หนี้สินรวมราว 1.3 ล้านบาทกับเงินเดือนเก็บต่อเดือน 5000

เป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ วีมีหนี้มากกว่าคุณนิดหนึ่ง และเงินเก็บแต่ละเดือนก็ประมาณ 5,000-10,000 บาท ตอนนี้เข้ารอบบิลที่สามแล้ว มีหนังสือส่งมาที่บ้านว่าจะฟ้องแล้ว 1 ตัว ก็กำลังรอการติดต่อมาอยู่ค่ะว่าจะเอาไง
เวลาวีเครียดก็จะเข้ามาหากำลังใจในนี้ทุกครั้ง แล้ววีก็จะมีกำลังใจขึ้นมามากมายทุกครั้ง ยังไงก็สู้ๆ นะคะ

เข้ามาอ่านกระทู้คุณฝ้าย คุณฝ้ายเข้มแข็งดีค่ะ
เรายังแอบยืมหลายๆประโยคของคุณฝ้ายไป
กะว่าถ้าโดนทวงลักษณะคล้ายๆกัน จะได้พูดแบบนี้บ้าง
ตอนนี้เจ้าหนี้ส่วนใหญ่ของตุ๊กกำลังจะเข้าสู่รอบบิลที่ 3
เรื่องราวกำลังเข้มข้น แต่ก็มีบางรายเริ่มหยุดเดือนแรก แต่ออกตัวซะแรงเชียวค่ะ
ไม่เป็นไร บอกตัวเองว่าเป็นเรื่องที่ต้องพบเจอเมื่อเราเลือก SecondWay Out

pointpaint เขียน: เข้ามาอ่านกระทู้คุณฝ้าย คุณฝ้ายเข้มแข็งดีค่ะ
เรายังแอบยืมหลายๆประโยคของคุณฝ้ายไป
กะว่าถ้าโดนทวงลักษณะคล้ายๆกัน จะได้พูดแบบนี้บ้าง
ตอนนี้เจ้าหนี้ส่วนใหญ่ของตุ๊กกำลังจะเข้าสู่รอบบิลที่ 3
เรื่องราวกำลังเข้มข้น แต่ก็มีบางรายเริ่มหยุดเดือนแรก แต่ออกตัวซะแรงเชียวค่ะ
ไม่เป็นไร บอกตัวเองว่าเป็นเรื่องที่ต้องพบเจอเมื่อเราเลือก SecondWay Out

อดทนนะค่ะคุณตุ๊ก ฝ้ายว่าเราน่าจะหยุดจำนวนเดือนใกล้เคียงกันอ่ะค่ะ ของฝ้ายเริ่มเข้ารอบบิลที่ 3 แล้วค่ะ ทางหลายๆ แบงค์ที่โทรเข้ามาก็เริ่มบอกว่าจะส่งเรื่องไปสำนักงานกฎหมายแล้วค่ะ บอกว่าบัตรจะถูกยกเลิกใช้บัตรไม่ได้ บลา...บลา...บลา ตามแต่จะสรรหามาพูดหล่ะค่ะ ก็ฟังไป ตอบไป ชวนทำประนอมหนี้็ก็ไม่ทำค่ะ อันที่จริงฝ้ายก็ไม่ได้เข้มแข็งอะไรเลยหล่ะค่ะ ถ้าไม่ได้เจอที่นี่ ได้รับกำลังใจ ได้อ่านเรื่องราวของหลายๆ ท่านที่มาแบ่งปันก็คงไม่ยืนหยัดมาถึงจุดนี้ได้ค่ะ ต้องขอบคุณสมาชิก กรรมการ ผู้ก่อตั้งเว็ปมากๆ เลยค่ะ ของฝ้ายไม่ค่อยได้อัพเดตเรื่องราวเพราะตอนนี้ยังนิ่งอยุ่อ่ะค่ะ ยังอยู่ในช่วงทวงแบบดีแต่ถี่โทรมาทุกวันแบบท่านอื่นๆ ที่เคยแชร์เรื่องราวไว้อยู่อ่ะค่ะ ก็น่าจะอยุ่ในขั้นแรกขั้นหยุดจ่ายประมาณ 3 เดือน ก็พยายามประคับประคองตัวเองแบบเตือนเสมอว่าอย่ากลัว คนไหนพูดดี น้ำเสียงดีมาฝ้ายจะแบบพูดจาดีดี้กลับ ถ้าใครน้ำเสียงมาไม่ดี ทำมาพูดแข็งๆ ใส่ฝ้าย ฝ้ายก็แข็งกลับค่ะ น้ำเสียงก็ตวัดกลับเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเจอแบบไหน ท่องแค่ไว้ว่าต้องสู้ ห้ามอ่อนแอค่ะ สู้ สู้ ค่ะ

