Forum
webboard คนยิ้มสู้หนี้
ห้องเรื่องเล่าชาวยิ้มสู้หนี้ (ห้ามถามปัญหาหนี้)
เล่าใหม่ Debt Diary หนทางปลดหนี้ 1.2 ล้านบาท
เล่าใหม่ Debt Diary หนทางปลดหนี้ 1.2 ล้านบาท
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #31530
โดย meawpung
jackhunter เขียน: แวะมาทักทายพี่นะครับ ช่วงนี้ board ดูเหงาๆ(ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)
ไว้ผมจะไปหานะครับ หรือจะโทรไปหาช่วงเปิดสาย HOT Line ดีหว่า
โทรมาได้น้อง HOT line พี่วันละสายเป็นอย่างมาก สบายๆ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #31635
โดย meawpung
fay เขียน: พึ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องของคุณนาราซิงค์อย่างจริงจังจบสักทีค่ะ ยินดีด้วยนะค่ะ หมดหนี้หมดสิน กันสักที คุณเก่งมากเลย เดี๋ยวเราจะตามไปบ้างนะค่ะ ตอนนี้ฝ้ายมาได้ครึ่งทางแล้วค่ะ ยอมรับว่าเบาใจลงเยอะเลย แต่ก็ยังชะล่าใจไม่ได้อ่ะค่ะ ตอนนี้กะลังวางแผนจัดการกับเคทีซีว่าจะเดินเกมส์ไหนดี 555
ยินดีด้วยครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #32087
โดย meawpung
เค ที ซวย พลิกกลับมามีกำไร
หลังจากที่มันไม่ยอมลด ฟ้องอย่างเดียว
เคทีซี ประสบความสำเร็จปรับโครงสร้าง พลิกทำกำไรในปี 2555 ที่ 255 ล้านบาท เผยแผนธุรกิจรุกสมาชิกใหม่ คืนกำไรสมาชิกที่มีวินัย
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) กล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเมื่อสิ้นปี 2555 มีอัตราเติบโตที่ดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีจำนวนบัตรเครดิต 16.9 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 10.1% มียอดลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 261,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% สำหรับธุรกิจสินเชื่อบุคคลมียอดลูกหนี้ 251,549 ล้านบาท เติบโต 17.9% และในปี 2556 คาดว่า อุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคเติบโตในเชิงบวก หลังภาคส่งออกจะกลับมามีบทบาทต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น และปัจจัยเสริมจากการบังคับใช้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
ส่วนผลการดำเนินงานเคทีซีปี 2555 มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท จาก 5 ปัจจัยหลัก คือ ปรับกระบวนการติดตามหนี้ ปรับปรุงบริการคอนแท็คท์ เซ็นเตอร์ ปรับกระบวนการทำงานแต่ละหน่วยงานให้สอดคล้อง สร้างโปรแกรมการตลาดที่ตรงใจผู้บริโภค และพัฒนาคุณภาพบุคลากรในองค์กร ทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมปี 2555 เท่ากับ 12,622 ล้านบาท เพิ่มจาก 12,497 ล้านบาทจากปีก่อนหน้า ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 12,038 ล้านบาท ลดลงกว่า 15% จากการลดลงของหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง ส่งผลให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ลดลงเหลือ 30%
