ก่อนหน้านี้ ได้บอกไว้ว่า จะไม่เข้ามาตอบกระทู้แม้แต่กระทู้ตัวเองก็จะปล่อยให้ตกไป
ยอมรับว่า ช่วงนั้น หดหู่ เหนื่อยใจ เพราะอาจเป็นคนจริงจังมากเกินไป จึงขอละเว้น
ไม่เข้าไม่ตอบ แต่ก็ต้องผิดคำพูดตัวเอง เพราะมีหลายสิ่งที่
อยากแชร์ค่ะ
เมื่อปีที่แก้วจ๋าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ๆ แก้วจ๋าอ่านตำนานรุ่นพี่ของชมรมฯ หลายท่าน
อาทิเช่น คุณหมูสมิง คุณเก่ง เป็นต้น ซึ่ง 2 ท่านนี้ คนหนึ่งถนัดแนวบู๊ ถูกใจแก้วจ๋ามาก
ส่วนคุณเก่งเน้นวิชาการ ประสบการณ์ชีวิตที่อ่านแล้วต้องยกนิ้วให้ แก้วจ๋าสำเนาตำนานทั้งหลาย
อยู่ในคอมพ์ พร้อมกับกระทู้ปัญหาหนี้ที่กรรมการแต่ละรุ่นแต่ละท่านช่วยกันตอบช่วยกัน
ชี้แนะ อ่านแล้วเหมือนการระดมความคิดจากหลายท่านหลายประสบการณ์มาช่วยกันแก้ปัญหาหนี้
ให้กับผู้ถาม อ่านแล้วเพลิน อ่านไปได้เรื่อยๆ บางอาทิตย์แก้วจ๋าก็ไปหาคุณอาที่สวนลุม ไปฟัง
เรื่องราวของคนเป็นหนี้ ไปฟังการชี้แนวทางแก้ปัญหาจากคุณอาทั้ง 2
ในความเชื่อส่วนตัว
การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด หากวันใด เราหยุดที่จะเรียนรู้ เราก็กำลังทำร้ายตัวเอง
ด้วยการกำหนดกรอบตัวเอง ชีวิตตัวเองให้แคบลง พอเราเห็นกระทู้คำถามใด ที่ตอบได้แก้วจ๋าก็เข้า
ไปช่วยตอบ จนถึงวันที่แก้วจ๋าได้รับการทาบทามจากคุณอาทั้ง 2 ให้เข้ามาเป็นกรรมการของชมรม
เพื่อบอกบุญ ส่งต่อไปยังสมาชิกใหม่ๆ วันนั้นที่รู้ แก้วจ๋าถามคุณอาว่า เป็นกรรมการต้องทำตัวเช่นไร
เพราไม่แน่ใจว่า แก้วจ๋าจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำหน้าที่นั้นได้ คุณอาบอกว่า ทำแบบที่เคยทำ
แก้วจ๋ามาทราบทีหลังว่า
การเป็นกรรมการของชมรมฯ นั้น ต้องผ่านมติที่ประชุม ด้วยคะแนนสนับสนุน
มากกว่าครึ่ง หลังจากกรรมการได้เฝ้าดูการตอบกระทู้ จึงเสนอชื่อเข้าที่ประชุม
การทำหน้าที่เป็นกรรมการของแก้วจ๋า แก้วจ๋าถือว่า สำคัญมาก เพราะคำพุด คำชี้แนะของแก้วจ๋ามี
ผลต่อชีวิตของผู้อื่น แก้วจ๋าจะพูดอะไรออกไป ต้องไตร่ตรองแล้ว และต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง
หากคำแนะนำตามที่เรียนรู้ ตามประสบการณ์ ให้ไปแล้วคนนั้นสามารถนำไปใช้ปลดหนี้ได้เป็นผลสำเร็จ
มันเป็นความสุขที่หาที่เปรียบไม่ได้ แต่หากตรงกันข้าม แก้วจ๋าก็จะทุกข์ไปด้วยทุกครั้ง
แม้ปากจะบอกทุกครั้งว่า
ต่างกรรม ต่างสาระ ต่างปัจจัย ทำให้ผลออกมาต่างกัน แต่หากเขาเชื่อถือ
ไว้ใจแก้วจ๋า เขามั่นใจ แก้วจ๋าจะนำแสงสว่างมาส่องทางเขาได้ เขาอาจทำตามโดยไม่ลังเล
แต่แก้วจ๋าอยากบอกว่า แม้แก้วจ๋าเคารพคุณอา มั่นใจคุณอา และกรรมการทุกท่าน แต่
แก้วจ๋าไม่เคย
เดินด้วยการปิดตา แก้วจ๋ายอมเสียเวลา เพื่อพิสูจน์ เพื่อเรียนรู้จากของจริง เมื่อก่อนแก้วจ๋ามักบอกทาง
สายด่วนว่า คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อแก้วจ๋าพูด คุณต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า จริงไหม ใช่ไหม เราคิดตาม
ไปด้วยกัน ปัญหาของคุณวันนี้ไม่เหมือนของแก้วจ๋าวันนั้น แก้วจ๋าเองก็ไม่เหมือนกรรมการท่านอื่นใน
อดีต ซึ่ง
ในอดีตที่ผ่านมา อาจบอกกันว่า เช่น
1 ไม่จำเป็นต้อง
ส่งเอกสาร ไม่ต้องเขียนคำขอสิ่งใด ถ้าเจ้าหนี้จะลดหนี้ เจ้าหนี้ต้องเป็นผู้ส่งหนังสือ
ยืนยันฝ่ายเดียว แต่ยุคแก้วจ๋า ด้วยนโยบายที่เปลี่ยน เวลาและคนก็เปลี่ยนไป หากเจ้าหนี้ใดลดหนี้