เข้ามาอ่านกระทู้นี้ต้องขอชมเจ้าของกระทู้ว่ากำลังใจดีมากและมีความมุ่งมั่นเลยทีเดียว ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคุณจะหมดหนี้แน่นอน คุณจะผ่านขั้นตอนในช่วงต่างๆไปเรื่อยๆตั้งแต่หยุดจ่าย มีการติดตามทวงถามหนี้ สักพักมันจะหายไปทำให้เราสับสนว่ามันหายไปไหนกันนะ ทำไมเดี๋ยวนี้มันไม่เห็นโทรมาเลย ถึงเวลานั้นคุณก็อดออมเก็บเงินอยู่ต่อเนื่อง สักพักสิ้นปีก็กำเงินที่มีระดับนึงลองติดต่อเจ้าที่หายไปและเป็นเจ้าที่เราคิดว่ามีกำลังที่จะ H/C ได้ เจรจาต่อรองขอปิดยอดที่เราไม่ลำบากและเจ้าหนี้ก็ตกลง
และมันจะผ่านไปจนหมดทีละตัว ทีละตัว
ทุกอย่างเกิดจากการวางแผนในการแก้หนี้ทั้งสิ้น มันจะวนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดหนี้ ตราบเท่าที่คุณมีความรับผิดชอบต่อหนี้ที่เราได้ก่อไว้ ขอให้คุณมีกำลังใจอยู่เสมอ ถ้าท้อก็พักและ เหนื่อยก็แค่หลับตาเพราะตื่นขึ้นมาต้องสู้กันใหม่อีกครั้ง
เงินเก็บที่มีต่อเดือนๆละ 5000 บาทนั้นถ้ามองสภาพหนี้ที่มีหลักล้าน ก็ค่อนข้างกลุ้มใจพอสมควร แต่ที่ผ่านมาผมเคยคุยกับเคสที่มีเงินเก็บน้อยกว่าคุณและ มีหนี้มากกว่าเขาก็สู้อย่างจริงจัง แต่อย่างที่บอกแหละว่ายังไงคุณก็จะหมดหนี้แน่นอนครับ เพราะผมก็หลักล้านเหมือนกัน

ถ้าหากสถาบันต่างๆมาชวนประนอมนี้ในช่วงนี้
มีใครพอจะให้ตัวอย่างคำพูดปฏิเสธที่ฟังดูแล้ว เขาเข้าใจได้ทันทีว่า เราไม่เอาแน่ๆ
แต่ก็ไม่ได้ดูแข็งกร้าวเกินไปไหมคะ? คาดว่าอีกไม่กี่วัน ซิตี้บ๊วยจะมายื่นข้อเสนอเป็นสถาบันแรกค่ะ

pointpaint เขียน: ถ้าหากสถาบันต่างๆมาชวนประนอมนี้ในช่วงนี้
มีใครพอจะให้ตัวอย่างคำพูดปฏิเสธที่ฟังดูแล้ว เขาเข้าใจได้ทันทีว่า เราไม่เอาแน่ๆ
แต่ก็ไม่ได้ดูแข็งกร้าวเกินไปไหมคะ? คาดว่าอีกไม่กี่วัน ซิตี้บ๊วยจะมายื่นข้อเสนอเป็นสถาบันแรกค่ะ

ง่ายๆ...ผมใช้กับทุกสถาบันที่มาชวนประนอมหนี้ครับ...

คงไม่สนใจจะปรับโครงสร้างหนี้หรอกครับ....ถึงทำไปก็ส่งไม่ไหวอยู่ดี

เพราะลำพังคนในครอบครัวจะกินข้าว ยังไม่พอเลย.....

ผมขอเอาเงินเดือนที่เหลืออันน้อยนิด ไว้เป็นค่าอาหารสำหรับครอบครัวก่อนครับ

ส่วนหนี้ไม่ต้องห่วงครับ...ถ้าผมหาได้เมื่อไหร่ จะใช้คืนทันทีเลยครับ.....


ก็ให้พูดภาษาคนแบบนี้ไปครับ....แต่ถ้ามันฟังภาษาคนไม่ออก คุณก็จัดเต็มไปได้เลยครับ

batk เขียน: ง่ายๆ...ผมใช้กับทุกสถาบันที่มาชวนประนอมหนี้ครับ...

คงไม่สนใจจะปรับโครงสร้างหนี้หรอกครับ....ถึงทำไปก็ส่งไม่ไหวอยู่ดี

เพราะลำพังคนในครอบครัวจะกินข้าว ยังไม่พอเลย.....

ผมขอเอาเงินเดือนที่เหลืออันน้อยนิด ไว้เป็นค่าอาหารสำหรับครอบครัวก่อนครับ

ส่วนหนี้ไม่ต้องห่วงครับ...ถ้าผมหาได้เมื่อไหร่ จะใช้คืนทันทีเลยครับ.....


