คุณนายตกสวรรค์ พร้อมกับหนี้ 4 ล้านบาท

kaewja เขียน: ตอนนี้ พูดได้ คำเดียว ร้อนมากๆ ค่ะ อยากแช่น้ำแข็ง
อาทิตย์หน้า ชีวิตคงกลับมายุ่งเหยิงเหมือนเดิม อยากหยุดเวลาไว้ที่วันหยุด
ยาวๆๆๆๆ

ขอให้ทุกคนที่เดินทางไปแย่งกันเที่ยว เออ ไม่ใช่ ไปช่วยชาติ กระจายราย
ได้สู่พี่น้องตจว หรือ บางคนตปท ขอให้เดินทางกลับมาอย่างปลอดภัยค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ ฟังเพลงพี่อังแล้วง่วงค่ะ

พักผ่อนเยอะๆ นะคะครูแก้ว ขอให้หายป่วยไวๆ ดูแลตัวเองให้มากๆ ด้วย อัง สวยประหาร...

ปล.อังดีใจมากคะที่ได้พบกับครูแก้วในวันนี้ อังขอมอบเพลงค้างคาวกินกล้วยให้ครูแก้วฟังคะ เป็นจังหวะสนุกๆ ....ฟังดนตรีเถิดจะได้ชื่นใจ

ตามเธอไม่ทันเลยนะ เห็นแว้บๆ หายไปกับสายลม
ตัวขี้เกียจมาเกาะตัว ไม่อยากไปทำงานพรุ่งนี้แล้วละ
แต่ อ. อดทน




คิดถึงนะจ้ะ รู้ว่า มองอยู่แต่ไม่ log in เห็นไหมพี่รอด
น้ำไม่ระคาย แค่เฉียดๆ แน่นะว่าจะกล้า
สาดพี่ มัวแต่ organize งาน และขอร้องว่า ไม่
เอาแป้ง กลัวว่า ที่หาหมอมาหลายหมื่น จะหายไปกับ
แป้ง

เคยเป็นคนที่ทำอะไรๆๆ ได้ถึงไหนถึงกัน
แต่มาวันนี้ยังสยอง กลัวๆ โรคภูมิแพ้ทางผิวหนังจะตี
กลับมาอีก ยิ่งโคตระร้อน บางครั้งหาหมอจนท้อ นึกถึง
และเข้าใจคุณปูเป้ก็เพราะตัวเองก็โดน

คุณอาไพโรจน์ฝาก CD สูตรคำนวณให้กรรมการทุกคน
แต่เธอ ไม่รู้จะส่งยังไง ถ้าว่างจะส่งผ่านเมล์ไปให้นะ
ไม่รู้ว่า จะเป็นการสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำหรือเปล่า

ที่โน้น ไม่ร้อนมากเท่าบ้านเราใช่ไหม แล้วไปท่องดินแดน
middle east ทั่วหรือยังค่ะ ว่างๆ เล่าให้ฟังหน่อยซิ เผื่อว่า
หมดหนี้ มีเงินจะไปเที่ยวนะ เมื่อวานยังคุยกับคุณอา
ประพัฒน์ว่า อยากขอ early retire จัง เบื่อการเมืองใน
บริษัท ทั้งผู้บริหาร และพนักงาน ทำงานไม่หนุกเลย

ขอต้อนรับกลับทำงานวันแรกค่ะ

หยุดแค่ 4 วัน ยังทำใจลำบากที่กลับมาทำงาน
กิจกรรมวันแรกที่หยุด ไปทำบุญ สรงน้ำพระ ทานข้าวกับครอบครัว



วันที่ 2 ทำความสะอาด สังคายนาบ้าน
วันที่ 3 ไปรดน้ำคุณอาที่สวนลุม
วันที่ 4 ไปบริจาคเลือด ตั้งใจมานาน เพราะหยุดบริจาคไป 1ปี
เพราะสุขภาพไม่อำนวย ขนาดไปวันที่ 15 คนไปรอบริจาคเป็นพัน
แต่ที่สภากาชาด เขาทำงานเร็ว ไป 10โมง เสร็จเที่ยงตรง



ขอให้ทุกคนมีแต่สิ่งดีๆ มีเงินเหลือกินเหลือไว้ใช้หนี้
ขอให้เจ้าหนี้ลดหนี้เยอะๆๆ ปลดหนี้ไวๆๆ ค่ะ



ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง สนุกสนานกับชีวิตค่ะ

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระมาบอกต่อค่ะ เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต



เป็นการบูชาพระตามปีเกิดค่ะ แล้วแต่ศรัทธาค่ะ

ปีชวดกับปีมะแม
พระบูชา : หลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อวัดไร่ขิง, สมเด็จวัดปากน้ำ, สมเด็จจิตรลดา, สมเด็จนางพญา
บูชาเทพ : เจ้าแม่กวนอิม, พระแม่ธรณี, นางกวัก, เจ้าแม่ทับทิม, เจ้าแม่เขาสามมุก

ปีฉลูกับปีวอก
พระบูชา : พระร่วงโรจนฤทธิ์, พระกำแพงศอก, พระปิดตา, พระขุนแผน, พระที่หล่อด้วยโลหะทั้งหมด, สมเด็จศรีสุริโยทัย, เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร, เจ้าพ่อเสีย ปู่เห้งเจีย
บูชาเทพ : เทพเจ้ากวนอู

ปีขาลกับปีระกา

พระบูชา : พระแก้วมรกต,หลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อบ้านแหลม, หลวงพ่อสังข์กัจจายน์, พระที่เป็นแผ่นภาพใส่กรอบ, หลวงปู่ทวด, หลวงปู่สด
บูชาเทพ : ท้าวมหาพรหม, ท้าวจตุคามรามเทพ, พระพิฆเนศ, เจ้าแม่ลิ้มกอเนี้ย, เจ้าแม่ปาระวตี, เจ้าพ่อเขาศก

ปีเถาะกับปีจอ
พระบูชา : พระปางสมาธิ, พระปางมารวิชัย, หลวงพ่อโต, สมเด็จวัดระฆัง, หลวงปู่โต, หลวงปู่มั่น
บูชาเทพ : สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5,ปู่ฤาษี พ่อแก่, ปู่ชีวก

ปีกุนกับปีมะโรง
พระบูชา : พระสิวลี, พระสุรัสวดี, หลวงพ่อเงิน, หลวงปู่ศุข
บูชาเทพ : เจ้าแม่จามเทวี, พระแม่รัศมี,พระศิวะ, เทพเจ้าไฉ่ชิงเฉี้ย

ปีมะเส็ง

พระบูชา : พระเชียงแสน, พระสุโขทัย,พระทุ่งเศรษฐี, พระกริ่ง

บูชาเทพ : พระแม่อุมา, เทพติมูรติ



ปีมะเมีย

พระบูชา : พระพุทธชินราช, พระสยามเทวาธิราช, พระไพรีพินาศ, พระนิรันตราย

บูชาเทพ : พระนารายณ์, ปู่ฤาษีตาไฟ

ใครเคยได้ยิน เรื่อง นาย FAITH ไหมค่ะ เขาเป็นสุนัขที่เกิดมา
ไม่เหมือนสุนัขอื่นๆ แม้ว่า เขาจะเกิดมาไม่ครบ แต่เขาก็ไม่สิ้นหวัง เพราะเขายัง
มีบุญ ที่มีคนมาช่วยเขาให้มีชีวิตดีขึ้นจนกลายเป็นดาราสุนัขแล้วค่ะ



ดังนั้น เราเป็นคนเกิดมาครบ แค่เป็นหนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็อย่าได้หมดหวัง
ท้อแท้ ขอให้มีกำลังใจ ลุกขึ้นมา อย่าให้อายสุนัขนะค่ะ

เห็นแล้ว โดนใจเต็มๆๆ

วันอยากเล่าค่ะ เก็บตก แนวคิดผู้บริหารที่นำคำว่า พอเพียง มาใช้
ในการปลดหนี้ เช่นกันค่ะ แต่ เขารวยกว่าเรา เขาจึงไม่ง้อส่วนลด
เป็น 1 ตัวอย่างการปลดหนี้ของ บริษัทใหญ่ ที่เราสามารถนำไอเดียมาปรับใช้
กับตัวเราได้

ถึงวันนี้หลายคนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับทฤษฎีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คิดว่าเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเพียงเรื่องของ"คนจน"เท่านั้น


