสาย ฝ้ายไม่รับ


วันที่ 2 ม.ค. 55
มีเจ้าหน้าที่โทรมาฝ้ายถามว่าชื่ออะไร เขาบอกเขาชื่อ....... ฝ้ายเลยบอกอ้อนึกว่าคนนั้น ถ้าคนชื่อนั้นโทรมา ไม่คุยด้วย ฝ้ายก็บอกไปว่าอยากปิดบัญชี ยอดปิดบัญชีเท่าไหร่ ช่วยเหลือดิฉันได้บ้างไหม สรุปลดได้แค่ดอกเบี้ย ฝ้ายไม่ไหวเลยบอกว่าตอนนี้ออกจากงานแล้ว ไม่มีเงินถ้ายังไงโทรมาเรื่อยๆได้ รับตลอด(ไม่รู้เป็นเจ้คนนั้นแล้วปลอมเสียงหรือเปล่านะค่ะ ตอนแรกจะด่ากลับไปแล้ว เตรียมคำพูดไว้แล้ว แต่พอไม่ใช่คนนั้นฝ้ายเลยพูดปกติด้วย)

วันที่ 5 ม.ค. 55
มีคนจะเข้ามาหาฝ้ายที่พักที่กรุงเทพ แต่โทรมาหาฝ้ายก่อน(ดีมากควรโทรมาก่อนแบบนี้นะ แต่เป็นวันเสาร์นะนี่) ฝ้ายเลยบอกว่า อ้อ...ออกจากงานแล้ว ไม่อยู่กรุงเทพ อยู่ต่างจังหวัด ไงวันจันทร์ให้เจ้าหน้าที่โทรมาอีกทีแล้วกันนะ

วันที่ 7 ม.ค. 55
มีพนักงานอีกคนโทรมาแต่พูดจาดีบอกว่าถ้าพี่ไม่มีเงินมากพอที่จะปิดบัญชี ก็ให้จ่ายเข้าไปหนึ่งงวดก่อน

**ฝ้ายว่าซิตตี้แอดวานซ์มันน่าโมโห เอะอ่ะ อะไรก็จะส่งคนเข้ามาเก็บค่างวด ซึ่งฝ้ายตั้งใจไว้แล้วว่าอยากมาก็มา จะออกไปต้อนรับ เลยพยายามรับมันทุกสาย มันจะได้ไม่เอาไปอ้างได้อีก แล้วแบบส่งมาครั้งแรกก็มาเลย ไม่มีโทรมาบอกก่อน ฝ้ายก็เคยโดนของธนาคารอื่นมาขอพบ ฝ้ายก็ให้พบนะ แล้วแบบเขาโทรมานัดก่อนไง ฝ้ายเลยไม่โมโห แต่นี่ไม่ไหว ไม่รู้ว่าจะมาที่บ้านที่ต่างจังหวัดวันไหน อยากมาก็มา แต่ขออย่างเดียวให้โทรมาบอกันก่อน ขอแค่นั้นเอง....**

เดี๋ยวไว้คืบหน้ารายนี้ยังไงจะมารายงานเรื่อยๆ นะคะ ส่วนเจ้าหนี้อื่นก็ยังทวงตามปกติค่ะ อันนี้ถือว่ามาแชร์ เพื่อได้เตรียมรับมือนะค่ะ

คุณ Narasingh ฮ่า.. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะค่ะ ไอ้มุกว่าเป็นยืมคนอื่นนี่ลองแล้วค่ะ ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง เราก็เข้าใจว่าพวกเจ้าหนี้มันคงไม่ได้สนใจหรอกว่าเราจะเดือดร้อน สาเหตุการได้มาของเงินเราจะมายังไง ขอแค่มีเงินจ่ายมันตามจำนวนที่มันเรียกร้องก็พอค่ะ ส่วนมุกขายทองนี่ยังไม่ได้ลอง เดี๋ยวลองเอาไปใช้บ้างนะค่ะ

คุณ calf สาธุเลยค่ะ ตอนนี้ก็ทำงานของที่บ้านเก็บลำไพ่ ช่วยพ่อกับแม่อ่ะค่ะ ฝ้ายก็ได้พ่อกับแม่นี่แหล่ะค่ะ ท่านช่วยเหลือค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีปิดตูมเดียวล้านกว่าหรอกค่ะ ฝ้ายเองก็เจรจาไปเรื่อยๆ อันไหนเห็นสมควรก็จ่ายๆ ไปค่ะ