ก็ให้พูดภาษาคนแบบนี้ไปครับ....แต่ถ้ามันฟังภาษาคนไม่ออก คุณก็จัดเต็มไปได้เลยครับ

ขอบคุณ คุณ batk มากค่ะ จะก๊อปปี้ไปพูดเสมือนตั้งโปรแกรมเลยค่ะ
แล้วพบกันวันพรุ่งนี้ที่ มพบ ค่ะ

pointpaint เขียน: ถ้าหากสถาบันต่างๆมาชวนประนอมนี้ในช่วงนี้
มีใครพอจะให้ตัวอย่างคำพูดปฏิเสธที่ฟังดูแล้ว เขาเข้าใจได้ทันทีว่า เราไม่เอาแน่ๆ
แต่ก็ไม่ได้ดูแข็งกร้าวเกินไปไหมคะ? คาดว่าอีกไม่กี่วัน ซิตี้บ๊วยจะมายื่นข้อเสนอเป็นสถาบันแรกค่ะ

ขอเสริมเพิ่มเติม แบบง่ายๆอีกตัวอย่างคือ
ถ้ามีการติดต่อมาจากทางฝั่งเจ้าหนี้โดยยื่นข้อเสนอใหม่โดยอาสาทางเลือกให้ผ่อนหนักเป็นเบา(ตามตำราของเจ้าหนี้) โดยมาในรูปแบบประนอมหนี้อีกครั้ง

ก็ตอบไปตรงๆเลยว่า" ขนาดหนี้เก่าเรายังไม่สามารถชำระได้เลย และพอหยุดจ่ายไปยังมีค่าติดตามทวงถามรวมถึงดอกเบี้ยอะไรต่างๆขึ้นมาอีกสารพัด"
ถ้าให้ดิฉันกู้หนี้ใหม่มาโปะหนี้เก่า แล้วดิฉันยังต้องเสียดอกเบี้ยใหม่เพิ่มอีกเท่าไหร่คะ
ถ้าเขาตอบมาว่ามันจะจ่ายน้อยลง ยืดระยะเวลาผ่อนนานขึ้น หรือตอบว่าเสียดอกเบี้ยอีกเท่าไหร่ก็ตามแต่
ขอให้คุณบอกกับเขาไปตรงๆว่า
" มันเหมือนว่าคุณไม่ได้ช่วยดิฉันแก้ปัญหาอย่างจริงใจเลย ตอนนี้ดิฉันกำลังโดนคุณซ้ำเติมอยู่หรือไม่คะ เราคงไม่ต้องคุยกันต่อแล้ว "

aim เขียน: ขอเสริมเพิ่มเติม แบบง่ายๆอีกตัวอย่างคือ
ถ้ามีการติดต่อมาจากทางฝั่งเจ้าหนี้โดยยื่นข้อเสนอใหม่โดยอาสาทางเลือกให้ผ่อนหนักเป็นเบา(ตามตำราของเจ้าหนี้) โดยมาในรูปแบบประนอมหนี้อีกครั้ง

ก็ตอบไปตรงๆเลยว่า" ขนาดหนี้เก่าเรายังไม่สามารถชำระได้เลย และพอหยุดจ่ายไปยังมีค่าติดตามทวงถามรวมถึงดอกเบี้ยอะไรต่างๆขึ้นมาอีกสารพัด"
ถ้าให้ดิฉันกู้หนี้ใหม่มาโปะหนี้เก่า แล้วดิฉันยังต้องเสียดอกเบี้ยใหม่เพิ่มอีกเท่าไหร่คะ
ถ้าเขาตอบมาว่ามันจะจ่ายน้อยลง ยืดระยะเวลาผ่อนนานขึ้น หรือตอบว่าเสียดอกเบี้ยอีกเท่าไหร่ก็ตามแต่
ขอให้คุณบอกกับเขาไปตรงๆว่า
" มันเหมือนว่าคุณไม่ได้ช่วยดิฉันแก้ปัญหาอย่างจริงใจเลย ตอนนี้ดิฉันกำลังโดนคุณซ้ำเติมอยู่หรือไม่คะ เราคงไม่ต้องคุยกันต่อแล้ว "

ขอขอบคุณ คุณaim สำหรับคำแนะนำค่ะ
ตัวตุ๊กเองเคยได้อ่านกระทู้ "มวยคู่ยูเมะกับผม" ตั้งแต่สมัยตัวเองยังไม่มีปัญหาเรื่องหนี้เลย
จำได้ว่าค้นหาอะไรซักอย่างทาง google (ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับอีซี่บาย) แล้วเจอกระทู้ของคุณ
ก็นั่งอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนั้นยังคิดเลยว่า สมัยนี้เค้าทวงหนี้โหดอย่างงี้เลยรึ?
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะตอนนั้นถือว่าตัวเอง "เครดิตดี" ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดถนัด
คิดว่าหนี้ต่างๆ เราสามารถแก้ไขและชำระคืนได้ เลยไม่ได้ทำความรู้จักชมรมแห่งนี้