ทำให้ฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 49,138 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 44,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า ฐานสมาชิกรวม 2.16 ล้านบัญชี ประกอบด้วย บัตรเครดิต 1,528,921 บัตร มูลหนี้สุทธิ 32,090 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช” เท่ากับ 626,326 บัญชี มูลหนี้สุทธิ 12,182 ล้านบาท
สำหรับแผนกลยุทธ์ในปี 2556 บริษัทฯ จะมุ่งสร้างฐานสมาชิกใหม่และการบริหารข้อมูลในเชิงลึก โดยเน้นการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างสรรค์ แตกต่าง เพื่อตอบสนองทุกมิติความต้องการของสมาชิกอย่างครอบคลุม ได้แก่ เพิ่มสมาชิกบัตรเครดิต โดยคำนึงถึงปริมาณและคุณภาพเป็นสำคัญ จัดแคมเปญการตลาดบัตรเครดิตที่คุ้มค่าและเข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด ธุรกิจสินเชื่อบุคคล จัดแคมเปญแบ่งเบาภาระเพื่อคืนกำไรให้กับสมาชิกที่มีวินัยในการชำระเงิน การให้บริการผ่านระบบออนไลน์ แบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว และปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของฝ่ายบริการลูกค้า (Contact Center)
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #32386
โดย meawpung
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาตอบในบอร์ด
ช่วยสังคมโดนการรับสาย hotline
วันละสาย สองสาย พอแก้เหงา
ไล่ให้มาอ่านในบอร์ดก็หลายรายอยู่
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #32727
โดย meawpung
เป็นฮอตไลน์ อันไหนไม่ชัวร์ ถามอาจารย์ป้า อาจารย์ปู่
อันไหนไม่รู้ต้องขวนขวาย ตอบผิดมีผลต่อชีวิตคนอื่น เราต้องระวัง
ช่วงนี้ ก็ไปเช็คเครดิตบูโรที่ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง เสียเงินหนึ่งร้อยบาท
ปรากฏว่าของ KTC จ่ายปิดไปแล้วแต่ยังขึ้นว่ากำลังผ่อนจ่ายตามที่ทำยอม เลยทำเรื่องให้ปรับสถานะ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Pych , Lyncns31
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #36946
โดย meawpung
ชีวิตช่วงนี้ก็เหมือนปรับสภาพไปสู่อีกสภาพหนึ่ง
ย้ายหน่วยงาน ทำให้เดินทางไกลขึ้น ก้ต้องอดทน
กลางเดือนหน้าจะได้เงินโบนัสอีกก้อน จะเอาไปปิดรถ ลากันทีไฟแนนซ์ เอาไปเข้าตอนปลูกบ้านเช่าเนี่ยแหละ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #40238
โดย meawpung
เรื่อยๆมาเรียงๆ
ตอนนี้หมดหนี้บัตรแต่ก็ยังไม่มีเงินเก็บ
เก็บตังค์กันต่อไป
แต่รู้สึกดีมากที่ทุกสิ้นเดือนไม่ต้องไปเข้าแถวรอจ่ายบัตรที่ในห้าง
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel , Ploylyly , Pych
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #40406
โดย meawpung
ไปทราบมาว่า อี JMT มันมีกำไรจากการซื้อหนี้เน่าแล้วเอาไปทวง 51% ครับพี่น้อง
MT
- JIB จะเริ่ม Run ในไตรมาส 3-4 ปีนี้