แต่ความเป็นจริงแล้ว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับคนทุกระดับ ทุกชนชั้น แม้แต่ผู้ดำเนินธุรกิจขนาดเล็ก กลางหรือขนาดใหญ่ระดับร้อยล้านบาท พันล้านบาท หมื่นล้านบาท หรือแสนล้านบาทรูปธรรมที่เห็นชัดกรณีเหตุการณ์วิกฤติทางการเงินที่เกิดขึ้น กับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับเอเซีย และระดับโลก เมื่อปี 2540 ที่ทำให้บริษัทถึงกับซวนเซ หนี้สินล้นพ้นตัว แต่เพียงไม่กี่ปี บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย รอดตายมาได้ พร้อมกับการกลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้ชื่อใหม่ "เอสซีจี" และกำลังจะฉลอง 100 ปีในปี 2556


โดยบริษัทไม่ต้องปลดคนงานออกเลยแม้แต่คนเดียว แถมยังสามารถปลดหนี้สินทั้งหมดได้ โดยไม่เคยขอให้ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารเจ้าหนี้ตัดหนี้เสียให้ แต่แม้บาทเดียว
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ได้มาบอกเล่าอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ใน การบริหารธุรกิจยุคใหม่ว่า ภายในเอสซีจีเองมีการคุยกันในเรื่องทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ในเรื่อง“ความพอประมาณ” ความพอดีโดยไม่เบียดเบียนตัวเอง และผู้อื่น


เรื่องของ”ความมีเหตุมีผล” โดยพิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนต่าง ๆ ไม่ได้ทำ เพราะความสะใจอยากจะไปลงทุนตรงนั้น เพราะมีเพื่อน


รวมถึง”ความมีภูมิคุ้มกัน”พูดกันมาก ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเมื่อประสบปัญหาตอนปี 2540 ต้องพิจารณาเรื่องของ”ความรู้” และต้องคำนึงถึง“คุณธรรม”

แต่หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจความต้องการสินค้าลดลง โดยก่อนวิกฤตเศรษฐกิจปูนซิเมนต์มียอดขาย 36 ล้านตัน ถัดมาปีเดียวความต้องการเหลือเพียง 18 ล้านตัน


เมื่อมีการลอยตัวอัตราแลกเปลี่ยนหนี้ของบริษัทที่เป็นเงินดอลลาร์ประมาณ 80% คิดแปลงเป็นเงินบาทสูงขึ้นมาก จากหนี้เดิมแสนกว่าล้านบาท เพิ่มขึ้นไปเป็น 247,000 ล้านบาท หนี้ของเอสซีจีช่วงนั้นคิดเป็นประมาณ 5%ของหนี้ทั้งประเทศ เกือบ 2 เท่าจากเดิม


ในปีนั้นบริษัทขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 52,000 กว่าล้านบาทภายในปีเดียว นั่นคือ สิ่งที่เกิดขึ้น และมีการปรับตัวแก้ไขอย่างรวดเร็ว


ช่วงปี 2541 ผมทำงานที่อินโดนีเซีย ทางคุณชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ในตอนนั้นเรียกผมกลับมา ให้เป็นหัวหน้าทีมปรับโครงสร้างทั้งเครือ


ได้ทำการปรับลดธุรกิจหลักเหลือเพียง 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ปูนซิเมนต์ เหล็ก เครื่องจักรกลและยานยนต์ ปิโตรเครมี และที่ดินอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันเร่งส่งออก เพราะพอเงินบาทอ่อน ส่งออกได้ เงินทุนหมุนเวียน ลดต้นทุนต่าง ๆ โดยไม่ปลดคนงานแม้แต่คนเดียว มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพต่าง ๆ


ด้านเสถียรภาพทางการเงิน เราหยุดการลงทุน เรามีหนี้เป็น 5,000-6,000 ล้านดอลลาร์ หนี้โดยตรงและมีหนี้ที่กับบริษัทที่ร่วมทุนกับต่างชาติอีกประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์เหมือนกัน มีการแก้ปัญหาโดยออกหุ้นกู้เป็นเงินบาทภายในประเทศ และใช้นโยบายบริหารความเสี่ยงเต็มที่


ด้านความเชื่อมั่น โดยผู้บริหารของบริษัทได้เดินทางไปพบปะนักลงทุน และเจ้าหนี้ทั้งหมดมีประมาณ 80 กว่าราย เพื่อสร้างความมั่นใจ หนี้ที่เกิดขึ้นทางบริษัทไม่เคยขอลดหนี้ แม้แต่บาทเดียว เราชำระหนี้อย่างถูกต้อง แก้ปัญหาโดยใช้วิธีการขายธุรกิจ ขายบริษัทนำเงินมาชำระหนี้


หลังการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการบริหาร ที่เห็นเป็นรูปธรรมยกตัวอย่าง เช่น เรื่องความพอประมาณ ลงทุนอย่างพอประมาณไม่ฟุ้งเฟ้อ เห็นชัดก่อนหน้าที่เราลงทุนเกินตัวจริง ๆ ทำให้หนี้สินต่อทุนสูงมาก หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตัววัดตัวหนึ่งที่ผู้บริหารระดับสูงทางด้านการเงิน ทั่วโลกใช้ คือ Net Debt to EBITDA ซึ่ง “Net Debt” คือ หนี้สินสุทธิ ถ้าเทียบกับกระแสเงินสด(cash flow) ของเรา ส่วน “EBITDA” คือ กำไรก่อนหักภาษี ก่อนหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก่อนหักค่าเสื่อมอาคารต่าง ๆ ก่อนหักดอกเบี้ย


ตอนหลังวิกฤตเศรษฐฏิจ Net Debt to EBITDA ขึ้นไปถึง 9 เท่าเศษ ขณะนี้เรามีวินัยทางการเงินดึงลงมาเหลือ 2 เท่าเศษนี่คือเรื่องความไม่พอดี ความไม่ฟุ้งเฟ้อเรื่องพวกนี้อยู่ในสายเลือดของเราแล้ว

แค่เดินใกล้หน้าต่าง มองออกไปข้างนอก รู้สึกได้ถึงไอร้อน
เหมือนอยู่ในเตาอบ เมื่อไรหนอฝนจะมา พาไปดูรอบบ้านเราดีกว่า
เมืองไทยเรามีที่สวยมากมาย เช่น ภาพทะเลสวยทางใต้ แต่จำไม่ได้ว่า
ที่ไหน



ของแปลกเมืองนอกก็มีให้ดูค่ะ คลายเครียดกันดีกว่า

คุณkaewja อย่าเพิ่งละลายไปกับไอร้อนล่ะ......แต่มันก็ร้อนจิงจิงนั่นแหละค่ะ ... ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและคำปรึกษาดีดีค่ะ...หวังว่าคงมีสักอาทิตย์นึงที่อยากไปพบและพูดคุยขอทางสว่างทุก ๆ ท่านที่สวนลุมฯ ค่ะ...

โปรด อย่ายอ แก้วมากค่ะ เดี๋ยว ออกอาการแบบนี้

ให้เบิ่งกันเห็นๆ ว่า เขารวยจริงๆๆ

กลุ่มแบงก์กวาดกำไรไตรมาสแรกสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 4 หมื่นล้าน หลังภาระสำรองลดลง "กสิกร"พุ่งพรวด 47% ส่วน"เกียรตินาคิน"กำไรหดสวนทาง เจอพิษน้ำท่วมชะลอขายทรัพย์เอ็นพีเอ

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 11 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2555 โดยธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบมีผลกำไรในไตรมาสแรก 41,358 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 3,355 ล้านบาท หรือ 8.83% ซึ่งธนาคารกสิกรไทยมีกำไรเพิ่มขึ้น 47% จาก 6,114 ล้านบาท เป็น 8,988 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารกรุงเทพมีกำไรเพิ่มขึ้นจาก 6,469 ล้านบาท เป็น 8,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.97% (ตามตาราง)

ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์มีกำไร 10,342 ล้านบาท ลดลง 20.76% เนื่องจากในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมามีกำไรพิเศษทางบัญชีจากการซื้อ บริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หากไม่รวมกำไรจากการซื้อธุรกิจประกัน 5.1 พันล้านบาท ในไตรมาสแรกของปีนี้ธนาคารไทยพาณิชย์มีกำไรเพิ่มขึ้น 29.4%

"ส่วน ธนาคารเกียรตินาคินมีกำไรลดลง 7.38% จาก 623 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีก่อนอยู่ที่ 577 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับธนาคารทหารไทยที่กำไรลดลงจาก 1,096 ล้านบาท ในปีก่อนมาอยู่ที่ 1,032 ล้านบาทในปีนี้ โดยลดลง 5.84% เนื่องจากมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น"

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีการเติบโตที่ดี ซึ่งกำไรรวมทั้งกลุ่มที่ทำได้มากกว่า 4 หมื่นล้านบาท นับเป็นไตรมาสที่ทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ที่กำไรเติบโตสูงมาก เนื่องจากต้นทุนทางการสำรองหนี้เสียลดลงและเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ขณะที่รายได้จากค่าธรรมเนียมมีสัดส่วนที่สูงขึ้น