มาวันนี้วันที่ใช้หนี้ไม่ไหวแล้ว ความคิดว่า "เครดิตดี" มันก็เหมือนล้อเลียนตัวเอง
เรายอมเป็นลูกหนี้ชั้นเลวของสถาบันการเงิน เพื่อสร้างครอบครัวที่ดีในอีก 2-4 ปีข้างหน้าให้ได้
ตอนนี้เพิ่งหยุดได้ 2 เดือนเข้าเดือนที่ 3 ต้องปลดหนี้ให้ได้ ใจยังสู้ค่ะ

ขอบคุณทั้งคุณ aim และคุณ batk นะค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆ ค่ะ แล้วก็ต้องขอบคุณ คุณตุ๊ก ด้วยนะค่ะ ที่สอบถามทำให้ฝ้ายได้ความรู้เพิ่มขึ้น เพราะฝ้ายจะบอกแ่ต่ว่า ไม่ค่ะ ไม่สนใจทำ มีเจ้าหนี้หนึ่งสวนกลับมาว่า ตอนนี้พี่ไม่มีจ่าย จะให้ทำประนอมหนี้พี่ก็ไม่ทำพี่จะเอายังไงค่ะ ฝ้ายเลยบอกว่า ไม่ทำ ถ้ามีจะเอาไปจ่ายค่ะ ดูเหมือนเราเกเร แต่มันก็ต้องยังงี้แหล่ะค่ะ เรื่องอะไรจะไปทำสัญญานรก อย่างงั้น ยังไงก็ขอบคุณทุกท่าน ทุกกำลังใจที่แวะเวียนเข้ามานะค่ะ พรุ่งนี้จะไปอบรมกับเขาด้วยเหมือนกันอ่ะค่ะ เลยเตรียมตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้วค่ะ กลัวพรุ่งนี้ตื่นไม่ทันเพราะปกติวันหยุดจะตื่นบ่ายเลยหล่ะค่ะ ฮ่าาา

ตอบคุณ Fay
หมดความกังวลใจไประดับนึงแล้ว เมื่อเรามีความรู้และเข้มแข็ง
คนที่เป็นหนี้และพยายามหาทางแก้ไขหนี้ของตัวเองได้นี่ถือว่ามีความรับผิดชอบ ไม่ได้หมายความว่าเราจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดีจากสังคม

ฉันเป็นหนี้แล้วทำไม ฉันไม่มีสิทธิ์ขี่เบ็นซ์ ใส่นาฬิกาปาเต๊ะ ไปนอนอาบแดดกับครอบครัว หรือยังไง
เรามีสิทธิ์ทุอย่างและมาจากการดำรงวค์ชีวิตให้เป็นเหมือนเดิมแต่มีคุณภาพมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น

เป็นหนี้ก็ต้อง เริ่ดๆ เชิ่ดๆ ครับ

ขอขอบคุณ คุณaim สำหรับคำแนะนำค่ะ
ตัวตุ๊กเองเคยได้อ่านกระทู้ "มวยคู่ยูเมะกับผม" ตั้งแต่สมัยตัวเองยังไม่มีปัญหาเรื่องหนี้เลย
จำได้ว่าค้นหาอะไรซักอย่างทาง google (ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับอีซี่บาย) แล้วเจอกระทู้ของคุณ
ก็นั่งอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนั้นยังคิดเลยว่า สมัยนี้เค้าทวงหนี้โหดอย่างงี้เลยรึ?
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะตอนนั้นถือว่าตัวเอง "เครดิตดี" ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดถนัด
คิดว่าหนี้ต่างๆ เราสามารถแก้ไขและชำระคืนได้ เลยไม่ได้ทำความรู้จักชมรมแห่งนี้

มาวันนี้วันที่ใช้หนี้ไม่ไหวแล้ว ความคิดว่า "เครดิตดี" มันก็เหมือนล้อเลียนตัวเอง
เรายอมเป็นลูกหนี้ชั้นเลวของสถาบันการเงิน เพื่อสร้างครอบครัวที่ดีในอีก 2-4 ปีข้างหน้าให้ได้
ตอนนี้เพิ่งหยุดได้ 2 เดือนเข้าเดือนที่ 3 ต้องปลดหนี้ให้ได้ ใจยังสู้ค่

ตอบกลับคุณ pointpaint ครับ
ขอบคุณมากครับ
ผมจะเล่าเรื่องนึงซึ่งเหมือนคุณมากเลยทีเดียวแต่ต่างกันตรงที่ว่า ในตอนนั้นเรื่องหนี้ของผมก็เริ่มจะมีปัญหาในการหมุมหาเงินมาชำระคืนแล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีประวัติการชำระคืนยังดีอยู่
วันนึงได้เข้าร้านเน็ต เนื่องจากเน็ตที่ห้องผมช้ามาก เหลือบไปเห็นโต๊ะข้างกำลังดูเวปชมรมหนี้บัตรเครดิตอยู่ เราก็ลองเสริชดูบ้าง (สมัยบอร์ดส้ม) เจอแต่เรื่อง H/C ยังไม่เข้าใจ พออ่านแบบผ่านๆไม่จริงจัง ดูว่ามันยาก เลยปล่อยไป

เพราะว่ายังไม่เจ็บไงครับ

พอเจ็บตัวขึ้นมาก็ต้องหาทางออก ทิศทางในตอนนั้นใครมันจะช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง ที่พึ่งทางใจ ญาติสนิท มิตรสหา ไม่เคยได้รับรู้ เพราะใครๆก็อายตอนนั้นผมก็เป็น แต่เมื่อถึงเวลาแล้วผมกลับไม่มียางอายอีกเลย เพราะว่า ด้านได้อาย อด มันเป็นเวลาที่เราต้องพูดคุยกับทุกคน

ไม่เหลือใครให้พึ่งพิง
จึงเดินทางกลับเข้ามาที่เวปนี้อีกครั้ง
เมื่อศึกษาอย่างจริงจัง ก็วนเวียนอยู่ที่บอร์ดนี่แหละ สมัยก่อนเราจะหาข้อมูลก็จัดว่าเป็นการช่วยตัวเองล้วนๆ ปรึกษาหนี้กันในนี้ แรงศรัทธาจึงเกิดขึ้นอย่างแรงกล้า

สนุกที่มีเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเฝ้าบอร์ด ดักจับกระทู้ที่คาดว่าน่าจะมาตั้งกระทูล่อเป้าจากเจ้าหนี้ โทรคุยปรึกษากัน ไม่ว่าจะเป็นพี่บัว พี่ Arshavin พี่นกกระจอกเทศ และหลายๆคน สนุกมาก
จนมาเป็นกรรมการชมรมหนี้ ซึ่งเรารู้ว่างานต่างๆมันยาก เรารู้ว่าใครหนีร้อนมาพึ่งเย็น ตัวเราก็เป็นมาก่อน
ไปโรดโชว์ให้คำปรึกษากับชมรม เปิดอบรมนอกสถานที่ ผมเห็นว่ากรรมการทุกคนงานเยอะมาก ไม่ได้นอน โดยสมัยนั้นจะทำการปักหลักที่บ้านพี่บัว
ขอเตือนว่า อาหารที่พี่บัวทำอร่อยมากครับลองไปตามอ่านในกระทู้แกสิ

ผ่านขั้นตอนต่างๆมาพอสมควร
ผมจะบอกเลยว่าเกือบทุกวิธีการแก้หนี้ผมทำครบ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ในเขตอำนาจศาลที่คดีล้นเหลือเกิน โดยมีจุดมุ่งหวังว่า ถ้ากรณีเราขอเลื่อนคดี โดยมีจุดประสงค์เพื่อขอเวลาเก็บเงินก็ทำครับ

และบางทีที่เราแก้หนี้ให้อยู่มือได้ในระดับนึงแล้ว ผมต้องขอจากลามาทำภารกิจที่ต้องเลือกและต้องทำ
ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่บ้างจึงมีโอกาสเข้ามาช่วยบอร์ด

และถ้ามีเวลาผมจะมาตั้งกระทู้ใหม่อัพเดทเรื่องหนี้ให้ฟังว่า เริ่มยังไง ปิดจบอะไรไปบ้างปีไหน ไปขึ้นศาลและต่อรองยังไงครับ

จริงอย่างคุณ aim ว่าค่ะ จริงทุกคำพูดเลย ฝ้ายพึ่งเข้ามาในนี้ได้ไม่นาน เลยไม่ค่อยได้รู้จักสมาชิกท่านเก่าๆ ยกเว้น ท่านที่เป็นกรรมการอ่ะค่ะ ที่พอจะได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามบ้าง รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่มีสมาชิกเก่าๆ กลับมาโพสแนะนำในหัวข้อตัวเองแบบนี้ ดีใจมากๆ คะ ยังไงถ้าสะดวกก็แวะเวียนมาแบ่งปันประสบการณ์เพิ่มเติมนะค่ะ เหล่าสมาชิกใหม่ๆ อย่างฝ้าย จะคอยติดตามประสบการณ์อันยากลำบากของทุกท่านไว้นำมาประยุกต์ปรับใช้กับของตัวเองค่ะ ขอบพระคุณจากใจเลยค่ะ

ขออนุญาตถามคุณ aim หน่อยครับ

เรื่องย้ายทะเบียนบ้านครับ ต้องย้ายไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านใหม่กี่วันหรือเดือนครับ หมายศาลถึงจะส่งไปตามที่อยู่ใหม่ของเราครับ

ขออนุญาตถามคุณ aim หน่อยครับ

เรื่องย้ายทะเบียนบ้านครับ ต้องย้ายไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านใหม่กี่วันหรือเดือนครับ หมายศาลถึงจะส่งไปตามที่อยู่ใหม่ของเราครับ