- หนี้ก้อนแรกที่ซื้อเข้ามาในปี 2006 ปัจจุบันยังทำยอดเก็บได้เดือนละล้านกว่าบาท
- ได้licenseใหม่2ตัวคือ : Debt acquisition and Insurance broker
-Total debt to be collected 23,000 MB from investment around 1193 MB
- AMC (บริษัทบริหารสินทรัพย์) กำลังเดินหน้า ซึ่งบริษัทประเภทนี้สามารถสวมสิทธ์หนี้คดีความได้
ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านการดำเนินคดี
- Project เช่าซื้อรถยนต์ จะชะลอไปก่อน โดยจะไปเน้นที่การซื้อหนี้มาบริหารแทน
-ปีนี้มีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาในตลาด
- ต้นทุนในการซื้อหนี้สูงขึ้น จากราคาที่ถูกปั่นขึ้นไป เนื่องจากผู้ขายเห็นว่า JMT มี margin สูงมากๆ (ปัจจุบัน 51%)
และบางกรณีผู้ขายทำการแบ่งหนี้ป็นก้อนเล็กๆ เพื่อให้บริษัทเล็กๆสามารถมาประมูลไปแทน
เพราะหนี้ก้อนใหญ่ๆ มีแค่ JMT ที่มีศักยภาพพอที่จะประมูลได้
- หนี้แต่ละก้อน จะมีการคำนวณ IRR ไม่เท่ากัน
- การรับรู้รายได้จะทำการบันทึกโดยให้ตัดเงินลงทุนภายใน 5 ปี แต่หลายๆกรณีตัดหมดที่เวลา 3 ปี
(มีบ้างที่เกิน 5 ปี แต่เกิดขึ้นน้อยมาก)
- วิธีการนี้ ทำให้กระแสเงินสดของบริษัทดีมาก (จนเกินไป) เนื่องจาก กลต บังคับให้ทำการคำนวณแบบนี้
คือให้ Conservative แบบสุดๆ ทำให้ถึงแม้ว่าจะเก็บหนี้ได้เยอะ แต่รายได้ปีแรกๆอาจจะไม่เยอะ
เพราะไปหักลบในส่วนของเงินลงทุนออกไปก่อนเยอะมาก
พอตัดเงินลงทุนหมด ถึงจะรับรู้รายได้ 100%
**ใช้สูตรคำนวณ รายได้ = ยอดหนี้ที่เก็บได้ - (IRR*เงินลงทุนคงเหลือ)
ต้องต่อให้มิดด้ามนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89 , Mommyangel , Pych
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
papa
ผู้เยี่ยมชม
10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #40481
โดย papa
เป็นความรู้มากเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
เพราะกำลังโดน JMT ทวงอยู่ค่ะของ กรุงศรี (HSBC)
จะได้มีแนวทางในการต่อรองเยอะหน่อย
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #40671
โดย meawpung
อันนี้ข่าวใหม่กว่า รายย่อยหัวหมุนผ่อนหนี้บ้าน-รถ ฉุดยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตวูบ แบงก์เริ่มเข้มบัตรใหม่
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไตรมาส 3 มีสัญญาณฟื้นตัวต่ำ เนื่องจากคนเริ่มประหยัด เพราะมีหนี้ที่ต้องผ่อนชำระทั้งบ้าน และรถคันแรกที่คำนวณว่าทั้งตลาดมียอดผ่อนเฉลี่ยเดือนละ 6,000 ล้านบาท ส่งผลให้การใช้จ่ายลดลง เห็นได้จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของลูกค้าเก่าเติบโตเพียง 5% และครึ่งแรกปีนี้มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 1.1 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ทั้งปีตั้งเป้า 2.8 แสนบาท ทำให้ต้องเร่งการใช้จ่ายในช่วงครึ่งปีหลัง
“นอกจากนี้ ลูกค้าที่เริ่มเลือกผ่อนชำระไม่หมด จากที่เคยจ่าย 100 บาท ก็เหลือ 75 บาท ยอมมีหนี้คงค้าง ส่วนที่ผ่อนชำระขั้นต่ำ 10% ก็ยังเลือกผ่อนขั้นต่ำเหมือนเดิม สัดส่วน 55-60% ของลูกค้าทั้งหมด 2.8 ล้านบัตร” นายชาติชาย กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยเริ่มเข้มงวดการอนุมัติบัตรเครดิตใหม่ โดยเฉพาะลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 3 หมื่นบาท จะพิจารณาว่าลูกค้ามีบัตรเครดิตหลายใบหรือไม่ หากมี 3-4 ใบ จะไม่ได้รับอนุมัติ เพราะอัตราก่อหนี้มากเกินไป โดยจะหันมาเน้นลูกค้ากลุ่มรายได้สูงแทน
ด้านนายยุทธชัย เตยะราชกุลผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาคนไทยมีการก่อหนี้มากทำให้การบริโภคชะลอตัว โดยคาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตลดลงจาก 18% เหลือ 14-15% และปีนี้ยอดออกบัตรใหม่อาจจะต่ำกว่าเป้า 6 หมื่นบัตร เนื่องจากผู้สมัครบัตรมีภาระหนี้ต่อรายได้สูงขึ้น ทำให้ยอดอนุมัติลดจาก 45% เป็น 40%
“ทั้งนี้ หนี้เสียของบัตรเครดิตทั้งระบบในช่วงไตรมาสแรกจะเห็นว่าเพิ่มขึ้นจาก 2% มาอยู่ที่ 2.2% ของหนี้ทั้งหมด ส่วนของยูโอบีก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าตลาด เพราะฐานลูกค้า 70% มีรายได้มากกว่าเดือนละ 2.5 หมื่นบาท” นายยุทธชัย กล่าว
ไงก็ช่วยกันหยุดเยอะๆนะครับ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Pych
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1952
ขอบคุณที่รับ: 1502
10 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #40710
โดย Pych
Narasingh เขียน: “ทั้งนี้ หนี้เสียของบัตรเครดิตทั้งระบบในช่วงไตรมาสแรกจะเห็นว่าเพิ่มขึ้นจาก 2% มาอยู่ที่ 2.2% ของหนี้ทั้งหมด ส่วนของยูโอบีก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าตลาด เพราะฐานลูกค้า 70% มีรายได้มากกว่าเดือนละ 2.5 หมื่นบาท ” นายยุทธชัย กล่าว
นี่เหรอคำพูดของผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฟังแล้วน่าขัน พวกที่เงินเดือนเยอะๆ เป็นสมาชิกชมรมฯ เราก็เยอะแยะ และแถมเงินเดือนเยอะ ก็ยอดหนี้เยอะตามไปด้วย
น่าจะบอกว่า ตอนนี้ UOB ฟ้องเร็วขึ้น จนหนี้เสียลดลง ซะมากกว่า
"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #42392
โดย meawpung
สมาชิกทุกท่าน โปรดอ่านกระทู้เก่าๆให้มากๆ
แล้วสรุปกับตัวเองว่าจะทำอย่างไรนะครับ
คิดไปทีละเรื่อง ใจเย็นๆ แล้วมันจะผ่านไปครับ เอาชีวิตให้รอด มีข้าวกินครบสามมื้อก่อน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
10 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #43905
โดย meawpung
เอาข้อมูลมาฝากจากห้องชายคา พันธ์ทิพย์นะครับ
สำหรับคนที่จะกู้บ้าน หลังจากปิดบัตรหมดแล้ว
ผมต้องการที่จะกู้บ้านก็ได้เริ่มหาข้อมูล เนื่องจากตัวเองติดปัญหาบูโรที่พึ่งปิดไปตอน 28/02/56 ตัวสุดท้ายเป็นบัตรกดเงินสด เคทีซี จ่ายแล้วบริษัทไม่ยอมยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานะให้ผมเ่ช่น หนี้ 45000 ลดเหลือ 30000 ส่วนอีก 15000 คาอยู่ในบูโรไม่ลบออกแต่ยอด3-4 เดือนไม่เพิ่มนะ ต้องไปแก้ที่สนง.ใหญ่.ของบูโร ถึงเป็นปิดบัญชีได้ วันนั้นหาที่ยอดยากมากๆๆกว่าจะได้ คราวนี้เลยจะลองไป Pre approve ดูว่าพอมีหวังไหม
