เป็นหนี้บัตรเครดิต วันนี้ได้รับหมายศาลแล้วครับ อยากรบกวนสอบถามผู้รู้ทุกท่านครับ

เรียนพี่ๆ ทุกท่าน ตอนนี้ผมเป็นหนี้บัตรเครดิตจำนวน 5 ใบ

ยอดหนี้โดยประมาณนะครับ

ธนชาติ 60k
KTC 60k
Citi Bank 50k
Tesco Lotus 55k
อิออน 25k

ผมหยุดส่งบัตรเครดิต ทั้ง 5 ใบประมาณกลางปีที่แล้วครับ เพราะตกงาน จนตอนนี้ก็ยังหางานทำไม่ได้

วันนี้ (20 พค.55) มีหมายศาลมาที่บ้าน ศาลนัดไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้วันที่ 5 มิย.55

ยอมรับว่าเริ่มเครียดเหมือนกันเพราะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเค้า เลยอยากรบกวนถามพี่ๆดังนี้ครับ:-

คือถ้าวันนัดไกล่เกลี่ย ผมยังหางานไม่ได้ ผมสามารถขอความเมตตาจากศาลท่าน ขอเวลาหางานเพิ่มอีก 1 หรือ 2 เดือน ได้หรือไม่ครับ

ขอบคุณพี่ๆ ที่กรุณาเข้ามาให้คำตอบล่วงหน้าครับ

ขออภัยครับ ให้ข้อมูลไม่ครบ หมายศาลที่ได้รับวันนี้ เป็นของ Tesco Lotus ยอดหนี้รวมด/บ ประมาณ 55k ครับ

4 รายที่เหลือ คงอีกไม่ช้า

ขอบคุณครับ

นัดแรก เงินคุณยังไม่พร้อม และอยากยืดเวลาเพื่อที่จะหาเงินเพื่อปิดบัญชีได้

ก็สามารถขอเลื่อนนัดด้วยปากเปล่าได้ 1 ครั้ง จะได้นานหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับความแน่นของคดีความ

ของศาลแต่ละท้องที่

สิ่งที่คุณต้องทำอย่างเร่งด่วนในตอนนี้ก็คือ ประเมิณตัวเอง สำรวจตัวเอง ว่ามีความพร้อมแค่ไหน เช่น

รายรับ รายจ่าย ทรัพย์สิน เป็นต้น... จะยอมความ จะปล่อยให้ศาลตัดสิน หรือจะสู้คดี ก็ต้อง

ประเมิณตัวเองให้ดีนะครับ

ศึกษากระทู้ต่อไปนี้....

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=29

เตือนไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว สำหรับผู้ที่จะไปขึ้นศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8372&Itemid=29

ไปศาลด้วยตัวเอง ให้ระวังทนายฝ่ายโจทก์มันหลอก
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8372&Itemid=29

แนวทางการไปศาล
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=1230&catid=2

ข้อต่อสู้ในคดีแพ่ง ที่ลูกหนี้ควรศึกษา
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=1897&Itemid=29

เกณฑ์การอายัดทรัพย์-อายัดเงินเดือน หุ้น โบนัสต่างๆ ของพี่กรีนนี่
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=3&id=12878

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สินภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=2194&Itemid=29

หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือ​นและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8746&Itemid=29

และอีกมากมายในกระทู้นี้
รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจในการปลด​หนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=939&Itemid=29
ห้องรู้ทันกฎหมายหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=showcat&catid=7&Itemid=29

ขอบคุณพี่ batk มากครับ ที่กรุณามาตอบ

เดี๋ยวหลังจากขึ้นศาล ผลออกมายังไง ผมจะมาเล่าให้พวกพี่ๆ ฟังครับ

สวัสดีครับพี่ๆ ทุกท่าน

วันนี้ผมเพิ่งไปขึ้นศาลมาครับ เลยจะขอมารายงานผลให้ทราบ ซึ่งจริงๆแล้วหลังขึ้นศาลเสร็จ ผมก็ไม่ค่อยสบายใจ คือไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผมทำลงไป มันถูกหรือผิด แล้วผลที่จะตามมามันจะเป็นประโยชน์กับตัวเองหรือเป็นผลเสียในภายหน้ากันแน่

ขอเริ่มเรื่องเลยนะครับ ... วันนี้ศาลนัดตอน 13.30 ผมก็ไปคุยกับทนายฝ่ายโจทย์ที่ห้องไกล่เกลี่ยตามขั้นตอนของศาล

ทนายเป็นผู้หญิงนะครับ พอเจอหน้ากันเค้าก็ถามผมว่า สรุปแล้วเรื่องหนี้ของคุณ 5 หมื่นกว่าบาทเนี่ย คุณจะเอายังไง จะเซ็นยอมเลยมั๊ย

คือเค้าก็พูดยาวนะครับ อะไรบ้างผมก็จำไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเอาเนื้อๆ เลยก็อย่างที่ผมเล่าข้างต้น คือถามว่าผมจะเซนต์ยอมความเลยมั๊ย

ผมก็บอกไปว่าพี่ ผมไม่เข้าใจ พี่ช่วยพูดช้าๆ อีกทีได้มั๊ยครับ แล้วอีกอย่างคือตอนนี้ผมตกงาน ผมยังไม่มีเงินใช้หนี้ แล้วถ้าผมเซนต์ยอมไปตอนนี้ ผมจะเอาเงินที่ไหนมาให้คุณ แล้วผมต้องเริ่มใช่งวดแรกเท่าไหร่ แล้วต้องผ่อนจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ต่องวด

เธอก็ทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ จากนั้นก็ บอกว่า ถ้าเซนต์ยอมวันนี้ก็จ่ายงวดแรกสิ้นเดือนนี้เลย ขั้นต่ำ 2000 บาท หรือจะจ่ายมากกว่านี้ก็ได้

ผมก็พยายามบอกเค้าว่าตอนนี้ผมยังไม่มีเงิน ตกงานอยู่ ผมขอเวลาอีกสักเดือนได้มั๊ย เผื่อจะหางานได้ ถ้าหาได้จริงๆ แล้วผมจะรีบใช้ให้ทันที

คุณทนายเค้าบอกว่าไม่ได้หรอก ไม่มีใครเค้าทำกันแบบนี้ ตอนนี้คุณ( หมายถึงผม) มีอยู่ 2 ทางเลือก ตัดสินใจเอาเองนะ ว่าจะเอายังไง 1. คือเซนต์ยอมความซะ แล้วก็ผ่อนจ่ายไป จะได้จบเรื่อง คุณก็จะไม่โดนอายัดทรัพย์สิน หรือ 2. คุณจะรอให้ศาลท่านตัดสินให้ก็ได้ แต่ถึงคุณรอ ภายหลังศาลท่านตัดสินแล้ว ยังไงคุณก็ต้องจ่าย ถ้าคุณไม่จ่ายก็โดนอายัดทรัพย์สินเหมือนกัน

ผมอึ้งไปสักพัก คือคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี ในใจคิดแต่ว่า ไม่อยากเซนต์ยอมความตอนนี้เพราะผมไม่มีเงินจ่ายให้เค้าจริงๆ แล้วก็อยากลองเข้าไปขอความเมตตาจากศาลท่านที่หน้าบัลลังค์ดูก่อน เผื่อท่านจะเมตตา ยืดเวลาให้ผมหางานได้บ้าง

สุดท้ายผมก็เลยตัดสินใจบอกเค้าไปว่า ผมขอเลือกให้ศาลท่านเป็นคนตัดสินครับ คุณทนายเธอถอนหายใจแล้ว เอาหางตามองผมประมาณว่าผมโง่มากในสายตาเค้า ที่ผมเลือกทางนี้ แล้วเธอก็บอกให้ผมขึ้นไปนั่งรอในห้องพิจารณาคดี เพื่อรอศาลท่านลงพิจารณาคดี

ตอนพิจารณาคดี ศาลท่านก็ถามเหตุผลผมว่า ทำไมผมถึงไม่ยอมไกล่เกลี่ย ติดปัญหาอะไร ?

ผมก็เรียนท่านไปว่า ตอนนี้ผมตกงาน ผมไม่มีเงินใช้หนี้ให้เค้าจริงๆ ผมเลยตั้งใจมาขอความเมตตาจากท่าน ผมอยากขอเวลาอีก 1 เดือน เพื่อหางานก่อนได้หรือไม่

ศาลท่านยิ้มแล้วบอกว่าไม่ได้ ถ้าไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ ท่านมีหน้าที่ตัดสินให้โดยพิจารณาจากหลักฐานแล้วก็ข้อเท็จจริงเท่านั้น อีก 15 วัน ให้โทรฯมาฟังผล ว่าสรุปแล้วต้องชดใช้เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ซึ่งถ้าไม่สามารถจ่ายให้เค้าได้ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการบังคับคดี ยืดทรัพย์สินของผมนะ
( ก่อนหน้านั้น ท่านถามผมว่า ผมมีทรัพย์สินอะไรอยู่บ้าง ผมก็เรียนไปตามตรงว่าผมไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย )



เรื่องของผมก็มีเท่านี้ รายละเอียดมีเยอะ แต่ผมขออนุญาติสรุปใจความหลักๆ เท่านี้ก่อน
ความรู้สึกผมตอนนี้คือ ไม่ค่อยแน่ใจว่าการตัดสินใจในวันนี้ มันผิด หรือ ถูก แล้วมันจะเป็นผลดีหรือผลเสียในภาคหน้ามากกว่ากัน ขึ้นศาลครั้งแรกไปคนเดียวด้วย เลยแลดูเขว้งๆ ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่

ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านนะครับ ช่วย comment ให้ผมด้วย ถ้าการกระทำครั้งนี้มันพลาดไป ผมก็ยอมรับว่าเสียใจ แต่มันก็ผ่านมาแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้

ที่สำคัญคืออยากเอามาเล่าให้ฟัง และอยากให้เป็นกรณีศึกษา สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ ท่านอื่นที่กำลังจะเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับผม ถ้าครั้งนี้มันพลาดไปจริงๆ ผมก็ไม่อยากให้คนอื่นพลาดเหมือนกับผมครับ

อยากร้องไห้แทนทนายหญิงปากดีคนนั้นจัง
ไปอ่านในนี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8746&Itemid=29
หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร? By: พี่นกกระจอกเทศ

ได้รู้เรื่องกฏหมายเพิ่มอีก 1 เรื่อง

ถ้าผมเป็นคุณ...ก็คงจะออกมาในรูปนี้แหล่ะครับ.....

ตกงานอยู่...จะเลื่อนนัดไปทำไม....ยอมความไปก็ทำไม่ได้

หางานใหม่...จะได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้...ทรัพย์สินก็ไม่มี...โอ้ย...สงสารเจ้าหนี้จังโว้ย!!!.....

เอ้า ! นี่ผมตัดสินใจถูกเหรอครับ

โอ๊ยยยย หลงนั่งคิ้วขมวดมาตั้งแต่บ่าย ขออนุญาติหัวเราะสักทีนะครับ

555555555555555555555555555555555555555

เฮ้ออ สบายใจขึ้นเยอะ คืนนี้สวดมนต์เสร็จคงหลับเลย ไม่ต้องนอนท่อง พุทโธ ๆ ๆ จนหลับเหมือนคืนก่อนๆ

ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากครับ คือผมไม่รู้จะตอบแทนยังไง เอาเป็นว่า ผมขอให้พี่ๆ มีความสุขเหมือนกับที่ผมรู้สึกตอนนี้ไปทุกๆวันนะครับ

ปล. แล้วถ้าหางานทำได้เมื่อไหร่ผมจะเอาข่าวดีมาบอกครับ

ขอบพระคุณอย่างสูง

เหมือนจ้าวหนี้คุณตอนนี้เลย

ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ที่มาแบ่งปั้นครับ จากข้อกฎหมายที่ว่าเงินเดือนนี้ ไม่รวมถึงรายได้อื่นใช่ไหมครับ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมัน เป็นการหัก 30% จากเงินเดือนอย่างเดียว

tonhom เขียน: ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ที่มาแบ่งปั้นครับ จากข้อกฎหมายที่ว่าเงินเดือนนี้ ไม่รวมถึงรายได้อื่นใช่ไหมครับ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมัน เป็นการหัก 30% จากเงินเดือนอย่างเดียว

ไปอ่านรายละเอียดเรื่อง "การอายัดเงินเดือน" จากในกระทู้นี้ดูนะครับ

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=12878&catid=3

ถ้าอ่านจนหมดแล้ว...จะเห็นได้ว่า สรุปก็คือ

การอายัดเงินเดือน หมายถึง “การอายัดรายได้ทั้งหมด ทุกๆรายรับที่ลูกหนี้ได้รับจากนายจ้างในแต่ละเดือน โดยรายได้นั้นๆ ต้องถูกนำไปหักภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ตาม ภงด.91”...แต่ทั้งนี้ รายได้รวมทั้งหมดที่ต้องถูกนำไปหักภาษี หากรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ก็ไม่สามารถอายัดได้...แต่ถ้ารายได้รวมทั้งหมดที่ต้องถูกนำไปหักภาษี เกินกว่าหนึ่งหมื่นบาท ก็ต้องโดนอายัด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษีนั้นๆ



แต่ถ้าในกรณีที่"รายรับ"มิใช่เงินเดือน มีรายละเอียดอยู่ในกระทู้นี้

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64#28154

เข้ามาเก็บข้อมูล ที่ผมจะต้องเจอ อีกในไม่ช้าเหมือนกัน...

จขกท.สู้ ๆ น่ะครับ...

เรียนสอบถามผู้รู้ทุกท่านเกี่ยวกับการบังคับคดีครับ

คือผมเป็นหนี้อยู่ 4 ที่ ยอดหนี้แต่ละที่ประมาณ 50000 - 60000 บาท รวมแล้วก็ประมาณสองแสนกว่าบาท

เจ้าหนี้ส่งฟ้องและศาลพิพากษาไปหมดทุกเจ้าแล้วครับ

ตอนนี้ผมเพิ่งได้งาน ทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน เงินเดือนประมาณ 20000 ครับ ผมไม่ทราบว่าเค้าเริ่มอายัดเงินผมแล้วรึยัง เพราะยังไม่ได้โทรฯไปที่กรมบังคับคดี พอถึงเวลาเงินเดือนออก ใจหนึ่งอยากจะทิ้งไว้ให้เค้าอายัด แต่ก็กลัวว่าจะเอาของผมไปมากกว่า30% ตามที่กฎหมายกำหนด เลยถอนเงินออกมาหมดเลย ทำแบบนี้ได้ 3 เดือนแล้วครับ

คำถามคือ ผมควรจะทำยังไงต่อไปครับ ควรสอบถามรายละเอียดที่กรมบังคับดีแล้ว แจ้งให้เค้าอายัดบัญชีเงินเดือนผมดีมั๊ย เพราะผมไม่มีเงินก้อนไปจ่ายชำระคืน

ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่เข้ามาตอบล่วงหน้าครับ

maruko เข้ามาเป็นกำลังใจครับ เออ..คุณnoppawat ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น post กระทู้ซ้อนเข้ามา
2กระทู้เช่นนี้ น่าจะมีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย...รบกวนคุณ Anakinกรรมการคนเก่ง ป.โท ITผู้ดูแล web หน่อยครับรวมกันให้หน่อยครับ..ขอบคุณล่วงหน้าครับ
กรณีคุณnoppawatกรุณารอสักครู่นะครับ maruko มีความรู้น้อยมากเรื่องนี้ จะมีพี่ๆที่รู้จะช่วยมาให้ความกระจ่างนะครับ..รอสักครู่..marukoขอแนะนำการปฏิบัติตนในช่วงที่เป็นอยู่ไปพลางก่อนนะครับ ไหนๆก็กดออกมาได้หมดก็กดมันออกมาหมดอย่างนี้แหละไปก่อนเรื่อยๆ..เจตนารมย์ของกฎหมายคือให้ลูกหนี้มันมีชีวิตรอดก่อนอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว..อย่าเพิ่งไปบอกกองบังคับใดๆจนกว่าผู้รู้จะเข้ามาแนะนำนะครับ marukoเป็นช่างไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายมาก..แค่นี้ก่อนนะครับ

ต้องขออภัยผู้ดูแลเวปนะครับที่กระทู้ซ้อน เป็นความผิดของผมเอง คือตอนโพสหน้าเวปมันค้าง ผมไม่แน่ใจว่าจะโพสติดรึเปล่า เลยโพสอีกรอบ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ

ส่วนเรื่องคำถาม ขอบคุณ คุณ maruko ที่เข้ามาให้กำลังใจครับ ผมได้ลองเข้าไปอ่านกระทู้ย้อนหลังเกี่ยวกับขั้นตอนการบังคับคดีแล้ว ( ต้องขออภัยอีกครั้งที่ก่อนโพสไม่ได้เข้าไปศึกษากระทู้เก่าๆเสียก่อน)

หลังจากอ่านก็พอจะเข้าใจขั้นตอนมากขึ้น สำหรับกรณีของผมเข้าใจว่ากรมฯ ยังไม่ได้ส่งเรื่องอายัดมายังบริษัท เดี๋ยววันจันทร์ผมจะลองเข้าไปคุยเรื่องนี้กับ HR ดูก่อนครับ ว่าทางโน้นเค้าติดปัญหาอะไรรึเปล่า ถ้าเพราะสารภาพตรงๆ คือเราก็อายด้วย แล้วถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากเอาภาระไปให้คนอื่น

ขอบคุณครับ

คุณnoppawatเป็นคนซื่อดีจริงๆครับ นับถือในความดีนี้..แต่หากเรามีเจตนาจะใช้หนี้คืนทันทีที่มีโอกาสเช่นนี้..marukoขอนับถือน้ำใจ..ขอให้ความดีคุ้มครอง..สามารถเจรจาเรื่องยากๆสำเร็จนะครับ..อย่าอายเลยครับ...เราหนีความจริงไม่ได้แล้ว..ยืนหยัดสู้กับความจริงเถอะครับเดี๋ยวเดียวจะชินเอง..นับถือ..นับถือ..

ขอบคุณ คุณ maruko นะครับที่ช่วยดันกระทู้ให้

คือตอนนี้ผมมีงานทำ มีรายได้แล้ว ก็อยากจะใช้หนี้คืนเค้าให้เร็วที่สุด

ไม่หนี แต่ที่ไม่จ่ายเพราะไม่มีจะให้จริงๆ 555 ยอมรับว่าเรื่องนี้มันบั่นทอนสุขภาพจิตมากนะครับ

ลำพังตัวเราเองไม่เท่าไหร่ แต่คนทางบ้าน แม่กับญาติพี่น้อง ที่เข้ารับรู้เรื่องของเรา เค้าจะเป็นกังวลมาก

ทุกครั้งที่มีหมายศาลมาถึงบ้าน ล่าสุดก็วันนี้ มีหนังสือจากเจ้าหนี้ A ( ไม่ขอเอ่ยชื่อนะครับ เบื่อมัน) ส่งมาที่บ้าน รายละเอียดอ้างถึงคำสั่งศาล ให้เรารีบนำเงินทั้งหมดรวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีไปชำระคืนภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ยึดทรัพย์ อายัดบัญชีเงินฝาก จับกุม จำคุก บลาๆๆ

ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องขู่กันขนาดนี้ แม่ผมก็แก่แล้ว ไม่รู้ข้อกฎหมาย พอเจอแบบนี้เค้าก็เครียด ส่วนผมก็เครียดตามเพราะเป็นห่วงคนที่บ้าน เราเองก็ทำอะไรไ่ม่ได้มาก ทำได้แค่ปลอบใจท่าน ไม่ให้ท่านเครียด บอกกันท่านทุกครั้งว่าให้ใจเย็นๆ อย่าคิดมาก ทำใจดีๆ แล้วทุกอย่างมันจะผ่านไปด้วยดีเอง ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ ส่วนตัวเองก็หน้าชื่นอกตรมไปตามระเบียบ 555

บอกให้ก็ได้
ตกลงเงินเดือนคุณ 15000 หรือ 20000 กันเเน่ เขียน 2 ที ไม่เหมือนกัน

การอายัดเงินเดือน เป็นการอายัดเงินต่อเนื่อง
ได้ตั้งเเต่ เงินเดือน 30%, bonus 50%, เงินตอบเเทนออกจากงาน 100%
การอายัดเงินฝากในบัญชี เป็นการอายัดคราวเดียว
โดยทั่วไปมีผลเป็นเวลา 1 เดือน อายัดได้ทั้งหมด (ไม่ใช่ 30%) เเต่ไม่เกินยอดหนี้ตามคำพิพากษา
หมายความว่า
ทันทีที่ bank ได้รับหนังสืออายัด เงินจำนวนไม่เกินยอดหนี้จะถูกเก็บส่งกรมบังคับคดีทุกบาททุกสตางค์
ยกเว้นดอกเบี้ยค้างจ่ายที่ bank ยังไม่ได้จ่ายให้เจ้าของบัญชี
เเละภายใน 1 เดือนนี้ ถ้ามีเงินเข้ามาในบัญชีจะถูกยึดหมด เเต่ไม่เกินยอดหนี้ตามคำพิพากษา

โดนอายัดเงินเดือนอยู่ ก็โดนอายัดบัญชีได้อีก

เพิ่งได้งานทำ เจ้าหนี้ยังไม่รู้หรอกว่าคุณทำงานที่ไหน
เเต่ถ้าชื่อขึ้นประกันสังคมเมื่อไหร่ เจ้าหนี้ก็จะสืบทราบได้ เเต่ถ้าเจ้าหนี้ขี้เกียจ ก็ยังไม่สืบทราบ
เดี๋ยวมาต่อ

ขอบคุณ คุณส้มโอที่เข้ามาตอบครับ

สำหรับเรื่องอายัดบัญชีเงินฝาก ถ้าเป็นอย่างที่บอก ก็หมายความว่า หลังจากหนังสือบังคับคดีส่งไปที่ธนาคารที่ผมเปิดบัญชีเงินเดือนเอาไว้ ซึ่งจะเป็นเดือนไหนก็ยังไม่รู้ แล้วถ้าภายใน 1 เดือน เงินเดือนผมเข้ามาช่วงนี้พอดี ผมก็จะถูกอายัดเงินหมดเลยเหรอครับ

ปล.เงินเดือนจริงๆ 15000 โพสครั้งที่ 2 ผมตัดส่วนที่เป็นค่าเช่าบ้านกับค่าเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ 5000 ครับ รวมเป็นทั้งหมด 20000 ครับ