แล้วขอเอกสารบัตรประชาชน พร้อมกับภาระหนี้ตามที่เราบอก แก้วจ๋ายอมที่จะจัดให้ได้ โดย ขีดคร่อมกำกับในใบส่ง แต่ถ้าไม่ขอ ก็ไม่ส่งถือว่า บางคนขอเพื่อเป็นเอกสารอ้างอิง และแก้วจ๋าได้ประโยชน์
2
ทวงหนี้โหด ถ่อย ร้องเรียนแบงค์ชาติ แก้วจ๋าเป็นรุ่นบุกเบิกแบงค์ชาติสมัยคุณสุนทร ด้วยการ
สนับสนุนจากคุณอาไพโรจน์ แรกๆค้นหาทุกกระทู้ ไม่มีรุ่นพี่เคยส่งเรื่องร้องเรียน แก้วจ๋าได้
พยายามหาจนเจอทางในเวปของแบงค์ชาติ BOT ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่ทางแบงค์ชาติเริ่มตื่นตัว
แก้วจ๋าโชคดีที่แบงค์ยอมพูดคุยกับลูกหนี้ เข้าหาเข้าใจลูกหนี้ว่าลูกหนี้ไม่ต้องการหนีหนี้ ลูกหนี้มีศักดิ์ศรี อยากเจรจากับเจ้าหนี้ ขอความเป็นธรรมในการจ่ายหนี้ ขออย่าทำร้ายลูกหนี้ด้วยการทวงหนี้แบบถ่อย เถื่อน โหด จนวันนี้แบงค์ชาติและผู้ใหญ่ต่างเห็นว่า ปัญหาหนี้คือปัญหาระดับชาติ มีศูนย์แจ้งร้องเรียนอย่างเป็นระบบ เพื่อความเป็นธรรมต่อลูกหนี้
3
หักคอจ่ายได้ หลังจากแก้วจ๋าเรียนรู้ทุกขั้นตอนการหยุดหนี้ การทวง การประนอมหนี้ การฟ้อง
การเจรจาไกล่เกลี่ย การต่อรอง การปิดหนี้ ซึ่งทุกขั้นตอนแก้วจ๋าเข้าใจเข้าถึงด้วยตัวเอง แม้บาง
ครั้งคุณอาได้บอกว่า ไม่จำเป็นลางาน ให้เสียเวลา แต่แก้วจ๋าเชื่อว่า อยากรู้ต้องเรียนด้วยตัวเอง ประสบการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ และไม่มีการหวนกลับมาเกิดรอบ 2 ดังนั้น รอบแรกและรอบเดียว
ของการเป็นหนี้ แก้วจ๋าต้องศึกษาจากของจริง แม้วันที่หักคอจ่าย แล้วไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะเจ้าหนี้ไม่เล่นด้วย แก้วจ๋าได้ถูกอายัดเงินเดือนจริง แต่เพราะว่า การอายัดเงินเดือนอาจ
ส่งผลไม่ดีต่อหน้าที่การงาน แก้วจ๋าจึงไม่สามารถยอมให้อายัดได้ แม้คุณอาแนะนำว่า การ
อายัดเงินเดือนเป็นทางออกที่ดี สำหรับคนที่มีหนี้หลายแห่ง และมีภาระมากจนไม่สามารถออม
และเก็บเงินมาต่อรองเจ้าหนี้ได้ และเป็นการจัดระเบียบเจ้าหนี้ให้คอยรับการจ่ายทีละเจ้า หากรอ
ไม่ไหว เท่ากับเราบีบเจ้าหนี้ให้ลดหนี้โดยปริยาย ไม่ลดก็ไม่ได้อะไรเลย
เมื่อถูกอายัดเงินเดือน แก้วจ๋าได้ไปกรมบังคับคดี ทำให้รู้ขั้นตอนการอายัด การถอนอายัด
เรียนเกี่ยวกับกรมบังคับคดีมากขึ้น
ตลอดเวลาแก้วจ๋ามั่นใจว่า เมื่อมี
ข้อมูลพร้อม และมาก ทำให้เราไม่เสียเปรียบเจ้าหนี้ ทำให้
อำนาจการต่อรองมาอยู่ฝ่ายเรามากขึ้น เราสร้างหนี้ได้ เราก็ปิดหนี้ได้ด้วยมือเราเอง
สมาชิกสมัยนี้โชคดีกว่าบอร์ดส้มเก่า ด้วยความมานะอดทน ความปราถนาดีของท่านประธาน
และกรรมการชมรม ทำให้บอร์ดใหม่นี้มีห้องสมุด เต็มไปด้วยตำราพิชิตหนี้ให้อ่านกันง่ายๆ
แค่คลิกเปิด
หลายครั้งที่เห็นสมาชิกใหม่ท้อ กลัว ยอมเสียเงินที่มีน้อยไปกับทนาย หรือคนอื่นเพียงเพราะ
ความกลัว ความอาย การไม่ยอมรับความจริง แม้ไปศาล ยังต้องจ้างผู้อื่นทำหน้าที่แทน
แก้วจ๋าไม่รู้ว่า จะพูดเช่นใด จึงทำให้ทุกคนเชื่อมั่นได้ แก้วจ๋ามีคำสำหรับตัวเองที่พูดตั้งแต่
วันแรกที่เป็นหนี้จนวันหมดหนี้คือ
เป็นหนี้ไม่ใช่อาชญากร แก้วจ๋าไม่แก้ตัวแต่จะแก้ไข จะขอเป็นไทด้วยตัวเองค่ะ
ขอออกตัวแก้วจ๋าไม่ใช่คนเก่ง หรือผู้วิเศษแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่สู้ไม่ถอยค่ะ