เริ่มที่ธนาคารแรก
1.กสิกร ในเวปของเค้าบอกต้องปิดมาแล้ว 6 รอบบิล หรือ 12 รอบบิล ตกลงใช้อันไหน เราก็คิดเข้าข้างตัวเองรับเงินเดือนผ่านน่าจะหยวนๆ ตอนจบนับที่ 12 รอบบิลครับ จนท.บอกที่ 6 รอบบิลที่ขึ้นเป็นของที่อื่น(แล้วบอกทำไม)
2.ไทยพาณิชย์ 12 รอบบิล เจ้าหน้าที่บอก 6 รอบบิลรับเรื่องเราชื่นใจเลย อีก 3 วันโทรมาบอกไม่ได้นะค่ะ อย่างต่ำต้อง 12 รอบบิล รับเรื่องเฉยๆจริงๆ
3.กรุงไทยทำเรื่องช้ามาก รอคำตอบ
4.ยูโอบี ธนชาติ แสตนดาร์ด ซีไอเอ็มบี 12 รอบบิล
5.ธอส. แจ้งว่ายื่นได้แต่ไม่นับ โบนัส เบี้ยเลี้ยง ค่าคอม ถึงมีใบ 50 ทวิหรือขึ้นในสลิปก็ไม่นับ
6.อิสลาม รับเรื่องแต่ให้น้อย พนง.แจ้งว่ามีประกาศระเบียบใหม่ให้นับเฉพาะเงินเดือนเพียวไปมาวันนี้เอง (ทั้งธนาคารไม่มีลูกค้าเลยเงียบมาก) สาขาไทวัสดุรามอินทรา
สรุปผมรอ 12 รอบบิลก็ได้ เดี๋ยวพอตอนนั้นคงบอกรอ 3 ปี พอครบ 3 ปีบอกคิดให้แต่เงินเดือน(ถ้ากสิกร ไทยพาณิชย์ กรุงไทยไม่เปลี่ยนกฎนะ) เช่าบ้านต่อปายยยย
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
10 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #43977
โดย meawpung
กู้ผ่านแล้วครับ
เรื่องคร่าวๆก็ประมาณนี้แหละครับ
หลังจากเป็นหนี้แบบมหาศาล ติดบูโรไป 9 รายการจาก 28 รายการในเครดิตบูโร มีสองรายการเกิน 300 วัน ทำการทยอยใช้หนี้ ปิดไป จนหมด ชำระหนี้บัตรเครดิตใบสุดท้าย หลังจากได้ haircut ส่วนลดหนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อสิ้นปี 55 จนล่าสุดเคลียร์หนี้ผ่อนรถหมดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง
พอดีช่วงเสาร์อาทิตย์มีงานบ้านและคอนโด ไปเดินดูและสมัครใช้สิทธิ์ ก็หว่านไปหมดแทบทุก bank เข้ามาอ่านข้อมูลในพันธ์ทิพย์เขาบอกว่าส่วนใหญ่ ธอส จะให้กู้กับคนที่ประวัติการเงินไม่ดีอย่างเรา
ไปถามเขาในงาน เขาบอกว่าให้เอาใบจองสิทธิ์อันนี้ ซึ่งฟรีค่าประเมิน ดอกเบี้ยคงที่สามปี 4.5% ไปยื่นที่สาขาใกล้บ้าน
เราก็รวบรวมหลักฐาน บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ทวิ 50 หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน stagement สำเนาสมุดเงินออม
ที่สำคัญ สำเนาโฉนดรับรองจากกรมที่ดิน แล้วก็ใบปิดหนี้กับทุกบัตร พร้อมกับใบรายงานเครดิต ซึ่งเราไปทำที่ BTS ศาลาแดง เขาเปิดถึง 6 โมงเย็น จันทร์ ถึง ศุกร์
รุ่งขึ้น วันเสาร์ เรารวมรวบเอกสารไปยื่นในสาขาในห้าง ซึ่งเยาส่งต่อให้ สาขาบางเขนอีกที่ เจ้าหน้าที่ก็บริการดีครับ ตรวจเอกสาร บอกว่าขั้นตอนการทำงานเขาเป็นสามสัปดาห์ โดยสัปดาห์แรก ประเมินรายได้ ประเมินบูโร สัปดาห์ที่สองส่งประเมิน สัปดาห์ที่สามจะูนัดเซ็นต์สัญญาถ้ากู้ผ่าน เขาบอกว่า สัปดาห์แรกก็น่าจะรู้แล้วว่า ผ่านหรือไม่ผ่าน