คุณ saranwer ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค่ะ เรื่องขอคำปรึกษานั้นก็มีปัญหาอะไรก็โพสถามในห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้ได้ค่ะ จะได้มีท่านสมาชิกมาช่วยตอบกันเยอะๆ ค่ะ เพราะแต่ละคนประสบการณ์ก็อาจจะมีแตกต่างกันออกไปตามแต่สภาวะหนี้ของแต่ละบุคคลอ่ะค่ะ แต่ก่อนจะถามอย่าลืมอ่านกระทู้ปักหมุดก่อนนะค่ะ

เข้ามาสวัสดีทักทายเจ้าของกระทู้...สวัสดีปีงูเล็ก...
บังเอิญก็ชื่อเล็กซะด้วย...แต่ตัวไม่เล็กตามนะคะ 5555

คุณฝ้ายเข้มแข็งมากค่ะ และโชคดีที่สุดที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือและเข้าใจคุณ
บอกตามตรงว่า "อิจฉา" ค่ะ เพราะชีวิตเล็กนั้นคุณพ่อก็เสียไปแล้ว ส่วนคุณแม่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมา 20 ปีเศษแล้วล่ะค่ะ (คุณแม่ไปมีครอบครัวใหม่) เล็กมาอยู่กับป้า(ญาติฝั่งคุณพ่อ) และพี่สาวตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
การใช้ชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ผิดบ้างถูกบ้าง (แต่ส่วนใหญ่จะผิดก่อน) ไม่มีใครคอยสั่งสอนให้ตัวเราเข้าใจได้ค่ะ (ออกจะดื้อนิด ๆ ) แต่เล็กก็รักและห่วงป้ากับพี่สาวเสมอค่ะ ถึงแม้ตัวเองจะแต่งงานมีลูกแล้วก็ตาม

เวลาอ่านเรื่องราวของใครก็แล้วแต่ ว่า "มีพ่อมีแม่" ที่เข้าใจและคอยให้กำลังใจแล้วรู้สึกตื้นตันใจแทนค่ะ
เพราะแบบนี้งั้ยคะ เล็กถึงต้องใช้วิธีที่ชมรมฯ คอยแนะนำ เพราะเราผิดพลาดมานานแล้ว และไม่อยากให้ความผิดพลาดนี้ส่งไปถึงลูกของเล็ก เค้ายังเด็กยังต้องเติบโตอีกเยอะ...

สู้สู้ค่ะ คุณฝ้ายโชคดีที่สุดแล้วค่ะที่มีพ่อแม่อยู่เคียงข้าง อีกทั้งท่านยังคอยช่วยเรื่องเงินด้วยแล้วแบบนี้ไม่น่าห่วงมากหรอกค่ะ แถมยังมีกิจการให้คุณฝ้ายดูแลที่บ้านด้วย (ไม่ต้องทำงานเป็นลูกจ้าง) ยังงั้ยก็ขอให้คุณฝ้ายได้ส่วนลดตามที่ใจปราถนานะคะ

เข้ามาอัพเดตข้อมูลนิดหนึ่งค่ะ เผื่อใครมีการหยุดและบัญชีคล้ายๆ กับฝ้าย

1. Citi Advance หยุดจ่าย 4 ส.ค. 55 - ม.ค. 56 หยุดมาประมาณ 5-6 เดือนค่ะ มีเสนอส่วนลดมาแล้ว 50% ค่ะ (ตัวนี้ยอดหนี้แสนนิดๆ ค่ะ)

2. บัตรเครดิตของ Lotus หยุดจ่าย 27 ก.ค. 55 - ม.ค. 56 หยุดมาประมาณ 6 เดือนค่ะ มีเสนอส่วนลดมาแล้ว 50% ค่ะ (ตัวนี้ยอดหนี้สี่หมื่นกว่าๆ ค่ะ)

รองลงมาก็ 30% ก็มีของเครือ Citibank พวก บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด
แล้วก็สุดท้ายประมาณ 10% กว่าๆ ก็มีพวกเครือของ KTC, บัตรอยุธยาคาร์ด, สินเชื่อ Krungsri Smile Cash

นอกนั้นก็ยังไม่มีเจ้าไหนยื่นขอเสนอส่วนลดมาค่ะนอกเหนือจากที่ฝ้ายปิดจบไปแล้วนะค่ะ มีแต่ให้ชำระเข้าไปบางส่วนอ่ะค่ะ

ปล. ทุกบัญชีฝ้ายตอนนี้หยุดมาแล้ว 5-6 เดือน ทุกอันนะค่ะ เพราะหยุดพร้อมกันหมดเลย

ก็เอาไว้พิจารณาเป็นข้อมุลนะค่ะ ของเพื่อนสมาชิกท่านไหนมีความเคลื่อนไหวยังไงก็อย่าลืมอัพเดตนะค๊าาา ฝ้ายจะติดตามอ่านค่ะ เรามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน อย่างคำกล่าวที่ว่า "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง"