รบกวนช่วยพิจารณาให้หน่อยครับ ว่าควรจัดสรรอันไหนก่อน-หลังสว

สวัสดีครับลูกหนี้ทุกท่านๆ ผมเป็นคนนึงที่เป็นหนี้เนื่องจากความจำเป็นบางอย่างปกติจ่ายเต็มตลอดไม่เคยล่าช้าหรือค้างชำระจนกระทั้งเมื่อ 2 เดือนที่แล้วมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนเลยทำให้หนี้เพิ่มขึ้น โดยมีหนี้ดังนี้
1.สินเชื่อเกียรตินาคิน 156000 
2.บัตรเครดิต 2 ใบ (กรุงศรี, กรุงไทย) ที่มียอดค้างชำระจากการผ่อน 0% 10 งวด รวมอีก 20000 บาท

เงินเดือนผมเอง 21900 (หักค่าประกันสังคมและกองทุนแล้ว)
แต่ผมมีรายจ่าย เมื่อรวมๆแล้วจะเหลือไว้กินเพียง 1600/เดือน 

จึงคิดว่าจะจ่ายบัตรเครดิตที่เหลือให้หมด แล้วหยุดจ่ายสินเชื่อรอให้ทางสินเชื่อปรับยอดจ่ายต่อเดือนลดลง จาก 4308 เหลือ 2xxx จะดีมั้ยครับ หรือควรทำยังไง

สิ่งที่ผมกังวลคือ 
บ้าน 2 หลังที่ผ่อนมา 5 ปี และ 3 ปี ผมมีชื่อกู้ร่วม และรถยนต์ที่เป็นชื่อผมเองจะถูกฟ้องแล้วอายัดหรือไม่ครับ

ยอดคุณเหมือนจะไม่เยอะ แต่ถ้าทำบัตรเพิ่มก็จะไปไกลกันใหญ่แน่นอน ถ้าจะหยุดก็สมควรหยุดพร้อมกันทั้งหมดเพื่อเก็บเงินครับ
1. บ้าน 2 หลัง โดนแน่นอนครับ แต่ก็มีระยะเวลานานมากพอสมควรกว่าขั้นตอนมันจะมาถึงบ้านครับ
2. รถถ้ามันยังเป็นกรรมสิทธิ์ ของไฟแนนท์ ก็ยังทำอะไรเราไม่ได้ครับ

      ผมขออนุญาตแนะนำในมุมส่วนตัวผมนะ ผมจะหยุดทั้งหมดเก็บเงินให้ได้มากที่สุด ด้วยเหตุผล
1.บัตรกรุงศรี ผมว่าคุณหน้าจะแฮร์คัดได้ 50% รอเวลา ประมาณ 1 ปี
2. บัตรกรุงไทย สามารถยอมความหน้าศาลก่อนได้ ผ่อนเบาๆ 36 เดือน  (ถ้าโดนอายัดเงินเดือนค่อยหยุดจ่ายรอต่อคิวไป ถ้าไม่ไหว)
3. ก็จะเหลือเกียรตินาคินก้อนใหญ่ เท่านั้น รอเจรจา ขึ้นศาล ศาลตัดสิน ผมว่ามี 2 ปี  อายัดเงินเดือน มีอีก 1 ปี อายัดบ้านพอโดนอายัด
    ก็ไม่ต้องผ่อนรอขายทอดตลาดค่อยว่า ผมว่ามี 5 ปี ขึ้น
    ณ ถึงตอนนั้น ผมว่าคุณก็คงเหลือลูกหนี้รายเดียว หักเงินเดือนเอา ถ้าไม่อยากยุ่งกับบ้าน คุณก็เจรจาจ่ายไปเรื่อยๆ ครับ ก็หน้าจะหลุด
พ้นนะ ผมว่า

     แนวทางผมไม่ได้ถูกต้องนะครับ อาจมีวิธีที่ดีกว่านี้ (เฉพาะความคิดเห็นของผมเท่านั้น)

สอบถามเพิ่มติมครับ กรณีที่ผมปล่อยของเกียรตินาคิน ซึ่งจะสามารถเก็บเงินได้เพียง 4300 บาท/เดือน รวมโบนัสแล้วคงได้ราวๆ 6-7หมื่น(6เดือน) คิดว่าเจ้านี้คงไม่ให้ส่วนลดขนาดนั้น เป็นเหตุให้มีคำถามเพิ่มมาดังนี้ครับ
1. กรณีส่งฟ้อง โอกาสที่ศาลจะตัดสิน ให้ผ่อนน้อยลงมีมั้ยครับ (จากเดิม 4300)
2.ในกรณีที่ผ่อนมากกว่าเดิมเช่น ยอด+ดอกเบี้ย รวมแล้วเป็น 2แสน บังคับใช้ใน 2 ปี เท่ากับว่าผมต้องจ่าย 83xx /เดือน ซึ่งผมจ่ายไม่ไหวอยู่แล้ว ต่อมาโดนบังคับคดี เงินเดือนผม 21900 เท่ากับว่า บังคับยึดได้แค่ 1900 ไม่ถึง 83xx แบบนี้เค้าจะไปบังคับยึดบ้านมั้ยครับ ในเมื่อเรามีเงินเดือนให้หักแต่ไม่ถึงยอดที่ต้องชำระต่อเดือน ผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ หรือว่าเค้าจะยึดทรัพย์เราทุกอย่างก่อนค่อยมาที่เงินเดือน

1.ถ้าเขาฟ้องศาลปกติก็จะมีขอเสนอให้ผ่อนจ่ายให้ยอมความหน้าศาล แต่คุณต้องกดเครื่องคิดเลขคิดดีๆ นะครับ ดอกเบี้ย ดอกเบี้ยรวมมาคิดดอกเบี้ยซ้ำเป็นเงินต้น
   แต่ถ้าเป็นผมเงินเดือนประมาณนี้ผมให้ศาลตัดเพราะเงินเดือนไม่มากอายัดเงินเดือนได้น้อย
2. สิ่งที่คุณกังวล คือ อายัดบ้าน ปกติศาลตัดสินแล้ว เขาส่งไปบังคับคดี เขาก็จะสืบทรัพย์ทั้งหมดเพื่อยึดขายอยู่แล้วครับ แต่ที่เขาอายัดเงินเดือนเป็นอันดับแรกเพราะได้เงินเร็วสุด  แต่ถ้าเขาอายัดบ้าน กว่าจะใช้เวลาขายทอดตลาดก็อีก 5 ปีขึ้นไป ถ้าขายทอดตลาดไม่ได้อีกยาวๆ  ไปอีก ผมดูจากโบนัสคุณ 2 ปี ก็สามารถแก้ปัญหาได้แล้วมั้งครับ