"ธนาคารเกียรตินา คินมีกำไรลดลงมากที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมส่งผลให้รายได้จากการขายทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ชะงักไป รวมทั้งยังมีต้นทุนทางดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น สูงถึง 82% เนื่องจากการแข่งขันทางเงินฝากที่มีอยู่สูง ทำให้ไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงได้ แม้อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลงก็ตาม ซึ่งธนาคารเกียรตินาคินมีการพึ่งพาตราสารหนี้ หุ้นกู้ และตั๋วบีอีในสัดส่วนที่สูง ทำให้กระทบต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น จากการชำระหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน"

นัก วิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสแรกของปีนี้เติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้ง 4 แห่งที่ทำกำไรดีกว่าที่คาด เนื่องจากส่วนใหญ่มีต้นทุนการดำเนินงานลดลงและมีค่าใช้จ่ายจากการสำรองหนี้ ลดลง ขณะที่รายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโตขึ้น ขณะที่ผลจากการปรับลดภาษีนิติบุคคลเป็นส่วนช่วยหนุนการทำกำไรของกลุ่มธนาคาร ด้วย

ขอบคุณคุณแก้วมากค่ะ เป็นข้อมูลที่ดีค่ะ (ความรู้รอบตัว)

พักผ่อนมากๆ นะคะครูแก้ว...คิดถึงครูแก้วเสมอ... อัง สวยประหาร

อันนี้เอามาฝากคุณแก้วค่ะ...ในตู้เซฟคุณแก้วอาจจะมีเยอะกว่านี้ก็อาจเป็นได้



คิดถึงคุณแก้วค่ะ สองวันนี้เป้โดดงานซะแล้ว

เปื่อยอีกตามเคย...

และมิ.ย.กับสิ้นปีก็คงโดนตัดน้องโบกับเงินเดือนอีก(เหมือนเดิม)...

ร้อนๆ อย่างนี้ไม่อยากออกจากบ้านเลยล่ะค่ะ...นั่งเล่นคอมพ์และเปิดเพลงในยูทูป คิดถึงคนที่สุดแสนรัก

ที่จากไปไกลแสนไกล(จนไม่รู้จะไปตามหาได้ที่ไหน...)

ได้แต่ส่งใจไปกับดวงดาวและสายลม

คุณแก้ว..

พูดถึงตลิ่งชัน..วันก่อน..ดีแล้ว..ที่ไม่ได้ไป..บรรยากาศโอเคนะ..

แต่..อากาศ...สุดยอด...ร้อน..ถึงร้อนมาก...คนก็เยอะพอสมควรนะ...แต่ก็ดูซบเซาไปเยอะ..

น้ำก็แห้ง..ไม่ค่อยน่าชมเท่าไหร่...ถ้าเป็นหน้าหนาว..น่าจะดีมากๆ..

ผมเพิ่งได้ไปครั้งแรก...เคยไปดอนหวายมา..ใช้ได้..คึกคักกว่านี้มาก...แต่ไกลหน่อย

แต่โดยส่วนตัวชอบทะเลที่สุด..ชอบน้ำ..แต่ไม่ชอบ"น้องน้ำ"

ที่บ้านข้างล่างยังไม่ได้รื้อเลย""ปาร์เก้พังหมด..ต้องของบเจ้าของบ้านทำเป็นพื้นปูนแทน...

See you this Sunday.!!

THANK YOU หลายๆๆๆค่ะ




อากาศแบบนี้ใช่ไหม ขอถอยนะ แต่เกรงใจ กลัวคุณปูเป้จะน้อยใจ
ว่า ไม่ไป วันนั้น ตื่นเช้ามาก็ยุ่งจนลืม ช่วยท่านแม่ที่บ้านค่ะ
ขอโทษคุณปูเป้นะ ที่ไม่ได้ไป ไว้คราวหน้า แก้ตัวใหม่นะ
แก้วจ๋าก็เคยไปตลาดดอนหวายนานๆๆๆๆๆ มาแล้วค่ะ ช่วงนี้
น้ำน่าจะลง อากาศร้อนคนไปน้อยค่ะ

เจอกันวันอาทิตย์นะ

กับดักหนี้มาอีกแล้วจ้ะ

kaewja เขียน:

กับดักหนี้มาอีกแล้วจ้ะ

เข็นออกมา...เข็นออกมา...ครีเอทีฟทั้งหลาย...

แล้วค่อยไปตามเช็ดเอา...

โมทนา...สาธุฯฯฯ