เข็ดแล้วหนี้ เขียน: ขออนุญาตถามคุณ aim หน่อยครับ

เรื่องย้ายทะเบียนบ้านครับ ต้องย้ายไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านใหม่กี่วันหรือเดือนครับ หมายศาลถึงจะส่งไปตามที่อยู่ใหม่ของเราครับ

เหมือนจะ90วันนะครับ เพราะผมก็เพิ่งจะย้ายมาอยู่บ้านเพื่อนที่ กทม. ตามคำแนะนำของอาทนาย ผิดถูกยังไงช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ

ส่วนคุณฝ้าย สุดยอดมากเลย ผมจะพยายามหาเวลาว่างๆมาอ่านครับ มาเจอ เคส ของคนที่เป็นหนี้เยอะกว่าผม แล้วอ่านประสบการณืเค้าทำให้ผมยิ่งมีกำลังใจเพิ่มขึ้น และผมขอเป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจคุณฝ้ายด้วยครับ สู้ๆครับ

เข็ดแล้วหนี้ เขียน: ขออนุญาตถามคุณ aim หน่อยครับ

เรื่องย้ายทะเบียนบ้านครับ ต้องย้ายไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านใหม่กี่วันหรือเดือนครับ หมายศาลถึงจะส่งไปตามที่อยู่ใหม่ของเราครับ

เรื่องการย้ายทะเบียนบ้านนี้ เดิมทีผมมีจุดประสงค์ตั้งแต่แรกแล้วในเมื่อเริ่มทำตารางหนี้ประกอบกับดูช้อมูลต่างๆมา เรียกว่าเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆเลยครับ โดยการย้ายทะเบียนบ้านของผมในสมัยนั้นไปลงอยู่ที่เขตอำนาจศาลแขวงรัชดา เนื่องจากสมัยนั้นหรือปัจจุบันมีคดีเยอะมาก เรียกได้ว่าล้นศาลและขณะเดียวกันยังมีเขตอำนาจศาลมีนบุรีก็ใช่ย่อยงานล้นเหมือนกัน
โดยมีจุดประสงค์คือ กรณี H/C ไม่ทันหรือรวบรวมเงินไม่เพียงพอ ผมก็จะให้เหตุผลที่ฟังขึ้นและเหมาะสมในการขอเลื่อนคดีออกไปก่อน โดยที่ต้องรอลุ้นว่าจะได้นานกว่าที่อื่น ที่คดีน้อย ทั้งนี้ต้องอาศัยจังหวะการต่อรองโดยอาศัยตารางนัดของทนายฝ่ายโจทก์ด้วย เราต้องพยายามชิงเลื่อนนัดออกไปอีกให้มากเท่าที่จะทำได้(ในเวลานั้น)
สมมุติว่า ผมขึ้นศาลเดือน พฤศจิกายน ถ้ามีการขอเลื่อนออกไปโดยวิธีการปรกติ คือ ขอกลับไปเจรจากับทางฝ่ายเจ้าหนี้ ทนายส่วนใหญ่จะไล่บีบประมาณ เดือนเดียวซึ่งก็หมายถึงว่า( น่าจะเป็นเดือน ธค ประมาณไม่เกินวันที่ 15 ของเดือนนี้) แต่ผมก็จะมีเหตุผลโดยขอเลื่อนออกไปเป็นเดือน มค ปีถัดไป เพราะรู่อยู่แก่ใจว่าถ้าทางทนายจะให้มาจบกันที่เดือน ธค นั้นซึ่งเป็นปลายเดือน คดีที่มีอยู่ในศาลก็เยอะอยู่แล้ว และประมาณกลางเดือน ธค ของทุกปีทางศาลก็จะต้องปืดรับส่งฟ้องในคดีอื่นๆด้วย จะเปิดรับอีกทีก็หลังปีใหม่เนื่องจากคดีเต็ม ดังนั้น 90 % ผมจะได้ปีหน้าทันที แต่ถ้าเป็นการเลื่อนโดยวิธีอื่นๆที่ไม่ปรกติ เช่นสู้คดี นัดสืบพยานเราก็ต้องลุ้นกันว่าจะได้มากน้อยเท่าไหร่แต่ก็อาจจะอยู่ 2-4 เดือนก็ว่ากันไปตามที่ทางคุณได้ทำการตกลงกัน (เพราะแต่ละคดีไม่แน่นอน) แต่ก็ยังดีกว่าขึ้นศาลที่มีงานน้อย เพราะปิดจบไวมากครับ ในฐานะคดีผู้บริโภค ผบ. ซึ่งตรงนี้ไปหาอ่านเพิ่มเติมเอาดูว่า มันได้ช่วยให้ลูกหนี้ได้ดีกว่าเดิมหรือ ไม่ แต่ในส่วนตัวผมว่าคดีวิผู้บริโภค จะเอนเอียงไปทางฝั่งเจ้่าหนี้มากกว่า เพราะฟ้องไว เดี๋ยวนี้ 1 ปีก็ฟ้องแล้ว กระบวนการเร็วมาก
ดังนั้นวิธีนี้เป็นวิธีที่ผมจะเอาไว้ใช้แบบปลายเหตุ เพราะในใจผมคิดว่าการบริหารหนี้ของผม ประมาณ 30 % เท่านั้นที่ต้องใช้วิธีนี้
ถามว่าต้องย้ายก่อนเท่าไหร่ถึงจะดี ผมจะตอบว่าควรย้ายแต่เนิ่นๆครับ อย่าไปทำเรื่องย้ายในเวลากระชั้นชิดหรือ การคาดเดาว่าหยุดจ่ายมาเกือบปีแล้วค่อยย้าย เราต้องให้เวลากับทางระบบด้วย เพราะเราจะได้ไม่พลาดหมายศาล ให้ไปอ่านต่อเอง กรณีที่ส่งฟ้องผิดศาลเป็นยังไง เพราะพี่นกอธิบายได้อย่างละเอียด เพราะคดีผบ ต้องฟ้องตามภูมิลำเนาของหนี้หนี้เท่านั้น บางกรณีก็มีฟ้องในภูมิลำเนาของเจ้าหนี้ แต่ก็มีวิธีการแก้ไขอย่างไร เราถึงได้ถามสมาชิกเรื่อยๆว่าไปศาลไปเพื่ออะไร ก็จะมีคำตอบอยู่ 3 ข้อทั้งสิ้นครับ ก่อนเซ็นเอกสารอะไรต้องดูให้ดี ว่าใบเลื่อนศาลต้องมีหน้าตายังไง เขียนอะไรบ้าง เพราะลูกหนี้หลายคนเจอ ทนายความที่จัดว่าเลวมาก สอดแทรกใบยินยอมความมาให้ โดยบอกว่าเซ็นต์ไปเถอะ ปรากฎว่าเป็นใบยอมรับสภาพหนี้ ทริคเลวๆเหล่านี้มีให้เห็นเรื่อยๆ ถ้าเจอกรณีนี้ก็อ่านก่อน แล้วลองถามทางผู้พิพากษาพร้อมหยิบใบไปให้ท่านดู ถามว่าใบนี้หมายความว่าอะไรครับ/คะ ท่าน เพราะหฯุไม่เข้าใจ ทางทนายเขาบอกให้เซ็นต์เลย เป็นใบเลื่อนคดี