บ้านที่เราซื้อเป็นทาวน์เฮ้าส์มือสองมือสามแล้ว สร้างแต่ปี 2531 แต่สภาพดี ทำเลเยี่ยม ราคาเพื่อนฝูงขายกันที่ 1.5 ล้านบาท เราเลยให้เพื่อนทำสัญญาซื้อขายที่ 1.8 ล้าน แต่ได้แค่ 85% ก้คร่าวๆประมาณ 1.5 ล้าน
รายได้รับสุทธิต่อเดือนประมาณ 70,000 แต่ผ่อนที่ดินกับบ้านที่ปลูกให้เช่าอยู่ 22,000 ครับ
เมือวานวันจันทร์ ทางธนาคารโทรมาแจ้งว่าจะส่งคนมาประเมิน จะให้บริษัทประเมินโทรหาตอนเย็นอีกที
ตกเย็นเขาก็โทรมา บอกว่าจะเข้ามาประเมินวันนี้
ตอนนี้ลุ้นอยู่ว่า จะผ่านไหม ขอให้ผ่านทีเถอะ เราต่อสู้เพื่อให้ได้บ้านหลังนี้มามาก
เป็นกำลังใจให้คนติดบูโรทุกท่านครับ เราไม่ได้ฆ่าใครตาย อย่าไปยอมแพ้เพราะคุณเป็นหนี้ครับ
หลังจากนั้น ผมก็โทรไปถามทุกวัน จนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขาบอกว่าได้รับเอกสารครบ ทั้งผลการประเมินและอื่นๆ เขาเลยส่งเข้าสำนักงานใหญ่ครับ ผมก็โทรไปถาม call center ทุกวัน จนเมื่อเช้า เขาแจ้งว่าอนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กันยายนครับ
พอสรุป timeline ได้ดังนี้นะครับ
ศุกร์ที่ 23 สิงหาคม ไปงานมหกรรมที่ศูนย์สิริกิตติ์ ลงทะเบียนจองสิทธิ์ ได้โปร ประเมินฟรี ค่าธรรเนียมสินเชื่อฟรี ดอกเบี้ย 4.5% คงที่ 3 ปี หลังจากนั้น MRR -0.25%
เสาร์ที่ 24 สิงหาคม ยื่นกู้ที่สาขาในเดอะมอลล์ คือเจ้าหน้าสินเชื่อสาขาบางเขนจะมาแค่ทุกวันเสาร์ พร้อมเอกสารประวัติบูโร ใบปิดหนี้จากเจ้าหนี้ จัดเตรียมแจกแจงเป็นชุดๆ
เย็นวันจันทร์ที่ 26 แจ้งว่าจะมาประเมินบ้าน เลยนัดเป็นวันอังคารเลย
อังคารที่ 27 เจ้าหน้าที่ประเมินมาประเมิน บอกว่าอาจได้ไม่ถึง เราทำสัญญากู้กัน 1.8 ล้านบาท
ศุกร์ 30 โทรไปถามเขาบอกรอเอกสารจากบริษัทประเมิน
อังคารที่ 3 กันยายน โทรไป call center บอกว่าเรื่องมาแล้ว รออนุมัติ
และแล้ว วันนี้ 5 กันยายน ผมโทรไปอีก เขาบอกว่า รอให้ทางฝ่ายกฏหมายร่างสัญญา เตรียมตัวได้เลย
เล่าข้ามไปนิดนึง ทางประเมินประเมินให้ที่ 1.6 ล้านบาท บ้านมือสองคิดที่ 85% ยอดกู้จึงเหลือ 1.36 ล้านบาท ผมทำประกันด้วย 10ปี อันนี้เขาไม่ได้บังคับ แต่ผมอยากทำเผื่อเป็นอะไรไประหว่างผ่อน จะได้มีบ้านให้คนข้างหลังอยู่ บ้านนี้ทำเลดี ห่างสถานีรถไฟฟ้าในอนาคตประมาณ 1 km แต่ถ้าเป็นคอนโดติดสถานีก็ 1.7 ล้านไปแล้ว
ส่วนเงินส่วนขาด ผมไม่วิตกกังวลมากนัก เพราะจ่ายให้เจ้าของที่จะขายไปแล้วบางส่วน และคงจ่ายได้หมดครับ
เป็นกำลังใจให้คนเครดิตไม่ได้ ให้ลุกมาสร้างเครดิตกันใหม่ทุกคนครับ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
meawpung
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
กรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1157
ขอบคุณที่รับ: 666
ผู้ดูแล: Mommyangel , Badman , konsiam
Forum
webboard คนยิ้มสู้หนี้
ห้องเรื่องเล่าชาวยิ้มสู้หนี้ (ห้ามถามปัญหาหนี้)
เล่าใหม่ Debt Diary หนทางปลดหนี้ 1.2 ล้านบาท
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.887 วินาที