รับรองมีเฮจ้ะ

ก็ยังมาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้และทุกคนอยู่นะครับว่า อย่าท้อต้องหนักแน่น
" อย่ามัวแต่รีบเก็บเงิน จนทำให้ตัวคุณและคนอื่นต้องลำบาก เพราะเจอมาเยอะแนะนำมาหลายคนแล้วว่า ถ้าคุณมัวแต่ประหยัดขั้นมาก คุณจะทำได้ดีมั้ย ทำได้นานเท่าไหร่ มันจะท้อนะ ผมว่าควรลองประหยัด อดออม ในแบบที่เราสามารถใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพดีมั้ย สนุกไปกับมัน เพราะที่ผ่านมาให้เริ่มนับดูว่าตั้งแต่มีหนี้หมุนเงินปวดหัวมานานเท่าไหร่ และกว่าจะรู้ตัวก็ค่อยมาแก้หนี้ หนทางยังมีอีกยาวไกล ให้พาครอบครัวกลับมา พาเพื่อนที่จากไกลกลับมา เพราะชีวิตเราได้พบคำตอบของตัวเองและยอมรับแล้ว เราจะไม่ทุกข์อีกแล้ว เริ่ดๆ เชิ่ดๆ "

aim เขียน: ก็ยังมาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้และทุกคนอยู่นะครับว่า อย่าท้อต้องหนักแน่น
" อย่ามัวแต่รีบเก็บเงิน จนทำให้ตัวคุณและคนอื่นต้องลำบาก เพราะเจอมาเยอะแนะนำมาหลายคนแล้วว่า ถ้าคุณมัวแต่ประหยัดขั้นมาก คุณจะทำได้ดีมั้ย ทำได้นานเท่าไหร่ มันจะท้อนะ ผมว่าควรลองประหยัด อดออม ในแบบที่เราสามารถใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพดีมั้ย สนุกไปกับมัน เพราะที่ผ่านมาให้เริ่มนับดูว่าตั้งแต่มีหนี้หมุนเงินปวดหัวมานานเท่าไหร่ และกว่าจะรู้ตัวก็ค่อยมาแก้หนี้ หนทางยังมีอีกยาวไกล ให้พาครอบครัวกลับมา พาเพื่อนที่จากไกลกลับมา เพราะชีวิตเราได้พบคำตอบของตัวเองและยอมรับแล้ว เราจะไม่ทุกข์อีกแล้ว เริ่ดๆ เชิ่ดๆ "

ชอบเม้นต์ข้างบนอ่ะค่ะ "เราจะไม่ทุกข์อีกแล้ว เริ่ดๆ เชิ่ดๆ"

กลับมาแล้วค๊าาา กลับมาพร้อมข้อมูลอัพเดต ฮ่าา ก่อนอื่นเลย ฝ้ายต้องขอบคุณคุณ aim คุณ jackfat คุณ เข็ดแล้วหนี้ และทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาให้กำลังใจ ทำให้กระทู้นี้ไม่เงียบเหงา แถมมีความรู้สอดแทรกด้วยนะค๊าาา
--> คุณ jackfat ค่ะ ฝ้ายไม่ได้สุดยอดเลย เป็นหนี้ขนาดนี้ บอกตรงๆ แทบล้มทั้งยืน นอนร้องไห้ หมดอาลัยตายอยากไปหลายวัน โทรไปปรีกษาคุณนกกระจอกเทศก็ร้องไห้ไป พูดไป เพราะตอนแรกคุณนกกระจอกเทศนึกว่าฝ้ายเป็นพวกเจ้าหนี้ปลอมตัวมาสอบถาม ฮ่าาา แต่ก็ถ้าไม่ได้คุยกับคุณนกกระจอกเทศวันนั้น และได้เข้ามาเจอ มาได้รับกำลังใจจากท่านกรรมการ สมาชิกทุกท่านไม่ว่าจะเป็นคุณ kaewja คุณกอบัว คุณ Anakin ฯลฯ ในเว็ปนี้ ไม่รู้วันนี้จะยังมีฝ้ายคนนี้อยู่บนโลกกลมๆ ใบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้อ่ะค่ะ ทำให้ฝ้ายกล้าไปสารภาพกับคุณพ่อ คุณแม่ คราวนี้เลยได้กำลังใจที่มีค่าที่สุดสำหรับลูกที่ก้าวพลาดไปแล้วในชีวิตอย่างฝ้าย ท่านทั้งสองให้อภัย พร้อมช่วยเหลือ เป็นกำลังใจให้ นี่หล่ะค่ะ ความรักของพ่อแม่ ฝ้ายรู้ซึ้งก็วันที่ตัวเองตกอับที่สุดในชีวิตนี่แหล่ะ
-->พล่ามซะยาวเกือบลืมแชร์ประสบการณ์เลยค่ะ คืองี้ค่ะ เมื่อกี้ก่อนมาพิมพ์ในนี้มีที่หนึ่งของบัตรกรุงศรี จีอี ค่ะ เป็นเจ้าแรกเลยที่เสนอส่วนลดมาให้ คิดแล้วประมาณ 36% จากยอดหนี้ปัจจุบันค่ะ แต่ยังไงจะลองใช้กลยุทธ์ของคุณกอบัวที่ไปฟังตอนงานสัมมนาดูก่อนนะค่ะ ได้ความปิดจบออกเอกสารใบปิดมาแล้วยังไง จะมาอัพเดตให้อย่างละเอียดเลยค่ะ แบบฝ้ายดีใจมากตัวแรกเลยที่เสนอมานอกนั้นเสนอให้ประนอมหนี้ทั้งนั้นเลย ดีใจประหนึ่งปลดหนี้ล้านกว่าหมด ฮ่าาาาา เพราะตอนแรกที่เล่าเรื่องแนวทางนี้ให้แม่ฟัง แม่ยังแบบมันจะลดกันได้จริงเหรอ ปล่อยไว้นานดอกไม่เพิ่ม บานเหรอไง เอาเงินแม่ไปปิดบ้าง บางเจ้าไหม ตอนนั้นฝ้ายใจหนึ่งก็อยากปิด อยากหมดหนี้แต่ก็ยังยืนกรานว่ารอหน่อยนะแม่ ขอหนูลองใช้แนวทางของหนูก่อน เมื่อกี้นี่พอได้มีส่วนลดฝ้ายเลยรีบโทรไปบอกแม่เลยค่ะ ให้ท่านมั่นใจในแนวทางของชมรมว่าทำได้จริง แต่เราต้องอดทนอ่ะค่ะ ตัวนี้ฝ้ายหยุดจ่ายเมื่อปลายเดือนสิงหาที่ผ่านมาค่ะ ตัวนี้ยอดหนี้ไม่สูงมากค่ะประมาณ 30000 บาทค่ะ เงินก็พอมีอยู่หมื่นกว่าบาทอ่ะค่ะ ตั้งแต่หยุดจ่ายแล้วเก็บอดออมไว้อ่ะค่ะ เลยจะลองคุยกันดูอีกที ก่อนจะจบความคิดเห็นนี้ฝ้ายไปเจอรูปหนึ่งมาอ่านแล้วดีมากเลยอยากมาแชร์อ่ะค่ะ เพราะฝ้ายเองก็ได้กำลังใจ ได้แนวคิดดีๆ จากหลายๆ รูปในแต่ละกระทู้ที่ทุกท่านแชร์กันไว้ค่ะ